www.diyaudiovillage.net
Source & Line amp & Amplifier Project ผลงาน DIY => Vacuum Tubes => ข้อความที่เริ่มโดย: มุมคนรักหลอด ที่ 22 สิงหาคม 2011, 02:01:28 AM
-
นานกว่าทศวรรษทีเดียวที่ผมเคยสร้างแอมป์หลอด pp มาแล้ว น่าจะประมาณปี 2542 หลังจากนั้นก็เดินสายแอมป์หลอดแบบ se มาเรื่อย ๆ จนหาหลอดทำไม่ได้แล้ว หากนับถึงวันนี้ ก็น่าจะเกิน ๆ กว่า 100 เครื่อง (จำไม่ได้แล้ว) ส่วนมากแอมป์ที่สร้าง มาพับพวกเห็นว่าเราไม่ได้ใช้งาน ก็ขอแบ่ง ๆ ไปฟังกันเกือบหมดแล้ว ส่วนที่เหลือไม่มีใครกล้าซื้อ อีกประมาณ 10 กว่าเครื่อง
มาถึงวันนี้กลิ่นไอของอดีตแอมป์ตัวแรก คือ แอมป์แบบ pp ยังตลบอบอวนอยู่ในใจ และยังมีอะไรค้างคาใจอยู่ ว่าหากจะให้แอมป์แบบ pp
ให้ดี ๆ ง่าย ๆ อุปกรณ์หาได้จากของเหลือ ๆ ที่ กอง ๆ ไว้ มาช้านาน หรือไม่ก็แกะเอาจากซากแอมป์ทั่ว ๆ ไป เท่าที่จะหามาได้ ดูซิว่า ส่วนผสมหลายพ่อ พัน แม่ จะเป็นยังไง
ยังมีคำพูดดี ๆ กินใจ และติดใจผมเสมอ จาก Sakuma sang ว่า " หากเรารู้จักหลอดดี เรายอมทำแอมป์จากหลอดเหล่านั้นได้ดี เช่นกัน " และ ทำไมต้อง " Village " สิ่งที่เกิดก่อนมันย้อมมีคุณค่าของตัวมันเอง
สำหรับโครงงานฯ แอมป์หลอดเครื่องนี้ ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรไว้มาก เพราะไม่ได้เน้นเทคนิกส์ ความรู้อะไร แอมป์เครื่องนี้เป็นลักษณะแอมป์จับฉายมากกว่า คือ มีอะไร ก็เอาอันนั้นมาใช้งานให้เกิดประโยชย์สูงสุด ก็เท่านั้นเองครับ
สำหรับวงจร ก็คิดว่า น่าจะใช้วงจรที่เป็นมาตราฐาน หากจะออกแบบเองโดยอาศัยดาต้าชิลล์ หรือ การคำนวณ อื่น ๆ เข้ามาช่วย แม้จะเป็นเรื่องดี แต่หากถึงขั้นนั้น ต้องพบปัญหาหลาย ๆ เรื่อง จากองค์ประกอบของอุปกรณ์ เพราะการคำนวณ จะต้องอาศัยค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ของอุปกรณ์เข้ามาช่วยด้วย วงจรจึงจะสมบูรณ์ และเป็นไปตามที่เราได้คำนวณไว้ หากเล่นแบบจับฉาย แบบงานผมแบบนี้ มีหวังต้องเจอควันขึ้นกันบ้างละ
มาดูวงจรที่ผมเลือกสรรคคือ " Williamson " ใครที่เป็นนัก Diy หลอด ไม่เคยรู้จัก หรือ ไม่ เคยเห็นวงจรนี้ ก็ควรเข้าไปศึกษา หาความรู้จากแนวคิดของ Williamson เพิ่มเติม ก็จะทำให้เราทำแอมป์หลอดได้สมบูรณ์มากขึ้น ในอดีตเมื่อร่วม 10 ปี เศษ ๆ ที่สร้างแอมป์แบบ pp ผมก็สนใจ
แนวคิดของวิลเลี่ยมสัน แต่ ชื่นชอบแอมป์สายอเมริกามากกว่า คือ Dynaco เห็น รูปแบบที่ง่าย และน่าสนใจมากกว่า และเจ้าแอมป์ Dynaco เป็นแอมป์ตำนาน สะท้อนอดีต จนถึงปัจจุบัน มีทั้งชุดคิต และ เครื่องสมบูรณ์ ทำขายจากอดีตมาจนถึงทุกวันนี้ ก็เลยทำให้ผมตัดสินใจทำแอมป์เครื่องนี้จนสำเร็จ แต่กลับไปที่แอมป์ของ วิลเลี่ยมสัน ผมกลับทำไม่ค่อยจะประสบผลสำเร็จมากนัก ค้างคาใจมาจนถึงทุกวันนี้
-
สำหรับแอมป์ตัว clone dynaco ที่เคยทำมาในอดีต เฉพาะตัวเครื่อง ก็เล่นเอายากมากพอสมควร เพราะตัวเองไม่มีความรู้เรื่องไม้เลย
ก็แบบ ปู ปลา ๆ ไปตามเครื่อง
-
ทีนี้เรามาดูดูรูปแบบงานที่ผมจะต้องทำคือ ทำความเข้าใจแนวคิดของวิลเลี่ยมสันบ้างว่า เค้าทิ้งอะไรไว้ให้แก่อนุชนรุ่นหลังไว้บ้าง
-
ท่านใดที่เก่งภาษาอังกฤษ ก็จะง่ายขึ้น แต่ก็นั้นแหละครับ คำบางคำเป็นคำเฉพาะทางเทคนิกส์ก็ยากทำความเข้าใจเช่นกัน หาก เราค่อย ๆ ทำความเข้าใจคิดว่าคงผ่านไปได้ดี
http://www.4tubes.com/LITERATURE/ENGLISH/Williamson-Amplifier-1952.pdf
http://ideas.home.xs4all.nl/amps/chapt14.html
-
ดู ๆ แล้ว มันจะง่ายมั๊ยเนี๊ย.... รายละเอียดปลีกย่อย เยอะเหลือเกิน ที่ว่าความยากของแอมป์วิลเลี่ยมสัน ก็คือ เจ้าหม้อแปลงเอ้าพุททรานฟอร์มเมอร์นี้แหละ เป็นอะไรที่มหึมา น้ำหนักแต่ละลูก น้อง ๆ 10 กก. หากจะสั่งซื้อสั่งพันฯ ใครเค้าจะทำให้นี้ ถ้าเราจะพันเอง มีรู้ ความสามารถจะพอมั๊ย เพราะอายุ อานามก็มากขึ้น แม้ความสุขุมจะดีขึ้นตามวัย แต่กำลังวังชา ก็สูญสิ้นตามวัยอีกเช่นกัน เมื่อก่อนน้อง ๆ มักเรียกเราว่าพี่ แต่เดี๋ยวนี้เริ้มเป็นน้า เป็นลุงแล้ว แถมยังมีลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมืองแล้ว โอ้... เราแก่แล้ว... จริง ๆ หรือ นี้
-
สำหรับวงจร ผมคงได้ต้องอธิบายว่ามีหลักการทำงานอย่างไร เพราะวงจรแอมป์ของวิลเลียมสันก็เหมือน ๆ กับ วงจรทั่ว ๆ ไป ครับ แต่มีทีเด็ดอยู่เพียง 2-3 จุดเท่านั้น ที่นักออกแบบวงจรแอมป์ มักจะจับใส่ไปในวงจรของเค้า
-
ตามดู ตามศึกษานะครับ .....
