www.diyaudiovillage.net
Source & Line amp & Amplifier Project ผลงาน DIY => Solid State => ข้อความที่เริ่มโดย: CreÃte_Lek ♫ ที่ 22 ตุลาคม 2014, 07:23:50 PM
-
อยากทราบว่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ท่านใดผ่านการเล่น การใช้ การฟัง แอมป์โซลิตในตำนานที่ผ่านเข้ามาในบ้านเรากันบ้างครับ ลองเอาประสพการณ์มาแชร์เล่าสู่กันบ้างซิครับ
ตัวอย่างเช่นแบบนี้
(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xaf1/v/t1.0-9/10712766_558495284284249_7201202063629237113_n.jpg?oh=47cc9118d558004b69016ac77a165891&oe=54B79DA7&__gda__=1421331990_8f94aaa42d6a4eb166849bfef432defd)
Cairn 4808 อินทิเกรตแอมป์สัญชาติฝรั่งเศสก่อกำเนิดเมื่อปี 1994 เป็นอินทิเกรตแอมป์ดูอัลโมโนคลาสเอ กำลังขับ 30 วัตต์/ข้างที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ฟังมานักต่อนัก ด้วยน้ำเสียงสะอาดเรียบลื่นเสียงกลางและแหลมไร้รอยต่อ ได้ฟังแล้วน่าจะเหมาะเข้าทางกับคอออดิโอไฟล์ได้เป็นอย่างดี โครงสร้างตัวเครื่องระดับเยี่ยม ผมชอบมากตัวรีโมทเท่ห์ไม่เหมือนของยี่ห้ออื่นๆ อาจจะพูดได้ว่าเป็นอินทิเกรทตแอมป์ตัวเล็กๆที่ให้คุณภาพเสียงเกินตัว ไม่ค่อยได้เห็นในตลาดมือสองของบ้านเรา
(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xap1/v/t1.0-9/1779206_558495374284240_7319006544430265309_n.jpg?oh=76af57d99f84573aa479d58746567826&oe=54F7BA59&__gda__=1425464592_c254486f1fdb95a9451d5d9cd8cb85dc)
(https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xpa1/v/t1.0-9/10644617_558495434284234_4712854965959469715_n.jpg?oh=aaeab64169bd1e3a588187f0856c2823&oe=54F35D31&__gda__=1424702857_a3138d58a61a2e1ea2f434ae91a397a4)
-
ผมไม่ค่อยได้มีประสบการณ์กับเครื่องแบรนเนมดัง ๆ เท่าไหร่
เลยได้แค่มารออ่านประสบการณ์จากน้า ๆ
[chick-milk-bottle]
-
ผิดเป้าแล้วครับ น้าบลู แอมป์อะไรก็ได้ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด อย่างเดียวที่ขอคือ เอาประสพการณ์มาร่วมแชร์กันครับ
-
ผิดเป้าแล้วครับ น้าบลู แอมป์อะไรก็ได้ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด อย่างเดียวที่ขอคือ เอาประสพการณ์มาร่วมแชร์กันครับ
เข้าใจหล่ะครับ แอมป์ DIY รวมด้วยหรือเปล่าครับ
-
(https://scontent-a-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-xap1/v/t1.0-9/1461823_558233737643737_6987383612211600644_n.jpg?oh=1eb830e110033ef855bc2f5bd4584552&oe=54F746F7)
NAD 3020 สมัยนั้นอินทิเกรตแอมป์ของนักเล่นที่มีเบี้ยน้อยหอยน้อย เป็นแอมป์ตัวแรกที่ผมยอมควักเงินเดือนซื้อ (ที่พยายามเก็บเพื่อซื้อลำโพง) เพราะ สามเดือนแรกของการทำงานก็จัดเครื่องเล่น ซีดี ยามาฮ่ามาแล้ว ในตอนนั้นเงินเดือนผมยังไม่ถึงสองพันบาทเลยครับ โดนค่ากินก็แทบจะหมดแล้ว ในยุดนั้นกับเงินจำนวนน้อยการที่ซื้ออินทิเกรตแอมป์ดีๆมีคุณภาพราคาประหยัดนั้นหายากมาก เมื่อฟ้าประทานยี่ห้อ NAD แบรนด์ฝรั่งแต่ผลิตในไต้หวัน ได้ถือกำเนิดอินทิเกรตแอมป์ตัวเล็กๆกำลังขับ 20 วัตต์เขย่าวงการเครื่องเสียงด้วยอินทิเกรตแอมป์รุ่น 3020 เล็กพริกขี้กหนูออกมาในปี 1978 ได้รับคำวิจารณ์ชื่นชมจากสื่อต่างประเทศมากมาย บริษัทโคไนซ์เป็นตัวแทนจำหน่ายในบ้านเราซึ่งเวลานั้นยังอยู่ที่ข้างโรงหนังอินทราประตูน้ำ นับเป็นอินทีเกรทแอมป์มีแบรนด์ตัวแรกของผมที่ซื้อของใหม่ด้วยเงินราคา 