www.diyaudiovillage.net

Source & Line amp & Amplifier Project ผลงาน DIY => Vacuum Tubes => ข้อความที่เริ่มโดย: Wera_A ที่ 12 กันยายน 2014, 12:28:42 PM

หัวข้อ: ไฟจุดไส้หลอด
เริ่มหัวข้อโดย: Wera_A ที่ 12 กันยายน 2014, 12:28:42 PM
 [chick1]มีแนวคิดว่าจะเอาไส้หลอดมาต่ออันดับกัน  ยกตัวอย่าง el 34 จุดไส้หลอด 6.3 v ac 1.6a ผมจะเอามาอันดับไส้หลอดกัน 4หลอดโดยใช้ไฟ ac 25v 2.5a ไส้หลอดความต้านทานต่ำยิ่งเอามาขนาดกันมากเท่าไหรยิงกินกระแสมากตามไปด้วย (คิดเอาเอง) [chick-read] เหตุที่ทำแบบนี้เพราะต้องการลดความร้อนของหม้อ และราคาค่าหม้อ [afraid] แล้วทำไมเขาไม่ทำกัน มันมีข้อดีขอเสียอย่างไร ครับ  [confused-face]
หัวข้อ: Re: ไฟจุดไส้หลอด
เริ่มหัวข้อโดย: tan230311 ที่ 12 กันยายน 2014, 01:16:36 PM
ลองเขียนให้ดูหน่อยครับ  เผื่อจะได้ทำตามบ้าง   [chick-confuse]
หัวข้อ: Re: ไฟจุดไส้หลอด
เริ่มหัวข้อโดย: Wera_A ที่ 12 กันยายน 2014, 01:38:17 PM
หรือกว่าไส้หลอดจะวอร์มได้ที่ใช้เวลา 4 เท่า [shocked-raccoon]


 (http://upic.me/i/xb/dscn8637.jpg) (http://upic.me/show/52688466)
หัวข้อ: Re: ไฟจุดไส้หลอด
เริ่มหัวข้อโดย: Wera_A ที่ 12 กันยายน 2014, 01:46:21 PM
เมื่อก่อนเคยไปเห็นเครื่องเสียงหลอดกลางแปลง (หนังกลางแปลง)(บางท่านก็เรียกว่าเครื่องหลอดงานวัด)เขาก็ใช้การอันดับไฟจุดไส้หลอด เครื่องเสียงหลอดบ้านเขาไม่นิยมกันหรือครับ [chick5]
หัวข้อ: Re: ไฟจุดไส้หลอด
เริ่มหัวข้อโดย: kmin ที่ 12 กันยายน 2014, 01:58:24 PM
 เวลาหลอดร้อนก็ใช้เท่าเดิมครับ  ผมก็เคยใช้หม้อ 12 โวลท์นะ แต่อนุกรมถอดออกหลอดนึงก็ดับหมด ถ้าพันร่วมลูกแล้ว ขดไฟต่ำกระแสสูงนี่ละตัวปัญหาเลย ทั้งแพงและทำให้หม้อแปลงร้อน ลวดมันเส้นใหญ่ [Tongue-11]
หัวข้อ: Re: ไฟจุดไส้หลอด
เริ่มหัวข้อโดย: RuNgPuEnGⓇ ที่ 12 กันยายน 2014, 02:48:46 PM
 [look-for-11] คงกลัวหลอดใดหลอดหนึ่งใส้ขาด จะทำให้ที่เหลือดับไปด้วย  [frightened-11]
 จุดแบบไหนก็ใช้ W เท่าเดิม
(V*I)*4 = (6.3*1.5)*4 = 9.15*4    = 37.8
(V*4)*I = (6.3*4)*1.5 = 25.2*1.5 = 37.8

แต่น้าจะใช้ 25.2*2.5 จำนวน 1 ขด
เทียบได้กับ 6.3 V 2.5A  จำนวน 4 ขด

และขนาดหม้อก็เท่าเดิมไม่ว่าจะเอาไฟออกแบบไหนเพราะ W เท่ากัน

 และน้าwera_a คิดจะจุดด้วย AC หรือ DC ครับ

Filament ......Vf 6.3 Volts / If 1.5 Ampere / Indirect / Parallel, (AC/DC) /
หัวข้อ: Re: ไฟจุดไส้หลอด
เริ่มหัวข้อโดย: darkman ที่ 12 กันยายน 2014, 03:31:58 PM
มายืนยันตามที่คุณรุ่งบอกครับ  สุดท้าย  การคำนวณ มันเอา V ไปคูณ A  มันก็กลับมาเท่ากันแหละครับ