-
หาเศษ ๆ วัสดุอุปกรณ์ ที่เหลือใช้จากโครงงานฯ ต่าง มาประติดประต่อกัน เพื่อมาทำแท่นแอมป์ วันนี้คืบหน้าไปเยอะเลย เพราะมีอะไรหลาย ๆ อย่างอยู่พร้อมแล้ว งานก็เลยสะดวกโยธิน (ติง...นอง...นอย) [smi_ley]
-
งานเจอะ ก็ไม่เหมือนสมัยก่อน ที่ใช่สว่านเจอะแล้ว ใช้ตะไบแต่งรู กว่าจะเสร็จแต่ละรู อีพ่อ เอย อีแม่เอ๋ย แทบหมดเรี่ยว หมดแรง [smi_ley]
-
งานอุปกรณ์ ด้านบนก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว [thumb up]
-
อุปกรณ์พวกหลอด ซ็อกเก็ต คอนเดนเซอร์ รีซิสเตอร์ จิปะธะ แงะ แกะ เอาจากตัวตัวนี้ครับ ประหยัดไปหลายอัดเลย จะได้เซฟสตังค์ไปซื้อเจ้า BG N มาทำเจ้าเกนโคลนต่อครับ [roll]
วันนี้คงพอเท่านี้ก่อนครับ ไปทำอย่างอื่นบ้าง น่าจะดี เข้าสวนปลูกต้นไม้ดีกว่า ฝนกำลังครำฟ้า ครึมฝนอยู่
-
วันนี้ของขึ้นเหรอครับพี่ วันเดียวแท่นเกือบเสร็จแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้คงจะร้องเพลงได้นะครับ [))]
-
วันนี้ของขึ้นเหรอครับพี่ วันเดียวแท่นเกือบเสร็จแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้คงจะร้องเพลงได้นะครับ [))]
[roll] [smi_ley] [smi_ley] เล่นแบบง่าย ๆ ไม่ต้องพิถี พิถัน เสร็จเร็วแน่ ๆ ครับ [smi_ley]
-
เจ้า 813 SE + phono stage 10 tubes ที่พี่จัดการให้ จับคู่กับ เจ้า proac ได้ลงตัวครับ เสียงอิ่ม + เนียน dynamic ดีมากครับ ขนาดเพิ่งเริ่ม burn in สงสัยหูเสียแน่นอนครับ กลับ กทม ไปฟังหลอดเล็กที่บ้าน เสียงมันแหม่งๆ ไม่อิ่มเหมือนหลอดใหญ่ [phok]
-
เจ้า 813 SE + phono stage 10 tubes ที่พี่จัดการให้ จับคู่กับ เจ้า proac ได้ลงตัวครับ เสียงอิ่ม + เนียน dynamic ดีมากครับ ขนาดเพิ่งเริ่ม burn in สงสัยหูเสียแน่นอนครับ กลับ กทม ไปฟังหลอดเล็กที่บ้าน เสียงมันแหม่งๆ ไม่อิ่มเหมือนหลอดใหญ่ [phok]
ดีใจด้วยครับ ที่ได้ปรีแอมป์ และ เพาเวอร์แอมป์หลอดที่ให้เสียงถูกใจ [smi_ley]
-
วันนี้คงได้เพียงขัดแท่นไม้ประดู ลงเลคเกอร์ และขัดแผ่นเพลท ลงสี กว่าจะแห้งก็น่าจะทั้งวันหากไม่มีฝนฟ้า คิดว่างานแท่นน่าจะเสร็จเรียบร้อย งานแท่นเป็นงานที่ยากที่สุด กว่าจะได้แต่ละขั้นตอน เหนื่อยพอสมควร
-
หลายคนคงประสบปัญกรณีใช้สีดำด้านราคากระป๋องละ 45 บาท เวลาพ้นชิ้นงานแล้ว ลอกหลุดง่าย ผมมีวิธีทำไม่ให้สีหลุดลอกออกยาก ดัง นี้ ครับ
ก่อนเราจะพ้นสีรองพื้นชิ้นงาน หากเป็นสีรองพื้นเลย คือ สีเทาอ่อน จะดีมาก ๆ ให้เราน้ำวัสดุที่เราจะพ้นสีลองพื้น ไปล่างให้สะอาดด้วยพงฟัหฟอก เช็ดให้แห้ง แล้วตากแดด เมื่อวัสดุแห้งดีแล้ว ก็ใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดมาก ขัดหน้าวัสดุที่เราจะพ้นสีลง เช็ดด้วยผ้าที่สะอาด ก่อนจะพ้น หากมีแดดจัด ให้นำวัสดุชิ้นงานไปตากแดดไว้ประมาณ 10-20 นาที่ หากวันไหนไม่มีแดด เหมือนบ้านผมขณะนี้ ผมใช้เตาแก๊ซมาช่วย โดยนำแผ่นชิ้นงานไปอังไฟให้แผ่นชิ้นงานพออุ่น แบบมือจับเกือบได้ และหลังจากที่เรานำชิ้นงานผ่านความร้อนมาแล้ว ผึ่งลมไว้สักระยะ แล้วก็จัดการพ้นสีรองพื้นก่อนเลย ไม่ต้องหนามา พ้นเสร็จ
แล้ว ๆ นำแผ่นชิ้นงานไปตากแดด หรือ อังเตาแก๊ซแบบผมทำขณะนี้ ให้แผ่นเพลทพออุ่น ๆ (พอ อุ่น ๆ เท่านั้นนะครับ) หลังจากอุ่นดีแล้ว ก็นำไปพึ่งลมไว้ประมาณ 15 นาที เพื่อให้สีแห้ง หลังจาก 15 นาทีแล้ว ก็พ้นสีรองพื้นอีกชั้น ก็ดำเนินการเหมือนขั้นตอนแรกคือ นำไปแตกแดดพออุ่น แล้วก็เอามาพึ่งลมไว้เวลาเท่าเดิม หลังจากที่ผี่งลมแล้ว ชั้นที่ 3 ก็ลงสีจริงเลยครับ ปฏิบัติเช่นเดิม ทิ้งไว้จนสีแห้งสนิทแล้ว ตรงนี้ต้องข้ามวันครับ หลังจากข้ามวันแล้ว ก็เอามาขัดกระดาษทราย เรียกว่าขัดน้ำ โดยขัดพื้นที่สี จนเรียบดีจนเราพอใจ แล้วก็เอาไปตากลม ไว้ประมาณ 1 ชม. และหลังจากนั้น ก็ลงสีจริงอีก 2-2 ครั้ง อยู่ที่เราพอใจ เท่านี้เราจะได้สีดำด้านจากกระป๋องราคา 45 บาท ติดได้ทนทาน
-
ขอเรียนถามพี่มุมคนรักหลอดครับ
แผ่นเพลทใช้ 2 แผ่นสำหรับภาคจ่ายไฟ กับที่ยึดติดตั้งหลอดออกจากกัน
มีผลต่อคุณภาพเสียงอย่างไรบ้าง เมื่อเทียบกับการใช้แผ่นเดียว
ขอขอบคุณครับ
(http://www.diyaudiovillage.net/index.php?action=dlattach;topic=2758.0;attach=14516;image)
-
ขอเรียนถามพี่มุมคนรักหลอดครับ
แผ่นเพลทใช้ 2 แผ่นสำหรับภาคจ่ายไฟ กับที่ยึดติดตั้งหลอดออกจากกัน
มีผลต่อคุณภาพเสียงอย่างไรบ้าง เมื่อเทียบกับการใช้แผ่นเดียว
ขอขอบคุณครับ