5000 บาท เรียกได้ว่าทุกวันนี้ บริษัทโคไนซ์แจ้งเกิดประสบความสำเร็จก็เพราะอินทิเกรตแอมป์ NAD 3020 ที่สร้างชื่อเสียงขายดิบขายดีจนถึงปัจจุบัน ผมเคยครอบครองอินทิเกรตแอมป์ NAD อยู่ 2 รุ่นคือรุ่น 3020 และรุ่น C326BEE NAD รุ่น 3020 เป็นอินทิเกรตแอมป์กำลังขับ 20 วัตต์/ข้าง ด้วยค่าตัวแค่ 5000 บาทกับคุณภาพเสียงนั้นคุ้มค่ามากๆเป็นอินทิเกรตแอมป์ที่ให้น้ำเสียงต่อเนื่องสมดุลทั้งกลางแหลมให้กำลังขับเกินตัวทั้งๆที่สเปกระบุไว้แค่ 20 วัตต์เท่านั้น แต่สามารถขับลำโพงแบบไร้ปัญหา แถมยังสามารถแยกช่องสัญญาณทำเป็นปรีแอมป์และเพาเวอร์ได้อีกด้วย ผมเคยใช้ 3020 เฉพาะภาคปรีร่วมกับเพาเวอร์แอมป์อื่นๆภาคปรีแอมป์ของ 3020 นั้นถูกยกย่องมากว่าคุ้มค่าตัวเคยมีนักวิจารณ์จากสื่อต่างประเทศเอาภาคปรี 3020 ไปทดสอบเปรียบกับปรีแอมป์ระดับไฮเอ็นด์แม้ว่าจะให้เสียงเป็นรอง แต่ราคาค่าตัวของมันต่างกันมากมายนักเป็นไม่รู้กี่เท่าๆ หากดูค่าตัวของภาคปรีแอมป์ของ 3020 นั้นไม่น่าเกิน 1000 บาทถ้าคำนวณจากราคาค่าตัวของมัน ปัจจุบันสภาพดีๆราคาหลักหมื่นบาทย่อมไม่ธรรมดา สมัยนั้นผมใช้อินทิเกรตแอมป์ 3020 ขับกับลำโพงวางหิ้ง AR เป็นลำโพงคู่ขวัญเลยหล่ะครับ และ ถ้าสังเกตกันดีๆ ก็จะรู้ว่าเจ้าภาคปรี NAD เพ่นพล่านในยี่ห้อต่างๆมากมายในบ้านเราเลยเชียวหล่ะครับ
-
ผิดเป้าแล้วครับ น้าบลู แอมป์อะไรก็ได้ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด อย่างเดียวที่ขอคือ เอาประสพการณ์มาร่วมแชร์กันครับ
เข้าใจหล่ะครับ แอมป์ DIY รวมด้วยหรือเปล่าครับ
จัดเต็ม จัดให้ยาวๆ และ จัดให้หนักๆเลยครับ น้าบลู THK
(http://upic.me/i/7k/1009950_745637508841513_6533923858001268270_n.jpg) (http://upic.me/show/53236533)
-
โซลิตตัวที่ฟังเพื่อนจัดมาให้ ได้ฟังแต่ แบรนด์ แมกเนต ครับ
MA200, MA3,MA500,MSD200,MSD400,MSD450M ครับ
รุ่นหลังๆรู้สึกเน้น รายละเอียดเสียงกลางแหลม ไม่ค่อยเน้นเบสดุๆเหมือน MA200 ครับ
-
เชิญร่วมมาแชร์แบ่งปันประสพการณ์กันครับ คุณหมอ
(http://upic.me/i/62/70kku.jpg) (http://upic.me/show/53203016)
-
ตัวแรกที่เริ่มฟังจริงจัง สมัยสัก 20 ปีก่อนก็เป็นยี่ห้อ แกรนิต ของไทย ครับ เป็นโซลิต รู้สึกประมาณ 100w /ข้าง
เสียงนิ่มนวลฟัง สบายๆ ชอบมากๆ ครับ ให้น้องชายไปแล้ว
-
ย้อน อดีต แสดงว่า เริ่ม ดิ โอล แล้ว ละ ครับ 5555
-
เคยเห็นแต่ไม่เคยฟังเลยครับ เจ้า Granite amp ตัวที่เจอเป็น GA-120 เป็นอินทิเกรต ครับ เป็นหนึ่งในตำนานเมืองไทยเหมือนกันครับตัวนี้
-
สมัยนั้นก๋วยเตี๋ยวชามละกี่บาทครับ
-
ชอบเล่าความหล้งกันนี่ แสดงว่า แก่แระ [yellow-lol]
-
ถ้าจะย้อนอดีต (ของผม) คงต้องเริ่มจากลำโพงคอมพิวเตอร์ครับ
เริ่มจาก SAGG 2.1 ใครฟังเพลงจากคอมสมัยนั้น คงมีไม่น้อยที่ใช้ตัวนี้
ค่าตัว 800 กับเบสที่เกินตัว ฟังมันมาก
(http://image.ohozaa.com/i/503/snWhOZ.jpg)
หลังจาก SAGG เปลี่ยนเล่นไปเรื่อย ๆ ทั้ง Creative , Divoom , EACAN, Boston
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมเข้ามาสู่วงการ DIY ก็คือตัวนี้ EACAN A500L
ซื้อมาแล้วก็เริ่มโมดิฟาย เปลี่ยน C เปลี่ยน สาย เพิ่ม C ภาคจ่ายไฟ
(http://image.ohozaa.com/i/3f6/rtwRmg.jpg)
สุดท้ายการฟังด้วยลำโพงคอม ก็มาจบที่ตัวนี้ (น่าจะถือเป็นตำนานของลำโพง 2.1ตัวนึง)
Boston BA-790 เสียงเบสนุ่มน่าฟัง (แต่ต้องจัดวาง SUB ดี ๆ ผมวางตรงมุมอับของห้อง) กลางแหลมมาครบ
