ผมใช้เวลาในการหาข้อมูล+ทดลองทางวงจรตามรอยของ Gaincard ไป 1 เดือนเศษ ถึงเวลาที่ต้องสรุปแล้วครับ
ตัววงจรที่ใช้จากการตามแกะวงจรจากรูปถ่าย รวมกับข้อมูลจากเวปต่างๆ สรุปได้ว่าเป็นวงจรแบบ Non-inv จัดเกนการขยายไว้ที 33 เท่า ภาคอินพุตเป็น Step atten 12 ตำแหน่ง ส่วนทางเอาต์พุตมีสวิตช์ Mute สำหรับตัดต่อสัญญาณที่จะส่งไปที่ขั้วลำโพง อ้างอิงวงจรตามลิงค์ (ค่า Ri = 680 Ohm นะครับ)
http://www.diyaudiovillage.net/index.php?topic=435.msg12472#msg12472ตัว IC ที่ใช้เป็น LM3875TF ตัวถัง Isolate ของ NS มีการตัดขา 2,5,6,9,10 ทิ้ง ส่วนขา 11 ถูกนำไปต่อเข้ากับไฟลบ ..... เนื่องจากวงจรที่ใช้เป็นแบบ Non-inv ทำให้ต้องเลือก IC คุณภาพดีมาใช้ โดยเฉพาะค่า Input offset voltage ซึ่งจะมีผลกระทบกับแรงดัน DC ที่เอาต์พุตของแอมป์ (ไอซีตัวเจ๋งๆ จะมีไฟ DC ที่เอาต์พุตต่ำกว่า 3mV ยอมรับได้ไม่เกิน 100mV)
C-supply filterเป็นตัวแปรหลักในการทำหนดแนวเสียง ค่า 1000uF ให้เสียงที่กระฉับกระเฉงที่สุด ค่า 2200uF ให้พลังออกมาดี ใช้ค่าสูงกว่านี้เสียงเริ่มเฉื่อย นอกจากนี้ยี่ห้อและรุ่นของซีก็มีผลต่อเสียงอย่างมากเช่นกัน ผมขอสรุปรวมๆ ให้ตามยี่ห้อ ส่วนรุ่นนั้นขอให้ไปต่อยอดกันดู (ผมไม่ได้กั๊กนะครับ ตัวที่ผมเอามาเทสบางตัวเลิกผลิตไม่มีขาย ขืนให้ไป เดี๋ยวไปเจอซีเก่าค่าแห้งขึ้นมาจะได้ไม่คุ้มเสีย) ถ้าชอบเสียงหนักแน่นก็ใช้รุ่นที่ Low impedance
-Elna เสียงฟังสบายไม่มีอะไรโดดเด่น กลางมีหมอกหนาหน่อย รายละเอียดไม่จะแจ้ง ถ้าจะทำไว้ฟังเพลินๆ ผมแนะนำให้จัด Elna ไปเลยครับ ตัวสีฟ้าราคาถูกและหาง่าย หรือจะข้ามไปใช้ Silmic ก็จะให้เสียงที่สว่างและชัดเจนขึ้นอีกขั้นนึง
-Nichicon โทนเสียงออกแนวเบสลึก กลางคมชัดสดใสและเคลียร์ แหลมเปิด แต่ปลายเสียงบางรุ่นไม่ค่อยละเอียดเท่าไร ฟังรวมๆ กลางแหลมจะติดบางหน่อยๆ ไม่อวบเหมือน Elna ถ้าได้ตัว Muse FA สีทอง เบสจะใหญ่กว่ารุ่นอื่น แต่ถ้าเป็น Muse KZ เบสจะลึก ถ้าชอบชัดแน่นลึกก็ต้อง HE ....... เล่นยี่ห้อนี้จะได้ความใสและชัดเจน แต่ก็ต้องเสียความอวบอิ่มไปบางส่วน
-Nippon โทนเสียงสมดุลย์ดี ตั้งแต่เบสจนถึงปลายแหลม มีเนื้อมีหนัง เบสตอนล่าง กับความใสย่านเสียงกลางแหลมเป็นรอง Nichicon แต่ย่านอื่นลงตัวหมด ถ้าได้รุ่นที่เป็น Low impedance จะช่วยเสริมฐานเบสได้ดีขึ้นแต่ก็ต้องเสียความอวบอิ่มไปนิดหน่อย
-Rubycon ยี่ห้อนี้ต้องลองเป็นรุ่นๆ ไปครับ ผมลอง YK แล้วสู้ Nichicon ธรรมดาไม่ได้ (อันนี้แล้วแต่คนชอบนะครับ) เสียงมันเกร็งกว่า แต่กับรุ่นตัวสีฟ้า 105 องศากลับให้เสียงที่น่าฟังกว่ามาก ..... มีผู้ใหญ่ท่านนึงแนะนำว่าถ้าจะเล่นยี่ห้อนี้ไปลองหา Blackgate แล้วจะลืมซีทุกตัว แต่มันแพงและหายากมากครับ
-Pana ผมว่าตัว FC ให้เสียงที่อวบน่าฟังดี กลางแหลมสดใสใช้ได้เลย ติดที่ว่าเบิร์นอินแล้วมันไม่นิ่งเบสมันยวบๆ บอกไม่ถูก แต่พอเป็น FM เสียงเบสโอเค แต่เนื้อเสียงมันไม่อวบ ส่วนรุ่นธรรมดา เสียงก็ใช้ได้
-Samwha กลางไม่ค่อยเด่น แต่ได้ความใสและชั้นดนตรี ผมลองตัว 1000/100V เสียงกลางจะออกโปรงใสกว่าตัวอื่นๆ ปลายแหลมออกเรียวไปนิด ถ้าใช้กับลำโพงที่ไม่ขี้ฟ้องมากจะไม่ค่อยรู้สึกครับ
