ผู้เขียน หัวข้อ: power amp " หวานใจ " ใครก็รู้จัก แล้วต้องทำอย่างไรถึงจะเสียงดี ?  (อ่าน 183934 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ electron

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3289
  • ถูกใจกด Like+ 217
  • >> diy lover <<
           [unde_cided] แอมป์ " หวานใจ " (my sweetheart) ต้องทำอย่างไร ควรจะทำอย่างไรบ้าง ต้องหาและเตรียมอะไรไว้บ้าง เรามาดูกัน 

                " ใช้ทน เสียงดี ต้อง...หวานใจ... ของคุณพี่เจ้าค่ะ "

ขั้นตอนการประกอบ
http://www.diyaudiovillage.net/index.php?topic=3194.msg95583#msg95583

การเดินสาย
http://www.diyaudiovillage.net/index.php?topic=3194.msg98388#msg98388
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 เมษายน 2014, 12:51:13 AM โดย audiomania »

ออฟไลน์ audiomania

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2455
  • ถูกใจกด Like+ 402
  • เพศ: ชาย
แล้วจะมีชุดป้องกันลำโพงให้ด้วยไหมครับท่านพี่

          ป้องกันลำโพงเหรอ... ตัวใครตัวมันครับ... เอ๊ย... ติดต่อน้า audiomania ครับ ผมไม่ชอบใส่ครับ รุ่นนี้อย่าทำสายลำโพงช๊อตขณะเปิดเครื่องเท่านั้น... รับรองใช้ได้นานนนนนนนนน...น....น เป็นสิบปีเลยครับ (ซื้อที่บ้านหม้อสองร้อยกว่าบาทก็ใช้ได้เหมียนกัลล์ครับ)
จะเล่น MA-200 ต้องจัดสดไปเลยครับ ถึงจะถึงใจ.. Vo

อีกอย่างวงจรก็ไม่ได้เผื่อแรงไว้ดุดันอลังการเหมือนมอสเฟต โอกาสพังยากครับ เว้นแต่ไปช็อตสายลำโพงเล่นเท่านั้น  [phok]

ออฟไลน์ sansirn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1434
  • ถูกใจกด Like+ 11
ขอออกความเห็นด้วยคนนะครับ
1.แยกบอร์ด Reg ไว้ข้างนอกดีกว่า หากเอาไปรวมไว้บนปริ้นเดียวกันจะลองกล่องลำบาก เนื่องจากแผ่นปริ้นจะยาวมาก
2.C-input ต้องใช้ชนิด  Polypopyrene ดีๆ ใส่ลงไป จะได้เสียงที่ใสและสะอาดขึ้น สมัยนั้นผมใช้ Elrex (โรงงานเดียวกับ Solen)
3.C-filter ที่เหมาะกับแอมป์ตัวนี้ต้องมีขนาด 12000uF ขึ้นไป (ต่อไฟเลี้ยง 1 ซีก) จะใช้ 6800uF ขนานกันสองตัว หรือจะใช้ 15000uF ตัวเดียวก็ได้ ..... พลังเสียงดีกว่า 10000uF ตัวเดียวมากครับ
4.ผมแนะนำให้ใส่ฟิวส์ขาดเร็ว 4A ที่ไฟ +/- ก่อนเข้าบอร์ดแอมป์ทั้งสองข้าง เวลาเครื่องมีปัญหา เช่นสายลำโพงช็อตแล้วแอมป์พัง ฟิวส์มันจะขาด ก่อนที่ไฟตรงจะออกไปทำลายลำโพง .... อันนี้ของจริงครับ
5.เล่นแอมป์ตัวนี้ ต้องเดินสายกราวด์ให้ดี ไม่เช่นนั้นจะมีเสียงกวนได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 ธันวาคม 2011, 08:57:33 PM โดย James Ban »

ออฟไลน์ Blue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1249
  • ถูกใจกด Like+ 107
  • เพศ: ชาย
  • #D-I-Y ## Y-I-Do#
ขอเสริมอาจารย์สรรเสิญครับ
ข้อ 4 ใส่ฟิวส์ก่อนเข้าบอร์ดแอมป์ .... เพิ่งเจอมากับตัว..ทำลำโพงช๊อตกัน ฟิวส์ขาด + IC 2 ตัว พัง  แต่ลำโพงปลอดภัยครับ  เปลี่ยนแค่ฟิวส์กับ IC ก็ใช้งานได้ปกติครับ

ออฟไลน์ wichai.jr

  • Member
  • *
  • กระทู้: 27
  • ถูกใจกด Like+ 3
ขอออกความเห็นด้วยคนนะครับ
1.แยกบอร์ด Reg ไว้ข้างนอกดีกว่า หากเอาไปรวมไว้บนปริ้นเดียวกันจะลองกล่องลำบาก เนื่องจากแผ่นปริ้นจะยาวมาก
2.C-input ต้องใช้ชนิด  Polypopyrene ดีๆ ใส่ลงไป จะได้เสียงที่ใสและสะอาดขึ้น สมัยนั้นผมใช้ Elrex (โรงงานเดียวกับ Solen)
3.C-filter ที่เหมาะกับแอมป์ตัวนี้ต้องมีขนาด 12000uF ขึ้นไป (ต่อไฟเลี้ยง 1 ซีก) จะใช้ 6800uF ขนานกันสองตัว หรือจะใช้ 15000uF ตัวเดียวก็ได้ ..... พลังเสียงดีกว่า 10000uF ตัวเดียวมากครับ
4.ผมแนะนำให้ใส่ฟิวส์ขาดเร็ว 4A ที่ไฟ +/- ก่อนเข้าบอร์ดแอมป์ทั้งสองข้าง เวลาเครื่องมีปัญหา เช่นสายลำโพงช็อตแล้วแอมป์พัง ฟิวส์มันจะขาด ก่อนที่ไฟตรงจะออกไปทำลายลำโพง .... อันนี้ของจริงครับ
5.เล่นแอมป์ตัวนี้ ต้องเดินสายกราวด์ให้ดี ไม่เช่นนั้นจะมีเสียงกวนได้