(http://image.ohozaa.com/i/643/WQkEHp.JPG)
หลังจากนั้นก็เริ่มที่จะฟัง 2.1 ไม่ได้ เวที มิติมันไม่ใช่ที่ต้องการ เสียงที่ได้ก็รู้สึกว่ามันปรุงเยอะ
เลยเริ่มหาข้อมูลแอมป์แยกชิ้น
ตัวแรกที่กัดฟันซื้อคือ NAD 310 เป็นแอมป์ตัวนึงที่ชื่นชอบ ฟังสบาย ๆ เสียงกลาง ๆ ดี
สำหรับเริ่มเล่น งบจำกัด ผมว่าตัวนี้คุ้มค่า และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเลย
(http://image.ohozaa.com/i/fc8/VwpLnO.jpg)
เล่นแยกชิ้นมาเรื่อย ๆ
ก็มาเจอพาวเวอร์แอมป์ที่ชื่นชอบอีกตัว ก็คือ TAS Mantra
ทุ้มทำได้ดีมาก นุ่มลึก
รูปถ่ายไว้ตอนเปิดฝาอย่างเดียวครับ
(http://image.ohozaa.com/i/ffe/tDm0Rt.jpg)
จบแล้วครับ เนื่องจากประสบการณ์น้อย ได้ฟังมาก็นิดหน่อย อ่านกันเพลิน ๆ สนุก ๆ นะครับ
ส่วนแอมป์ D.I.Y ที่เป็นตำนานสำหรับผมคงจะไม่พ้น เกนโคลน เรื่องเสียงอาจไม่เท่าไหร่
แต่ผมว่ามันเป็นเป้าหมายแรก ๆ ของคนที่เข้ามาวงการ D.I.Y และคิดว่าส่วนใหญ่ทำกันมาแล้ว [fb-smiling]
-
ชอบเล่าความหล้งกันนี่ แสดงว่า แก่แระ [yellow-lol]
แก่แต่ยังไม่มากนะครับ ผมว่าถ้าน้า Q เล่าน่าจะหลายหน้านะ... [yellow-lol]
-
ชอบเล่าความหล้งกันนี่ แสดงว่า แก่แระ [yellow-lol]
รึน้ายังเด็กอยู่ล่ะครับ เท่าที่จำความได้ผมก็เจอน้าในเว็บดีไอวายมาไม่ต่ำกว่าสิบปีแล้วหล่ะ [yellow-lol]
-
แหม........ ก็แก่แล้วเหมือนกันนิ [yellow-lol] [chick-guitar]
-
ผ่านมาไม่มากครับน้าส่วนมากก็พวกลำโพงคอมทั่วไปเสียงก็อู้อี้ๆ เพราะไม่ได้เน้นฟังเพลงเลย
จนมาเริ่มอยากฟังเพลงตอนนั้นเน้นแค่ให้เสียงมันฟังแล้วเพราะขึ้นก็พอ ไปได้กับ swan m100 mkii ถือเป็นจุดเริ่มต้อนครับน้า
ตัวนี้ทำให้ผมเริ่มสนใจฟังเพลงมากขึ้น เพราะ ทำให้สัมพัสรสชาติของเพลงมากขึ้นครับแถมมี bluetooth เล่นเพลงผ่าน มือถือได้ด้วยเรียกว่าเสียงกับความสบายเริ่มต้นถือว่าคุ้มมาก
(http://image.free.in.th/z/it/a096670c38c2020a6b067f2b96b1b5396b84d61d.jpg)
จากนั้นก็อยากมากขึ้น ลองเลือกอยู่นานเน้นไม่แพงและคุ้มไปได้ไปโดนกับ NAD C326BEE เป็นครั้งแรกที่ผมจัดระบบโดยลำโพงห่างกันได้รู้จักกับ Image เป็นครั้งแรกรู้สึกเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากสำหรับคนไม่เคยฟังเพลง "เฮ้ยๆเสียงร้องมันอยู่ตรงกลางเว้ย หูทองเหมือนกันนะเรา" จากนั้นก็หลงไหลการฟังเพลงไปครับน้า แอมป์ตัวนี้ลูกเล่นและวัสดุก็อย่างที่บอกครับน้าว่าคุ้มดี เสียงก็ดูไม่จัดอะไรมากผมว่ามันกลางๆฟังได้เรื่อยๆครับน้า
(http://www.conice.co.th/images/catalog_images/1271838288.jpg)
จากนั้นก็อยากลองเล่นหลอดเพราะชอบที่รูปร่างและความปลาด รู้จักมาจากหนังจีนเรื่องหนึ่งที่ดูสมัยเด็กและชอบครับน้า ทำให้อยากมีซักเครื่องแต่ราคาไม่ธรรดาเลยครับน้ายิ่งเป็นของมียี่ห้อ มองๆของไทยก็เห็นทำมือกันเลยมาหัดเล่น DIY อยู่ทุกวันนี้ครับน้า [painting-11]
ปล. ทั้งสองอย่างด้านบนถูกบูชายัญเอาไปเป็นทุนทำงาน DIY หมดแล้วครับน้า [Tongue-11]
-
อยากฟังหนังไทย ของ น้าแว่นครับ เท่าที่ติดตามมาเป็นแฟนของค่ายนึงในบ้านเราคนนึงเหมือนกัน เพราะมีเก็บทั้งแอมป์ และ ลำโพง ไม่รู้ว่ามีแอบเก็บซีดีไว้ด้วยหรือเปล่า [frightened-12]
-
อยากฟังหนังไทย ของ น้าแว่นครับ เท่าที่ติดตามมาเป็นแฟนของค่ายนึงในบ้านเราคนนึงเหมือนกัน เพราะมีเก็บทั้งแอมป์ และ ลำโพง ไม่รู้ว่ามีแอบเก็บซีดีไว้ด้วยหรือเปล่า [frightened-12]
[chick-clap] [chick-clap] [chick-clap]
-
เหมือนรู้เลย...