([url]http://www.diyaudiovillage.net/index.php?action=dlattach;topic=2758.0;attach=14516;image[/url])
แนวคิดอันนี้มาจากเกนโคลนครับ เนื่องจากเวลาหม้อแปลงทำงาน หม้อแปลงจะสั่นตามความถี่ไฟบ้าน เมื่อหม้อแปลงสั่น อุปกรณ์อื่นก็พลอยสั่นไปด้วย ยิ่งโครงสร้างของหลอดแล้ว ยิ่งมีความเปอะบาง มันรับแรงสั่นจากหม้อแปลงไปเต็ม ๆ ตรงนี้ หากเรามีระบบลำโพงที่ดี ๆ ระบบเครื่องเสียง ดี ๆ เราจะฟังออกทันทีว่า เสียงที่ได้จากแอมป์หลอด หรือ ปรีแอมป์หลอด จะมีเมฆหมอกมาบดบัง เสียงแหลมจะไม่คมชัด เบสจะออกตึ้อ ๆ
การแก้ปัญหาแบบนี้มีอยู่หลายวิธี แต่วิธีนี้ง่ายที่สุดครับ คือแยกแผ่นเพลทเพาเวอร์ซับพลายออกจากกัน และมีขนาดที่ไม่เท่ากัน ตรงนี้ เรโซเน้นซ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น บางส่วนจะหักล้างกันไปเอง บางส่วนก็จะวิ่งสเปะ สะปะ ไปตามเรื่อง แต่สิ่งที่เราได้ คือ เสียงแหลมที่สดใส รายละเอียด ชัดเจน ผมได้ทดลองกับปรีแอมป์ 10 หลอด ให้กับท่าน Cobra ท่าน รายงานมาว่าสุดวิเศษ เสียงแหลมที่จัดเจน อิ่มเมจ และซาวด์สเตจ ดีมาก ๆ ครับ
ก็ต้องกระซิบครับ ว่า...... แนวคิดแอมป์ "เกนการ์ด" ของท่านคิมูระ หลาย ๆ เรื่อง หลาย ๆ อย่าง ถูกผมบรรจุไว้ในแอมป์ทดลองเครื่องนี้ด้วย ครับ ติดตามไปเรื่อย ๆ และ ตั้งข้อสังเกตุ และ หรือ ก็อย่าลืมทิ้งคำถามด้วย จะได้ความรู้จากผมไปด้วย
-
ผมสังเกตเห็นแผ่นเพลตนี้ ถูกเจาะตรงส่วนหลอดไดรฟ์ไว้หลายรู
ตรงนี้ พี่มุมคนรักหลอดเจตนาเจาะเพื่อลด Resonance ด้วยหรือไม่
อย่าเพิ่งรำคาญนะครับพี่ ที่ผมถามจุกจิกกวนใจ
และขอขอบคุณพี่มุมคนรักหลอดอย่างสูง ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์ดี ๆ ให้กับน้อง ๆ ที่สนใจครับ
(http://www.diyaudiovillage.net/index.php?action=dlattach;topic=2758.0;attach=14524;image)
-
ผมสังเกตเห็นแผ่นเพลตนี้ ถูกเจาะตรงส่วนหลอดไดรฟ์ไว้หลายรู
ตรงนี้ พี่มุมคนรักหลอดเจตนาเจาะเพื่อลด Resonance ด้วยหรือไม่
อย่าเพิ่งรำคาญนะครับพี่ ที่ผมถามจุกจิกกวนใจ
และขอขอบคุณพี่มุมคนรักหลอดอย่างสูง ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์ดี ๆ ให้กับน้อง ๆ ที่สนใจครับ
([url]http://www.diyaudiovillage.net/index.php?action=dlattach;topic=2758.0;attach=14524;image[/url])
ไม่รำคราญหลอกครับ ทุกอย่างมันมีเหตุ มีผลของมันครับ ยกตัวอย่างแบบง่าย ๆ ก็คือ ไอซี 3875/3886 ตัวเล็ก ๆ ที่มีโครงสร้างแน่นหนามาก ใครจะไปคิดว่า เพียงเรโซเน้นซ์ รอบตัวมัน จะไปรบกวนการทำงานของมัน เช่น กัน ครับ เจ้าหลอดแก้ว ซึ่งมีโครงสร้างใช้โลหะหลาย ๆ ชิ้นมาปะติด ปะต่อกัน เป็นโครงสร้าง และ โครงฯ หลอด ที่ยืดไว้เพียง อุปกรณ์ที่ฐานไม่กี่ตัว จะรับแรงสั่นรอบข้างได้ดีกว่า ไอซี 3875/3886 อีก เราไม่ใส่ใจ รวมถึงผมด้วย กว่าจะถึงบางอ้อ ก็ต้องศึกษากันเป็นปี ๆ กว่าจะรู้ว่าสิ่งที่คนคิดได้คิดไว้ คือ ท่านคิมูระ สุดยอดจริง ๆ ของเล็ก ๆ น้อย เข้ายังใจจริง ๆ แล้วเราล่ะ จะดูดายชิ้นงานที่เราทำมากับมือ ที่มีเอกลักษณ์เป็นของ เรา เราจะทำแบบสุกเอา เผากินหรือ นี้คือคำถาม ผสมคำตอบ ครับ
เจ้ารูที่เจอะ ผมคิดทิศทางน๊อตที่บังคับเพลท ยึดติดแท่นไม้ครับ ว่า เมื่อน๊อตเจอะตรงนี้ เรโซเน้นซ์ วิ่งจากแท่นไม้ ไปที่เพลทในทิศทางใด ผมพยายามดักทางเรโซเน้นซ์ไม่ให้วิ่งถึงหลอดโดยตรงครับ โดยมีรูต่าง ๆ เป็นตัวดักอีกที ในแง่คิดของผมอาจจะเชย ๆ แต่ ก็เป็นการฝึกการคิด การทำครับ ไม่ใช้เจอะส่งเดช พระเชษฐา ไปตามเรื่อง ตามราว ตรงนี้ ผมใส่ใจครับ ประการที่ 2 ไม้ที่เอามาทำแท่น ผมก็พิจารณา และศึกษาเนื้อไม้ว่าไม้ชนิดไหน สลายเรโซเน้นซ์ได้ดีที่สุด หนึ่งในนั้น คือ ไม้ประดู ไม้แดง เป็นไม้ที่หยุดเรโซเน้นซ์ได้ชงักที่สุด ผมจึงเอามาทำแท่นแอมป์หลอด และประการที่ 3 ความหนาของไม้ ก็ช่วยได้ โดยไม่ต้องไปทำอะไร คือ เอาหนาไว้เป็นดีที่สุด โดยธรรมชาติแล้ว วัสดุที่ใหญ่ย้อมสั่นช้ากว่าวัสดุที่เล็ก และ แม้จะหยุดช้ากว่า ผมใช้หลักคิดตรงนี้ นำมาใช้ทำแท่นแอมป์หลอด ของผมแทปทุกเครื่อง
-
หลักการนี้ ชักเริ่มสนใจอย่างมากเสียแล้วซิครับ
เพราะการสลาย Resonance บนแท่นแอมป์ที่เกิดจาก Transformer และ Choke ก็ดี
หากเราสลายมันออกไปได้หมด ย่อมมีผลต่อคุณภาพเสียงและมิติอย่างที่พี่มุมกล่าวไว้
อย่างในกรณี ที่เราใช้อลูมิเนียมพับเป็นแท่นอย่างนี้
(http://www.diyaudiovillage.net/index.php?action=dlattach;topic=2569.0;attach=13984;image)
