www.diyaudiovillage.net
Source & Line amp & Amplifier Project ผลงาน DIY => Vacuum Tubes => ข้อความที่เริ่มโดย: saichon ที่ 25 กันยายน 2019, 09:14:00 PM
-
พอดีผมได้หลอด YL1260 มา 1 คู่ อยากจะลองเอามาทำแอมป์ดูครับ หาวงจรตามอินเตอร์เน็ตแล้วไม่มีข้อมูลวงจรเลย เลยอยากจะออกแบบวงจรเองด้วยความรู้อันน้อยนิดที่ผมมีก็กลัวว่าวงจรจะทำงานไม่ได้เลยตั้งกะทู้นี้สำหรับสอบถามพี่ๆน้าๆที่มีความรู้คอยชี้แนะ แนะนำแนวทางการออกแบบหน่อยครับ
หลอดหน้าตาประมาณนี้ครับ
(http://upic.me/i/0a/s__7503880.jpg) (http://upic.me/show/62500127)
ช่วยสอนมือใหม่หน่อยน่ะครับ [finger16] [finger16]
-
Spec ของหลอด YL1260 ครับ
(http://upic.me/i/j2/yl12602.jpg) (http://upic.me/show/62500128)
-
กราฟ Triode curve ของ YL1260 ขออาจารย์ wchatchai มาครับ
(http://upic.me/i/0v/yl1260-triode-connected.jpg) (http://upic.me/show/62500129)
-
รอดูด้วยครับ [finger2]
-
ได้กราฟมาลองลาก Load Line ดู ตามที่หาอ่านข้อมูลตาม Internet และที่อาจารย์ Cijtele52 สอนใว้ในเว็ปนี้ได้ออกมาประมาณนี้
(http://upic.me/i/jb/yl1260-triode-connected3.5k.jpg) (http://upic.me/show/62500130)
แต่ติดปัญหาที่ Gain ขยายซีก+ และ - ต่างกันมาก ยังหาจุดที่ Gain ขยายเท่าๆกันไม่ได้เลย [yemo01] เพราะดูจากกราฟแล้วการขยายของหลอดช่วงแรกๆมากกว่าช่วงหลังๆเยอะครับ เลยไม่รู้จะแก้อย่างไรดี
-
ลองคำนวณจากกราฟที่ลากจะได้ค่าประมาณนี้ครับ
(http://upic.me/i/zk/11capture.jpg) (http://upic.me/show/62500131)
-
ผมขอสอบถามน้าๆที่เคยออกแบบ ค่า Gain ที่ขยายไม่เท่ากัน ผมสามารถแก้ไขด้วยการเลือกหลอด Drive มาชดเฉยได้ไหมครับ และที่ผมสงสัยในการออกแบบต้องคำนึงถึง ค่า Vg2 ด้วยไหมครับ
-
รอดูด้วยครับ [finger2]
ผมไม่เคยออกแบบเลยครับน้า ปกติลอกวงวรของน้าเล็กอย่างเดียวเลย [yemo06]
ผมหาอ่านข้อมูลตามเว็ปเก่าๆส่วนใหญ่ก็รูปภาพไม่ขึ้นหมดแล้วครับ
-
https://tubedata.jp/sheets/084/y/YL1260.pdf
-
น้าเล็กครับปกติเขาจะใช้ค่านี้ หรือค่า Maximum ในการออกแบบครับน้า
(http://upic.me/i/4w/0capture2.jpg) (http://upic.me/show/62500138)
-
เพราะตอนนี้ผมกลัวออกแบบจุดการทำงานเกิน Spec หลอดครับ
-
ทุกจุดอย่าให้เกินค่า max ส่วนใหญ่จะเลือกออกแบบไม่เกิน 70% ของ PD
-
ทำไมถึงเลือก load line 3.5K
-
ทำไมถึงเลือก load line 3.5K
ตอนแรกผมจะใช้ 2k เพราะ Ra ประมาณ 500 อ่านในเน็ตเขาแนะนำ 2.5-3Raครับ แต่ลากกราฟแล้วที่ 1.5k 2k 2.5k แล้ว gain มันต่างกันมากเลยครับ ก็เลยลองค่า 3.5k มันก็ต่างน้อยลงครับ. ขอคำชีแนะด้วยครับน้า
-
เอามาจากไหนครับ Ra 500 ohm
-
(https://i.ibb.co/H2P8Fgk/0capture21.jpg) (https://ibb.co/Mh102N3)