[look-for-11] คงกลัวหลอดใดหลอดหนึ่งใส้ขาด จะทำให้ที่เหลือดับไปด้วย  [frightened-11]
 จุดแบบไหนก็ใช้ W เท่าเดิม
(V*I)*4 = (6.3*1.5)*4 = 9.15*4    = 37.8
(V*4)*I = (6.3*4)*1.5 = 25.2*1.5 = 37.8

แต่น้าจะใช้ 25.2*2.5 จำนวน 1 ขด
เทียบได้กับ 6.3 V 2.5A  จำนวน 4 ขด

และขนาดหม้อก็เท่าเดิมไม่ว่าจะเอาไฟออกแบบไหนเพราะ W เท่ากัน

 และน้าwera_a คิดจะจุดด้วย AC หรือ DC ครับ

Filament ......Vf 6.3 Volts / If 1.5 Ampere / Indirect / Parallel, (AC/DC) /
หัวข้อ: Re: ไฟจุดไส้หลอด
เริ่มหัวข้อโดย: serikul ที่ 12 กันยายน 2014, 03:41:33 PM
เคยเห็นวงจรภาคจ่ายไฟจุดไส้หลอดของเครื่องปรีแอมป์ Dynaco Pas-3 ใช้ 12AX7 ภาคโฟโน 2 หลอด ภาคปรี 2 หลอด เค้าอนุกรมไส้หลอดเป็นชุดละ 2 หลอด 25.2 V.  หม้อแปลงไฟ 12V 800mA จุดไฟเลี้ยงไส้หลอด 12X4 แล้วทำดับเบิ้ลโวทล์เตจเป็น 24V เพื่อไปจุดไส้หลอด 12AX7  อีกด้วย  คิดว่าคงมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย เพราะไม่งั้นเครื่องระดับนี้คงไม่กล้าเอามาใช้  ทีแรกเห็นยังสงสัยทำไมหม้อแปลงลูกนิดเดียว
หัวข้อ: Re: ไฟจุดไส้หลอด
เริ่มหัวข้อโดย: Wera_A ที่ 12 กันยายน 2014, 04:00:19 PM
[look-for-11] คงกลัวหลอดใดหลอดหนึ่งใส้ขาด จะทำให้ที่เหลือดับไปด้วย  [frightened-11]
 จุดแบบไหนก็ใช้ W เท่าเดิม
(V*I)*4 = (6.3*1.5)*4 = 9.15*4    = 37.8
(V*4)*I = (6.3*4)*1.5 = 25.2*1.5 = 37.8