เครื่อง Magnet CD-10 รุ่นเก่า อยู่บนชั้นวางของ ไม่ค่อยได้เปิดเท่าไหร่ ตัวประจำการหลักตอนนี้ผมเป็น Audiolab 8000CDE ซึ่วตอบโจทย์ผมในตอนนี้มากกว่าครับ
ผมตามค่ายแม็กเน็ตในยุคแรกๆ ครับ ด้วยเหตุผลที่ง่ายๆว่า มีชุดคิตคุณภาพดีให้ซื้อไปต่อเล่นได้ อนึ่ง ผมเริ่มด้วยการเป็นนักเล่นอิเล็กทรอนิกส์ครับ และตอนนั้นผมยังเป็นนักเรียนมัธยมอยู่ และก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดว่าจะเล่นเครื่องเสียงด้วยซ้ำ จนวันนึงอยากจะเอาเสียงซาวด์อะเบ้าท์ออกมานอกหูฟัง ต่อ TDA2003 TDA2030 ฟังก่อน แต่พอได้มาดูในงานโชว์อิเล็กทรอนิกส์ปี 1991 ที่คอนเวนชั่นฮอลล์ เซ็นทรัลลาดพร้าว เท่านั้นล่ะ โอ้.. เครื่องเสียงที่เรียกว่าดี มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
เริ่มจากโทนคอนโทรล TC-1 (เพราะตอนนั้นไม่คิดว่าจะเล่น Phono แน่ๆ เลยไม่เอา PR-1) ราคาชุดคิดเบ็ดเสร็จรวมหม้อแปลงแล้วไม่ถึง 500 บาท และมีแอมป์ TDA2030 อยู่แล้ว เลยเอาโทนคอนโทรลมาก่อน
เริ่มเก็บตังค์ซื้อชุดคิดแอมป์ MA-1 30+30W. หลังจากไม่ประสบความสำเร็จในการมั่ววงจร SuperClass A 30+30 ในวารสาร และเสียดายหม้อแปลงที่อุตส่าห์สั่งพันโดนัท 400VA จากแสงทองมาแล้ว เลยเอามาลงที่ตัวนี้ และคิดไม่ผิดครับ ใช้มาเกือบ 2 ปี
จนกระทั่งเก็บเงินซื้อชุดคิต SA-3 ทะยอยซื้อชุดคิตกับหม้อแปลงประกอบฟังแบบกระสือก่อน พวกกล่อง+อุปกรณ์หน้าหลังตัวจริงตามซื้อในอีกหลายเดือนถัดมา
จากนั้นก็มาในช่วง ม.ปลาย ต่อ PR-3a แทนที่ TC-1 เพราะมันเริ่มเสื่อมแล้ว ที่บ้านฝุ่นเยอะ สมัยนั้นดูแลโวลุ่มไม่เป็นใช้แต่สเปรย์ล้างคอนแท็คกระป๋องแดง จนเพิ่งมารู้ตอนหลังว่ามันมีผลเสียมากกว่าผลดี...
จากนั้นช่วงท้ายม.ปลายก็ซื้อลำโพง LS-521 เป็นสินค้าตัวแรกที่ไม่ประกอบชุดคิต เพราะก่อนหน้านี้เคยผิดหวังกับการประกอบลำโพงเองโดยไม่มีความรู้และเครื่องมือที่เพียงพอ
ถัดจากนั้น ก็เป็นช่วงสุญญากาศครับ เพราะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว และของที่มีอยู่ก็ครบระบบดี มีเครื่องเล่น CD มือสอง Kenwood ตัวนึงก็พอถูไถ ฟังสลับกับเทปคาสเซ็ทต์ TEAC รุ่นเล็ก ตอนนั้นก็เพียงพอครับ เพราะใจส่วนใหญ่ไปทุ่มกันคอมพิวเตอร์หมดเลย จนแทบไม่ได้เล่นเครื่องเสียงอีกเลย...