อันนี้คือค่าอะไรครับ
-
เอามาจากไหนครับ Ra 500 ohm
(http://upic.me/i/yi/inkedcapture3_li.jpg) (http://upic.me/show/62500139)
อันนี้ใช้ไม่ได้ใช่ไหมครับ
-
(https://i.ibb.co/H2P8Fgk/0capture21.jpg) (https://ibb.co/Mh102N3)
อันนี้คือค่าอะไรครับ
internal resistance ครับน้า ตอนแรกผมไม่ได้อ่านนึกว่า R เกี่ยวกับ Input ครับ [04snail]
-
ต้องกลับไปตั้งหลักใหม่ก่อนครับ [28snail] เดี๋ยวจะเอามาให้อาจารย์ตรวจใหม่ครับ
-
ขีดเส้น PD ของหลอดบนกราฟไตรโอดที่ อาจารย์ให้มาครับ ภายใต้เส้น PD ทำงานได้หมด
-
ขีดเส้น PD ของหลอดบนกราฟไตรโอดที่ อาจารย์ให้มาครับ ภายใต้เส้น PD ทำงานได้หมด
ขอบคุณมากครับน้าเล็ก
-
มาต่อกันหน่อยครับ เบื้องต้นผมลองลาก Load Line Z=2K ดู เพื่อจะศึกษาหาขอมูลต่างๆเพื่อเป็นความรู้ดูก่อนว่าผมเข้าใจถูกไหม
(http://upic.me/i/3f/yl1260.jpg) (http://upic.me/show/62501108)
-
ขอแปะสูตรไว้ก่อนครับ
อัตราขยายหรือ u (มิว, mu) จากสูตร
u = Gm x Rp
Gm คือ ค่า Transconductance หรืออัตราการเปลี่ยนแปลงของกระแส เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง voltage ที่ input, Gm มีหน่วยเป็น Siemen หรือสมัยก่อนคือ Mho
Rp คือ ค่าความต้านทานภายในของหลอด
-
คือผมจะหาค่าหา plate resistance หรือ Rp
วิธีการหาคือ ลากเส้นสัมผัสเส้น grid line ณ.จุดที่เราต้องการ bias แล้วหาค่า dV/dI ใช้ไหมครับ ผมไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจถูกไหม [yemo01]
-
(http://upic.me/i/k0/yl1260-2.jpg) (http://upic.me/show/62501203)
Rp= 20V/40mA= 500 ohm อันนี้ผมเข้าใจถูกไหมครับ หรือเอาความค่าความต่างของ Vg มาคิดครับเพราะหาๆอ่านมาตามเว็ปต่างๆ รูปภาพประกอบมันหมดอายุไปหมดแล้วเลยไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจถูกไหมครับ
-
ต่อมาการหา Gm จากคำจำกัดความของ Gm คือ
กระแสที่เปลี่ยนไป โดย voltage ที่ plate คงที่ หารด้วย voltage ที่เปลี่ยนไปของ grid โดยมีหน่วยเป็น mho หรือ siemens
(http://upic.me/i/is/yl1260-3.jpg) (http://upic.me/show/62501224)
ผมลากเส้นได้ตามนี้ครับ Vg1=-40 => Vg1=-50
Gm= 205/10 = 20.5mS ถูกไหมครับ
[yemo07]
-
ส่วนค่า อัตราขยายหรือ u (มิว, mu) รอให้ 2 ค่าด้านบนถูกก่อนค่อยไปต่อครับ
-
เท่าที่ดูคำนวนถูกแล้วครับ
-
เท่าที่ดูคำนวนถูกแล้วครับ
ขอบคุณครับ ผมกลัวเข้าใจผิดครับเพราะไปหาอ่านตามที่อาจารย์เขียนไว้ตามเว็ปต่างๆ แต่ส่วนใหญ่ไม่มีรูปเหลือเลยครับ ผมมาเล่นช้าไปหน่อยเลยหาข้อมูลยากนิดหน่อย [elf14]
-
[yemo02] เยี่ยมครับผมยังคำนวณไม่เป็นเลยครับ แอบมาอ่านยังงงๆอยู่เลย
-
[yemo02] เยี่ยมครับผมยังคำนวณไม่เป็นเลยครับ แอบมาอ่านยังงงๆอยู่เลย