C-inputมีผลต่อเสียงใกล้ๆ กับ C-filter ผมลองชนิด Electro มาหลายตัวหลายยี่ห้อ พบว่าเสียงที่ออกมาเล็กและเรียว ชิ้นดนตรีมีขนาดเล็กลงกว่าที่เคยได้ยิน สุดท้ายจบลงด้วยดีกับ C-Polypropylene ยี่ห้อ SCR ให้ดุลย์เสียงที่ใช้ได้เลย ยี่ห้อ ASC ได้ความสดใสเพิ่มเข้ามา ...... ซีตัวนี้เลือกจ่ายกันไปตามกำลังทรัพย์นะครับ
ResistorR ในวงจรนี้มีผลต่อเกรนของเนื้อเสียงและความสว่าง ถ้าลำโพงที่ใช้ไม่ถึงก็จะฟังยาก
-Rf 22k ตัวนี้ถ้าใช้ Metal film ของ Royal เสียงจะออกคมและเรียว แต่ถ้าเป็น Dale เสียงจะไม่เรียวแต่จะออกโทนสว่าง สุดท้ายผมใช้ Carbon 5% 1/8W ของ Royal บัดกรีติดกับขา IC เนื้อเสียงฟังสบายดี
-Rg 680 Ohm ถ้าใช้ Carbon โทนเสียงจะอุ่น ถ้าใช้ Metal film เสียงจะสดใส เลือกตามสไตล์ที่ชอบครับ
-Ri 22k ผมว่า Dale ให้เสียงที่ชัดเจนดี แต่ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ carbon 5% 1/2W
-Rz 10 Ohm ถ้าเลือกได้ก็ใช้ Metal oxide หรือจะใช้ carbon 5% 1/2W ไปเลยก็ได้
Diodeผมลองพวก Fast recovery อย่าง MUR, MR ของ ON เสียงก็มีรายละเอียดและต่อเนื่องดี แต่ผมชอบเสียงไดโอดเม็ดถั่วพวก byv มากว่า เสียงดนตรีที่ออกมาอิสระกว่า ส่วนไดโอด Rectifier ธรรมดาลองแล้ว (ทั้งตัวเดี่ยวและบริดจ์ตัวใหญ่) ความมันในอารมณ์สู้พวก Fast ไม่ได้ครับ ...... จุดนี้ลองเล่นกันได้ครับ
หม้อแปลงหม้อแปลงมีผลพอสมควร เทอรอยด์บางตัวให้เสียงที่ไม่น่าฟังออกอั้นๆ ก็มี แต่บางตัวก็ผ่าน แต่กับ EI ตลาดๆ อย่าง VRK 24-0-24 5A เสียงใช้ได้เลย EI ยี่ห้อ BS ก็ใช้ได้ (แต่ตัวของผมมันร้อนหน่อยๆ) ลองกับ C-core ของ TRON ก็ให้เสียงที่ดีไม่อั้น ......... ใจผมชอบหม้อแปลง EI ครับ
Volumeโวลลุ่มของเกนโคลนมีผลต่อเสียงพอสมควรครับ ทั้งค่าและชนิด ผมเอาของ Alpha มาลอง พบว่าค่า 20k ให้ดุลย์เสียงดีสุด ...ค่าต่ำ กลางจะสว่าง ค่าสูง รายละเอียดจะจม (10k, 20k, 50k, 100k)
กรณีของ Step atten ผมลองที่ 24 step R-dale ค่า 100k ให้เสียงที่ชัดและใสกว่า Alpha ทุกค่า จากข้อมูลที่เทสไว้ก่อนหน้านี้ ถ้าได้ Step atten ดีๆ ที่ค่าแถวๆ 20-30k เสียงควรจะออกมาดีกว่าค่า 100k
ตัวกล่องIC LM3875TF ขณะตอนที่ร้อน เสียงออกมาจะสว่างและให้รายละเอียดที่ดี ถ้าจะทำเพื่อฟังแบบสุดๆ ก็ต้องใช้กล่องและแผ่นระบายความร้อนที่ไม่ต้องใหญ่มาก เพื่อให้อุณหภูมิที่ตัวเครื่องนั้นสูงสักหน่อย ..... ใจผมไม่อยากให้ร้อนเกิน 60 องศา เพราะเป็นห่วงอายุการใช้งานของไอซี ....... แต่ถ้าหากทำเพื่อฟังผ่อนคลายละก็ เลือกแผ่นระบายความร้อนใหญ่ๆ หน่อยให้อุณหภูมิตอนทำงานอยู่แถวๆ 40 องศา กำลังดีครับ
ส่วนเรื่องตัวกล่อง ผมแนะนำกล่องอลูมิเนียม เนื่องจากเท่าที่เล่น LM3875 ครั้งนี้รู้สึกว่าเสียงมันเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าใกล้สนามแม่เหล็กอย่างที่หม้อแปลงปล่อยออกมา ถ้าจะให้ดีก็แยกผม้อแปลงกับแผงวงจรคนละกล่องไปเลยครับ
ผมขอจบการทดลอง LM3875 ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ และผมหวังว่าข้อมูลที่ผมทำมาคงจะมีประโยชน์กับผู้ที่กำลังจะสร้างหรือต่อยอดบ้างไม่มากก็น้อย ส่วนตัวเครื่องที่ผมทำไว้นั้นจะนำขึ้นให้ดูในห้อง Solid state เร็วๆ นี้ครับ