            ขอนับหนุนอย่างที่ อาจารย์สรรเสริญกล่าวมาครับ พอดีใช้อยู่เหมือนกันครับ
               
                                                               

ออฟไลน์ sansirn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1434
  • ถูกใจกด Like+ 11
ma-200 กับ ma-400 แนว เสียงต่างกันไม็ครับ
ผมไม่เคยฟังทั้งสองรุ่น  สนใจครับ yahoo1

ยึดแนวเสียงเครื่องสำเร็จจากโรงงานที่ยังไม่โมดิฟายนะครับ...
MA-200 เบสจะแน่นกว่า เสียงกลางออกเรียบๆ รายละเอียดจัดว่าใช้ได้ แหลมออกสุภาพ ...... เป็นแอมป์ที่ไม่โดดเด่นด้านใดด้านหนึ่ง ใช้ฟังได้เรื่อยๆ โดยไม่รำคาญหูครับ
MA-400 (เวอร์ชั่นแรก) เบสอ้วนแต่นุ่ม กลางเนียนรายละเอียดดี แหลมสดใสกว่า .... เป็นแอมป์ที่เหมาะกับการฟังเพลงสบายๆ แนวเสียงนุ่มนวลแบบไฮเอนด์ ไม่เหมาะกับคนที่ชอบฟังเสียงแบบจะแจ้งเน้นอิมแพคครับ

ออฟไลน์ electron

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3289
  • ถูกใจกด Like+ 217
  • >> diy lover <<
แอมป์ตัวนี้ มันมีวิธีวัดกระแสสงบยังไงแล้วอะครับ  พอดีผมทำเอกสารของแอมป์ตัวนี้หายไป  มันเลยมีเสียงจี่ออกลำโพง  อะครับ
            ง่ายสุดคือปรับ POT 5K ในวงจรตัวนั้นให้อยู่ที่กึ่งกลางพอดีก็ใช้ได้แล้วครับ แบบที่สองต่อมิเตอร์อนุกรมกับไฟเลี้ยงภาคหลัง โดยตั้ง range ไปที่วัดกระแส DC ให้เรียบร้อยก่อนแล้วเอาสายวัดมิเตอร์ต่ออนุกรมเข้าไปในไฟเข้าบวกหรือลบก็ได้แล้วปรับ POT ให้มิเตอร์แสดงค่าได้ 25 mA ก็พอแล้วถอดมิเตอร์ออก ต่อไฟเข้าไปดังเดิม แบบที่สามอย่าเพิ่งต่อทรานซิสเตอร์เพาเวอร์เข้าไปนะครับ ให้ใช้มิเตอร์ตั้ง range วัดไฟ DC volt นำเข็มมิเตอร์ทั้งสองอันไปจิ้มคร่อม Resister ค่า 56 ohm ที่ต่ออยู่ระหว่างทรานซิสเตอร์ไดรฟ์ แล้วปรับ POT ดูไฟจะขึ้น 0.6-1.5V DC แล้วปรับไว้ที่ตำแหน่ง MAX หลังจากนั้นใส่ทรานซิสเตอร์เพาเวอร์คู่สุดท้ายเข้าไป แล้ววัดคร่อม R ค่า 0.1 ที่เราต่อเพิ่มไว้ที่ขา E ให้ได้ประมาณ 2.5 - 3.0 mV โดยการปรับ POT อย่างช้าๆใจเย็น (แบบที่สามต้องใส่ R ค่า 0.1 ohm ที่ขา E ของทรานซิสเตอร์เพาเวอร์ แล้วก็ต่อใช้งานไว้แบบนั้นแหละครับไม่ต้องถอดออก) ...ความเห็นส่วนตัวขอแนะนำปรับแบบที่หนึ่งครับทั้งสองข้าง ง่ายสุดและทรานซิสเตอร์ทำงานไม่เหนื่อยมากครับ


      
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 ธันวาคม 2011, 08:59:40 PM โดย James Ban »

ออฟไลน์ movely

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
  • ถูกใจกด Like+ 0
ว๊าวว  ดีจังเลย

ของผมยังอยู่ดีเลยครับ อายุเกิน 17 ปี  ใช้ดูหนังฟังเพลงที่บ้านต่างจังหวัด
พึ่งถอดมาทำความสะอาดเมื่อเดือนที่แล้วนี้เอง

คิดถึงสมัยวัยรุ่น นั่งกัดปริ๊น  เอ๊ะอะ ก็ R 1% ไว้ก่อน  ฮาาา
ติดต่อ : http://www.diyaudiovillage.net/index.php?topic=804.0  ..  โยวๆ [rave] แด๊นคับ แด๊น ..