ผมเพิ่งกำลังจะหัดคลานครับน้ารุ่ง [elf14]
-
([url]http://upic.me/i/k0/yl1260-2.jpg[/url]) ([url]http://upic.me/show/62501203[/url])
Rp= 20V/40mA= 500 ohm อันนี้ผมเข้าใจถูกไหมครับ หรือเอาความค่าความต่างของ Vg มาคิดครับเพราะหาๆอ่านมาตามเว็ปต่างๆ รูปภาพประกอบมันหมดอายุไปหมดแล้วเลยไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจถูกไหมครับ
ผมอธิบายการหา Rp จากกราฟตามความเข้าใจของผมน่ะครับ เผื่อใครอยากลองศึกษาทำตามดูครับ
การหา Rp,Ra ความต้านทานของ Plate ณ จุดทำงานที่เรากำหนด ในที่นี่ผมกำหนดจุดทำงานคือ Va = 448 ,Vg=-40 ,Ia=330mA ครับ
ขั้นตอนการหาก็คือลากเส้นสัมผัสกับ grid line (เส้นกราฟของ Vg ที่เรากำหนดใช้งาน) ให้ลากเส้นทับเส้น grid line มากที่สุดครับ จากนั้นกำหนดจุดให้เกิดเป็นรูปสามเหลี่ยม หาความต่างของแรงดันที่เกิดขึ้นบนรูปสามเหลี่ยม(dV)/ความต่างของกระแส(dI) จะได้ความต้านทาน Plate ณจุดนั้นครับ
สูตร Rp=dV/dI มองง่ายๆก็คือกฎของโอห์ม ครับ V=IR ,R=V/I แต่ความต้านทานแต่ละจุดจะเปลี่ยนเรื่อยๆครับเราเลยต้องกำหนดเส้นสัมผัสขึ้นมาให้มีระยะสั้นเพื่อจะเกิดค่าความคาดเคลื่อนน้อยที่สุดครับ
ถ้ามองดีๆคือการหาค่าความชัน (slope) ของกราฟ grid จุดนั้นๆครับ แต่ค่า slope = dI/dV = 1/Rp , Rp= 1/slope ครับ(กรณีที่กราฟแกน x=V แกน y=I ครับ)
ลองแทนค่าจากรูปของผมคือ dV=20V ,dI=40mA=0.04A Rp=20/0.04=500 ohm ครับ
ผิดถูกต้องขออภัยครับ
-
ต่อมาการหา Gm จากคำจำกัดความของ Gm คือ
กระแสที่เปลี่ยนไป โดย voltage ที่ plate คงที่ หารด้วย voltage ที่เปลี่ยนไปของ grid โดยมีหน่วยเป็น mho หรือ siemens
([url]http://upic.me/i/is/yl1260-3.jpg[/url]) ([url]http://upic.me/show/62501224[/url])
ผมลากเส้นได้ตามนี้ครับ Vg1=-40 => Vg1=-50
Gm= 205/10 = 20.5mS ถูกไหมครับ
[yemo07]
การหา Gm ก็คือเราจะให้แรงดัน Plate คงที่ในที่คือจุดที่เรากำหนดไว้ คือ Va=448V จากนั้นเราดูเส้นที่ตัด grid line จะนวน 2 เส้นคือเส้นที่เรากำหนด Vg=-40 และอีกเส้น Vg=-50 แล้วดูกระแสแกน Y ว่าต่างกันเท่าไรครับ
ในรูปผมคือ Vg0 จาก -40 => -50 ความต่างของ d(Vg)=-40-(-50)=10V กระแสต่างคือ d(Ia)=205mA
Gm สุตรจะตรงข้ามกับ R คือ Gm = d(Ia)/d(Vg)= 205/10=20.5mS ครับ
ผิดถูกขออภัยครับ
-
ต่อมาหาอัตราขยายหรือ u (มิว, mu) จากสูตร
u = Gm x Rp
= 0.0205 x 500
= 10.25
ผมแค่ฝึกคำนวนค่าต่างๆเผื่อนำไปต่อยอดออกแบบวงจรปรีแอมป์ เพราะค่าต่างๆพวกนี้ผมไม่เคยรู้ที่มาเลยอยากลองศึกษาดูครับ
ต่อไปหาจุดทำงานของวงจรต่อดีกว่าครับ
-
สอบถามน้าๆหน่อยครับ
ค่า Vg2o กับ Vg2 ผมสามารถใช้ Vg2o ออกแบบได้ไหมครับ ผมลองไปแปลมา Vg2o คือ Screen grid voltage cold ความหมายมันประมาณไหนครับ