จนกระทั่งจบออกมาและทำงานเกือบ 8 ปี พอได้เจอเพื่อนสมัยเรียนอยู่ ถึงได้กลับมาเริ่มเล่นและมาสนใจทำงานด้านนี้อยู่จนถึงวันนี้ครับ
-
ส่วนระหว่างทางนั้น จากการได้แวะไปโชว์รูมที่ ดับเบิ้ล พี ซ.ตระกูลสุข ผมมีตัวที่ประทับใจในเครื่องแม็กเน็ตที่สุดอยู่ 3 อย่าง ที่ตอนนั้นได้แต่ดู และไม่มีกำลังจะซื้อหา
1.พาวเวอร์แอมป์ MA-500 ตัวใหญ่สุด เรือธง สเกลเสียงดีกว่า MA-400 ที่ฟังเทียบกันในตอนนั้นแบบห่างกันจริงๆ
2.ลำโพง LS-721 คู่แรกของแม็กเน็ตที่ทำออกมา ไม่ใช่ว่าเสียงดีสุดแต่อย่างใด แต่เป็นตัวที่เปิดโลกการฟังของผมว่า ลำโพง 2 ทาง ตู้พอประมาณ กับห้องเล็กๆ สามารถวางแล้วให้เสียงเครื่องบินของ CD Impact บินผ่านหัวผมได้จริงๆ และรู้ได้ว่า 2 channel นี่แหละ ถ้าทำถูกวิธี มันตอบโจทย์การฟังเพลงทั้งหมดแล้ว
3.ปรีแอมป์หลอดในตำนาน PV-01 รุ่นแรก ที่เสียงของหลอดสุญญากาศ สะกดผมได้ว่า ความแฟลตแท้ๆ และความเป็นดนตรีสูง มันต่างจากปรีโทนโซลิต ได้ขนานไหน
-
(http://upic.me/i/17/10702005_558015964332181_6779261993436267914_n.jpg) (http://upic.me/show/53238634)
Primare 301 อินทิเกรตแอมป์ดูอัลโมโนสัญชาติ Denmark ตัวนี้ผมไม่มีเป็นของตัวเอง แต่มีโอกาสได้ฟังบ่อยเพราะเป็นของพี่ในกลุ่มที่เล่นเครื่องเสียงด้วยกันครับ ด้วยราคาในตอนนี้หลักแสน ซึ่งเกินความสามารถที่มนุษย์เงินเดือนอย่างผมจะสามารถคว้ามาครอบครองได้ ลำพังแค่เก็บเงินซื้อลำโพง B&W ในตอนนั้นก็ใช้เวลากว่า 4 ปีจึงได้มาครอบครอง Primare 301 เป็นอินทิเกรตแอมป์ในช่วงปี 90 มีกำลังขับ 80 วัตต์/ข้าง วงจร Balanced แท้ๆ ภาคจ่ายไฟทรานสฟอร์เมอร์คู่เป็นผลงานการออกแบบดีไซน์โดย Bo Christensen ซึ่งต่อมาแยกตัวออกมาทำยี่ห้อ BOW ZZ-1 เป็นอินทิเกรตแอมป์เกือบจะเป็นคู่แฝดของ Primare 301 แต่เป็นรองเรื่องคุณภาพเสียงทั้งโครงสร้างตัวเครื่องและวงจรถ้าจำไม่ผิดรุ่น Bow ZZ-1 ไม่ใช่วงจร Balanced ส่วนรุ่น 301 มีขั้วต่อสัญญาณ Balanced แต่ของ Bow ZZ-1 ไม่มี น้ำเสียงโดยรวม ดีมากเป็นแอมป์โซลิตที่ผมชื่นชอบมากๆตัวนึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจับคู่กับ ลำโพง B&W 802N ด้วยแล้ว ผมเคลิ้มกับการนั่งฟังเจ้าคู่นี้ครั้งนึงเป็นสิบๆชั่วโมงได้อย่างไม่รู้สึกล้า ความกลมกลืน ลื่นไหลทำได้ต่อเนื่องดี ตลอดระยะเวลาการฟังที่ยาวนานครับ
(http://upic.me/i/lu/10411916_558016007665510_7361769763349809680_n.jpg) (http://upic.me/show/53238641)
(http://upic.me/i/aj/10410542_558016064332171_5313571970063258354_n.jpg) (http://upic.me/show/53238681)
หน้าตาของ BOW ZZ-1 เป็นผลงานของ Bo Christensen ที่บ้านเรารู้จักกันดี และ ทางสถาบันเครื่องเสียงนำเข้ามาขายในบ้านเราครับ
(https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xap1/v/t1.0-9/1545880_558124477654663_6312139475829259458_n.jpg?oh=df173bd32a2f5c231bd1532c8fa4b816&oe=54E57672&__gda__=1425057083_a68c22b14e2576d25c0f440f946768a6)
-
ฟังน้าแว่นเล่าเพลินเลย แต่พี่เล็กยังไม่เล่านี่ครับ [chick5]
-