ออฟไลน์ squid™

  • ++ทีมพาออกทะเล++
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5275
  • ถูกใจกด Like+ 150
  • เพศ: ชาย
  • "อย่าทิ้งความกระหาย อย่าคลายความเชื่อ"
ถ้าผมไม่ได้จำผิดนะ  เหมือนว่า ma-200 ชนะ What ฮิฟิ กรังปรีด์(ชื่อนี้หรือเปล่าหว่า) จากนิตยสาร วอท ฮิฟิ ที่น้า วิจิตร และน้าธานี เป็นบอกอ ในสมัยนั้น
ใช่มั้ยครับ เป็นความทรงจำตอนเด็กๆ  [unde_cided]

What hifi Grand Prix Award 1987-1994 ในฐานะ Power Amplifier of the Year มีการออกแบบการป้อนกลับแบบบวกซึ่งโดยส่วนใหญ่จะป้อนกลับแบบลบ และมีวงจร hamonic reduction หรือคือ Solf Cliping ของ Nad   [c--c]
กดเลยนะตะเองที่อยู่เค้าเองล่ะ "Seize the day"

[tig12]

squid --> GolDFish --> ปลาทองคะนอง Valve --> เข้น้อยคอย DAC --> จิ้งจกจ๋า AMP ข้าอยู่ไหน -->อุย ดุก ดุก...-->
โดมคูล่า...หล่อค่อดเรยย -->Liberty--> Mike Lowery-->C3po™-->View Smith™ เหล่านี้คือชื่อ ยูสเซอร์ที่ผมใช้ครับ ไล่เรียงมาเรื่อย

LongPlay ADDICT

ออฟไลน์ audiomania

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2455
  • ถูกใจกด Like+ 402
  • เพศ: ชาย
ไม่ลองทำ MA-5 กันบ้างเหรอครับ
โดยส่วนตัวถ้าฟังเพลงสบายๆ เสียงเปิด รายละเอียดดี MA-200 ได้เปรียบมากครับ จำได้ว่าสมัยโน้นที่โชว์รูมดับเบิ้ลพี ใช้เทปใบ้ Nakamichi CR-2 เล่น เทียบกับ MA-1 ก็ให้เสียงต่างกันชัดเจนมากๆๆ ยิ่งเปิดด้วย CD Accuphase (จำรุ่นไม่ได้แล้ว) ยิ่งชัดครับ  [roll]

ออฟไลน์ sansirn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1434
  • ถูกใจกด Like+ 11
ไม่ลองทำ MA-5 กันบ้างเหรอครับ

MA-5 ได้เสียงที่สดขึ้น ชัดขึ้น และกำลังขับดีกว่า ขณะที่ความละเมียดละไม MA-200 ทำได้ดีกว่า เสียงออกแนวคลาสสิคกว่า ใจผมเทให้ MA-200 ครับ

ออฟไลน์ audiomania

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2455
  • ถูกใจกด Like+ 402
  • เพศ: ชาย
เริ่มเรียกน้ำย่อยครับ คาดว่าน่าจะเสร็จหมดหลังวันหยุดเทศกาลปีใหม่พอดี  [smi_ley]
เดี๋ยวเอาข้อมูลทะยอยลงที่กระทู้นี้เป็นหลักครับ ที่กระทู้ GB จะได้ไม่สับสนนัก
ในรูปเป็น PCB ต้นแบบจากร้านซีเกต เหมือนเดิม แต่ผมพิมพ์สติ๊กเกอร์มาแปะทับให้ดูเนียนๆ (อันที่จริงกลัวใส่อุปกรณ์ผิดน่ะ)  laughhahaha
เอามาโชว์ยั่วน้ำลายก่อน เพราะที่ GB จริงๆ จำไม่ได้แล้วว่าโหวตสีไหน แล้วจะทะยอยลงอุปกรณ์ให้ดูความคืบหน้าเป็นช่วงๆ ครับ


วันนี้หมดโควต้าของ ลงอุปกรณ์เท่านี้ก่อนครับ ทรานซิสเตอร์คู่ diff ยังไม่ได้จับวัด และซิงค์เล็กก็ยังไม่ได้เจาะรูทำเกลียวเลย


ข่าวดี เท่าที่สำรวจอุปกรณ์ในบ้านเรามา ของส่วนใหญ่ยังหาซื้อได้สบาย คุณภาพพอไหว ทรานซิสเตอร์ตัวเล็กค่าเกนที่วัดได้ไม่หนีกันมาก
ส่วนทรานซิสเตอร์ตัวใหญ่ก็ขึ้นกับเบอร์ที่เลือก และร้านที่ซื้อครับ ผมว่าจะลองทรานซิสเตอร์ 2SC5200+2SA1493 ตัวพลาสติกเหลี่ยมลองไปก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมาลองจานบิน 15024+15025 อีกที

สิ่งที่ไม่แนะนำ ก็พอมีบ้างครับ เดี๋ยวจะทะยอยบอกอีกทีตอนเริ่มลุยกัน
มีเรื่องที่เตือนกันไว้ก่อน สำหรับท่านที่อยากจะสะสมเสบียง เรื่องทรานซิสเตอร์ตัวเล็ก BC5xx ไม่แนะนำยี่ห้อ CDIL เด็ดขาด เพราะบางเบอร์เรียงขาไม่เหมือนมาตรฐาน ปกติเรียง C-B-E แต่ CDIL บางตัวเรียง E-B-C กลับกันเฉยเลย ซึ่งถ้าไม่วัดก่อนมีเน่าครับ  เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ชาวไทยที่โดนครับ ที่ DiyAudio เมืองนอกก็โดนแล้วบ่นกันอุบเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31 ธันวาคม 2011, 02:21:15 PM โดย audiomania »

ออฟไลน์ audiomania

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2455
  • ถูกใจกด Like+ 402
  • เพศ: ชาย
จะทะยอยเล่า+รูป การลงอุปกรณ์เบื้องต้นให้ดูครับ

เทคนิคทั่วไปคือการลงอุปกรณ์บนปริ้นท์ คือทะยอยลงอุปกรณ์ตัวที่มความสูงน้อยๆ ไปหามาก
ทะยอยทำทีละตัว ไล่เรียงจากกลางบอร์ดไปยังริมบอร์ดเพื่อให้ง่ายต่อการตัดขาอุปกรณ์หลังบัดกรี