(http://www.diyaudiovillage.net/index.php?action=dlattach;topic=2337.0;attach=13700;image)
ผมอยากจะเอาแนวคิดของพี่มุมคนรักหลอดจัดการกับแท่นข้างบนบ้าง ด้วยการ
1) เจาะแท่นรูพอประมาณทางด้านซ้ายที่ติดตั้ง Transformer กับ Choke เป็นแนวตรง เพื่อแบ่งพื้นที่ให้ออกเป็นสองส่วนระหว่างภาคจ่ายไฟ กับภาควงจร
2) ไม้ด้านข้างที่เป็นตัวบังคับแท่น ทำให้พอดีกับแท่น เพื่อให้การยึดสกรูติดกับแท่นมั่นคง ไม่แข็งขืน
3) ใช้ฐานรองแท่น อาจเป็นวัสดุที่ทำจากยางดิบ ไม้กลึงเป็นทิปโท หรือใช้ฐานรองที่วางขาย เป็นตัวสลาย Resonance อีกที
ในทรรศนะของพี่มุมคนรักหลอด มีความเห็นจะจัดการกับแท่นนี้อย่างไรดีครับ
-
หลักการนี้ ชักเริ่มสนใจอย่างมากเสียแล้วซิครับ
เพราะการสลาย Resonance บนแท่นแอมป์ที่เกิดจาก Transformer และ Choke ก็ดี
หากเราสลายมันออกไปได้หมด ย่อมมีผลต่อคุณภาพเสียงและมิติอย่างที่พี่มุมกล่าวไว้
อย่างในกรณี ที่เราใช้อลูมิเนียมพับเป็นแท่นอย่างนี้
([url]http://www.diyaudiovillage.net/index.php?action=dlattach;topic=2569.0;attach=13984;image[/url])
([url]http://www.diyaudiovillage.net/index.php?action=dlattach;topic=2337.0;attach=13700;image[/url])
ผมอยากจะเอาแนวคิดของพี่มุมคนรักหลอดจัดการกับแท่นข้างบนบ้าง ด้วยการ
1) เจาะแท่นรูพอประมาณทางด้านซ้ายที่ติดตั้ง Transformer กับ Choke เป็นแนวตรง เพื่อแบ่งพื้นที่ให้ออกเป็นสองส่วนระหว่างภาคจ่ายไฟ กับภาควงจร
2) ไม้ด้านข้างที่เป็นตัวบังคับแท่น ทำให้พอดีกับแท่น เพื่อให้การยึดสกรูติดกับแท่นมั่นคง ไม่แข็งขืน
3) ใช้ฐานรองแท่น อาจเป็นวัสดุที่ทำจากยางดิบ ไม้กลึงเป็นทิปโท หรือใช้ฐานรองที่วางขาย เป็นตัวสลาย Resonance อีกที
ในทรรศนะของพี่มุมคนรักหลอด มีความเห็นจะจัดการกับแท่นนี้อย่างไรดีครับ
ข้อแนะนำ......
การวางหม้อแปลงไฟผิด ส่วน โช๊ค ถูกต้องแล้วครับ ครับ หม้อแปลงไฟควรจะหันด้านข้างออกมาทาง เอ้าพุทน่าจะดีครับ เพราะเป็นทิศทางฟลักส์แม่เหล็กของหม้อแปลง น้อยที่สุด
-
ถ้าเรโซแนนท์มีผลต่อหลอด ยังงี้เราก็แยกแผ่นอลูมิเนียมที่จะทำติดแท่นเป็นแผ่นออกจากกันไดหรือเปล่าครับ ผมหมายถึงแยกเป็นแผ่นหม้อไฟแผ่นนึง เอาพุทก็อีกแผ่น โดยเว้นช่องวางของแต่ละแผ่นออกจากกัน น่าจะสลายการเรโซแนนท์ได้ ขอความเห็นพี่มุมด้วยครับ [roll]
-
หลักการนี้ ชักเริ่มสนใจอย่างมากเสียแล้วซิครับ
เพราะการสลาย Resonance บนแท่นแอมป์ที่เกิดจาก Transformer และ Choke ก็ดี
หากเราสลายมันออกไปได้หมด ย่อมมีผลต่อคุณภาพเสียงและมิติอย่างที่พี่มุมกล่าวไว้
อย่างในกรณี ที่เราใช้อลูมิเนียมพับเป็นแท่นอย่างนี้
([url]http://www.diyaudiovillage.net/index.php?action=dlattach;topic=2337.0;attach=13700;image[/url])
ผมอยากจะเอาแนวคิดของพี่มุมคนรักหลอดจัดการกับแท่นข้างบนบ้าง ด้วยการ
1) เจาะแท่นรูพอประมาณทางด้านซ้ายที่ติดตั้ง Transformer กับ Choke เป็นแนวตรง เพื่อแบ่งพื้นที่ให้ออกเป็นสองส่วนระหว่างภาคจ่ายไฟ กับภาควงจร
2) ไม้ด้านข้างที่เป็นตัวบังคับแท่น ทำให้พอดีกับแท่น เพื่อให้การยึดสกรูติดกับแท่นมั่นคง ไม่แข็งขืน
3) ใช้ฐานรองแท่น อาจเป็นวัสดุที่ทำจากยางดิบ ไม้กลึงเป็นทิปโท หรือใช้ฐานรองที่วางขาย เป็นตัวสลาย Resonance อีกที
ในทรรศนะของพี่มุมคนรักหลอด มีความเห็นจะจัดการกับแท่นนี้อย่างไรดีครับ
ข้อแนะนำ......
การวางหม้อแปลงไฟผิด ส่วน โช๊ค ถูกต้องแล้วครับ ครับ หม้อแปลงไฟควรจะหันด้านข้างออกมาทาง เอ้าพุทน่าจะดีครับ เพราะเป็นทิศทางฟลักส์แม่เหล็กของหม้อแปลง น้อยที่สุด
ที่ผมหัน Transformer แบบนี้ เป็นเพราะเหตุเกิดจากที่นี่ครับ
http://www.diyaudio.com/forums/tubelab/157491-pictures-your-tubelab-amp-8.html
(http://media6.dropshots.com/photos/650815/20100117/181530.jpg)
เพราะคุณ Pez นัก DIY ของ USA. เขาทักผมไว้อย่างนี้
In my experience transformer orientation only matters sometimes oddly enough.
sometimes what seems like transformer orientation is really a problem with your cabling picking up some nasty noise,
so twist it together in the amp.
ตั้งแต่นั้นมา ผมก็จับหันข้างอย่างที่เห็นครับ
Looks like a wonderful build! Same with PR audios point to point job, really interesting stuff.
