www.diyaudiovillage.net
DIY มือใหม่ , TIPS & TRICKS , R&D SECTION => DIY มือใหม่ => ข้อความที่เริ่มโดย: akradech ที่ 06 กันยายน 2013, 04:46:04 PM
-
ขอเปิดกระทู้ใหม่ เพื่อไม่เป็นการเบียดเบียนกระทู้อื่นนะครับ ถ้าเคยมีตอบไว้ที่อื่นต้องขออภัย เพราะผมลองหาแล้วไม่เจอครับ [confused-face]
ขอถามเลยนะครับ
1. หม้อไฟ ทำไมไม่ทำโวลต์จ่ายแบบตรงๆ เข้าตามที่วงจรต้องการเลยครับ ทำไมต้องมีการต่อ R C L C R อะไรประมาณนี้ เพื่อลดไฟ จ่ายในแต่ละจุด
มีผลดีอย่างไรบ้าง จะเกี่ยวกับการลดค่าหม้อ + ได้ผลดีทางอ้อมเรื่องลดเสียงฮัม + จี่ หรือเปล่า
2. ถ้าใช้หลักการลดไฟ มีประเด็นเกี่ยวกับไฟจ่ายแต่ละจุด ไม่ได้ตามที่ออกแบบไว้หรือเปล่า เช่น ควรจะได้ 300 โวลต์ แต่ดรอปเหลือ 250 โวลต์ เนื่องจากดึงไฟไปใช้งานหลายจุด แล้วจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเสียงที่ได้หรือไม่ครับ
3. หลอดเรค ทำไมระบุแค่กระแสออกสูงสุดที่จ่ายได้ ทำไมไม่มีระบุโวลต์ขาออก (เช่นขาเข้า 250 - 0 - 250 ขาออก บอกไม่เกิน 200 มิลลิแอมป์) ผมต้องไปดูว่าโวลต์ออกเท่าไหร่ จากตรงใหนครับ หรือว่าไปดูที่โหลดไลน์ กับสเปคหลอดหรือเปล่า
4. ถ้าหลอดเรคระบุกระแสจ่ายออกไว้ สมมติว่าสูงสุด 250 มิลลิแอมป์ เราสามารถจ่ายกระแสเข้า โดยเผื่อไว้ได้หรือไม่ครับ เช่น กรณีนี้ จ่ายกระแสขาเข้าประมาณ 500 มิลลิแอมป์ ได้หรือเปล่า หลอดเรคจะเป็นอะไรหรือเปล่าครับ
รบกวนพี่ๆ ช่วยเบิกเนตรให้ด้วยครับ มือใหม่ริเล่นหลอดครับ [0002053E]
-
มารอเก็บตกความรู้....... [embarrassed]
น้า ๆ รีบ ๆ มาให้ความรู้กันหน่อยคร้าบบบบ.......... [smile-watermelon]
-
ผมนั่งทางในเห็นว่านั่งหลับตาจะมองเห็นรื้อ [laught-watermelon]
-
ผมนั่งทางในเห็นว่านั่งหลับตาจะมองเห็นรื้อ [laught-watermelon]
ระหว่างรอคำตอบ จากน้าข้างบน
มาหาความรู้เบื้องต้นกันก่อน อาศัยดูรูปเอาก็ได้นะครับ ผมก็อ่านไม่ออก [dizzy-smiley]
http://diyaudioprojects.com/Technical/Tube-Power-Supplies/ (http://diyaudioprojects.com/Technical/Tube-Power-Supplies/)
http://www.tubebooks.org/Books/Schure_Rectifiers.pdf (http://www.tubebooks.org/Books/Schure_Rectifiers.pdf)
http://www.bonavolta.ch/hobby/en/audio/supply.htm (http://www.bonavolta.ch/hobby/en/audio/supply.htm)