เริ่มจากพวกลวดจัมพ์ ให้ใช้คีมปากแบนเรียบๆ ดัดให้ได้ขนาดตาม PCB ก่อนเพื่อลวดจะได้ไม่หงิกงอ หรือโค้ง เวลาใส่ เพราะนอกจากความสวยงามแล้ว จะป้องกันปัญหาเรื่องขาไปช็อตแตะกับอุปกรณ์รอบข้างด้วย


จากนั้นก็พวกไดโอดตัวเล็กๆ  และ R ตามลำดับ โดยใช้คีมดัดให้ได้ขนาดเหมาะสมกับความกว้างบน PCB เช่นกัน


เสร็จแล้วก็ทดลองใส่ว่าได้ขนาดเหมาะสมจริงมั๊ย


ในกรณีที่อุปกรณ์อาจจะมีความร้อน เราสามารถยกอุปกรณ์ลอยได้ โดยอาจจะใช้วิธีดัดขาหยัก(Kink) เพื่อประคองอุปกรณ์ให้ได้ความสูงตามต้องการ


สำหรับอุปกรณ์ที่ระยะกว้างกว่าตัวอื่นๆ อย่าง R 56 โอห์ม เราจะหาปลอกสายไฟหรือท่อหดเล็กๆ หุ้มด้วย เพื่อป้องกันช็อตกับจุดรอบข้าง


สำหรับตาไก่ทองเหลือง แนะนำให้ใส่แล้วจากด้านล่าง ดันให้สุด แล้วใช้คีมบีบด้านบนให้แบนลงเล็กน้อย เพื่อให้ตาไก่ล็อกตำแหน่ง ไม่เลื่อนหลุดได้เวลาบัดกรีตะกั่วทั้งสองด้าน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31 ธันวาคม 2011, 01:39:14 AM โดย audiomania »

ออฟไลน์ audiomania

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2455
  • ถูกใจกด Like+ 402
  • เพศ: ชาย
อะไหล่ทั้งหมดที่จะทำ GB จะได้ตามแบบนี้เลยไหมครับ  [confused-raccoon]
ตอนนี้เป็นตัวต้นแบบลองก่อนครับผม  เพราะพอดีอุปกรณ์ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดมีอยู่แล้วที่บ้าน เลยไม่ได้ไปซื้อเพิ่มครับ

ที่พอรับปากเบื้องต้นได้ ก็มีอุปกรณ์ชุดจ่ายไฟครับที่มีตามนั้นแน่ๆ ยกเว้นเรื่อง C กระป๋องใหญ่ พอดีมี 560/80 เลยจับใส่แทนไปก่อน
ไม่รู้ว่าในบ้านหม้อยังมีตัวนี้ขายอยู่รึเปล่า

เดี๋ยวตอนสรุปวงจรเสร็จ ก็จะนับอุปกรณ์ทำรายการแจงอีกทีครับ
แต่ที่แน่ๆ ถ้าจัด R Dale ทั้งหมดตามรูป ราคาก็หนักเอาเรื่องอยู่ครับ ตอนทำไม่ได้คิด มันอยู่ในถุงอยู่แล้ว แต่พอทำเสร็จนับดู อือม์... มันก็เยอะเหมือนกันนิ  [roll-eyes]

แต่ถ้าเน้นแบบ Original ผมว่าใช้ R 1/2W. 5% Royal เป็นพื้นฐาน แล้วปรับเพิ่มเฉพาะตัวสำคัญๆ มาใส่น่าจะดีกว่า ประหยัดและยิงตรงจุดมากกว่า
ยังคิดเหมือนกันว่า ถ้าใครอยากจะลองแบบสุดๆ ก็สามารถตัดอุปกรณ์ชุด Soft-Clipping ไปได้เช่นกัน ก็ประหยัดได้อีกพอสมควรเลย


เพิ่มเติม... หลังจากนับ R คร่าวๆ แล้ว
บอร์ดหลัก R 1/2W. 45 ตัว, 1W. 1 ตัว, 2W. 2 ตัว
บอร์ดจ่ายไฟ R 1/2W. 10 ตัว, 1W. 2 ตัว
2 ข้าง ก็คูณสอง อู้วว์... ค่า R 100 ตัวเศษอย่างเดียว ปาไปพันกว่าแล้วครับ [no-raccoon]

เพราะฉะนั้นที่ GB เบื้องต้น ผมคงจะจัด R ธรรมดาเป็นพื้นก่อนนะครับ ประหยัดได้เยอะ ไม่งั้นกว่าจะจบ งบบานปลายแน่ๆ เดี๋ยวจะไม่มีคนร่วมทำตาม
เอาไว้เน้นส่วนสำคัญๆที่จำเป็นเรื่องเสถียรภาพ หรือมีผลต่อเสียงค่อยปรับไปใช้ตามจุดที่เหมาะสมน่ะครับ หรือโยกงบไปหา C คัปปลิ้งคุณภาพดีมาใส่น่าจะดีกว่าครับ [yes-raccoon]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31 ธันวาคม 2011, 01:55:16 AM โดย audiomania »

ออฟไลน์ electron

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3289
  • ถูกใจกด Like+ 217
  • >> diy lover <<
  
       สำหรับหม้อแปลงที่จะใช้ ตามภาพประกอบที่แนบมาให้ครับ ท่านใดจะเผื่อกระแสอีกเล็กน้อยก็ตามสะดวกครับ แบบแรก ใช้ขดเดียวกัน แบบที่สอง แยกขดไม่รวมกัน สำหรับไฟ 35-0-35 แบบแยกขด แค่ขดละ 2.5 Amp ก็พอ ผมแถมให้อีกหน่อยนึงครับ

