DIY มือใหม่ , TIPS & TRICKS , R&D SECTION > Loudspeakers

Matching Amp - Spk

<< < (2/3) > >>

Cijtele52:
การทำงานของ crossover คือ ตัวมันจะมี impedance สูงๆ เวลาไม่ได้อยู่ในช่วงการตอบสนองความถี่ของมันครับ ตรงไหนที่เป็นช่วงของมัน มันจะมี impedance ต่ำมากๆ

ตัวอย่างเช่น crossover มีจุดตัดที่ 300Hz สำหรับ woofer, 300Hz และ 3KHz สำหรับ mid range และ 3KHz สำหรับ tweeter
ลองนึกภาพดูครับว่ามีวงจร 3 วงจรสำหรับ woofer, mid และ tweeter
            ------------> crossover ---> woofer   
          /
input --------------> crossover ---> mid
         \
           ------------> crossover ----> tweeter

ถ้ามีสัญญาณความถี่ 350Hz เข้ามา ด้วยหลักการที่ว่ามาด้านบน คือ วงจร crossover ของ woofer กับ tweeter จะมี impedance สูงมาก ทำให้ไม่มีสัญญาณหลุดไปที่ woofer และ tweeter มีแต่หลุดไปที่ mid เท่านั้น

คราวนี้มาดู impedance รวม สมมติว่า woofer / mid / tweeter เป็น 8 ohm หมด ดังนั้น
woofer + crossover -> สูงมากๆ
mid + crossover -> 8 ohm
tweeter + crossover -> สูงมากๆ
ดังนั้นเวลาเอา R ขนานกัน ความต้านทานรวมจะน้อยกว่าตัวต่ำสุดเสมอ แต่ในที่นี่ส่วนของ woofer และ tweeter มันสูงมากๆ ดังนั้นความ impedance ของลำโพงที่ความถี่ 350Hz จะประมาณ 8 ohm

ซึ่งเป็นคำตอบว่าทำไม driver 8 ohm สามตัวเวลาต่อกับแอมป์แล้ว มันควรจะประมาณ 2.7 ohm แต่ทำไมยังบอก 8 ohm

แล้วถ้าใช้ woofer 8 ohm, mid 6 ohm, tweeter 4 ohm จะเป็นยังไง? อันนี้ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบครับ บางคนก็ออกแบบวงจรชดเชย impedance ของ driver ด้วย เพื่อให้ impedance รวมไม่โดดขึ้นหรือลดลงมากเกินไปครับ

CreÃte_Lek ♫:
 นึกว่าจะไม่ทิ้งท้ายให้ซะแล้วครับ    ใช่ครับนั่นคือความจริง สำหรับคนที่เค้าทำเป็นอาชีพเค้าจะทราบดีว่าจะต้องจัดการอะไร อย่างไงกับลำโพงที่ทำ ไม่ว่าจะเรื่องของ เฟส หรือ อิมพิแดนซ์  จึงต้องมีการทำ  equlization  ในระบบครับ

CreÃte_Lek ♫:

--- อ้างจาก: RuNgPhUnGⓇ ที่ 24 เมษายน 2016, 08:15:38 AM ---รูปภาพสเปค "A","B" สลับกันหรือเปล่าครับโดนเนื้อหาอ่านแล้วไม่ตรงกับภาพ  [chick8]

--- End quote ---
ครับ ผมแจ้งให้ผู้เขียนทราบแล้ว เค้าขอบคุณมา

rathin:

--- อ้างจาก: Cijtele52 ที่ 24 เมษายน 2016, 10:52:11 AM ---การทำงานของ crossover คือ ตัวมันจะมี impedance สูงๆ เวลาไม่ได้อยู่ในช่วงการตอบสนองความถี่ของมันครับ ตรงไหนที่เป็นช่วงของมัน มันจะมี impedance ต่ำมากๆ

ตัวอย่างเช่น crossover มีจุดตัดที่ 300Hz สำหรับ woofer, 300Hz และ 3KHz สำหรับ mid range และ 3KHz สำหรับ tweeter
ลองนึกภาพดูครับว่ามีวงจร 3 วงจรสำหรับ woofer, mid และ tweeter
            ------------> crossover ---> woofer   
          /
input --------------> crossover ---> mid
         \
           ------------> crossover ----> tweeter

ถ้ามีสัญญาณความถี่ 350Hz เข้ามา ด้วยหลักการที่ว่ามาด้านบน คือ วงจร crossover ของ woofer กับ tweeter จะมี impedance สูงมาก ทำให้ไม่มีสัญญาณหลุดไปที่ woofer และ tweeter มีแต่หลุดไปที่ mid เท่านั้น

คราวนี้มาดู impedance รวม สมมติว่า woofer / mid / tweeter เป็น 8 ohm หมด ดังนั้น
woofer + crossover -> สูงมากๆ
mid + crossover -> 8 ohm
tweeter + crossover -> สูงมากๆ
ดังนั้นเวลาเอา R ขนานกัน ความต้านทานรวมจะน้อยกว่าตัวต่ำสุดเสมอ แต่ในที่นี่ส่วนของ woofer และ tweeter มันสูงมากๆ ดังนั้นความ impedance ของลำโพงที่ความถี่ 350Hz จะประมาณ 8 ohm

ซึ่งเป็นคำตอบว่าทำไม driver 8 ohm สามตัวเวลาต่อกับแอมป์แล้ว มันควรจะประมาณ 2.7 ohm แต่ทำไมยังบอก 8 ohm

แล้วถ้าใช้ woofer 8 ohm, mid 6 ohm, tweeter 4 ohm จะเป็นยังไง? อันนี้ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบครับ บางคนก็ออกแบบวงจรชดเชย impedance ของ driver ด้วย เพื่อให้ impedance รวมไม่โดดขึ้นหรือลดลงมากเกินไปครับ

--- End quote ---

 [huge-thumbs-up] [huge-thumbs-up] [huge-thumbs-up]

samud:
สงสัยมานาน ค่อนข้างเข้าใจแล้ว เรื่องของMatching ระหว่างเครื่องขยาย ครอส แล้วก็ลำโพง ถ้าเราDiyแล้วมันMatchกัน  ผมคิดดูก็เหมือนซื้อหวยแล้วถูกรางวัลละครับ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version