อันนี้น่าจะตอบข้อหนึ่งได้ดี ซึ่งในรูป CLC ได้ผลประโยชน์เหมือนกัน
(http://lenardaudio.com/education/images/a14/a14_ps_vr.gif)
http://lenardaudio.com/education/14_valve_amps_6.html (http://lenardaudio.com/education/14_valve_amps_6.html)
จากรูปต่อไปนี้ จพเห็นรูปคลื่น ที่ออกจากหลอด หากไม่มีพวก RLC มากรอง ก็จะได้ไฟที่เป็นคลื่น หากต่อเข้ากับวงจรโดยตรง ฮ.ลงบ้านแน่นอน [blink2-watermelon]
(http://www.crenshawweb.com/tube_rectifier.gif)
ข้อ 2 น้าอัลตอบแล้ว [yellow-lol]
เมื่อลองเอา 5V4G มาเสียบ
([url]https://lh4.googleusercontent.com/-pcontO1laEM/UiiI0cxkfLI/AAAAAAAAHmQ/CC3ZzAZzSoI/w421-h561-no/100_2330+%2528Medium%2529.jpg[/url])
สิ่งที่ผมคาดเดานั้นผิดหมดทั้งเพ เพราะคิดว่ายังไงเบสคงจะมากันตรึมแบบไม่ได้นัดหมาย
พอเอาเข้าจริง ๆ เสียงเมื่อฟังจากหลอด 5V4G ปรากฏว่า เสียงที่มีมวลอิ่มหนานั้น กับมีเสกลที่ลดลง
น้ำเสียงของ Stacey Kent ฟังว่าเป็นสาวแรกรุ่น เสียงใส ๆ ไม่หนาเท่า 5Y3 ที่ฟังก่อนหน้านั้น
ที่เป็นเช่นนี้ คงจะเป็นเพราะไฟสูงที่เพิ่มขึ้น (โวลต์ดรอปน้อย) ซึ่งผมเองก็ยังไม่ได้จับมาวัดไฟอยู่ดี
ที่ไม่ได้จับวัดไฟ ก็เพราะค่ำคืนสายตาไม่ค่อยดีกลัวพลาดงานเข้าไปอีกคน
ใครจะเอาหลอดใดมา Rec วางแผนล่วงหน้าไว้ให้ดี เพราะจุดไฟสูงที่เปลี่ยนไปนั้น
มีผลต่อเสียงพอสมควร เพราะทำให้จุด Bias ของหลอดเปลี่ยนไปครับ
[happy-dreaming]
ข้อ 3 ผมเดารอท่านอื่นมาเสริม
แต่ละหลอด กำหนดแรงดันที่หลอดทนได้สูงสุดที่หลอดรับได้ ด้าน Input เช่น หลอด 5V4G กำหนด Input ไว้ไม่เกิน 375 V
(http://www.radiomuseum.org/images/tubeenvdiag_klein/5v4_1.png)
ซึ่งการออกแบบด้าน Output ก็ต้อง มีความสัมพันธ์กัน
จากที่พี่เล็กทำให้ดู Vo = Vin - V(ตกคร่อมหลอด) ทั้งนี้ยังไม่ได้รวมถึงไฟที่ตกคร่อม R หรือ L ก็ต้อง ลดลงไปอีก
ข้อ 4 นี่เหมือนไดโอดเลยครับ ถ้าโหลดดึงกระแสเกินจากที่ หลอดทนได้เมื่อไหร่ ก็พังได้ ถึงแม้หม้อแปลงจะสามารถจ่ายให้ไหว แต่ หลอดทนไม่ไหว
รอท่านอื่นมาเสริมครับ ผมจะได้รู้ด้วย [smile-watermelon]
-
เดี๋ยวกลับบ้านก่อนแล้วจะตอบให้ครับตอนนึ้ตาบอด
-
ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมย่อยก่อนนะน้ารุ่ง