ออฟไลน์ audiomania

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2455
  • ถูกใจกด Like+ 402
  • เพศ: ชาย
ถึงวันนี้ต่อได้อีกนิดนึง เดี๋ยวแว๊บไปธุระซักพัก กลับมาจะมาต่อที่เหลือครับ  [roll]
อุปกรณ์ที่เห็นจะเห็นว่ามีลูกผสมพันธุ์ทางเยอะ อาศัยว่าเจออะไรในถุงที่ใช้ได้ก็เอามาใส่ลองก่อนน่ะครับ ไม่ได้มีเหตุผลหรือสูตรอะไรพิเศษ  [phok]


ออฟไลน์ electron

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3289
  • ถูกใจกด Like+ 217
  • >> diy lover <<
ลุง บาน ไม่ต้องมีขด speaker protect เหรอครับ
            ไม่ต้องครับน้าขี้บ่น เปิดมาไม่มีเสียง ตุ๊บ ตั๊บ ออกลำโพง เงียบสนิท

           heatsink เล็กบน pcb ใช้สั้นกว่าของน้า audiomania ครึ่งนึงก็พอครับ ถ้าหาไม่ได้ก็ใส่ไป เพราะไม่ร้อนมาก อุ่นๆเอง 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 มกราคม 2012, 04:15:58 PM โดย James Ban »

ออฟไลน์ audiomania

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2455
  • ถูกใจกด Like+ 402
  • เพศ: ชาย
ขอ Edit กระทู้ เพื่อจัดการข้อมูลที่จำเป็นครับ
เอาล่ะครับ ทดสอบเครื่องแล้ว มีเสียงแล้ว แววดีทีเดียว

ที่ทดลองใช้ทรานซิสเตอร์เป็นสูตร ปรีไดร์ฟ 2SB649A+2SD669A [Hitachi], ตัวกำลังเป็น 2SA1943+2SC5200 [Toshiba], ตัว VBE Multiplier เป็น 2SD1563 [ROHM หรือ Sanyo ไม่รู้] (พอดี BD139 ที่บ้านหมดครับ เลยเอาเจ้านี่ใส่แทน)

เดี๋ยวดูขั้นตอนตรวจเช็คกับวิธีปรับแต่ง Idle เบื้องต้น ตามรูปครับ (ซ้อมใหญ่ครับ แสดงขั้นตอนโดยย่อให้ดูก่อน เดี๋ยวตอนทำจริง จะทำขั้นตอนอย่างละเอียดในเอกสารจริงอีกที) ในรูปค่อนข้างจะรกซักนิดนึง พอดียังไม่มีหม้อแปลงของมันเอง เลยต้องเอา 2 ลูกมาทดลองไปก่อน

ขั้นแรก ต่อไดโอดบริดจ์กับ C filter คุมไฟใหญ่ตามสะดวก ต่อขดไฟหลัก 35-0-35 ให้ถูกต้อง ต่อสายไฟ 220VAC ให้เรียบร้อย แล้วทดลองเสียบ แล้วใช้มิเตอร์วัดไฟดู ทั้งสองซีก ควรจะได้ไฟประมาณ +-48V. ไม่เกิน 50V เป็นอันใช้ได้
(35 x 1.414) - 1.2 = 48.3 โดยประมาณ (ในรูปไฟสูงกว่าที่คำนวณนิดหน่อย ถือว่าปกติครับ)



ต่อขดหม้อแปลง 45-0-45 เข้าที่ชุดปรีเรกูเลต เสียบปลั๊กแล้วใช้มิเตอร์วัดไฟขาออกเทียบกราวด์ 0V ควรจะได้ไฟออกราว ๆ+- 50 ถึง 52
เป็นอันตรวจสอบ แรงดันเบื้องต้นถูกต้อง

ถอดปลั๊กออก แล้วต่อสายไฟปรีเรกูเลตเข้าบอร์ดให้ถูกต้อง ส่วนไฟหลัก ให้ต่อผ่านแท่นฟิวส์ทั้งไฟบอกและไฟลบ โดยให้ใส่ฟิวส์ 4A. เอาไว้ด้านเดียว (ในรูปจะใส่ฟิวส์เอาไว้ที่ไฟ+)
ส่วนไฟลบนั้น จะใช้มิเตอร์เสียบสายตั้งวัดกระแสเอาไว้ก่อน สายวัดขั้วลบต่อจากสายไฟลบ ส่วนสายวัดขั้วบวกต่อไปยังจุด -V บนบอร์ด
เกือกม้าปรับค่าได้ควรจะให้เริ่มต้นที่ตำแหน่งกึ่งกลางก่อน
จากนั้นใช้สายปากคีบ ต่ออินพุตลงกราวด์ แล้วตรวจเช็คทั้งหมดอีกครั้ง ให้เรียบร้อยก่อนจ่ายไฟ


เสียบปลั๊ก ดูที่มิเตอร์ จะต้องเห็นกระแสไหลผ่านจำนวนหนึ่ง ซึ่งปกติ่เริ่มต้นที่ค่าไม่สูงนักแล้วค่อยๆ ปรับเกือกม้าทีละนิด จนอ่านค่าได้เพิ่ม โดยเราจะตั้งกระแส dle นี้ไว้ที่ 25mA 25mA แต่โดยธรรมชาติของทรานซิสเตอร์ เราจะปรับเอาไว้ต่ำกว่า ราวๆ 20mA ก่อน จากนั้นเปิดทิ้งไว้ซักพักประมาณ 5-10 นาที ฮีตซิงค์จะเริ่มอุ่นขึ้น และถ้าสังเกตค่าบนมิเตอร์ค่ากระแส Idle จะเพิ่มขึ้นเอง และเริ่มหยุดนิ่งอยู่ที่ค่าๆ หนึ่งเมื่ออุณหภูมิอุ่นขึ้น ซึ่งเราจะทำการปรับละเอียดให้ได้ 25mA จริงๆ หลังจาก 10 นาทีไปแล้ว เป็นอันใช้ได้


