ผู้เขียน หัวข้อ: "อย่าหนีนะ ไอ้เด็กขี้ขโมย" ใครอ่านแล้วไม่ร้องไห้บ้าง  (อ่าน 6907 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ p-juab

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 242
  • ถูกใจกด Like+ 20
ลูกสาวผมแนะนำให้อ่านครับ  อาจเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น  แต่อ่านแล้วดีครับ สำหรับผู้ที่อ่านแล้ว  อ่านอีกได้ครับ...
สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยอ่าน...แนะนำให้อ่านเลยครับ  ไม่ต้องเสียดายน้ำตากับสิ่งดี ๆ

อย่าหนีนะ ไอ้เด็กขี้ขโมย

เสียง ผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งตะโกนลั่นพร้อมกับมีเด็กคนหนึ่งกับผู้หญิงอีกคน หนึ่งวิ่งผ่านฉันกับแม่ที่กำลังซื้อเนื้อหมู
ในตลาดไปอย่างรวดเร็ว ทั้งแม่และฉันหันไปดูทันเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นแค่แวบเดียว

แม่ถามฉันว่า "อ้าว นั่นป้าร้านขายของไม่ใช่เหรอ" "ใช่จ้ะแม่ แกวิ่งไล่ใครกันล่ะ"

ป้า คนนั้นชื่อว่า "ป้าหนอม" เป็นแม่ค้าขายของชำสารพัดอย่างในตัวตลาด ในอำเภอที่ฉันอยู่ มีฐานะจัดว่าดีกว่าแม่ค้าคนอื่นๆ
ในละแวกเดียวกัน และเป็นที่รู้จักกันว่าแกเป็นคนที่ขี้เหนียวอย่างร้ายกาจ แถมปากจัดที่สุดในตลาดอีกด้วย ใครต่อราคาของมากเกินไป
หรือถามราคาแล้วไม่ซื้อ ป้าแกจะโวยวายชนิดต้องรีบเผ่นออกจากร้านแทบไม่ทันทีเดียว เสียงเอะอะดังมากขึ้น ฉันหันไปมอง
ป้าหนอมจับข้อมือเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 12-13 ขวบ ไล่เลี่ยกับฉันซึ่งกำลังดิ้นรนอยู่ และป้าแกกำลังจะลงไม้ลงมือ

แม่จึงเดินเข้าไปถาม "พี่หนอม มีไรหรอคะ"

"ก็ไอ้เด็กเวรนี่นะสิ มันมาทำทีขอซื้อยาแก้ปวดกับยาธาตุ พอฉันหยิบส่งให้ มันก็วิ่งหนีมาเลย เงินก็ไม่จ่าย"

พูด จบป้าหนอมก็ตบหัวเด็กคนนั้นอย่างแรงหนึ่งที และคงจะมีตามมาอีกหลายทีแน่ถ้าแม่ฉันไม่ห้ามไว้
"ตายแล้วพี่หนอมอย่าถึงกับลงไม้ลงมือกันเลยนะ แล้วนี่จะทำไงต่อ"

แม่รีบตัดบทเพราะ เห็นว่าเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่
"เรียกตำรวจมาเอามันไปเข้าคุกนะสิ เสียนิสัย พ่อแม่ไม่สั่งสอนยังเด็กตัวแค่นี้ก็ริจะเป็นขโมยซะแล้ว ต่อไปก็คงต้องปล้นเขากินแหละ"

ฉันสะกิดแม่ทันทีพร้อมกับมองพลางส่าย หัวน้อยๆ ทำนองว่าอย่าไปยุ่งดีกว่า แม่มองฉันแล้วมองเด็กคนนั้น ซึ่งท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้
แม่นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันไปพูดกับป้าหนอมว่า
"อย่าให้ถึงอย่างนั้นเลยนะพี่หนอม เด็กมันคงอยากซื้อยาแต่ไม่มีเงินน่ะ เอาเป็นว่าฉันจ่ายให้ละกันนะ กี่บาทกันล่ะ"

ในที่สุด เรื่องก็จบลงโดยการที่แม่ยอมจ่ายเงินค่ายาแก้ปวดกับยาธาตุ แล้วแม่ก็จูงเด็กคนนั้นออกมาจากตลาด แต่ป้าหนอมยังไม่วายเตือนแม่
"ใจดีกับเด็กขี้ขโมยแบบนี้ระวังจะเสียใจทีหลังนะเธอ"

แม่ไม่ได้ตอบ อะไร แต่พอเดินห่างจากร้านพอสมควรแล้วก็ถามว่า
"ทำไมหนูขโมยของป้าเขาล่ะ" เด็กคนนั้นเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาขึ้นมองแม่
แล้วตอบสะอึกสะอื้นว่า "แม่ผมปวดท้องมากเลยครับ แล้วแม่ก็ไม่มีเงินไปหาหมอ ผมก็เลยต้อง..."