ขอบคุณพี่เล็กด้วยครับ
รอพี่ๆ ท่านอื่นด้วยนะครับ [enjoyment]
-
ขอเปิดกระทู้ใหม่ เพื่อไม่เป็นการเบียดเบียนกระทู้อื่นนะครับ ถ้าเคยมีตอบไว้ที่อื่นต้องขออภัย เพราะผมลองหาแล้วไม่เจอครับ [confused-face]
ขอถามเลยนะครับ
1. หม้อไฟ ทำไมไม่ทำโวลต์จ่ายแบบตรงๆ เข้าตามที่วงจรต้องการเลยครับ ทำไมต้องมีการต่อ R C L C R อะไรประมาณนี้ เพื่อลดไฟ จ่ายในแต่ละจุด
มีผลดีอย่างไรบ้าง จะเกี่ยวกับการลดค่าหม้อ + ได้ผลดีทางอ้อมเรื่องลดเสียงฮัม + จี่ หรือเปล่า
ใช้ได้ครับ แรคเสร็จเอาไปใช้เลยก็ได้ แต่ฟังได้หรือเปล่า น้ารุ่งตอบไปแล้ว ไฟจากการไฟฟ้าไม่เรียบ และ สะอาดพอที่จะนำมาใช้ในงานเครื่องเสียงครับ การจัดชุด filter เพื่อกรองไฟ และ ช่วยลด ripple การลดไฟไม่ใช่ลดมั่วๆนะครับ ถ้าใช้โปรแกรม psu design เป็นก็จะทราบว่าเราจะต้องลดกี่สเตท เพื่อให้ได้ไฟที่เรียบเพียงพอต่อการใช้งานโดยไม่ฮัม แต่ถ้าอยากจะทำแบบเท่ห์ๆ คือ แยกภาคจ่ายไฟทั้งภาคพาวเวอร์ และ ภาคไดรฟ์ก็ได้ครับ แน่นอนมันได้ผลดีแต่เปลือง แต่ผมก็นิยมใช้วิธีนี้กับแอมป์ขนาดใหญ่ๆ เพราะภาคพาวเวอร์จะมีการดึงกระแสปริมาณมาก อาจจะทำให้ภาคปรีวูบวาบจนเสียสมดุลได้ครับ
2. ถ้าใช้หลักการลดไฟ มีประเด็นเกี่ยวกับไฟจ่ายแต่ละจุด ไม่ได้ตามที่ออกแบบไว้หรือเปล่า เช่น ควรจะได้ 300 โวลต์ แต่ดรอปเหลือ 250 โวลต์ เนื่องจากดึงไฟไปใช้งานหลายจุด แล้วจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเสียงที่ได้หรือไม่ครับ
เหมือนกับข้อหนึ่ง เบื้องต้นต้องเรียนรู้ที่จะใช้ psu designer เพื่อจะได้ทราบว่าเราควรจะเลือกหม้อขนาดแรงดัน และ กระแสเท่าไหร่จึงจะเพียงพอต่อการใช้งานในวงจรนั้นๆครับ อย่างน้อยก็พอที่จะเป็นข้อมูลให้เราเดินได้อย่างไม่หลง ดีกว่าที่จะทำแบบเดาสุ่ม หรือ กะเอา (เพราะการใช้ psu design จะให้ไฟที่สูงกว่าผลที่แสดงเสมอ ไฟไม่ขาดแน่อน ถ้าลองทำสัก 2-3 ครั้งก็จะทำให้เราจับทางได้ว่าควรจะสั่งหม้อเท่าไหร่ จะได้ไม่ต้องลดไฟมากครับ)
3. หลอดเรค ทำไมระบุแค่กระแสออกสูงสุดที่จ่ายได้ ทำไมไม่มีระบุโวลต์ขาออก (เช่นขาเข้า 250 - 0 - 250 ขาออก บอกไม่เกิน 200 มิลลิแอมป์) ผมต้องไปดูว่าโวลต์ออกเท่าไหร่ จากตรงใหนครับ หรือว่าไปดูที่โหลดไลน์ กับสเปคหลอดหรือเปล่า