ถอดปลั๊กออก แล้วใส่ฟิวส์ 4A อีกตัวให้ครบ แล้วปรับมิเตอร์กลับมาในโหมดแรงดัน Volt DC
แล้วต่อวัดที่เอาต์พุต จากนั้นเสียบปลั๊กอีกครั้ง ควรจะวัดค่าได้ต่ำมากๆ ไม่เกิน 5-10 mV


ถอดปลั๊กก่อน จากนั้นปลดสายอินพุตที่ช็อตเอาไว้ออก แล้วต่อลำโพงหน่วยกล้าตายทดสอบเสียง ต่อสัญญาณเสียงจากปรีเข้าอินพุต แล้วเสียบปลั๊กอีกครั้ง จากนั้นทดลองเร่งเสียงจากปรี เราควรจะได้ยินเสียงที่ดังฟังชัดเจนไม่แตก ไม่พร่าออกมา เป็นอันเสร็จขั้นตอนการปรับแต่งครับ จากนั้นก็ทำอีกข้างด้วยวิธีเดียวกันให้เรียบร้อย


ในวิธีที่ผมแสดงนี้เป็นการวัดกระแส Idle แบบตัดวงจร ซึ่งจะต้องใช้มิเตอร์ที่วัดกระแสได้ ในย่าน 0-250mA เป็นอย่างน้อยจึงจะเหมาะสม
สำหรับท่านที่ไม่มีมิเตอร์วัดกระแส ให้หา R 10 โอห์ม 5W. มาต่อแทนฟิวส์ แล้วอาศัยวัดแรงดัน Volt คร่อม R 10 โอห์ม เพื่อคำนวณกระแสทางอ้อมจากสูตร I=V/R = (V ที่อ่านได้) / 10
กระแสที่เราต้องการอยู่ที่ 25mA จะต้องวัดแรงดันได้ 250mV. (0.25V. นั่นเอง)

ตลอดการวัด ถ้ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็นให้รีบถอดปลั๊ก วางทิ้งไว้ซักครู่ แล้วตรวจสอบจุดผิดพลาดหรือจับดูว่าตัวใดมีความร้อนสูงผิดปกติหรือไม่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 มกราคม 2012, 05:37:03 PM โดย audiomania »

ออฟไลน์ audiomania

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2455
  • ถูกใจกด Like+ 402
  • เพศ: ชาย
PCB หวานใจมันดูไม่ใหญ่เลยนะครับในภาพ มันเท่ากับภาคจ่ายไฟปรีที่เอาไปเช็ดให้ผมหรือไม่ครับ


หน้าตาประมาณนี้ ถ้าเอามาเรียงทั้งบอร์ดแอมป์และบอร์ดจ่ายไฟทั้งสองข้าง ถือว่าใหญ่พอดูครับ ประมาณกระดาษ B5 เล็กกว่า A4 หน่อยเดียว [c--c]



เดี๋ยวเช็ครูเจาะให้เรียบร้อยก่อน จะส่งไปโรงงานคิดราคาอีกทีครับ  [yes-raccoon]


อาจารย์ครับจุด  E B C   เป็นแบบใส่คอนเน็คเตอร์ ขันน๊อต หรือครับ

ใส่ตาไก่ครับ เน้นบัดกรีไปเลยครับ  [yes-raccoon]

ออฟไลน์ ตาปุ๊_ภูเก็ต

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 549
  • ถูกใจกด Like+ 6
  • เพศ: ชาย
เทียบกับ TO-3 moto เบอร์อะไรครับ 150XX 
ตัวดั้งเดิมเลยเป็น 15003/15004 ขาทองครับ แต่หายากแล้ว
 และปัญหาของรุ่นหลังๆที่ไม่เหมือนของเก่า เสยแนะนำเป็นรุ่นใหญ่ MJ15024/15025 หรือ MJ21193/21194 ก็ได้ครับ [gr_in]
รู้สึกว่า MJ15024/15025 ได้กลาง แหลม เบสออกบางๆ  ส่วนตัวหลังไม่เคยลองเลยคัพ  [c--c]

ออฟไลน์ Mr.Q

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 212
  • ถูกใจกด Like+ 48
ช่วยลงวงจรให้ดูหน่อยไก้ไหมครับ ผม งง กับวงจรที่โหลดมาไม่เหมือนกันเลย
2 วงจรนี้อันไหนแน่ที่ถูกต้องครับ

ออฟไลน์ audiomania

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2455
  • ถูกใจกด Like+ 402
  • เพศ: ชาย
ช่วยลงวงจรให้ดูหน่อยไก้ไหมครับ ผม งง กับวงจรที่โหลดมาไม่เหมือนกันเลย
2 วงจรนี้อันไหนแน่ที่ถูกต้องครับ

อันบนถูกมากกว่า แต่ให้ตัด C11 C12 (0.1uF ที่คร่อม base) ออกครับ  [yes-raccoon]

ออฟไลน์ Mr.Q

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 212
  • ถูกใจกด Like+ 48
ช่วยลงวงจรให้ดูหน่อยไก้ไหมครับ ผม งง กับวงจรที่โหลดมาไม่เหมือนกันเลย
2 วงจรนี้อันไหนแน่ที่ถูกต้องครับ

อันบนถูกมากกว่า แต่ให้ตัด C11 C12 (0.1uF ที่คร่อม base) ออกครับ  [yes-raccoon]
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ audiomania