แม่ มองหน้าเด็กคนนั้นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วยื่นผลไม้ที่ซื้อมาให้เด็กคนนั้นถุงหนึ่ง แล้วบอกว่า
"ทีหลังอย่าขโมยของใครนะ ถ้าไม่มีเงินมาขอเงินน้าไปซื้อก็ได้นะ น้าชื่อสมพร เปิดร้านเย็บผ้าอยู่ใกล้ๆ นี่เอง
ถามคนแถวนี้ก็ได้ รู้จักน้าแทบทุกคนเลยแหละ เอ้า...เอาส้มไปฝากคุณแม่ซิ คนป่วยนะต้องกินผลไม้มากๆ จะได้หายไวๆ รู้มั้ย"

แม่เสริมพร้อมกับ ยิ้ม เด็กคนนั้นอึ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะรับส้มพร้อมกับพูดขอบคุณแม่แล้วเดิน จากไป หลังจากนั้น พอกลับมาถึงบ้านฉันก็ถามแม่ทันที
"ทำไมแม่ต้องช่วยเด็กคนนั้นด้วยล่ะ รู้จักกันเหรอจ๊ะ"

แม่ยิ้ม แล้วตอบฉันว่า "ไม่รู้จักหรอก แต่แม่เห็นเด็กคนนั้นรับจ้างหาบขนมขายอยู่แถวบ้านเรานะลูก แต่แกคงจำแม่ไม่ได้หรอก แม่ซื้อขนมแกอยู่ไม่กี่ครั้งเอง"
"แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะต้องช่วยเหลือเขาถ้าเขาเป็นขโมยนี่แม่" ฉันถามต่อ

แม่มองหน้าฉันแล้วพูดว่า "แม่เชื่อว่าเด็กที่เคยหาเงินด้วยตัวเองมาก่อนตั้งแต่อายุเท่าๆ กับลูก จะต้องเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบ
รู้คุณค่าของเงินทุกบาททุกสตางค์ว่ากว่าจะได้มามันเหนื่อยยากขนาดไหน และคนที่มีความรับผิดชอบนะจะไม่มีทางขโมยของใครนอกจากจะจำเป็นจริงๆ
เมื่อเขาไม่มีทางอื่นให้เลือกแล้วเท่านั้น"

ฉันฟังแล้วก็ถามแม่ต่อว่า "แล้วต่อไปถ้าเขามาขอเงินแม่ไปซื้อยาอีก แม่จะให้เขารึเปล่า"

" ให้สิลูก ถ้ามันไม่มากไม่มายอะไร" "แล้วแม่ไม่เสียดายเงินเหรอ บ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนบ้านป้าหนอมเขานะแม่" "ถึงแม่จะไม่มีเงินทองมากนัก
แต่การที่ได้ช่วยเหลือคนที่กำลังลำบากน่ะ มันทำให้แม่มีความสุข แล้วยังได้บุญอีกด้วยนะ แค่นี้แม่ก็พอใจแล้ว ไม่อยากได้อะไรตอบแทนหรอก"

แล้วแม่ก็พูดต่ออีกว่า "จำไว้นะลูก คนเรานะต้องรู้จักให้อภัย และให้โอกาสคนอื่นแก้ตัวเสมอ อย่างเด็กคนนั้น...แม่มั่นใจว่าแกทำไปเพราะรักคุณแม่ของแกจริงๆ
แม่ถึงช่วยแกเอาไว้" แล้วแม่ก็พูดต่อว่า "ลูกอาจบอกว่าขโมยเป็นสิ่งที่ผิด ใช่...แม่ไม่เถียง บางครั้งคนเราก็ต้องมองด้านอื่นๆ บ้าง อย่าคิดแต่เรื่องทรัพย์สินเงินทอง
ตอนนี้ลูกอาจยังฟังไม่เข้าใจ แต่แม่เชื่อว่าสักวันลูกจะเข้าใจเองแหละ"

