เริ่มแรกผมก็เข้าใจเหมือนเสมา ออปแอปดีแล้ว ก็ต้องเปลี่ยนบัพเฟอร์แพงถึงจะดี
ออปแอปที่ดีในความคิดผม ต้องแบนวิธกว้างๆ สรีปเรทสูงๆ จะได้กระฉับกระเฉง บางคนก็ว่ากัดหู แต่สรีปเรทต่ำก็จะเฉื่อยลงแล้วแต่คนชอบ ซึ่งแบนวิธที่เเยอะก็จะมีในออปแอมป์ราคาแพง อย่าง637 ในดาต้าชิท(ผมอ่านไม่ค่อยเป็นหรอกครับ) เกน100 ก็จะได้แบนวิธที่ 1 M ก็ใส่อาร์ตามที่ดาต้าเขาให้มา เราก็ต้องทำวงจรมันขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ได้แบนวิธที่กว้าง เพื่อเค้นเอาคุณสมบัติของมัน(เข้าใจว่ามันแพงตรงแบนวิธ 1 เมกนี่ล่ะ) ถ้าในวงจรdacของเสมา เกนของวงจรออปแอมตัวนั้นก็น่าจะคนละค่ากัน(คงออกแบบตามดาต้าชีทของตัวมัน) การเอาออปแอมเบอร์์อื่นมาแทนก็เท่ากับไม่ได้ประสิทธิภาพออปแอมตัวนั้น
ผมเลยงง ว่าน้าแว่นไม่ได้เปลี่ยนอาร์ตาม ดาต้าชีท ทำให้ไม่ได้ แบนวิทที่มีถึง1Mhz ปรับแค่เกน ก็ใช้ได้แล้ว แถมเสียงยังเบาลงอีก ผมนึกว่ามันจะดังกว่าเดิมซะอีก ตามออปแอปอุดมคติ ขยายเป็นอนันต์ ทำถูกต้องมันน่าจะขยายได้เกือบสูงสุด น่าจะดังขึ้น
ออปแอมผม งง บัพเฟอร์มันก็ งง ตาม คือบัพเฟอร์ที่ดีในความคิดผมน่ะครับ มันต้องส่งเสริมให้ออปแอมป์หลักทำงานเต็มประสิทธิภาพ เช่นโหลดกระแสได้เยอะ อินพิแดนซ์เข้าสูง ออกต่ำ ตัวมันก็ต้องมีแบนวิธที่กว้างพอที่จะรองรับ ออปแอปหลัก ซึ่งมีคุณสมบัติเหล่านี้ อยู่ในออปแอปราคาแพง ส่วนบัฟเฟอร์หลอดมีแบนวิธกว้าง เลยชอบเอามาทำเป็นบัฟเฟอร์ ผมเคยรื้อซีดีวงจรไฮเอน เห็นเขาใช้บัพเฟอร์ ที่เป็นออปแอมป์ ที่มีคุณสมบัติเป็นบัพเฟอร์เลย (LT1010ct) มี 5 ขา ผมเลยเข้าใจว่า บัฟเฟอร์ที่ดีต้องแพง เอาตัวถูกๆมาทำไม่ดี
ทั้งหมดนี่ผมคิดเอาเองหน่ะครับ ตอนแรกเหมือนจะเข้าใจแล้ว ผมเอ๊ะใจตั้งแต่แรกแล้วว่า เสมา เอา 637 ไปเสียบแล้วฟังเลย ก็กังขาอยู่ว่ามันใช่เหรอ พอน้าแว่นสรุปว่า เสียงมันคลิปก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า มันมีปัญหาใช้ด้วยกันไม่ได้ พอทำเสร็จออกมา ไหงไม่เป็นอย่างที่คิด
แหม... อันนี้สิ หนังยาว.... [smi_ley]
ถูกต้องแล้วครับ ที่เคยได้ยินมา เข้าใจไม่ผิดครับ ออปแอมป์ที่สลูว์เรตสูง สามารถทำการไต่ระดับเอาต์พุตได้ไว สัญญาณกระฉับกระเฉงกว่า
เพียงแต่เวลาดูแบนด์วิทธ์ นอกจากจะดูเกนขยายแล้ว ต้องดูเรื่องเฟสด้วยครับ วิธีเลือกออปแอมป์แบนด์วิทธ์สูงๆ มาก็เพื่อหวังการตอบสนองเฟสที่ลากไปได้ไกลขึ้น โดยเฉพาะตลอดช่วงความถี่เสียง เมื่อการตอบสนองเฟสเกิดการบิดตัวให้น้อย ก็หมายถึงรูปสัญญาณไม่เพี้ยน มิตินิ่ง ไม่วูบวาบ ครับ
แต่เรื่องเสียงขลิบที่เกิดใน DAC เข้าใจผิดครับ เพราะไม่เกี่ยวกับ 637 แต่อย่างใด
คือ I/V นั้นใช้ NJM2068D แทน NJM5532 ปกติ และที่ลด R นั้นก็อยู่ที่ตรง I/V นี้ครับ (637 ยังไม่เกี่ยวกันเลยครับ)