ขอบคุณครับ
(http://upic.me/i/td/yl12603.jpg) (http://upic.me/show/62501571)
-
สอบถามน้าๆหน่อยครับ
ค่า Vg2o กับ Vg2 ผมสามารถใช้ Vg2o ออกแบบได้ไหมครับ ผมลองไปแปลมา Vg2o คือ Screen grid voltage cold ความหมายมันประมาณไหนครับ
ขอบคุณครับ
([url]http://upic.me/i/td/yl12603.jpg[/url]) ([url]http://upic.me/show/62501571[/url])
ตอนแรกกังวลว่า จะออกแบบเกิน Vg2 ครับแต่ตอนนี้ไปหาอ่านมาว่า การต่อแบบ triode g2 จะต่อเข้ากับเพลทตอนนี้ g2มันก็เปรียบเสมือนเพลทที่รับอีเลคตรอนจาก cathode เหมือนเป็นการเพิ่มพื้นที่เพลท กระแสหรือ dissipation ก็จะเป็นสัดส่วนกับเพลทซึ่ง critical มันจะไม่ได้อยู่ที่แรงดันต่ำๆแล้วเพราะเมื่อเพลทแรงดันต่ำ g2 ก็จะต่ำลงด้วย ผมเข้าใจถูกไหมครับ
-
หลังจากนั้งลาก Load Line จนงงไปหมด
ผมก็เลือกจุดทำงานดังรูปครับ
(http://upic.me/i/rt/yl12604.jpg) (http://upic.me/show/62501610)
ลองลากแบบ Z สูงขึ้นไฟ Va สูงขึ้น กราฟดูการขยายซีก+- ดีขึ้นนิดหน่อยแต่ต้องแรกมากับการใช้ Pa ที่สูงขึ้นผมเลยเลือกค่าประมาณนี้ครับ
(http://upic.me/i/n5/yl12605.jpg) (http://upic.me/show/62501611)
[yemo33] [yemo33]
-
ต่อมาจะมาออกแบบวงจร Drive จะดูว่าจุดที่ออกแบบของหลอด Power จะทำงานได้ไหม ผมจะลองศึกษาจากวงจรนี้ครับ เพราะกราฟของ 13E1 มีการขยายแบบคล้ายๆกัน
(http://upic.me/i/39/13e1_se_6.gif) (http://upic.me/show/62501612)
[chick-read] [chick-read]
-
สอบถามน้าๆหน่อยครับ
ค่า Vg2o กับ Vg2 ผมสามารถใช้ Vg2o ออกแบบได้ไหมครับ ผมลองไปแปลมา Vg2o คือ Screen grid voltage cold ความหมายมันประมาณไหนครับ
ขอบคุณครับ
ตอนแรกกังวลว่า จะออกแบบเกิน Vg2 ครับแต่ตอนนี้ไปหาอ่านมาว่า การต่อแบบ triode g2 จะต่อเข้ากับเพลทตอนนี้ g2มันก็เปรียบเสมือนเพลทที่รับอีเลคตรอนจาก cathode เหมือนเป็นการเพิ่มพื้นที่เพลท กระแสหรือ dissipation ก็จะเป็นสัดส่วนกับเพลทซึ่ง critical มันจะไม่ได้อยู่ที่แรงดันต่ำๆแล้วเพราะเมื่อเพลทแรงดันต่ำ g2 ก็จะต่ำลงด้วย ผมเข้าใจถูกไหมครับ
เข้าใจถูกครับ แต่ G2 ของหลอดแต่ละเบอร์ก็ทนได้ไม่เหมือนกัน บางหลอดบอกทนได้ 250V แต่เอามาต่อเป็น triode ใช้ไฟ 400V ก็เห็นทำงานได้เป็นปีๆ บางหลอดบอก 250V แต่พอใช้กับไฟ 350V ซักพักก็พังก็มี ใช้วิธีหาข้อมูลจากประสบการณ์ของคนอื่นๆที่ใช้หลอดเบอร์เดียวกันก็ช่วยได้ว่าควรจะใช้งานมันยังไงครับ
-
ลองลากดูใหม่ครับ
(http://upic.me/i/ud/yl12606.jpg) (http://upic.me/show/62501613)
(http://upic.me/i/p1/yl12607.jpg) (http://upic.me/show/62501614)
การขยายดูดีขึ้นครับ
-
สอบถามน้าๆหน่อยครับ
ค่า Vg2o กับ Vg2 ผมสามารถใช้ Vg2o ออกแบบได้ไหมครับ ผมลองไปแปลมา Vg2o คือ Screen grid voltage cold ความหมายมันประมาณไหนครับ