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2455
  • ถูกใจกด Like+ 402
  • เพศ: ชาย
แวะมาลงข้อมูลเพิ่ม
วันนี้ลองต่อทรานซิสเตอร์จานบินลงซิงค์ขนาดเล็กลง ค่อยยังชั่วหน่อย พอทำงานแล้วเริ่มอุ่นขึ้นมาให้ทรานซิสเตอร์ BD139 (multiplier) ทำงานบ้าง
ซึ่งเป็นเรื่องดี ได้ใช้ซิงค์เล็กลง หรือไม่ก็อะลูมิเนียมแผ่น 3 ถึง 3.5 mm. พับเป็นตัว U ทำเหมือนต้นฉบับเดิมก็เอาอยู่ครับ

พอปรับสูตร R กับ VR ใหม่ จูนง่ายขึ้น เหมาะสำหรับคนมือไว เพราะหมุนไปแล้วค่าจะค่อยๆ ขึ้น  ถึงจะเผลอหมุนไวเกินไปนิดก็ยังวิ่งขึ้นไม่มากเท่าไหร่



ส่วนรูปนี้ทดสอบเรื่อง DC Offet ที่เอาต์พุต ถ้าดวงไม่กุดจริงๆ ทรานซิสเตอร์คู่ดิฟ Hfe ต่างกันมากๆ ตอนเปิดจะดังปุเล็กๆ
ส่วนของผมซื้อมาจับวัดคู่ส่วนมากต่างกันไม่เกิน 5% ก็ใช้ได้ดีครับ เปิดมาแทบไม่ได้ยินเสียงปุเลย เบามากๆ

และที่เอาต์พุตควรจะวัดค่าได้ไม่เกิน +-25mV. และเมื่อเปิดไปซักพัก ค่าจะต้องลดลงทีละน้อยเช่นกัน

ออฟไลน์ audiomania

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2455
  • ถูกใจกด Like+ 402
  • เพศ: ชาย
              ถ้าใช้ Sink ใหญ่ๆ ตัว MA-200 นี่ ปรับ Bias ให้เป็นหรือใกล้เคียง Class-A ได้ไหมครับ  ไม่แน่ใจว่า range ของ Multiplier ที่เดิมเค้าออกแบบไว้จะรับไหวไหม ?? ผมเดาว่าพวก class AB ภาค Driver จะเป็น class A อยู่แล้วหรือเปล่า
กับวงจรนี้ปรับกระแสให้มากขึ้นได้ระดับนึง ไม่ควรเกิน 45mA ครับ และไม่แนะนำให้ดันไปถึง A แท้ๆ เช่นกัน เพราะวงจรภาคหน้ากับปรีไดรฟ์ถูกออกแบบมาให้ทำงานช่วง AB กลางถึงปลายๆ มากกว่า
ไม่อย่างนั้น แนวเสียงของ MA-200 จะเริ่มดุขึ้น จะดูเป็นสาวห้าวไม่ใช่หวานใจแล้วสิขอรับ [roll]

ออฟไลน์ audiomania

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2455
  • ถูกใจกด Like+ 402
  • เพศ: ชาย
น้าแว่นครับ R และ C หรือตัวสำคัญ ในจุดที่มีผลต่อเสียงโดยตรง

รบกวน ทำตัว หนา หรือ สีแดง ให้หน่อยสิครับ

อยากรู้ว่ามันมีจำนวนเยอะอ่ะเปล่า

=_= ยิ่งเยอะมาก ยิ่งส่งผลเสียต่อ..... [entreat-raccoon]

-------------------
ตามนี้เลยครับผม +1 [yes-raccoon]
เดี๋ยวคืนนี้ทำให้ครับ เมื่อคืนเมามันส์กับการเล่นจานบินมากไปหน่อย เลยไม่ได้ทำข้อมูลเพิ่มเท่าไหร่
อุปกรณ์ที่เปลี่ยนแล้วโดนจริงๆ และคุ้มค่าตัว มีอยู่ไม่เยอะครับ
มี R 4k7 ตรงอินพุต, R 1k69 (หรือ 1k5 เดิม) ตรงขา B ทรานซิสเตอร์คู่ดิฟ 4 ตัว กับฟีดแบคต่อ C220/6V3, R ฟีดแบค 39k 1W. หรือ 1/2W. ดีๆ ก็ได้, R 39 โอห์ม กับ 56 โอห์ม ตรงทรานซิสเตอร์ไดรฟ์เอาต์พุต
ส่วน C มีที่ อินพุต (เดี๋ยวจะลงวิธีสูตรแบบใช้ C ใหญ่ตัวเดียวแทนให้ดูครับ แบบสองออเดอร์) กับ C 220uF 6V3 NFB ครับ

ออฟไลน์ tfender

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5074
  • ถูกใจกด Like+ 100
  • เพศ: ชาย
น้าแว่นครับ R และ C หรือตัวสำคัญ ในจุดที่มีผลต่อเสียงโดยตรง

รบกวน ทำตัว หนา หรือ สีแดง ให้หน่อยสิครับ

อยากรู้ว่ามันมีจำนวนเยอะอ่ะเปล่า

=_= ยิ่งเยอะมาก ยิ่งส่งผลเสียต่อ..... [entreat-raccoon]

-------------------
ตามนี้เลยครับผม +1 [yes-raccoon]
เดี๋ยวคืนนี้ทำให้ครับ เมื่อคืนเมามันส์กับการเล่นจานบินมากไปหน่อย เลยไม่ได้ทำข้อมูลเพิ่มเท่าไหร่
อุปกรณ์ที่เปลี่ยนแล้วโดนจริงๆ และคุ้มค่าตัว มีอยู่ไม่เยอะครับ
มี R 4k7 ตรงอินพุต, R 1k69 (หรือ 1k5 เดิม) ตรงขา B ทรานซิสเตอร์คู่ดิฟ 4 ตัว กับฟีดแบคต่อ C220/6V3, R ฟีดแบค 39k 1W. หรือ 1/2W. ดีๆ ก็ได้, R 39 โอห์ม กับ 56 โอห์ม ตรงทรานซิสเตอร์ไดรฟ์เอาต์พุต
ส่วน C มีที่ อินพุต (เดี๋ยวจะลงวิธีสูตรแบบใช้ C ใหญ่ตัวเดียวแทนให้ดูครับ แบบสองออเดอร์) กับ C 220uF 6V3 NFB ครับ