-
เรื่องการหันทิศทางของหม้อแปลง (Transformer)
ผมไป Post ถามที่เวปเมืองนอก
กลับกลายเป็นเรื่องที่ทำให้ผมปวดหัวเหมือนกัน เพราะบางท่านบอกให้หันแกนเหล็ก บิดหันข้างเพื่อไม่ให้แกนอยู่ในแนวเส้นตรงกับ OPT
บางท่านบอกให้ทันในทิศทางเดียวกัน แต่ให้ขยับหม้อไฟถอยหลัง หรือเดินหน้าไม่ให้อยู่ในเดียวกับ OPT
สุดท้าย ผมเลยการจัดจับบิดหันข้างเสียเลย [roll]
-
ขอแจมด้วยแล้วกันเรื่อง หม้อ เป็นของชอบครับ โดยเฉพาะ หม้อนอก อิอิ เมื่อก่อนนี้ผมก็คำนึงถึงจุดนี้มากๆครับ แต่เมื่อมามีโอกาสได้ทดลองเองคือ หมุนหม้อทีละ 5 องศา โดยประมาณจนเป็นวงกลม ผมไม่พบความแตกต่าง หรือ การเปลี่ยนแปลงทางเสียง noise ก็ไม่มี หรือที่เค้าบอกว่าห้ามวางหม้อชิดกัน ผมก็จับมาวางห่างกันแค่ 5 มม. ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น จากนั้นมา ถ้าใครสังเกตงานผม ผมจะไม่ค่อยสนใจเรื่องการวางหม้อพวกนี้สักเท่าไหร่ครับ เน้น lay out สวยงามมากกว่า ถ้าหม้อที่พัน พันมาดี อุปกรณ์ที่ใช้ เช่นลวด ฉนวน เหมาะสมกับการใช้งานแล้วผมว่าสิ่งที่เรากังวลกัน มันจะน่าไม่เกิดขึ้นแน่นอน อย่างไรก็ตาม ทำตามหลักการเป็นดีที่สุด หลีกได้ก็หลีก เหรอเพราะว่าผมเผื่อกระแสไว้มาก ซึ่งใช้งานแค่ 50-60%ของหม้อที่พันมา โดยยังไม่เคยเจอปัญหาจากเคสนี้เลยครับ แต่ผมจะไปสนใจในเรื่องจะทำอย่างไรไม่ให้หลอดที่อยู่บนแท่น รับแรงสั่นสะเทือนจากหม้อแปลง แล้วยิ่งหลอดโบราณอย่างพวกหลอดบอลลูนด้วยแล้ว ไมโครโฟนิค ไวมากๆ ผมจะมาเน้นจุดนี้มากกว่าครับ หรือ ไม่ก็แยกชุดจ่ายไฟออกไปอีกแท่นไปเลย [gr_in]
-
เรื่องการหันทิศทางของ Transformer ก็เป็นเรื่องที่ผมสนใจอยากรู้เช่นกัน
แต่เรื่องที่ผมอยากรู้มากที่สุด ณ ตอนนี้ ได้แก่เรื่องการสลาย Resonance
ว่าทำอย่างไรให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด หรือไม่มีหลงเหลืออยู่บนแท่นเลย
และจะคอยติดตามที่พี่มุมคนรักหลอดนำเสนอครับ [clap hand2]
-
ได้ความรู้มากมายครับ ผมวางตำแหน่งเช่นนี้ต้องแก้ไขอะไรเพิ่มรึปล่าวครับ
(http://i690.photobucket.com/albums/vv261/yotin46/IMG_4157.jpg)
-
ได้ความรู้มากมายครับ ผมวางตำแหน่งเช่นนี้ต้องแก้ไขอะไรเพิ่มรึปล่าวครับ
([url]http://i690.photobucket.com/albums/vv261/yotin46/IMG_4157.jpg[/url])
ถ้าผมทำ ผมจะบิดหม้อไฟกลับด้าน เพราะว่ามันสวยกว่าอ่ะครับ hahaha
รอความเห็นจากหลาย ๆ ท่านดีกว่านะ [unde_cided]
-
ที่ผมพูด ผมพูดถึงทิศทางของสนามแม่เหล็กที่เกิดจากหม้อแปลงไฟฟ้า และแพร่กระจายสนามแม่เหล็กไปรอบ ๆ ตัว ของหม้อแปลงเอง มันมีทิศทางของมัน จุดไหนมีความเข้มมาก จุดไหนมีความเข้มน้อย เป็นเรื่องของทฤษฎี หากเราป้องกันไว้ก็ดีครับ บางสิ่งบางอย่างเราสัมผัสด้วยหูเราไม่ได้ แต่เครื่องมันจะฟ้องถึงรายละเอียดบางอย่าง หากอยากทราบว่าจริงหรือไม่ ก็ต้องอาศัยเครื่องมือมาช่วย
เรื่องของสนามแม่เหล็ก อย่าว่าแต่หม้อแปลงไฟเลยครับ แม้แต่สายลำโพงเราก็เถอะ หากเราวางที่พื้น เสียงก็อย่างหนึ่ง เรายกขึ้นเหนือพื้น เสียงก็อีกอย่าง เอาสายบวก ลบ ตีเกียวกัน เสียงก็อีกอย่าง หากเราแยกสายบวก ลบ ให้ห่าง ๆ กัน ก็เสียงอีกอย่าง ทุกเรื่อง ทุกอย่าง ล้วนเกิดจากสนามแม่เหล็กทั้ง นั้น ครับ เรารู้ เราป้องกันไว้ น่าจะดีครับ เกล็ดเล็ก เกล็ดน้อยเหล่านี้ ผมใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะไม่ได้ลงทุน ซื้อหามาครับ แต่ใช้เทคนิกพื้น ๆ เข้าช่วย ครับ
วันนี้แท่นสียังไม่แห้งดี คงต้องค่อย ๆ ประกอบอุปกรณ์ทีละน้อย เสียเวลาเรื่องสีนี้แหละครับ อย่าง น้อย ๆ ก็ 2 วัน สีน่าจะแห้งสนิท
-
ถ้าเรโซแนนท์มีผลต่อหลอด ยังงี้เราก็แยกแผ่นอลูมิเนียมที่จะทำติดแท่นเป็นแผ่นออกจากกันไดหรือเปล่าครับ ผมหมายถึงแยกเป็นแผ่นหม้อไฟแผ่นนึง เอาพุทก็อีกแผ่น โดยเว้นช่องวางของแต่ละแผ่นออกจากกัน น่าจะสลายการเรโซแนนท์ได้ ขอความเห็นพี่มุมด้วยครับ [roll]
ถูกต้องครับ ยิ่งวัสดุต่างประเภทกันยิ่งดีครับ เพราะโมเรกุลของวัสดุต่างกัน ทำให้แรงสั่นจากจุดหนึ่ง ไปอีกจุดหนึ่งยากขึ้น หรือ ไม่ก็หักล่างกันไปเอง
คิดง่าย ๆ ก็เหมือนกับการสร้างตู้ลำโพงนั้นแหละครับ เราทำยังไง เราจะทำยังไงให้เรโซเน้นซ์ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตู้ หักล่างกันเองครับ
-
หลักการนี้ ชักเริ่มสนใจอย่างมากเสียแล้วซิครับ
เพราะการสลาย Resonance บนแท่นแอมป์ที่เกิดจาก Transformer และ Choke ก็ดี
หากเราสลายมันออกไปได้หมด ย่อมมีผลต่อคุณภาพเสียงและมิติอย่างที่พี่มุมกล่าวไว้
อย่างในกรณี ที่เราใช้อลูมิเนียมพับเป็นแท่นอย่างนี้
([url]http://www.diyaudiovillage.net/index.php?action=dlattach;topic=2337.0;attach=13700;image[/url])
ผมอยากจะเอาแนวคิดของพี่มุมคนรักหลอดจัดการกับแท่นข้างบนบ้าง ด้วยการ
1) เจาะแท่นรูพอประมาณทางด้านซ้ายที่ติดตั้ง Transformer กับ Choke เป็นแนวตรง เพื่อแบ่งพื้นที่ให้ออกเป็นสองส่วนระหว่างภาคจ่ายไฟ กับภาควงจร
2) ไม้ด้านข้างที่เป็นตัวบังคับแท่น ทำให้พอดีกับแท่น เพื่อให้การยึดสกรูติดกับแท่นมั่นคง ไม่แข็งขืน
3) ใช้ฐานรองแท่น อาจเป็นวัสดุที่ทำจากยางดิบ ไม้กลึงเป็นทิปโท หรือใช้ฐานรองที่วางขาย เป็นตัวสลาย Resonance อีกที
ในทรรศนะของพี่มุมคนรักหลอด มีความเห็นจะจัดการกับแท่นนี้อย่างไรดีครับ
ข้อแนะนำ......