เอาแบบบ้านๆก่อน เราก็จะรู้คร่าวๆครับ ปล่อย AC เข้าไปเท่าไหร่ก็จะได้ VAC * 1.414 ก็จะได้ VDC - V drop ของหลอดเบอร์นั้น (ดูจาก datasheet) = ไฟ DC ที่ผ่านการ rectifier จากหลอดเบอร์นั้น
หรือ ถ้าเรา rectifier ด้วย diode VDC =(V secondary rms x 1.414) - 1.4 V (less the 1.4 volt drop for the two diodes)
ดีที่สุดก็คงต้องพยากรณ์ด้วย PSU Designer II อีกเช่นเคย ว่าแล้วก็คงต้องไปฝึกใช้กันได้แล้วหล่ะครับ เพราะคำถามที่ถามมาทั้งหมดล้วนแล้วแต่ต้องพึ่ง PSU designer ในการช่วยคาดการณ์ทั้งสิ้น
4. ถ้าหลอดเรคระบุกระแสจ่ายออกไว้ สมมติว่าสูงสุด 250 มิลลิแอมป์ เราสามารถจ่ายกระแสเข้า โดยเผื่อไว้ได้หรือไม่ครับ เช่น กรณีนี้ จ่ายกระแสขาเข้าประมาณ 500 มิลลิแอมป์ ได้หรือเปล่า หลอดเรคจะเป็นอะไรหรือเปล่าครับ
เยอะไม่เป็นไร แต่ถ้าขาดก็จะไม่สามารถทำได้ตามที่ออกแบบวงจรไว้ครับ ถ้าสังเกตดีๆผมจะพูดเกือบทุกกระทู้ และ ทุกงานของผมเกี่ยวกับหม้อ ว่าผมเผื่อกระแส 100% เพื่อป้องกันความผิดพลาดของผู้ผลิต ซึ่งส่วนใหญ่จะกระแสหาย เพราะถ้าหม้อไม่สามารถจ่ายกระแสได้เพียงพอจะทำให้ แรงดันตกลงไปด้วยครับ
อันนี้อาหารเสริม >>> http://www.industrial-electronics.com/Industrial_Power_Supplies_Inverters_and_Converter/5_Four-Diode_Full-Wave_Bridge_Rectifier.html
psu designer II >>> download ด้านล่างสุดครับ http://www.duncanamps.com/psud2/
-
[huge-thumbs-up] ขอบคุณครับพี่ ตาสว่างเลยครับ ตอนนี้เอาแค่นี้ก่อนครับ. เดี๋ยวถ้าติดภาคไดรฟ กับภาคเพาเวอร์ เดี๋ยวมารบกวนใหม่ [guitar-watermelon]
-
หม้อ output มันมี + ul plate มันต่อยังไงครับ
แล้ว ul คืออะไรครับ
-
mai mee kai tob lew pom ja tor yang ghai la kub ... please
-
UL คือ Ultra linear tap ใช้ต่อเข้าที่กริดสองครับ ไม่ต้องใช้ R 100 R ต่อเข้าที่ plate ไม่ทราบว่าของเดิมต่อไว้อย่างไร
-
UL คือ Ultra linear tap ใช้ต่อเข้าที่กริดสองครับ ไม่ต้องใช้ R 100 R ต่อเข้าที่ plate ไม่ทราบว่าของเดิมต่อไว้อย่างไร
นึกว่าจะไม่มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยซะแล้ว
ของเดิม มันเป็น b+ กับ p ครับ
ของใหม่ มัน มี 3 รู คือ + ul plate ครับ
-
ผมหมายถึงที่ขาหลอดคุณครับ ไม่ได้ถามถึงหม้อ ผมถามว่า ขากริด 2 (ขา 4 ของซ็อกเก็ตหลอด) ตอนนี้ต่ออยู่กับอะไร