หลังจากนั้น ฉันกับแม่ก็หันไปคุยเรื่องอื่นๆ กันต่อ ฉันเองไม่เคยคิดเรื่องนี้อีกเลย จนเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ทำให้ฉันต้องย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้งทั้งน้ำตาว่า
คำพูดของแม่ในครั้งนี้ถูกต้องที่สุดจริงๆ

หลังจากนั้น ฉันเรียนจบระดับปริญญาตรีจากสถาบันราชภัฏแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด แล้วฉันก็ได้งานทำในโรงงานแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดนั้นเอง เงินเดือนก็พอประมาณ
สามารถเลี้ยงดูแม่ได้โดยไม่ขัดสนนัก ฉันก็เลยขอร้องให้แม่หยุดรับจ้างเย็บผ้า เพราะอยากให้แม่พักผ่อนบ้างหลังจากทำงานหนักมาเกือบ 20 ปีเพื่อส่งฉันเรียน
แม่ ยอมปิดร้าน แต่ก็ยังรับงานเล็กๆ น้อยๆ ของเพื่อนบ้านมาทำบ้างโดยไม่คิดเงิน แม่บอกว่าถ้าไม่ได้ทำอะไรเลยจะรู้สึกเบื่อ ฉันก็เลยต้องยอมตามใจแม่
ฉัน ทำงานอยู่ประมาณ 2-3 ปี แม่ก็เริ่มรู้สึกไม่สบาย เริ่มจากปวดหัวบ่อยขึ้น ช่วงแรกๆ ไม่กี่วันก็หาย หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นนานขึ้นเรื่อยๆ ฉันบอกให้แม่ไปหาหมอ
แล้วฉันก็พาแม่ไปหาหมอในเมือง

หมอบอกว่าไม่เป็น อะไรมากแค่ทำงานหนักมากเกินไป หมอให้ยามาชุดหนึ่งพร้อมกำชับให้พักผ่อนมากๆ จะได้หายเร็วๆ หลังจากกินยาตามที่หมอสั่ง
อาการปวดหัวของแม่ก็หายไป ฉันเริ่มสบายใจขึ้น แต่หลังจากไปหาหมอได้ประมาณหนึ่งเดือนแม่ก็เริ่มกลับมาปวดหัวอีก คราวนี้เป็นหนักมากกว่าครั้งที่แล้ว
ยาที่เคยกินแล้วได้ผลมาก่อนก็ไม่ได้ผลเลย ฉันกังกลใจมาก พอถามหมอหมอก็บอกว่าต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เพราะว่าเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมกว่า
โรงพยาบาลต่างจังหวัด หลังจากนั้น ฉันรีบพาแม่ไปกรุงเทพฯ ทันที ไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง หลังจากหมอตรวจแล้วบอกว่ามีเนื้องอกในสมองต้องผ่าตัดโดยด่วน

หาก ปล่อยทิ้งไว้อาจไปทับเส้นประสาททำให้เป็นอัมพาตได้ หรือถ้าผ่าตัดไม่ทันก็อาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต ฉันตกใจมาก ขอให้หมอผ่าตัดให้ทันที
แต่หมอบอกว่าโรงพยาบาลที่มีหมอผ่าตัดสมองที่มีความพร้อมที่จะผ่าตัดเนื้องอก ในสมองเป็นอีกโรงพยาบาลหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงมากกว่า ดังนั้น
หมอจึงต้องส่งตัวคนไข้ไปยังโรงพยาบาลนั้น ฉันก็ตกลง

หลังจากถูกส่ง ตัวมายังโรงพยาบาลดังกล่าวแล้ว แม่ก็ถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดทันที ขณะที่ฉันรออย่างกังวลใจอยู่ด้านนอก ทั้งเรื่องอาการป่วยของแม่
และจากคำพูดของหมอที่ทิ้งท้ายไว้ก่อนส่งตัวแม่มาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ หมอบอกให้ทำใจไว้บ้าง เพราะการผ่าตัดสมองเป็นการผ่าตัดที่เสี่ยงมาก โอกาสที่คนไข้จะเสียชีวิตมีมาก