ขอบคุณครับ
ตอนแรกกังวลว่า จะออกแบบเกิน Vg2 ครับแต่ตอนนี้ไปหาอ่านมาว่า การต่อแบบ triode g2 จะต่อเข้ากับเพลทตอนนี้ g2มันก็เปรียบเสมือนเพลทที่รับอีเลคตรอนจาก cathode เหมือนเป็นการเพิ่มพื้นที่เพลท กระแสหรือ dissipation ก็จะเป็นสัดส่วนกับเพลทซึ่ง critical มันจะไม่ได้อยู่ที่แรงดันต่ำๆแล้วเพราะเมื่อเพลทแรงดันต่ำ g2 ก็จะต่ำลงด้วย ผมเข้าใจถูกไหมครับ
เข้าใจถูกครับ แต่ G2 ของหลอดแต่ละเบอร์ก็ทนได้ไม่เหมือนกัน บางหลอดบอกทนได้ 250V แต่เอามาต่อเป็น triode ใช้ไฟ 400V ก็เห็นทำงานได้เป็นปีๆ บางหลอดบอก 250V แต่พอใช้กับไฟ 350V ซักพักก็พังก็มี ใช้วิธีหาข้อมูลจากประสบการณ์ของคนอื่นๆที่ใช้หลอดเบอร์เดียวกันก็ช่วยได้ว่าควรจะใช้งานมันยังไงครับ
ขอบคุณครับอาจารย์ ผมคงเลือกใช้ค่าใกล้ Vg2 ดีกว่าครับ ว่าแต่ Vg2o มันใช้กรณีไหนครับอาจารย์ ผมเดาว่าที่อากาศหนาวเย็นรึป่าวครับ ผมเอาไปแปล ใน google มาเป็นถาษาอังกฤษว่า Screen grid voltage cold
(http://upic.me/i/td/yl12603.jpg) (http://upic.me/show/62501571)
-
ไม่ทราบเหมือนกันครับ ถ้าจะให้เดาอาจจะเดาผิดน่ะครับ [yemo21]
-
ไม่ทราบเหมือนกันครับ ถ้าจะให้เดาอาจจะเดาผิดน่ะครับ [yemo21]
[yemo25]
อาจารย์ครับวงจรส่วนปรีด้านหน้าแบบนี้เขาคิดและลาก Load Line กันอย่างไรครับ ผมหาข้อมูลการออกแบบไม่ได้เลยครับ [elf14]
(http://upic.me/i/39/13e1_se_6.gif) (http://upic.me/show/62501612)
-
ภาค EL32 เล็งๆไว้แถวๆนี้ครับ รอคำนวนส่วนหน้าเป็นก่อนค่อยมาออกแบบส่วนนี้ต่อ
(http://upic.me/i/tt/yl12609.jpg) (http://upic.me/show/62501617)
-
http://www.valvewizard.co.uk/mufollower.html (http://www.valvewizard.co.uk/mufollower.html)
-
[url]http://www.valvewizard.co.uk/mufollower.html[/url] ([url]http://www.valvewizard.co.uk/mufollower.html[/url])
ขอบคุณมากครับน้าเล็ก
ผมเข้าไปอ่านที่น้าเคยแปะไว้ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ งงๆ [yemo01]
http://www.fetaudio.com/wp-content/uploads/2003/09/Mu-Stage.pdf (http://www.fetaudio.com/wp-content/uploads/2003/09/Mu-Stage.pdf)
-
จากที่อ่านแบบมั่วมาประมาณว่าหลอดบนเป็นเหมือน current source
ผมลองแกะจากวงจรนี้ดูครับเพราะวงจรแรกหากราฟ ec93 ไม่ได้ครับ
(http://upic.me/i/zy/13e1_se_5_3_1.gif) (http://upic.me/show/62501677)
-
ผมลองลาก Load Line ของหลอด EC81 ตามเขาดู
(http://upic.me/i/pd/yl126010.jpg) (http://upic.me/show/62501678)
-
หลอดบนได้ประมาณนี้
(http://upic.me/i/pg/yl126011.jpg) (http://upic.me/show/62501679)
-
การคำนวณ Bootstrapping
Av = Ao / (Ao + 1)