(http://tdsl.duncanamps.com/link.php?target=00258884)
-
ตอบแทนด้วยรูปครับ คุณบอนเทอร์โบ เขาใส่อะไหล่มาแล้ว ผมเอามาบัคกรีอย่างเดียว จำไม่ได้แล้วครับ ใช่ตำแหน่ง R11 ไหมครับ
(http://image.ohozaa.com/i/a35/xkP4jH.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wX3fXtvMLWeRYZB0)
-
ใช่ครับปลด R 100 ออกจากขา 4 แล้วเอาเส้น ul เข้าที่ขา 4 แทนครับ
-
ใช่ครับปลด R 100 ออกจากขา 4 แล้วเอาเส้น ul เข้าที่ขา 4 แทนครับ
ขอบคุณครับ [0002053E]
-
ใช่ครับปลด R 100 ออกจากขา 4 แล้วเอาเส้น ul เข้าที่ขา 4 แทนครับ
[confused-face]แล้วระหว่างต่อ b+ กับ p กับมี ul เพิ่มเข้ามา มันดีและแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ [shy_whistler]
-
อยากตอบมั่งอ่ะ... นิดนึง นะ นะ การต่อหลอดเพาเวอร์เพนโถดใช้งาน เราสามารถต่อได้ 2 แบบครับ แบบแรกคือตามวงจรของน้า civic นั่นเอาอาร์ต่อกริดเข้ากับไฟบวกเป็นการต่อแบบให้หลอดเพนโถดทำงานเป็นแบบหลอดไตรโอดครับความสามารถหรือเพาเวอร์ของหลอดจะลดลง(กี่เปอร์เซ็นต์ก็ไม่รู้นะ) ... แบบที่สองต่อแบบเพนโถด ก็ต้องมี แท็ป UL (ULTRA LINEAR) คือใช้กริด 2 ต่อกับขดของหม้อแปลง OPT ตรงๆเลย ที่แท็ปออกมาไว้เรียกว่า UL จะได้เพาเวอร์เกือบเต็มกำลังที่หลอดเบอร์นั้นๆจะทำได้ .. ส่วนเรื่องเสียงต่างกันยังไงระหว่างสองแบบ ผมไม่รู้ครับเพราะเคยทำแอมป์หลอดแค่เครื่องเดียวเองงง ไม่มีแท็บ UL ให้ลองครับพ๊ม
* ถ้าผมตอบอะไรผิดไปช่วยกันโต้แย้งแก้ไขด้วยเน้อ อิ อิ
-
อยากตอบมั่งอ่ะ... นิดนึง นะ นะ การต่อหลอดเพาเวอร์เพนโถดใช้งาน เราสามารถต่อได้ 2 แบบครับ แบบแรกคือตามวงจรของน้า civic นั่นเอาอาร์ต่อกริดเข้ากับไฟบวกเป็นการต่อแบบให้หลอดเพนโถดทำงานเป็นแบบหลอดไตรโอดครับความสามารถหรือเพาเวอร์ของหลอดจะลดลง(กี่เปอร์เซ็นต์ก็ไม่รู้นะ) ... แบบที่สองต่อแบบเพนโถด ก็ต้องมี แท็ป UL (ULTRA LINEAR) คือใช้กริด 2 ต่อกับขดของหม้อแปลง OPT ตรงๆเลย ที่แท็ปออกมาไว้เรียกว่า UL จะได้เพาเวอร์เกือบเต็มกำลังที่หลอดเบอร์นั้นๆจะทำได้ .. ส่วนเรื่องเสียงต่างกันยังไงระหว่างสองแบบ ผมไม่รู้ครับเพราะเคยทำแอมป์หลอดแค่เครื่องเดียวเองงง ไม่มีแท็บ UL ให้ลองครับพ๊ม
* ถ้าผมตอบอะไรผิดไปช่วยกันโต้แย้งแก้ไขด้วยเน้อ อิ อิ