การวางหม้อแปลงไฟผิด ส่วน โช๊ค ถูกต้องแล้วครับ ครับ หม้อแปลงไฟควรจะหันด้านข้างออกมาทาง เอ้าพุทน่าจะดีครับ เพราะเป็นทิศทางฟลักส์แม่เหล็กของหม้อแปลง น้อยที่สุด
ที่ผมหัน Transformer แบบนี้ เป็นเพราะเหตุเกิดจากที่นี่ครับ
[url]http://www.diyaudio.com/forums/tubelab/157491-pictures-your-tubelab-amp-8.html[/url]
([url]http://media6.dropshots.com/photos/650815/20100117/181530.jpg[/url])
เพราะคุณ Pez นัก DIY ของ USA. เขาทักผมไว้อย่างนี้
In my experience transformer orientation only matters sometimes oddly enough.
sometimes what seems like transformer orientation is really a problem with your cabling picking up some nasty noise,
so twist it together in the amp.
ตั้งแต่นั้นมา ผมก็จับหันข้างอย่างที่เห็นครับ
Looks like a wonderful build! Same with PR audios point to point job, really interesting stuff.
ฝรั่งก็ไม่ได้เก่ง ไม่ได้รู้อะไรอย่างที่ควรจะเป็นทุกคนหลอกครับ แต่หากเราศึกษา เราทดลองด้วยตัวของเราเอง เราจะรู้ว่าสิ่งไหน เราควรทำ และสิ่งไหนเราควรหลีกเลี่ยง ตรงนี้ต่ากหาก ที่เราควรค้นหามันครับ
-
ถามพี่มุมนิดหนึ่งครับเรื่องสีที่พ่นทำแท่น ที่บอกว่ารอบที่3 ให้ลงสีจริง ทิ้งให้แห้งสนิท แล้วนำมาขัดกระดาษทราย ตรงนี้อะครับที่ผมมีขอสงสัย ถ้านำกระดาษทรายมาขัด สีที่พ่นไว้ก็จะถูกขัดออกหมดซิครับพี่ [yahoo]
-
หลักการนี้ ชักเริ่มสนใจอย่างมากเสียแล้วซิครับ
เพราะการสลาย Resonance บนแท่นแอมป์ที่เกิดจาก Transformer และ Choke ก็ดี
หากเราสลายมันออกไปได้หมด ย่อมมีผลต่อคุณภาพเสียงและมิติอย่างที่พี่มุมกล่าวไว้
อย่างในกรณี ที่เราใช้อลูมิเนียมพับเป็นแท่นอย่างนี้
([url]http://www.diyaudiovillage.net/index.php?action=dlattach;topic=2337.0;attach=13700;image[/url])
ผมอยากจะเอาแนวคิดของพี่มุมคนรักหลอดจัดการกับแท่นข้างบนบ้าง ด้วยการ
1) เจาะแท่นรูพอประมาณทางด้านซ้ายที่ติดตั้ง Transformer กับ Choke เป็นแนวตรง เพื่อแบ่งพื้นที่ให้ออกเป็นสองส่วนระหว่างภาคจ่ายไฟ กับภาควงจร
2) ไม้ด้านข้างที่เป็นตัวบังคับแท่น ทำให้พอดีกับแท่น เพื่อให้การยึดสกรูติดกับแท่นมั่นคง ไม่แข็งขืน
3) ใช้ฐานรองแท่น อาจเป็นวัสดุที่ทำจากยางดิบ ไม้กลึงเป็นทิปโท หรือใช้ฐานรองที่วางขาย เป็นตัวสลาย Resonance อีกที
ในทรรศนะของพี่มุมคนรักหลอด มีความเห็นจะจัดการกับแท่นนี้อย่างไรดีครับ
ข้อแนะนำ......
การวางหม้อแปลงไฟผิด ส่วน โช๊ค ถูกต้องแล้วครับ ครับ หม้อแปลงไฟควรจะหันด้านข้างออกมาทาง เอ้าพุทน่าจะดีครับ เพราะเป็นทิศทางฟลักส์แม่เหล็กของหม้อแปลง น้อยที่สุด
ที่ผมหัน Transformer แบบนี้ เป็นเพราะเหตุเกิดจากที่นี่ครับ
[url]http://www.diyaudio.com/forums/tubelab/157491-pictures-your-tubelab-amp-8.html[/url]
([url]http://media6.dropshots.com/photos/650815/20100117/181530.jpg[/url])
เพราะคุณ Pez นัก DIY ของ USA. เขาทักผมไว้อย่างนี้
In my experience transformer orientation only matters sometimes oddly enough.
sometimes what seems like transformer orientation is really a problem with your cabling picking up some nasty noise,
so twist it together in the amp.
ตั้งแต่นั้นมา ผมก็จับหันข้างอย่างที่เห็นครับ
Looks like a wonderful build! Same with PR audios point to point job, really interesting stuff.
ฝรั่งก็ไม่ได้เก่ง ไม่ได้รู้อะไรอย่างที่ควรจะเป็นทุกคนหลอกครับ แต่หากเราศึกษา เราทดลองด้วยตัวของเราเอง เราจะรู้ว่าสิ่งไหน เราควรทำ และสิ่งไหนเราควรหลีกเลี่ยง ตรงนี้ต่ากหาก ที่เราควรค้นหามันครับ
ขอบคุณครับที่ให้แง่คิดดี ๆ
ก็เพราะผมเป็นคนที่ชอบลองด้วยตนเอง จึงต้องมี 2 แท่นเปรียบเทียบกันไงครับ
[roll]
-
ถามพี่มุมนิดหนึ่งครับเรื่องสีที่พ่นทำแท่น ที่บอกว่ารอบที่3 ให้ลงสีจริง ทิ้งให้แห้งสนิท แล้วนำมาขัดกระดาษทราย ตรงนี้อะครับที่ผมมีขอสงสัย ถ้านำกระดาษทรายมาขัด สีที่พ่นไว้ก็จะถูกขัดออกหมดซิครับพี่ [yahoo]
กระดาษทรายแบบละเอียดมาก ๆ ขัดช่วงที่พ้นสี ครั้งที่ 2 เสร็จ นะครับ ครั้งที่ 3 เป็นสีจริง ที่ทำแบบนี้ เพื่อให้สีในชุดที่ 3 แกะติดกับสีชั้นที่ 2 ดี และการขัดกระดาษทราบแบบละเอียด จะช่วยให้พื้นผิวของวัสดุดูเรียบมาก ๆ ขึ้น ไม่ต้องขัดจนถึงเนื้อสีชั้นแรกนะครับ ขัดเพียงให้ดูว่าพื้นผิวดูเรียบ ๆ ก็พอ
-
งานแท่นไม้ ไม่ทราบว่าลงสีย้อมหรือไม่ และใช้อะไรเคลือบสีครับ
(http://www.diyaudiovillage.net/index.php?action=dlattach;topic=2758.0;attach=14541;image)
-
งานแท่นไม้ ไม่ทราบว่าลงสีย้อมหรือไม่ และใช้อะไรเคลือบสีครับ
