คือผมผ่อนรถยนต์ใหม่มีพ่อเป็นผู้ค้ำ แล้วขาดส่ง 6 เดือนเค้ายึดรถและขายทอดตลาดไป เหลือส่วนต่างอีก 280,000 บาท เค้าพ้องศาล ศาลตัดสินให้ใช้หนี้ 235,000 บาท
ตอนนี้ ไฟแนนซ์ จ้างทนายทำการยึดทรัพย์ แล้วได้มาถ่ายรูปบ้านซึ่งเป็นชื่อผู้ค้ำ แต่บ้านได้โอน ให้น้องผมไปเมื่อ 25 เม.ย 59 แต่คำตัดสิน ออกเมื่อวันที่ 15 มิ.ย 59
ผมได้โทรไปคุยกับทนายที่ถูกจ้างให้มายึดทรัพย์ เค้าบอกว่ายอดหนี้ตอนนี้ 290,000 บาท ผ่อนชำระได้แต่ต้องจ่ายก้อนแรก 30% ประมาณ 70,000 บาท
แต่ตอนนี้เงินผมยังมีไม่พอ ผมขอถาม 2 ขhอครับ
1.ขอลดหนี้ได้ไหม
2.ถ้าลดหนี้ไม่ได้ระหว่างหาเงินก้อนแรกมาเค้าไม่รอแล้วทำเรื่องยึดทรัพย์เลยแล้วผมต้องทำไงต่อครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ช่วยตอบนะครับ
ตามข้อมูลที่เล่ามา. ศาลตัดสินให้ผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำร่วมกันชำระเงิน 235,000.-บาท. ผู้เช่าซื้อ/ผู้ค้ำ (จำเลยที่1,2) มีหน้าที่ต้องชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาล. ถ้าไม่ชำระ เจ้าหนี้(โจทก์). มีสิทธิบังคับคดี โดยตั้งเรื่องที่สำนักงานบังคับคดีทำการยึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้. สิทธิในการบังคับคดีนี้. มีระยะเวลา 10 ปี
ทนายมาถ่ายรูปบ้าน. นี่ หมายถึงแค่ทนายมาถ่ายรูป อาจจะยังไม่มีการยึดทรัพย์ก็ได้ แต่เป็นวิธีในการเร่งรัดหนี้ให้เราตกใจ รีบหาเงินมาเคลียร์
ตามคำถาม
1.ลดหนี้ได้ใหม. การลดหนี้ขึ้นอยู่เจ้าหนี้ว่าจะยินยอมลดให้หรือไม่. แต่ในทางปฏิบัติมีการเจรจาขอลดหย่อนได้เสมอครับจะได้มากหรือน้อยอีกเรื่องหนึ่ง. ต้องลองเจรจาต่อลองดู
2.ถ้าเค้าจะยึดทรัพย์. ตามข้อมูล. โอนบ้านให้น้องก่อนศาลตัดสิน. (ถ้าหมายถึงบ้านและที่ดิน)กรรมสิทธิ์เป็นของน้องแล้ว. เจ้าหนี้จะยึดทรัพย์บุคคลอื่นนอกเหนือจากลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ได้ แต่ถ้าโอนเฉพาะทะเบียนบ้าน ที่ดินยังไม่โอน
เจ้าหนี้มีสิทธิยึดที่ดินพร้อมบ้านได้.
(แต่การโอนทรัพย์สินในระหว่างที่ถูกฟ้อง เพื่อไม่ให้เจ้าหนี้บังคับคดี กฎหมายบอกว่า เป็นการโกงเจ้าหนี้ เจ้าหนี้มีสิทธิร้องต่อศาลเพื่อขอเพิกถอนการโอนนั้นได้)
เอาใจช่วยนะครับ
สงสัยประเด็นใหน สอบถามเป็นการส่วนตัวได้ครับ. ไม่คิดตังค์ครับ