ได้ความรู้เพิ่มเข้ามาอีกหน่อยขอบคุณน้าเฉยมากครับ [0002053E]
แต่น้าอยู่วงการนี้มานานทำไมเพิ่งทำแอมป์หลอดแค่เครื่องเดียวเองเหลือเชื่อนะอิอิ.. [smiling-tongue]
-
อยากตอบมั่งอ่ะ... นิดนึง นะ นะ การต่อหลอดเพาเวอร์เพนโถดใช้งาน เราสามารถต่อได้ 2 แบบครับ แบบแรกคือตามวงจรของน้า civic นั่นเอาอาร์ต่อกริดเข้ากับไฟบวกเป็นการต่อแบบให้หลอดเพนโถดทำงานเป็นแบบหลอดไตรโอดครับความสามารถหรือเพาเวอร์ของหลอดจะลดลง(กี่เปอร์เซ็นต์ก็ไม่รู้นะ) ... แบบที่สองต่อแบบเพนโถด ก็ต้องมี แท็ป UL (ULTRA LINEAR) คือใช้กริด 2 ต่อกับขดของหม้อแปลง OPT ตรงๆเลย ที่แท็ปออกมาไว้เรียกว่า UL จะได้เพาเวอร์เกือบเต็มกำลังที่หลอดเบอร์นั้นๆจะทำได้ .. ส่วนเรื่องเสียงต่างกันยังไงระหว่างสองแบบ ผมไม่รู้ครับเพราะเคยทำแอมป์หลอดแค่เครื่องเดียวเองงง ไม่มีแท็บ UL ให้ลองครับพ๊ม
* ถ้าผมตอบอะไรผิดไปช่วยกันโต้แย้งแก้ไขด้วยเน้อ อิ อิ
ได้ความรู้เพิ่มเข้ามาอีกหน่อยขอบคุณน้าเฉยมากครับ [0002053E]
แต่น้าอยู่วงการนี้มานานทำไมเพิ่งทำแอมป์หลอดแค่เครื่องเดียวเองเหลือเชื่อนะอิอิ.. [smiling-tongue]
ผมเคยอ่านเจอนะว่าน้าเฉยแก โปรดปราน SS มากกว่า Tube น่ะครับ.......จริงป่ะครับ [laughing-my-ass]
-
ผมเคยอ่านเจอนะว่าน้าเฉยแก โปรดปราน SS มากกว่า Tube น่ะครับ.......จริงป่ะครับ
เฉพาะ power amp ครับที่ชอบแบบ SS ส่วน preamp ลองทำ tube เล่นหลายวงจรอยู่ครับพ๊ม
ได้ความรู้เพิ่มเข้ามาอีกหน่อยขอบคุณน้าเฉยมากครับ
ผมเองก็ได้รู้มาจากการ "อ่าน" ครับ หาอ่านอยู่เป็นปีจึงได้กล้าทำแอมป์หลอด เพื่อเข้าใจในทุกส่วนของวงจรว่าตัวไหนใช้ทำอะไร ไม่ใส่ได้รึปล่าว มีการใช้อย่างอื่นแทนได้มั๊ย แบบไหนที่ไม่นิยมทำกัน ทำแบบไหนจึงจะดีกว่า หลอดภาคหน้าและหลอดเพาเวอร์เบอร์อะไรที่น่าจะเหมาะกับเราและเงินในกระเป๋าของเรา ... ทีแรกเห็นวงจรก็แหยงๆแอมป์บ้าอะไรฟะใช้ไฟสูงกว่าไฟบ้านอีก ถ้าเราพลาดไปไม่ดูดเราแรงยิ่งกว่าไฟบ้านรึ ? ซี้แหงกันพอดี แต่พอลงมือทำจริงๆโดนดูดบ้าง ก็นะจิ๊บๆเองพอทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวย มีชีวิตชีวา ไม่ถึงกับจะเป็นจะตาย อิ อิ ... แต่ก็ไม่ควรทำด้วยความประมาทในทุกครั้งนะครับ ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แอมป์ SS ก็ด้วยเพราะมีไฟบ้าน 220V เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ ... ตายเพราะทำแอมป์มันไม่เท่ห์ตรงไหนน่ะ