ส่วนระหว่างทางนั้น จากการได้แวะไปโชว์รูมที่ ดับเบิ้ล พี ซ.ตระกูลสุข ผมมีตัวที่ประทับใจในเครื่องแม็กเน็ตที่สุดอยู่ 3 อย่าง ที่ตอนนั้นได้แต่ดู และไม่มีกำลังจะซื้อหา
1.พาวเวอร์แอมป์ MA-500 ตัวใหญ่สุด เรือธง สเกลเสียงดีกว่า MA-400 ที่ฟังเทียบกันในตอนนั้นแบบห่างกันจริงๆ
2.ลำโพง LS-721 คู่แรกของแม็กเน็ตที่ทำออกมา ไม่ใช่ว่าเสียงดีสุดแต่อย่างใด แต่เป็นตัวที่เปิดโลกการฟังของผมว่า ลำโพง 2 ทาง ตู้พอประมาณ กับห้องเล็กๆ สามารถวางแล้วให้เสียงเครื่องบินของ CD Impact บินผ่านหัวผมได้จริงๆ และรู้ได้ว่า 2 channel นี่แหละ ถ้าทำถูกวิธี มันตอบโจทย์การฟังเพลงทั้งหมดแล้ว
3.ปรีแอมป์หลอดในตำนาน PV-01 รุ่นแรก ที่เสียงของหลอดสุญญากาศ สะกดผมได้ว่า ความแฟลตแท้ๆ และความเป็นดนตรีสูง มันต่างจากปรีโทนโซลิต ได้ขนานไหน
ผมว่าน้าแว่นยังคงตั้งหน้าตามหาลำโพง อยู่แน่ๆ หรือจัดมาแล้วก็ไม่รู้ ในความรู้สึกของผม แม้ว่าวิวัฒนาการในปัจจุบันจะก้าวไกลไปมากขนาดไหนก็ตาม ผมยังคงยึดลำโพงคู่เก่าดังเดิมของผมเป็น Ref. มาตลอดครับ เคยลองเปลี่ยนเอา diamond เข้าบ้าน สุดท้ายต้องยอมขาดทุนไปเอาคู่เก่ากลับมาตั้งที่เดิม ในฐานะเป็นคนนึงที่ทำ และ ใช้งานลำโพงมาค่อนข้างมาก มันเป็นสิ่งเดียวที่หาในลำโพงในยุคปัจจุบันไม่ได้ ครับ ทั้งวัสดุ ความพิถีพิถันในการสร้าง และ ประกอบ ความละเอียดของเนื้องาน ซึ่งเดี๋ยวนี้ใช้หุ่นยนต์เกือบหมดแล้ว ค่ายดังๆหลายค่ายก็มาผลิตที่จีนเกือบหมด ด้วยเหตุผลของการลดต้นทุน
-
ผมส่องเฉพาะสองตัวแรกครับ และไม่เคยเห็นใครลงขายเลยแม้แต่ครั้งเดียว หรือเป็นเพราะผลิตออกมาสู่ตลาด ด้วยจำนวนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับรุ่นยอดนิยมอื่นๆน่ะครับ
-
ผมตอบแบบไม่อายเลย เพราะช่วงที่แม็กเนตกำลังฮอตผมเองอาจจะไม่ได้อยู่เมืองไทย กลับมาก็ไม่รู้เรื่อง แต่มีเก็บดอกลำโพงที่ตรงรุ่นกับที่ใช้ในตู้ของ magnet ทุกรุ่นครับ อีกอย่างช่วงที่ทำเครื่องเสียงผมเองเป็นตัวแทนของสินค้ายี่ห้อนี้ด้วย เวลาเข้ามาล็อตนึงไม่ว่ายี่ห้อไหนรุ่นไหน ผมจะชักขึ้นเก็บสองคู่เป็นอย่างน้อยครับ จนทุกวันนี้ผมมีลำโพงพวกนี้เก็บอยู่ค่อนข้างมาก ครับ ยังแบ่งให้ด็อกเตอร์ไปใส่รถคู่นึงเป็นรุ่นที่ผลิตในสวิสเซอร์แลนด์ ครับ Aluvoice 3"
-
ฟังน้าแว่นเล่าเพลินเลย แต่พี่เล็กยังไม่เล่านี่ครับ [chick5]
ช่วงวัยเด็กจนโต (ก่อนทำงาน) ผมฟังจากชุดของพ่อ อย่างเดียวเลยครับทำอะไรไม่เป็นนอกจากซ่อมรถ วันๆจับแต่ กระโปกสิบล้อ (เค้าเรียกอย่างนี้จริงๆไม่ได้ทะลืีงนะ) กับ เกียร์ครับ ลากแม่แรงตัวนึงเดินเข้าใต้รถโดยไม่ต้องก้ม เวลาก็ฟังเพลงที่พ่อกับแม่ฟัง มีใช้อยู่สองแหล่ง คือ เทปรีล กับ เทิร์น ครับ ลำโพงก็เป็นลำโพงโรงหนัง แต่ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกครับว่ามันคือ WE หรือเปล่า อาเป็นสายหนัง ชอร์บาเดอร์ พ่อ เป็นช่าง (จบป.4 นะ) กับ แม่ผมเป็นเข็คเกอร์ ส่วนตัวผมเองมาเริ่มเล่นจริงๆก็ตอนทำงานแล้วครับ อยากได้แต่ที่บ้านผมเค้าไม่ซื้อให้หรอกครับ ต้องหาตังค์เอง เคยขอของพ่อแต่เค้าไม่ให้เค้าหวง มากกกกกกกกกก จนเริ่มทำงานนั้นแหละครับ เก็บเงินหกเดือน ก็ซื้อ CD yamaha ได้เครื่องนึงตั้งเกือบสองพันแนะ (เงินเดือนตั้ง 1800 บาท) ตอนนั้นยังเรียน ปวส อยู่ เทคนิคทุ่งมหาเมฆ ผมอาจจะเรียนแปลกกว่าชาวบ้านเค้าหน่อย คือจบ มศ. 5 แล้วเรียนราม อยู่สองปีเบื่อก็ลาออก แล้วกลับมาเรียนช่างกล จนจบป.