R 1k69 (หรือ 1k5 เดิม)   สามารถใช้ 1.5K  หรือ 1.8K   ได้ไหมครับอาจารย์

^ ขอตอบในนี้เลยละกันครับ ใช้ 1k5 ดีกว่าครับ [audiomania]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 มกราคม 2012, 02:42:04 PM โดย audiomania »

ออฟไลน์ audiomania

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2455
  • ถูกใจกด Like+ 402
  • เพศ: ชาย


อันนี้เป็นจุดสำคัญน่ะครับ
- สีแดง คือ อุปกรณ์ที่ควรจะมีความผิดพลาดต่ำ และเป็นตัวที่ผมจะจัดให้ไปกับ PCB แล้ว
- สีฟ้า คือ อุปกรณ์ที่ควรจะมีค่าผิดพลาดต่ำ สำคัญในระดับหนึ่ง
- สีเขียว คือ อุปกรณ์ที่เป็นทางผ่านของสัญญาณเสียง ที่ค่อนข้างมีผลกับเสียง โมแล้วคุ้ม
- สีส้ม คืออุปกรณ์ภาค Harmonic Reduction (Soft clipping) เอาไว้ลดการขลิบของสัญญาณเอาต์พุตกรณีสัญญาณขาเข้ามาแรงมากๆ แต่ถ้าต้องการความสะอาดของเสียงอย่างที่สุดและคิดว่าสัญญาณจากปรีไม่มีทางเกินแน่ๆ ก็สามารถตัดอุปกรณ์ส่วนนี้ออกไปได้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 มกราคม 2012, 08:22:13 PM โดย audiomania »

ออฟไลน์ audiomania

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2455
  • ถูกใจกด Like+ 402
  • เพศ: ชาย
             ถ้าใช้ Sink ใหญ่ๆ ตัว MA-200 นี่ ปรับ Bias ให้เป็นหรือใกล้เคียง Class-A ได้ไหมครับ  ไม่แน่ใจว่า range ของ Multiplier ที่เดิมเค้าออกแบบไว้จะรับไหวไหม ?? ผมเดาว่าพวก class AB ภาค Driver จะเป็น class A อยู่แล้วหรือเปล่า

               ไม่น่าจะได้ครับ... เพื่อนที่ทำงานซ่อมอยู่แม็กเน็ทบอกมาว่า กระแสสงบ ma-200 ปรับสูงสุดได้ไม่เกิน 25 mA ครับ เกินจากนี้เจ๊งครับ... อยากให้มีหนูลองยาเหมือนกันนะว่าจริงมั๊ย? ... รึว่าน้าแว่นลองให้หน่อยจิ นะ นะ ออยากรู้ว่าเจ๊ง จริงป่ะ ขอรับ
ลองแล้วครับ มันอัดมากๆไม่ได้ เสียวพังเหมือนกัน สืบเนื่องว่า...

จากวงจรนี้โดยกลไกของทรานซิสเตอร์ Multiplier จะคุมในตัวมันเองในระดับนึง คือตอนเปิดใหม่ๆ เครื่องยังเย็นอยู่ ผมทดลองตั้งเอาไว้ที่ 35mA. จากนั้นใส่ฟิวส์ตามปกติ แล้วเปิดเพลงดังปานกลาง ทิ้งเอาไว้ซัก 20 นาที เอามือจับซิงค์ก็พออุ่นๆ ไม่ถึงจับร้อนจนจับไม่ได้ ก็เลยต่ออินพุตลงกราวด์ ต่อมิเตอร์ปลดฟิวส์วัดดูกระแสว่าเป็นอย่างไร ก็พบว่าวงจรเองจะปรับกระแส idle ลดลงมาเองแถวๆ 20-22mA  [roll-eyes]

นั่นหมายถึง ถ้าจะให้มันเสถียรในกระแสที่มากกว่า 25mA กระแสตอนเริ่มต้นจะสูงกว่า 40mA มากๆ ซึ่งทำให้ช่วงแรกของการทำงานทรานซิสเตอร์กำลังทั้งชุดเริ่มทำงานหนักตั้งแต่ต้นครับ และเป็นอันตรายกับ 2SD669 2SB649 ที่เป็นตัวจ่ายกระแสจากเรกูเลตด้วย ซึ่งจะร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดน่ะครับ

เพราะฉะนั้นจูน "หวานใจ" ให้เป็นหวานใจดีอยู่แล้วครับ clapping-1-2

ออฟไลน์ audiomania

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2455
  • ถูกใจกด Like+ 402
  • เพศ: ชาย
เว้นแต่... โครงการเฟสสองครับ ใช้การขนานทรานซิสเตอร์เอาต์พุต โดยมี R 0.1 โอห์มที่ขา E
ถ้าเล่นเยอะหน่อยก็คงต้องเปลี่ยนทรานซิสเตอร์ ตัวจ่ายไฟจากเรกูเลต 2SD669/2SB649 เป็น MJ15030/MJ15031 (กลับด้านให้ขาตรงกันด้วย) แทน เพื่อรับภาระที่มากขึ้นได้อีก  clapping-1-2

แต่เฟสสองอย่าเพิ่งรีบเล่นเลยครับ ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ เติม แล้วดูพัฒนาการของ "หวานใจ" ทีละขั้นดีกว่า (ซึ่งไม่รู้ว่าจะดีขึ้นแค่ไหนเหมือนกัน)  [roll]