แม้การผ่าตัดจะประสบความสำเร็จก็ตาม อีกเรื่องก็คือ ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดสมองค่อนข้างสูงเป็นหลักแสนบาท เมื่อรวมกับค่ายาระหว่างพักฟื้น
คิดแล้วน่าจะต้องใช้เงินราวๆ ห้าแสนบาท ฉันได้ยินแล้วแทบลมจับ ฉันจะไปหาเงินห้าแสนบาทมาจากไหน ลำพังเงินเก็บของฉันกับแม่ยังมีไม่ถึงห้าหมื่นบาทเลย
แต่ยังไงฉันก็ต้องรักษาแม่ให้หาย ส่วนเรื่องเงินไว้คิดทีหลัง

หลัง การผ่าตัดเสร็จสิ้นลง เป็นโชคของแม่ที่การผ่าตัดประสบผลสำเร็จและไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ ทางโรงพยาบาลบอกให้พักฟื้นประมาณหนึ่งเดือนก็สามารถ
ไปพักฟื้นที่บ้านได้ ทางโรงพยาบาลแจ้งรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาให้ฉัน ปรากฏว่าเป็นเงินจำนวนไม่ถึงหนึ่งพันบาท เป็นค่าติดต่อประสานงานเท่านั้น

ฉัน แปลกใจมาก จึงสอบถามกับนางพยาบาล นางพยาบาลบอกว่าคุณหมอที่เป็นคนผ่าตัดและเป็นเจ้าของไข้บอกไม่ให้คิดเงินกับ ฉันและแม่ โดยที่ทางโรงพยาบาล
ก็ไม่ทราบสาเหตุ ฉันจึงขอพบคุณหมอคนนั้นเพื่อขอบคุณ นางพยาบาลบอกว่าหลังจากเสร็จคุณหมอก็ถูกส่งตัวไปต่างประเทศทันทีเพื่อศึกษา
เพิ่มเติมเกี่ยวกับการผ่าตัดสมองที่อเมริกา แต่คุณหมอได้ฝากจดหมายไว้ให้ฉันกับแม่โดยกำชับกับทางโรงพยาบาลให้ฝากให้ฉัน พร้อมกับใบเสร็จค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ของทางโรงพยาบาลในวันที่แม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้

เมื่อกลับถึง บ้าน ฉันกับแม่ก็เปิดอ่านจดหมายของคุณหมอคนนั้น เมื่ออ่านจบทั้งฉันและแม่ก็ร้องไห้ออกมาพร้อมกับเนื้อความในจดหมายมี ดังนี้

ข้าพเจ้า นายแพทย์เดชา ทองวิจิตร แพทย์ผู้ผ่าตัด นางสมพร ภู่จันทร์ ขอสรุปค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดทั้งหมด ดังนี้

ค่าผ่าตัด 0 บาท

ค่ายาทั้งหมด 0 บาท

ค่าใช้จ่ายอื่นที่เหลือ 0 บาท

รวมเป็นเงินทั้งหมด 0 บาท

ป. ล. ค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้รับแล้วเมื่อยี่สิบปีก่อนด้วยยาแก้ปวด ยาธาตุ ส้มหนึ่งถุง ขอให้สุขภาพแข็งแรงไปอีกนานๆ นะครับคุณน้า นายแพทย์เดชา ทองวิจิตร

                                                        [cry2] [cry2] [cry2]

ออฟไลน์ jamezzss

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 661
  • ถูกใจกด Like+ 3
  • เพศ: ชาย
  • Fight...!
    • ที่อยู่ติดต่อ
น้า  p-juab ครับ  น้าทำให้ผมร้องไห้เลยอ่ะครับ น้า  [cry2]

ออฟไลน์ onepiece01

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 900
  • ถูกใจกด Like+ 14
ขอบคุณมากครับคุณน้า บทความนี้ดีมากครับ [res]

ออฟไลน์ bondturbo

  • ทำไปเรื่อยๆ
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1033
  • ถูกใจกด Like+ 40
    • http://uppic.us/pic.php?picid=3eb56888e3815294554cd99b95b87f71
ดีครับ [clap hand2]
ข็อมูลส่วนตัวครับ
http://www.diyaudiovillage.net/index.php?topic=2798.0

ออฟไลน์ Alcohol

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11459
  • ถูกใจกด Like+ 225
  • เพศ: ชาย
  • อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ดีมากครับ  [clap hand2] [clap hand2]
ข้อมูลของผม Please CLICK Here !!!!