ตรี ครับ ระหว่างตอนเรียน ปวช. ก็ทำงานตลอดครับ ยันจบเลย หลังจากได้ซีดีมาแล้วก็ได้ MD MRZ มาอีกตัว ตัวนี้แพงหน่อย แถมซื้อมือสองต่อหัวหน้ามาด้วย ราคาจริงเกือบสองหมื่น เค้าให้ผมมา 8 พันแถมผ่อน 4 เดือนดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์ 555 จากนั้นก็เริ่มสะสมเรื่อยมาและได้มีโอกาสไปทำงานนอกไทยเกือบๆยี่สิบปี ไปทั่วครับ ในฐานะวิศวกรทั้งออกแบบ สร้างเครื่องจักร ติดตั้ง และ ซ่อม ระหว่างนี้ก็สะสมมาเรื่อยๆเยอะมาก ถ้าเอามาเล่าคงจะยาวเพราะผมไม่เคยขายเครื่องที่ผมซื้อมาเลย จนเมื่อสองปีก่อนมองดูมันเสื่อมโดยที่ไม่ได้ใช้งาน ก็เริ่มทยอยปล่อยให้คนที่รัก และ ตามหาเครื่องพวกนี้ไปดูแลต่อ เพราะเครื่องที่ผมเก็บ หรือ ใช้จะค่อนข้างใหม่และมีผ้าคลุมตลอด มีขนแมวผมก็ไม่เก็บแล้ว ขายทิ้งหมดครับ แต่ก็ปล่อยไปได้นิดหน่อย กับลำโพงหก เจ็ดคู่ บางครั้งคนมาดูแล้วทำใจไม่ได้ แต่ละตัวมันเป็นเครื่องบันทึกความทรงจำแต่ละช่วงเวลาได้เป็นอย่างดี ไม่ได้เสียดายนะ แต่อาลัย ครับ ไว้จะตัดตอนมาเล่าเรื่อยๆครับ ผมจะหนักที่ลำโพงมากกว่า เพราะมีเก็บเกินร้อยแน่ๆ แอมป์โซลิตที่ใช้งานจริงๆมีอยู่แค่สองเครื่องเท่านั้นครับ KSA 50 กับ 300 mono block กับ แอมป์หลอดหลอด cary 572-3 อีกเครื่องนึง ช่วงสิบปีหลังมานี้ผมไม่เคยซื้ออีกเลย ไม่ว่าเครื่อง หรือ ลำโพง [embarrassed]
source หลักๆผมใช้อยู่สามเครื่องสองเครื่องใช้ทำงาน อีกเครื่องใช้ฟังสบายๆครับ เป็น SACD ทั้งหมด ใช้ทำงานก็ MRZ SA-1 กับ Accuphase DP-700 ส่วนอีกตัวไว้ฟังสบายๆก็ YAMAHA S-1000
-
ขอบคุณครับ ทั้งสองท่านประสบการณ์สุดยอดมากครับ
[0002053E] [huge-thumbs-up]
-
แต่ยังคงมีฝันให้ตามหาอยู่นะครับ สำหรับงานหลอดตอนนี้เริ่มเฉยๆแล้วพยายามหาอะไรแปลกที่คนเค้าไม่ทำกันมากว่า แต่กับงานแอมป์โซลิตผมยังคงอยากที่จะสร้างแอมป์ 100 วัตต์ คลาส เอ อยู่นะครับ นี่เป็นความใฝ่ฝันของผมเลย ซื้อเค้าเล่นมาก็เยอะ อยากลองดูสักตั้งว่าจะรอด หรือ ล่วง ช่วงนี้ก็มีโอกาสได้ฟังหลายยี่ห้อสั่งสมประสพการณ์กับศึกษาวงจรไปก่อนครับ เพราะปีหน้าเราจะมาว่ากันด้วยเรื่อง source กะ dac และงาน Hybrid ที่ค้างอยู่ กลับมาโซลิตอีกทีก็ปี 16 โน่นแหละ ครับ
-
สงสัยน้าเล็กเรียนที่เดียวกับผม ผมมาต่อ ปวส (อิเล็คทรอนิคส์) ที่เทคนิคกรุงเทพ ทุ่งมหาเมฆเช่นกัน
-
ผมก็เริ่มชอบเล่นเครื่องเสียงของพ่อมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้วเริ่มติดตาม มากๆตอนเรียนจบ ตอนนั้นพอเริ่มศึกษาแล้ว งงๆสับสน เลยตัดสินใจง่ายๆว่า คิดว่าซื้อมินิคอมรุ่นแพงๆคงคุณภาพดีกว่าซื้อแยกชิ้นเพราะเค้าออกแบบมาคู่กัน จ่ายไป 3 หมื่นกว่าบาทเมื่อ 20 ปีที่แล้ว, แต่พอได้ไปฟัง แอมป์ magnet PR5+MA5 กับลำโพง KEF CODA 7 ของเพื่อนสมัยเรียน แถบร้องไห้ เพราะเสียดายเงิน 3 หมื่น เจ็บใจต้องศึกษาเพิ่ม จนกลายเป็นบ้าหนัก เพื่อนที่ทำงานสงสาร ให้ NAD 304 กับ CD 502 กับลำโพง NAD ตั้งพื้น ที่ไม่ได้ใช้มาให้ยืมเล่นอยู่พักใหญ่ มาซื้อเองตัวต่อมาถ้าจำไม่ผิดน่าจะ เป็น Creek 4140S2 ครับ