ค่า Ao ผมไม่แน่ใจว่าเป็นค่า mu ของหลอดไหนครับ บนหรือล่างแต่ผมเดาว่าน่าจะเป็นบนรึป่าว
ถ้าหลอดบนประมาณ 40
Av = 40 / (40 + 1)
= 0.98
ผมคิดมาจาก Gain หลอดล่างครับ
Gain+ = 40*.98= 39.2 ,(170-130)
Gain - = 60*.98= 58.8 ,(170-240)
ตัวเลขโดยประมาณน่ะครับ
ผมเข้าใจถูกไหมครับ
-
วงจรนี้เป็น mu follower ครับ วงจร mu stage เป็นวงจรที่ดัดแปลงมาจาก mu follower อีกทีนึง
link ของ Wizardvalve อธิบายการคำนวนรวบรัดไปนิด อาจจะงงๆได้ครับ เพราะต้องว่ากันตั้งแต่ cathode follower แล้วเอา model ทางคณิตศาสตร์ของ cathode follower มาต่อยอดอีกทีนึง เดี๋ยวผมว่างๆจะเขียนเป็น step แยกหัวข้อไปเลยครับ จะได้เอาไว้อ้างอิง
ตอนนี้ถ้าจะเอาแบบใช้งานได้เลย ก็ให้มองว่าภาค mu follower ทำหน้าทีเป็น constant current source ซึ่งเปรียบเสมือน resistor ค่าสูงๆมากๆ ซึ่งทำให้ load line ขนานกับแกน x โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ R ค่าใหญ่ๆมากๆจริงๆ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผมอยากใช้ R load กับ E180F triode ซัก 500Kohm กับ 800Kohm ลองเขียน loadline ดูได้ไม๊ครับ? แล้วผมควรจะใช้ไฟ B+ เท่าไหร่?
จากที่อ่านแบบมั่วมาประมาณว่าหลอดบนเป็นเหมือน current source
ผมลองแกะจากวงจรนี้ดูครับเพราะวงจรแรกหากราฟ ec93 ไม่ได้ครับ
([url]http://upic.me/i/zy/13e1_se_5_3_1.gif[/url]) ([url]http://upic.me/show/62501677[/url])
-
วงจรนี้เป็น mu follower ครับ วงจร mu stage เป็นวงจรที่ดัดแปลงมาจาก mu follower อีกทีนึง
link ของ Wizardvalve อธิบายการคำนวนรวบรัดไปนิด อาจจะงงๆได้ครับ เพราะต้องว่ากันตั้งแต่ cathode follower แล้วเอา model ทางคณิตศาสตร์ของ cathode follower มาต่อยอดอีกทีนึง เดี๋ยวผมว่างๆจะเขียนเป็น step แยกหัวข้อไปเลยครับ จะได้เอาไว้อ้างอิง
[/quote] เพราะ Valve Wizard คิดว่าเค้าได้อธิบายรายละเอียดของ Cathode follower ไว้ละเอียดแล้วหรือเปล่าครับ และ คิดต่อว่าคนที่ติดตามอ่านควรที่จะต้องทำความเข้าใจไปตามลำดับขั้น หรือเปล่าครับ เลยไม่ได้ยกมาอธิบายประกอบให้ซ้ำซ้อนกัน
http://www.valvewizard.co.uk/accf.html (http://www.valvewizard.co.uk/accf.html)
-
ตรงที่ผมคิดว่าเค้ารวบรัดคือตรงนี้ครับ
The gain of the cathode follower can be approximated using: mu / (mu + 1). Or, a more accurate figure can be found using the open-loop gain read off the load line, which is about 40 in this case.
Av = Ao / (Ao + 1)
Av = 40 / (40 + 1)
= 0.98
Due to bootstrapping, the AC load presented to the lower valve will be:
r(ccs) = (Rl + Rk) / (1 - Av)
r(ccs) = (33000 + 560) / (1 - 0.98)
= 1.68 Meg.