([url]http://www.diyaudiovillage.net/index.php?action=dlattach;topic=2758.0;attach=14541;image[/url])
ไม้ประดู่ จะออกสีแดง ๆ เมื่อเราขัดกระกาษทรายจนเรียบแล้ว มีวิธีทำให้เนื้อไม้ สวยอยู่หลายวิธีครับ วิธีที่ผมปฏิบัติอยู่เป็นประจำคือ เมื่อขีดเนื้อไม้ด้วยกระดาษทราย จนเนื้อไม้ขึ้นลายไม้อย่างชัดเจนแล้ว ผมจะใช้น้ำมันเครื่อง หรือ น้ำมันพืช ทาที่เนื้อไม้ เนื้อไม้จะขึ้นลายไม้สวยงามมาก สวยกว่าใช้เลคเคอร์ แต่กรณีแท่นเครื่องตัวนี้ ได้ผ่านการลงเลคเคอร์มาแล้ว ผมเพียงแต่ขัดกระดาษทรายเบอร์ละเอียดมาก แล้วพ้นเลคเคอร์ทับลงไปอีก 2 ชั้น ทำให้ดูเงางาม สวยงามดีครับ
-
ของผมใช้น้ามันมาพร้าวครับ ใช้กระดาษทรายน้ำขัดไล่เบอร์ไปจนถึงเบอร์1000 แล้วทาด้วยน้ำมันมะพร้าว ทาทั้งตัวด้ามส่วนที่เป็นไม้ และตัวมีดเลยครับป้องกันสนิมได้ดีทีเดียวครับ
(http://i690.photobucket.com/albums/vv261/yotin46/IMG_044962.jpg)
(เกี่ยวกับแอมป์หลอดมั้ยเนี่ย หุ หุ [unde_cided])
-
ของผมใช้น้ามันมาพร้าวครับ ใช้กระดาษทรายน้ำขัดไล่เบอร์ไปจนถึงเบอร์1000 แล้วทาด้วยน้ำมันมะพร้าว ทาทั้งตัวด้ามส่วนที่เป็นไม้ และตัวมีดเลยครับป้องกันสนิมได้ดีทีเดียวครับ
(เกี่ยวกับแอมป์หลอดมั้ยเนี่ย หุ หุ [unde_cided])
การใช้น้ำมันมะพร้าวชักลายไม้
ผมเห็นช่างทำไม้ที่ประกบด้ามปืน ก็ใช้น้ำมันมะพร้าวชะโลมแล้วก็เช็ดให้แห้ง
มันขึ้นลายสวยมาก ๆ เทคนิคนี้ก็เอามาใช้บ่อยเช่นกัน
ระยะหลัง หาน้ำมันมะพร้าวยากจัง จึงหันมาใช้น้ำมันพืชแบบที่พี่มุมคนรักหลอดแนะนำ
น้ำมันโซล่าก็เคยเอามาใช้เช่นกันครับ
-
ขออนุญาตนอกเรื่อง แนะนำมีดคู่กายที่ใช้ในการประกอบแอมป์หลอดของผม
ทั้งขูด ตัด ปอกสายไฟ ปอกผลไม้ สารพัดประโยชน์ (^_^)
(https://lh3.googleusercontent.com/--PzxViu99PQ/TlUQTK01G3I/AAAAAAAAAQg/TAiJU1M8rn4/s640/DSC05554%252520%252528Medium%252529.jpg)
-
ของผมใช้น้ามันมาพร้าวครับ ใช้กระดาษทรายน้ำขัดไล่เบอร์ไปจนถึงเบอร์1000 แล้วทาด้วยน้ำมันมะพร้าว ทาทั้งตัวด้ามส่วนที่เป็นไม้ และตัวมีดเลยครับป้องกันสนิมได้ดีทีเดียวครับ
(เกี่ยวกับแอมป์หลอดมั้ยเนี่ย หุ หุ [unde_cided])
การใช้น้ำมันมะพร้าวชักลายไม้
ผมเห็นช่างทำไม้ที่ประกบด้ามปืน ก็ใช้น้ำมันมะพร้าวชะโลมแล้วก็เช็ดให้แห้ง
มันขึ้นลายสวยมาก ๆ เทคนิคนี้ก็เอามาใช้บ่อยเช่นกัน
ระยะหลัง หาน้ำมันมะพร้าวยากจัง จึงหันมาใช้น้ำมันพืชแบบที่พี่มุมคนรักหลอดแนะนำ
น้ำมันโซล่าก็เคยเอามาใช้เช่นกันครับ
น้ำมันมะพร้าวหาได้จากแกงกะทิที่เคี่ยวจนแตกมันครับ แต่มีกลิ่นแถมมาด้วย.. [smi_ley]
-
ผมกำลังตามจีบช่างคนนี้อยู่ การเคลือบไม้สวยมาก ผิวแข็งมาก เงา โชว์ลาย ทำความสะอาดง่าย และคมมาก [smi_ley] ถ้ามีกล่องไม่จะเอาไปให้แกลองทำสักหน่อย
(http://board.trekkingthai.com/board/upload/photo/2011-07/c155c23909e7e4aa72e8496c6d1c1621.JPG)
-
ผมกำลังตามจีบช่างคนนี้อยู่ การเคลือบไม้สวยมาก ผิวแข็งมาก เงา โชว์ลาย ทำความสะอาดง่าย และคมมาก [smi_ley] ถ้ามีกล่องไม่จะเอาไปให้แกลองทำสักหน่อย
([url]http://board.trekkingthai.com/board/upload/photo/2011-07/c155c23909e7e4aa72e8496c6d1c1621.JPG[/url])
ของสำนัก "เขาไผ่" รึปล่าวครับ
-
นึกว่าที่นี่จะไม่มีใครชอบมีดกันเสียอีก
ผมเจอมีดพับเป็นไม่ได้ แอบซื้อเก็บทุกที ของจีนก็เก็บเพราะความชอบครับ
(https://lh6.googleusercontent.com/-Q1G7QeMjhKM/TlUUjlHGsXI/AAAAAAAAAQw/DounLgqHSAg/s640/DSC05562%252520%252528Medium%252529.jpg)
(https://lh4.googleusercontent.com/-rn2tLKeEzBc/TlUUjim8-4I/AAAAAAAAAQ0/Tuv470iNcoc/s640/DSC05564%252520%252528Medium%252529.jpg)
-
ของจีนระยะหลังมานี้คุณภาพใช้ได้ดีเลยทีเดียวครับ [))]
-
วันนี้อากาศไม่ค่อยจะดีเลย ฝนฟ้าเล่นตกแต่เช้าเลย พึ่งได้เห็นแสงตะวันเมื่อช่วงบ่าย ๆ นี้ เอง ครึ่มฟ้า ครึ่มฝนอย่างนี้ นั่งฟังเจ้าแผ่นดำดีกว่าครับ
เมื่อวานต้องขอขอบใจท่าน Cobra มากครับ ที่เอายาคนแก่มาให้ หลังจากปวดเนื้อ ปวดตัว คล้ายจะเป็นไข้มา 2-3 วัน อาการวันนี้ค่อยยังชั่วครับ พออาการดี โรคขี้เกียดก็กำเริบ แถมยังมองดูท้องฟ้าแล้ว น่าหลับตา เล่น ๆ สัก 2-3 ชั่วจังเลย
-
ช่วงบ่าย ๆ ออกไปหาซื้อโวลูมแบบไววาว เหนื่ยครับ หาทั้งโคราช ได้มา 5 ตัว คนละพ่อ ละแม่เลย เอาแหละงานนี้เล่นแบบสังขยา หน้าไข่ หน้าปลา ให้อร่อยกันไปเลย ยิ่งอุปกรณ์ที่ประกอบ ยิ่งไปกันใหญ่เลย ไม่ว่าจะเป็นรีซิสเตอร คอนเดนเซอร์ หาเก็บ ๆ เอาแถวโต๊ะนี้แหละ อุปกรณ์ไม่ใช้ของดีอะไรครับ แล้วค่อบอัพเกรดกันทีหลัง เพราะต้องมีภาคโมดิฟาย
สำหรับแนวเสียงไม่รู้ว่าบคลิกเสียงจะไปทางไหน อ่านไม่ออกจริง ๆ ครับ