(http://upic.me/i/yl/633978-creek_4140_s2.jpg) (http://upic.me/show/53240907)
-
สงสัยน้าเล็กเรียนที่เดียวกับผม ผมมาต่อ ปวส (อิเล็คทรอนิคส์) ที่เทคนิคกรุงเทพ ทุ่งมหาเมฆเช่นกัน
Auto MP ปี 27 ครับ
-
สมัยนั้นผมไม่เคยคิดจะได้มาทำเล่นเครื่องเสียงเลย เพราะทำอะไรไม่เป็นเลย แม้กระทั่ง R C ผมก็ดูไม่เป็น แต่ตอนนั้นด้วยความที่คิดอย่างเดียวอยากได้แอมปืสัก 1 ตัวมาครอบครอง ว่าเสียงจะเป็นอย่างไร ผมจะได้อ่านหาข้อมูลตามเวป HTG2 และได้ติดต่อ คุณสุวรรณ และได้เริ่มต้นตัวนี้เป็นตัวแรกเลยครับ
(http://www.uppic.org/image-93C5_544876F8.jpg) (http://www.uppic.org/share-93C5_544876F8.html)
(http://www.uppic.org/image-6060_544876F8.jpg) (http://www.uppic.org/share-6060_544876F8.html)
(http://www.uppic.org/image-22DB_544876F8.jpg) (http://www.uppic.org/share-22DB_544876F8.html)
-
สงสัยน้าเล็กเรียนที่เดียวกับผม ผมมาต่อ ปวส (อิเล็คทรอนิคส์) ที่เทคนิคกรุงเทพ ทุ่งมหาเมฆเช่นกัน
ผมช่างพิมพ์ เทคนิคกรุงเทพ ทุ่งมหาเมฆเช่นกันครับเสี่ย
-
ชุมนุมศิษย์เก่า [yellow-lol]
-
[chick-guitar] [chick-guitar]
-
ตัวนี้คือตัวที่อยากตามกลับมาเป็นที่สุดครับ เดิมทีที่บ้านมีอยู่สองเครื่องใช้ฟังทุกวันตอนผมเด็ก ตอนนั้นที่บ้านผมทำร้านอาหารอยู่ที่พัทยา เปิด 24 ชั่วโมง กลางดึกคืนวันหนึ่งคนในร้านหลับหมดเลยมีผู้หวังดีเอาไปเก็บไว้ให้กว่าสามสิบปีแล้วยังไม่คืนเลย ตั้งแต่วันนั้นที่บ้านเลยไม่มีเครื่องเล่นเทปเหลืออยู่เลยมีเพียง เทิร์นเก่าๆอยู่สองเครื่อง
(http://upic.me/i/q3/10644839_797323846998785_2961867862364820844_n.jpg) (http://upic.me/show/53271241)
-
รุ่นนี้ไม่เคยเห็นเลยครับ ส่วนใหญ่เห็นแต่ Akai , Teac , Tascam
แต่เทปรีลแค่วางเฉย ๆ ก็ดูขลังแล้ว [chick-clap]
-
ตัวแรกเริ่มเลยผมซื้อมือสอง rotel ra820 มือสองครับ ตอนนั้นเป็นนักเรียน มอปลาย หางานพิเศษทำ แล้วก็มาได้ marantz 63se อันนี้ซื้อของใหม่ พ่อช่วยออกครึ่งนึง อีกครึ่งนี่งานพิเศษเช่นเดิมคับ ลำโพง เป็นมรดกตกทอดจากเจ้าคุณปู่ครับ ไม่รู้ยี้ห้อแต่เป็นสามทางดอกของ peerless ทั้งหมด ชุดของผมกับของพ่อก็จะแยกกันไป ขานั้นชอบของไทยเล่นปรีกะเพาเวอร์ตลอดเน้นไปที่แม็กเนท สลับไปมาซีดี sony จำรุ่นไม่ได้ แผ่นเสียง technics sl1300mk2 คลาสเซ็ท superscope รีลมี 2 ตัว Tascam อันนี้เอามาจากสถานี พล.ปตอ กับอีกตัว ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ victor
จุดเริ่มของผมก็มาจากชุดเล็กของตัวเอง แล้วก็ของพ่อครับ ก่อนจะแตกหน่อมาเรื่อยๆ
-
เกิดไม่ทันเล่น MRZ 63SE ดีเนอะ พ่อออกให้ตั้งครึ่งนึง พ่อพี่อ่ะอยากได้ก็หาเอง ขอเล่นก็ไม่ให้เล่น แต่พอเสียส่งมาให้เรา เชอะ [embarrassed]
-
เอามาทำอะไรเล่นดีนะมีแค่เหลืออยู่แค่ข้างเดียว [chick5]
(http://upic.me/i/m8/2n3055moto.jpg) (http://upic.me/show/53659286)