ออฟไลน์ joke2010

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 86
  • ถูกใจกด Like+ 9
เป็นบทความที่ดีมากครับ  [))] อ่านแล้วซึ้งมาก
ข้อมูลติดต่อครับ
http://www.diyaudiovillage.net/index.php?topic=178.0

ออฟไลน์ MonAudio

  • ดีที่สุด...ในจุดที่ยืน
  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 431
  • ถูกใจกด Like+ 8
  • เพศ: ชาย
  • ดีที่สุด...ในจุดที่ยืน
 ซึ้งมากครับน้า
[clap hand2] [clap hand2] [clap hand2]

ออฟไลน์ nuke840

  • Member
  • *
  • กระทู้: 45
  • ถูกใจกด Like+ 1
  • เพศ: ชาย
อ่านแล้วซึ้งมากขอบคุณครับ [clap hand2] [clap hand2] [clap hand2]

ออฟไลน์ nong

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 225
  • ถูกใจกด Like+ 7
  • เพศ: ชาย
ขอบคุณครับน้าผมอ่านแล้วอยากจะ [entreat-raccoon]

ออฟไลน์ prayadtj

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 110
  • ถูกใจกด Like+ 14
  • เพศ: ชาย
 [entreat-raccoon].......................... [clap hand2]  [clap hand2]

ออฟไลน์ Guy_Audio

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2746
  • ถูกใจกด Like+ 93
  • เพศ: ชาย
  • UNIQUE MADE - BOUTIQUE SOUND
อิน เลยครับ

ออฟไลน์ toon ชาวโลก

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1418
  • ถูกใจกด Like+ 79
กระทู้ที่ 3 ของผมต้องเสียน้ำตาซะแล้วซึ้งมากๆ

ออฟไลน์ boontiam

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 307
  • ถูกใจกด Like+ 37
 [clap hand2] [unde_cided]

ออฟไลน์ Arnai

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 845
  • ถูกใจกด Like+ 47
  • เพศ: ชาย
  • เป็นตัวอย่างที่ดี มีค่ามากกว่าคำสั่งสอน
 อ่านแล้วซึ้งใจมากๆครับ.ขอบคุณในสิ่งดีๆที่คอยเตือนใจ.. [clap hand2]  [clap hand2]

ออฟไลน์ Molecular Man

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 703
  • ถูกใจกด Like+ 49
  • เพศ: ชาย
....จะเป็นเรื่องจริง.....หรือเรื่องที่แต่งขึ้นก็ตาม ต้องบอกว่าอ่านแล้วเยี่ยม รู้สึกดีจริงๆ  [clap hand2]

ออฟไลน์ puply

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 105
  • ถูกใจกด Like+ 2
  • มือใหม่ ป้ายแดง
ซึ้งครับ

ออฟไลน์ numz

  • ทีมพาออกทะเล !
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5263
  • ถูกใจกด Like+ 49
  • เพศ: ชาย
  • หุ่นไล่กา !
fart-raccoon ข้อมูลติดต่อจ๊ะ

หากล่วงเกินใครไปขออภัยด้วยเพราะช่วงนี้.... กุติสแตก!

ออฟไลน์ 5237

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
  • ถูกใจกด Like+ 22
  • เพศ: ชาย
 [clap hand2] [clap hand2] [entreat-raccoon] [entreat-raccoon]
ข้อมูลผมครับ >>>>>http://www.diyaudiovillage.net/index.php?topic=1517.0

ออฟไลน์ BOSE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 432
  • ถูกใจกด Like+ 28
 [res] [clap hand2]  เยี่ยมครับ ขออนุญาต ส่งต่อนะครับ

ออฟไลน์ ozztum

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 140
  • ถูกใจกด Like+ 5
  • เพศ: ชาย
ขอบคุณมากเลยครับ อ่านแล้วรู้สึกดีครับ [entreat-raccoon]

ออฟไลน์ track

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1385
  • ถูกใจกด Like+ 33
  • เพศ: ชาย
น้ำตาซึมเลยครับผม  [clap hand2]

ออฟไลน์ Drakkar

  • เฒ่าทารก
  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 64
  • ถูกใจกด Like+ 0
  • เพศ: ชาย
  • เริ่มตั้งไข่ครับ
    • http://www.overclockzone.com
 [clap hand2]โอ้วสุดยอดครับอ่านแล้วประทับใจมาก ทำให้อินไปไปกับตัวเรื่อง...ทำดีได้ดี [yes-raccoon]