ตอนผมศึกษา mu follower แล้วจบท้ายด้วย r(ccs) = (Rl + Rk) / (1 - Av) มันจะมีที่มาที่ไปพอสมควรครับ เลยคิดว่าเค้ายกสูตรมาเลย อาจจะทำให้งงได้ เลยคิดว่าตอนนี้ให้มอง r(ccs) เป็น R ขนาดใหญ่ๆก่อน จะได้เข้าใจภาพรวม แล้วผมกะว่าจะตั้งกระทู้ใหม่เพื่ออธิบายตรงนี้ครับ
-
วงจรนี้เป็น mu follower ครับ วงจร mu stage เป็นวงจรที่ดัดแปลงมาจาก mu follower อีกทีนึง
link ของ Wizardvalve อธิบายการคำนวนรวบรัดไปนิด อาจจะงงๆได้ครับ เพราะต้องว่ากันตั้งแต่ cathode follower แล้วเอา model ทางคณิตศาสตร์ของ cathode follower มาต่อยอดอีกทีนึง เดี๋ยวผมว่างๆจะเขียนเป็น step แยกหัวข้อไปเลยครับ จะได้เอาไว้อ้างอิง
เพราะ Valve Wizard คิดว่าเค้าได้อธิบายรายละเอียดของ Cathode follower ไว้ละเอียดแล้วหรือเปล่าครับ และ คิดต่อว่าคนที่ติดตามอ่านควรที่จะต้องทำความเข้าใจไปตามลำดับขั้น หรือเปล่าครับ เลยไม่ได้ยกมาอธิบายประกอบให้ซ้ำซ้อนกัน
http://www.valvewizard.co.uk/accf.html (http://www.valvewizard.co.uk/accf.html)
[/quote]
ขอบคุณครับน้าเล็ก ขอเข้าไปลองศึกษาดูสักหน่อยครับ [elf14]
-
ตรงที่ผมคิดว่าเค้ารวบรัดคือตรงนี้ครับ
The gain of the cathode follower can be approximated using: mu / (mu + 1). Or, a more accurate figure can be found using the open-loop gain read off the load line, which is about 40 in this case.
Av = Ao / (Ao + 1)
Av = 40 / (40 + 1)
= 0.98
Due to bootstrapping, the AC load presented to the lower valve will be:
r(ccs) = (Rl + Rk) / (1 - Av)
r(ccs) = (33000 + 560) / (1 - 0.98)
= 1.68 Meg.
ตอนผมศึกษา mu follower แล้วจบท้ายด้วย r(ccs) = (Rl + Rk) / (1 - Av) มันจะมีที่มาที่ไปพอสมควรครับ เลยคิดว่าเค้ายกสูตรมาเลย อาจจะทำให้งงได้ เลยคิดว่าตอนนี้ให้มอง r(ccs) เป็น R ขนาดใหญ่ๆก่อน จะได้เข้าใจภาพรวม แล้วผมกะว่าจะตั้งกระทู้ใหม่เพื่ออธิบายตรงนี้ครับ
ขอบคุณมากครับ รอเรียนด้วยคนครับ [chick-read]
-
ตามที่เคยอ่านผ่านตา เลยนำมาฝาก .....
Screen grid voltage cold = low idle plate current ความหมายคือไบอัสต่ำว่าจุดQ point ผลที่ได้รับคือ เมื่อรูปคลื่นถูกขยายแล้ว จะขลิบด้านซีกลบ sine ที่ได้จะมีลักษณะที่ถูกตัดด้านล่างนั่นเอง
ส่วน screen grid voltage hot = high idle plate current คือตรงข้าม จุดไบอัสสูงกว่าจุดQ จะขลิปด้านบนแทน
ดังนั้น หากจุดไบอัสที่เหมาะสม คือจุดที่ กึ่งกลาง จะทำให้รูปคลื่นสวิงได้ทั้งช่วงบวก และช่วงลบ ได้เหมาะสมนั่นเอง ตำราบางเล่มเรียกว่า linear range of operation ครับ
.........................................
สอบถามน้าๆหน่อยครับ
ค่า Vg2o กับ Vg2 ผมสามารถใช้ Vg2o ออกแบบได้ไหมครับ ผมลองไปแปลมา Vg2o คือ Screen grid voltage cold ความหมายมันประมาณไหนครับ
ขอบคุณครับ
([url]http://upic.me/i/td/yl12603.jpg[/url]) ([url]http://upic.me/show/62501571[/url])
-
ตามที่เคยอ่านผ่านตา เลยนำมาฝาก .....