ปัญหาที่ผมวัดคลื่นให้ดูนั้น เกิดจากช่วง input headroom ในภาค I/V รับไม่ไหว (ซึ่งไม่กี่ยวกับ 637 เช่นกัน) แต่มาจากการที่สัญญาณจาก PCM1796 เองจะมี DC bias อยู่จำนวนนึงเป็นปกติอยู่ พอผสมกับสัญญาณเสียงที่ขยายเพิ่มเข้าไป 7Vp-p ซึ่งถือว่าแรงมากเกิน ทำให้ผลรวมสุดท้าย มันสูงชนขอบเขตเกินกว่าที่ออปแอมป์จะตอบสนองได้ เลยเกิดเหตุการท้องคลื่นหายถูกตัดหายไปครับ
ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเอาสัญญาณนี้ไปขยายอีก ก็ย่อมจะเพี้ยนไปกันใหญ่น่ะครับ
ดังนั้นผมเลยลดค่า R ลง เพื่อให้ I/V transfer ลดลงด้วย ทำให้สัญญาณลงมาอยู่ในช่วงที่ทำงานได้ปกติไม่ผิดเพี้ยนเท่านั้นเอง
ส่วนกรณีที่ผมเอา 637 กลับมาลงในภาคเอาต์พุตได้ ก็เพราะว่า ในภาคเอาต์พุตนั้น จัดเป็นวงจร differential amp. พร้อมกับทำหน้าที่เป็น LPF Low-passed filter 2nd order เพื่อจุดประสงค์ในการกรองความถี่สูงออก โดยเฉพาะความถี่ sampling ที่แถมมาด้วยจาก DAC ออกไป ดังนั้นเมื่อเราคุมความถี่ไว้ กราฟ open loop bandwidth ก็จะถูกลดแบนด์วิทธ์รวมในวงจร รวด้วย R-C ในชุด filter นั่นเอง การขยายก็ทำได้แค่ช่วงที่ความถี่ผ่าน LPF ได้น่ะครับ ระบบจึงทำงานเสถียรในจุดนี้ได้เพราะถูกกดแบนด์วิทธ์ลงจนแทบไม่ได้มีโอกาสได้เสี่ยงกับออสซิลเลตเลยทีเดียว
ในทางเทคนิคแล้ววิธีที่ผมทำเป็นวิธีที่คุมได้เป็นเคสต่อเคสนะครับ เพราะตามหลักคอนโทรลแล้ว การที่ระบบตอบสนองเร็วถือเป็นเรื่องดี เพราะเร็วทำให้ช้าลงได้ แต่ก็ต้องเพิ่มอุปกรณ์รอบข้างที่เหมาะสม เพื่อทำให้ระบบรวม คุมให้การเข้าสู่สภาวะสมดุลได้ถูกต้อง
ซึ่งตอนที่ทำ ผมก็ต้องทดสอบความถี่ 20kHz แล้วดูว่าเกิด ringing ขึ้นขอบรึเปล่า ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีสัญญาณขึ้นขอบแต่อย่างใด จึงถือว่ามีเสถียรภาพพอ และใช้งานได้ครับ
แต่เรื่องการเลือกเบอร์ที่เอามาใช้งาน นอกจากวัดสัญญาณแล้ว ผมลองนั่งฟังสลับไปมา ทีละชุดน่ะครับ สรุปรวมแล้วเลยมาออกที่เบอร์ดังกล่าวน่ะครับ
ส่วนเรื่องวิธีเลือกออปแอมป์ มาใช้งานในจุดต่างๆ นั้น ทั้งบัฟเฟอร์ และออปแอป์หลัก วิธีเลือกอย่างที่ถามมานั้น ถ้าให้ผมตอบตรงๆ คือใช่ครับ ไม่ผิดแต่อย่างใด ออปแอมป์ที่ดีโดยเฉพาะคุณสมบัติที่ตอบสนองเชิงเส้นได้ดี linearize error ยิ่งต่ำเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น
เป็นวิธีที่รับประกันว่าทำงานได้ชัวร์และแน่นอน แต่ก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายจุดนี้ ที่สูงขึ้นมากๆ กว่า 100 เท่า และผลที่ได้คุ้มค่าพอหรือเปล่าน่ะครับ
เนื่องจาก DAC ตัวนี้ไม่ได้ออกแบบในเชิงบริสุทธ์นิยม ถาคจ่ายไฟยังไม่ถึงขั้นที่ออกแบบให้นิ่งกว่านี้ ยังใช้ไอซีเรกูเลตธรรมดาอยู่ ซึ่งมี noise ผสม ก็มีอยู่ราวๆ 5mvp-p
อีกอย่างคือ การต่อปีกเติมอะแดปเตอร์สองชั้น สำหรับผมแล้วก็ยังไม่สามารถรีดประสิทธิภาพสูงสุดของออปแอมป์ได้ครบจริงๆ เพียงแต่ผลที่ได้นั้นดีกว่าเดิม และยอมรับในจุดนั้นว่า "ดีพอ"เท่าที่พื้นที่และทรัพยากรรอบด้านจะอำนวยน่ะครับ [yes-raccoon]