-
แล้วที่พูดๆกันว่า tab UL กี่เปอร์เซนต์ มันคืออะไรครับ
-
แล้วที่พูดๆกันว่า tab UL กี่เปอร์เซนต์ มันคืออะไรครับ
[confused-face] หน่านซิอยากทราบเหมือนกันครับ [embarrassed]
-
ลองโหลดไฟล์ข้างล่างมาอ่านดู อ่านไม่ออกก็ดูรูปเอาเพราะผมเองก็อ่านไม่ออกเหมือนกัน น่าจะพอช่วยได้บ้างครับ
http://www.oestex.com/tubes/Moers%20UL_1.pdf (http://www.oestex.com/tubes/Moers%20UL_1.pdf)
-
ฝากรูปนี้ไว้ก่อน เดี๋ยวไปหาผักบุ้งมาเติมอีกนิด
-
ใช้ภาษาแบบบ้านๆก็แล้วกัน เดี๋ยวจะงง ultra liner tap ก็คือ แท็ปจากด้าน primary ของ opt โดยปกติ จาก B+ (ไฟเข้า) ถึง P (ไฟออก) คือ 100 % (คิดจากจำนวนรอบด้าน primary) ที่นี้เราจะใช้กี่เปอร์เซ็นต์ก็แท็ปจากด้าน primary ออกไปใช้ครับ โดยปกติเคยจะนิยมใช้กันอยู่ที 43% แต่จากตำราของ mullard เค้าจะใช้กับเครื่องของเค้าที่ 5-20%
-
ขอเสนอนิดหนึ่งครับ
มีตั้งแต่พื้นฐานไหมครับ แบบปักหมุดที่ห้องหลอดเลยครับ
ผมไม่รู้อะไรเลย ส่วนที่ถามกันอันนั้น คนที่เป็นแล้วเค้าถามกัน ผมได้แต่อ่านทำตาปริบๆ
ว่า เอ เค้าคุยอะไรกัน ไม่เห็นเข้าใจเลย
หลอดแต่ละชนิด เพนโทร ไตรโอด ดับเบิ้ล direct injection และอื่นๆ ผมมึนตึบเลยครับ
บอกตรงๆทุกวันนี้ผมยังเรียกชื่อขาหลอดไม่ถูกเลยครับ
ส่วนใหญ่ก็ตามๆเค้าไป เรื่องความรู้ไม่มีครับ ต่อๆตามแบบเท่านั้นเอง
เลยหาจุดยืนของตัวเองไม่ได้ ว่าตัวเองต้องการเสียงแบบไหน [dizzy-smiley]
-
ขอเสนอนิดหนึ่งครับ
มีตั้งแต่พื้นฐานไหมครับ แบบปักหมุดที่ห้องหลอดเลยครับ
ผมไม่รู้อะไรเลย ส่วนที่ถามกันอันนั้น คนที่เป็นแล้วเค้าถามกัน ผมได้แต่อ่านทำตาปริบๆ
ว่า เอ เค้าคุยอะไรกัน ไม่เห็นเข้าใจเลย
หลอดแต่ละชนิด เพนโทร ไตรโอด ดับเบิ้ล direct injection และอื่นๆ ผมมึนตึบเลยครับ
บอกตรงๆทุกวันนี้ผมยังเรียกชื่อขาหลอดไม่ถูกเลยครับ
ส่วนใหญ่ก็ตามๆเค้าไป เรื่องความรู้ไม่มีครับ ต่อๆตามแบบเท่านั้นเอง
เลยหาจุดยืนของตัวเองไม่ได้ ว่าตัวเองต้องการเสียงแบบไหน [dizzy-smiley]
ก็ถามไปเลยครับ ผมก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง มั่วไปเลยครับ นึกอยากถามอะไรก็ถามโลดครับ