Screen grid voltage cold = low idle plate current ความหมายคือไบอัสต่ำว่าจุดQ point ผลที่ได้รับคือ เมื่อรูปคลื่นถูกขยายแล้ว จะขลิบด้านซีกลบ sine ที่ได้จะมีลักษณะที่ถูกตัดด้านล่างนั่นเอง
ส่วน screen grid voltage hot = high idle plate current คือตรงข้าม จุดไบอัสสูงกว่าจุดQ จะขลิปด้านบนแทน
ดังนั้น หากจุดไบอัสที่เหมาะสม คือจุดที่ กึ่งกลาง จะทำให้รูปคลื่นสวิงได้ทั้งช่วงบวก และช่วงลบ ได้เหมาะสมนั่นเอง ตำราบางเล่มเรียกว่า linear range of operation ครับ
.........................................
สอบถามน้าๆหน่อยครับ
ค่า Vg2o กับ Vg2 ผมสามารถใช้ Vg2o ออกแบบได้ไหมครับ ผมลองไปแปลมา Vg2o คือ Screen grid voltage cold ความหมายมันประมาณไหนครับ
ขอบคุณครับ
([url]http://upic.me/i/td/yl12603.jpg[/url]) ([url]http://upic.me/show/62501571[/url])
ขอบคุณมากครับน้า t43_noi สำหรับข้อมูลความรู้ครับ
-
วงจรนี้เป็น mu follower ครับ วงจร mu stage เป็นวงจรที่ดัดแปลงมาจาก mu follower อีกทีนึง
link ของ Wizardvalve อธิบายการคำนวนรวบรัดไปนิด อาจจะงงๆได้ครับ เพราะต้องว่ากันตั้งแต่ cathode follower แล้วเอา model ทางคณิตศาสตร์ของ cathode follower มาต่อยอดอีกทีนึง เดี๋ยวผมว่างๆจะเขียนเป็น step แยกหัวข้อไปเลยครับ จะได้เอาไว้อ้างอิง
ตอนนี้ถ้าจะเอาแบบใช้งานได้เลย ก็ให้มองว่าภาค mu follower ทำหน้าทีเป็น constant current source ซึ่งเปรียบเสมือน resistor ค่าสูงๆมากๆ ซึ่งทำให้ load line ขนานกับแกน x โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ R ค่าใหญ่ๆมากๆจริงๆ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผมอยากใช้ R load กับ E180F triode ซัก 500Kohm กับ 800Kohm ลองเขียน loadline ดูได้ไม๊ครับ? แล้วผมควรจะใช้ไฟ B+ เท่าไหร่?
โทษทีครับที่หายไปนาน ขอตอบคำถามอาจารย์ครับ
ถ้าผมอยากใช้ R load กับ E180F triode ซัก 500Kohm กับ 800Kohm ลองเขียน loadline ดูได้ไม๊ครับ?
ตอบได้แต่ลากยากมากครับ ความคลาดเคลื่อนค่อนข้างสูงครับเพราะกราฟจะใกล้กันมากครับ
(http://upic.me/i/3x/e180f-1.jpg) (http://upic.me/show/62505934)
แล้วผมควรจะใช้ไฟ B+ เท่าไหร่?
กรณีที่ใช้ R load ที่ 500k ไฟ B+=174.7+(500*7.2) = 3774.7 V
และ กรณีที่ใช้ R load ที่ 800k ไฟ B+=174.7+(800*7.2) = 5214.4 V ครับ
ซึ่งเราไม่สามารถหาแหล่งจ่ายไปสูงๆได้ขนาดนั้น ผมเข้าใจถูกไหมครับ
-
เข้าใจถูกต้องแล้วครับ ดังนั้นการใช้ CCS ซึ่งเป็น active load ที่ตัวมันมี impedance (ความต้านทานไฟสลับ)สูง จะช่วยให้เราไม่ต้องใช้ไฟ B+ สูงมากๆ
ผมกำลังเขียนวิธีการคำนวน impedance ให้อยู่นะครับ จริงๆบอกว่าแปลดีกว่า เพราะเอามาจากหนังสืออีกทีนึง จะแยกออกไปอีกหัวข้อนึงเลย ตอนนี้ให้มอง mu-follower เป็นวงจรสร้าง impedance สูงๆไปก่อนละกันครับ