แต่น้าจะใช้ 25.2*2.5 จำนวน 1 ขด
เทียบได้กับ 6.3 V 2.5A  จำนวน 4 ขด

และขนาดหม้อก็เท่าเดิมไม่ว่าจะเอาไฟออกแบบไหนเพราะ W เท่ากัน

 และน้าwera_a คิดจะจุดด้วย AC หรือ DC ครับ

Filament ......Vf 6.3 Volts / If 1.5 Ampere / Indirect / Parallel, (AC/DC) /
ผมจุดด้วย ac ครับ ใช่ครับน้า กำลังวัตต์มันเท่ากัน แต่ที่ผมสงสัยเครื่องหลอดบ้าน (se pse  pp  ppp) ทำไม่เขาไม่ทำกัน และมันมีผลดีผลเสียงอย่างไรเกียวกับคุณภาพของเสียง
หัวข้อ: Re: ไฟจุดไส้หลอด
เริ่มหัวข้อโดย: Wera_A ที่ 12 กันยายน 2014, 04:04:17 PM
เคยเห็นวงจรภาคจ่ายไฟจุดไส้หลอดของเครื่องปรีแอมป์ Dynaco Pas-3 ใช้ 12AX7 ภาคโฟโน 2 หลอด ภาคปรี 2 หลอด เค้าอนุกรมไส้หลอดเป็นชุดละ 2 หลอด 25.2 V.  หม้อแปลงไฟ 12V 800mA จุดไฟเลี้ยงไส้หลอด 12X4 แล้วทำดับเบิ้ลโวทล์เตจเป็น 24V เพื่อไปจุดไส้หลอด 12AX7  อีกด้วย  คิดว่าคงมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย เพราะไม่งั้นเครื่องระดับนี้คงไม่กล้าเอามาใช้  ทีแรกเห็นยังสงสัยทำไมหม้อแปลงลูกนิดเดียว
ขอบคุณครับน้า มีวงจรมาให้ดูด้วย [huge-thumbs-up]
หัวข้อ: Re: ไฟจุดไส้หลอด
เริ่มหัวข้อโดย: serikul ที่ 13 กันยายน 2014, 12:25:18 PM
นอกจากไฟจุดไส้หลอดแล้ว ด้านไฟสูง ก็เคยเห็นมีในเครื่องปรีโฟโน MM MC.Low ยี่ห้อ Project จำรุ่นไม่ได้ มีหลอด 12AX7 ผลุบ ๆ โฟล่ ๆ อยู่ 2 หลอด  ภาคจ่ายไฟอยู่นอกกล่องแต่เป็นแบบหม้อแปลงเล็ก ๆ 24 V.AC. แบบเสียบปลั๊กผนัง จุดไส้หลอด 2 หลอดได้ไม่มีปัญหา แต่ผมสงสัยว่าเอาไฟสูงจากไหนไปเลี้ยงวงจรหลอด  ค้นหาวงจรในเน็ทก็ไม่มี สุดท้ายทนสงสัยไม่ไหวเลยเปิดฝากล่องออกมาดู  จึงเห็นว่าเค้าใช้ไดโอดทำงานร่วมกับ C Filter เป็นพวงเลยครับ ประมาณ 7 ชั้น ทำไฟจาก 24V.AC. ได้ไฟ DC.เป็นร้อยโวลท์ (จำไม่ได้แน่นอน) ลอกวงจรลงกระดาษไว้กะว่าจะลองทำใช้ดูบ้าง แต่ตอนนี้ยังหาไม่เจอ  เลยไม่มีรูปมาแสดง ลองจินตนาการไปพลาง ๆ ก่อนนะครับ
หัวข้อ: Re: ไฟจุดไส้หลอด
เริ่มหัวข้อโดย: wan2012 ที่ 13 กันยายน 2014, 01:10:06 PM
ผมเห็นแอมป์หลอดงานวัด ส่วนใหญ่ภาคปรี เค้าใช้ อนุกรมใส้หลอดครับ 12ax7 5 หลอด อนุกรมกัน ได้มาทีแรกผมใส่หลอดเดียวเลย กะว่าใช้เฉพาะภาคแอมป์ เสียบไปหลอดเดียวไฟไม่ติด งง อยู่พักใหญ่นึกว่าหลอดเสีย  [yellow-lol] [yellow-lol] [yellow-lol]
หัวข้อ: Re: ไฟจุดไส้หลอด
เริ่มหัวข้อโดย: RuNgPuEnGⓇ ที่ 13 กันยายน 2014, 09:15:57 PM
   ผมว่าน่าจะ เป็นเรื่องของต้นทุนในการผลิต อีกอย่าง หลอดใช้กระแสไม่มาก การทวีแรงดัน ก็ช่วยลดต้นทุน ส่วนพวกหลอด กระแสสูงๆคงไม่เหมาะ เพราะกระแสที่หม้อแปลงจ่ายให้คงมากโข เช่น 25.2*1.5 = 37.8  จะต้องใช้ ขด 12Vac ที่  3.15A และต้องเผื่อกระแสอีก คง 3.5A-4A เป็นอย่างน้อย

และอนุกรมไส้หลอด หากฟังอยู่ดีๆ หลอดใดหลอดหนึ่ง ไส้ขาด จะพาให้หลอดอื่นๆใน ชุดอนุกรมใ้พังไปด้วย เพราะมีไฟสูงที่ P แต่ใส้หลอดไม่ทำงาน  แทนที่จะปลี่ยนแค่หลอดเดียว อาจจะต้องเปลี่ยนยกฝูง

ลองอ่านเวปนี้ดู  http://electronicspocketbook.blogspot.com/2014/02/voltage-multiplier-circuit-summary.html (http://electronicspocketbook.blogspot.com/2014/02/voltage-multiplier-circuit-summary.html)

ส่วนงาน Diy คงไม่มีท่านไหนอยากลดต้นทุน เล็กๆน้อยๆ ส่วนใหญ่จะใส่กันเต็มๆ น้าว่าถูกไหม  [yellow-lol]
หัวข้อ: Re: ไฟจุดไส้หลอด
เริ่มหัวข้อโดย: CreÃte_Lek ♫ ที่ 13 กันยายน 2014, 09:20:52 PM
 ถูกต้องครับ  งานเค้าปล่อยออกไปแล้วไม่ต้องตามไปรับผิดชอบ ถ้าจะคุยกันเรื่อง performance แบบแยกที่เราทำเล่นกันอยู่นี่แหละดีที่สุดผมได้เคยทดลองมาหลากหลายวิธีเห็นผลดีจริงตามที่กล่าวไว้  แนะนำลองดูให้รู้กับตัวเองเลยครับ เห็นผลต่างอย่างชัดเจน  ไม่ต้องไปเชิญเซียนที่ไหนมาฟัง เดี๋ยวจะฟังไม่ออก แล้วพาลติโน่นนี่นั่น จนหลุดประเด็นไปอีกครับ   [embarrassed]