ที่มองดูแล้วเลอะเทอะ ผมใช้กราวด์ยางยึดอุปกรณ์แต่ละชิ้นเข้าด้วยกัน เพื่อความมั่นคง ไม่ให้สั่น
-
C ที่ชิดกันอยู่ จะมีผลกระทบอะไรบ้างรึปล่าวคับน้า จะได้นำไปใช้บ้าง (http://i690.photobucket.com/albums/vv261/yotin46/IMG_2498.jpg)
-
C ที่ชิดกันอยู่ จะมีผลกระทบอะไรบ้างรึปล่าวคับน้า จะได้นำไปใช้บ้าง ([url]http://i690.photobucket.com/albums/vv261/yotin46/IMG_2498.jpg[/url])
เป็นคอนเดนเซอร์ดีคลั๊ปปลิ้งครับ เจ้าคอนเดนเซอร์ดีคลั๊ปปลิงต้องอยู่ใกล้หลอดให้มากที่สุด และอาศัยจุดกราวด์ที่ใกล้คาโทรดของหลอดให้มากที่สุด เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือก ต้องอาศัยพื้นที่ใกล้หลอด อาจจะกระทบบ้างในเรื่องความร้อน แต่ก็ได้ผลในด้านป้องกันสัญญาณลบกวนครับ ตอนเย็นผมได้วายส์สายเอ้าพุททั้งคู่เรียบร้อยแล้ว หากพรุ่งนี้ฝนไม่ตกในตอนเช้า ได้ลองเครื่องแน่ ๆ ครับ ถ้าฝนตก อากาศชื่น เล่นกับไฟสูง ไม่ควรจะเสี่ยง
-
แนวคิดหลักที่ผมนำมาจากแอมป์เกนกราด คือ ช่วงทางเดินสัญญาณต้องสั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยผมได้วางแจ๊ค RCA อินพุท ไว้ใกล้ ๆ โวลูมให้มากที่สุด อุปกรณ์ทุกตัวพยายามต่อกันโดยตรงให้มากที่สุด โดยพยายามไม่ใช้อุปกรณ์พักสาย จุดเชื่อมต่อต่าง ๆ อยู่ชิดกันที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกับเจ้าเกนกราด
-
วันนี้ว่าจะเอาให้แอมป์หลอดร้องเพลง ก็พอดีไปษณีย์เอาเจ้า BG NX มาส่ง เลยอดไม่ไหว ต้องทดลองคอนเดนเซอร์คลั๊ปปลิง กับ เจ้า 3886 อยู่
สำหรับแอมป์หลอดเอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน
-
เช้านี้แอมป์หลอดวิลเลี่ยมสันร้องเพลงแล้วครับ น้อยส์เงียบสนิท ไม่มีจี่ ไม่มีฮัม กำลังร้องเพลงไม้เมือง เข่งกับเจ้า 3886
-
เบรินไปสักพัก คือ ประมาณ บ่าย ๆ จะเอาไปเข่งกับเจ้า 3886 ขับ ลำโพงดาริ่ง ผมปรับไปอัสหลอด และ แรงดันไฟ ตาม จุดต่าง ๆ ของวงจร ให้เท่ากับวงจรจริงเลย เพื่อให้เครื่องทำงานใกล้เคียงกับเครื่องต้นแบบมากที่สุด เอาไว้เบรินไปอีกวัน สองวัน ค่อยปรับปรุงอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแอมป์หลอดเครื่องนี้อีกครั้งครับ
สำหรับแอมป์หลอดวิลเลี่ยมสันเครื่องนี้ ได้รับการอนุเคราะห์พันหม้อแปลงไฟ เอ้าพุททรานฟอร์เมอร์ และ โช๊ค จาก ท่านชาตรี (จะเป็นยามาโมโต้ หรือ ทามูรา หรือ แทงโก้ และหรือ อีเลคตร้าปริน ขอเวลาผมฟังดูก่อน จะมาว่ากันทีหลังอีกที ) ซึ่งบรรจงพันให้พิเศษเฉพาะโครงงานนี้ โดยเฉพาะ ผมทดลองวัดค่าอินดักเต้นซ์ ของ OPT คู่นี้ดู ปรากฏว่า ได้ค่าอินดักเต้นซ์ ประมาณ 65 เฮนรี่ อยู่ในขั้นดีทีเดียว เหล็กต้องดีพอสมควร จึงวัดค่าอินดักเต้นซ์ได้ขนาด นี้ ก็ ขอขอบใจในความตั้งใจทำ ของท่านชาตรี มา ณ ที่นี้ ด้วย ครับ
ต่อไป คงเป็น โครงงานหลอด 211 ซึ่งได้พูดคุยกับท่านชาตรีเอาไว้ ถึง OPT ก็คงเป็นช่วงเดือนหน้า จะขึ้นโครงงานแอมป์หลอด 211 ต่อไปครับ
-
หลังจากปรับไบอัส แรงดัน ตามจุดต่าง ๆ ของวงจร จนเป็นพอใจแล้ว ก็เตรียมทำงานครับ สุ่มเสียงไม่แย่เลยครับ
-
รายละเอียดแรงดันตามจุดต่าง ๆ
1.ชุดตัวต้านทานอนุกรมกับตัวเก็บประจุมีไว้เพื่อรักษาเสถียรภาพที่ความถี่สูงหลังการปิดวงรอบการป้อนกลับแบบลบ ถ้าคิดง่ายๆ คือ ที่ความถี่สูงมาก ๆ จะเหมือนตัวต้านทาน R_26 ขนานกับ R_3 (อิมพิแดนซ์ของตัวเก็บประจุมีค่าน้อยมากเมื่อเทียบกับค่าความต้านทานของ R_26) ทำให้ที่ความถี่สูงมากๆ อัตราขยายแรงดันก่อนการป้อนกลับลดลงกว่า กรณีที่ความถี่เสียง
(Gain Margin และ Phase Margin)
2.การปรับไบอัสควรปรับ R_17 (bias balance adjust) ไว้ตรงกลางก่อน โดยสมมุติว่าหลอดเอาต์พุตแมทช์กัน แล้วปรับ R_21 ให้ได้กระแสรวมตามต้องการ ซึ่งเช็คได้จากการวัดแรงดันตกคร่อม R_22 (แรงดันคร่อมตัวต้านทานหารด้วยค่าความต้านทาน)
ส่วนการวัดว่ากระแสทั้งสองหลอดเท่ากันหรือไม่นั้น วงจรนี้ไม่ได้เตรียมการไว้ ถ้าจะวัดต้องตัดสายจากหม้อแปลงแล้วเอามิเตอร์วัดแอมป์ไปอนุกรมฯ แล้วจึงจะปรับค่า R_17 จนกระแสทั้งสองหลอดเท่ากัน บางคนใช้วิธีแทรกตัวต้านทาน ค่า สิบโอห์ม อนุกรมที่เพลตของ หลอดเอาต์พุต แล้ววัดแรงดันคร่อมตัวต้านทานดังกล่าว
ข้อพึงระวัง
การปรับ R_17 และ R_21 มักมีผลกระทบซึ่งกันและกัน เช่นปรับ R_17 ให้หลอดมีกระแสเท่ากันแต่กระแสรวมอาจจะเปลี่ยน เราต้องปรับ R_21 ชดเชย ซึ่งก็จะกระทบต่อความสมดุลของหลอดเอาต์พุต ทำให้ต้องปรับ R_17 อีกครั้ง วนเวียนไปมาเช่นนี้ แต่ช่วงการปรับจะค่อยๆแคบลง จนถึงจุดไบอัสที่เราต้องการ ถ้าหลอดเอาต์พุตไม่ต่างกันจนเกินไป
-
ผมขอไปฟังเสียงบ้างได้เปล่าครับ
-
ผมขอไปฟังเสียงบ้างได้เปล่าครับ
คุณประพาศเค้าไม่ค่อยได้เข้าเว็บนี้เท่าไหร่น่ะครับ ลองติดต่อแกไปเลยน่าจะดีกว่านะครับ