ผมสงสัยตั้งแต่คาส a เลย ที่อ่านมาก็ไม่รู้บริโภคข้อมูลมาถูกผิดอย่างไรบ้าง คือที่เราไบแอสเนี้ย มันทั้งซีกบวกและซีกลบ จุดที่ดีที่สุดคือศูนย์เราเลยไบแอสให้มันได้ศูนย์ใช่ไหมครับ การป้อนกับ คือตัวบ่งบอกว่า เป็นคลาสอะไรใช่หรือป่าว แล้วแอมป์แคมป์มันมีการป้อนกลับของสัญญาณไหม มันป้อนกลับแบบซีกบวกหรือลบครับ แล้วถ้ามี...จุดไหนวงจรที่ป้อนกลับครับ แล้วเราทำแบบไม่มีการป้อนกลับได้ไหม การป้อนกลับทำให้เกิดความร้อนใช่ป่าว
ที่ผมถามเนี้ย ผมสงสัยมานานแล้วอ่ะครับ คือแอมป์บางตัว ได้รับรางวัล เช่น แอมป์ส่วนมากเขาป้อนกลับซีกบวก แต่แมกเนท หรือแนท รุ่นไหนก็จำไม่ได้ ได้รับรางวัลออกแบบ ป้อนกลับในซีกลบ หรืออย่างแอมป์ ซีอีซ๊ ไม่มีการป้อนกับ LEF load effect of free ทำให้คลาสเอ ไม่ร้อน ไม่รู้ผมเข้าใจถูกหรือป่าวไม่รู้
ที่ถาม หมายถึงอันนี้ใช่ไหมครับ? ผมนึกว่ามาเล่าเรื่องเฉยๆ เลยไม่ได้ตอบอะไร... [pig90132]
มีสามสี่เรื่องอยู่ในนี้พร้อมกัน
เรื่องไบอัส ในความหมายวงจรขยายทั่วๆไป จะจำแนกตามวิธีทำงานขยายแบบอะนาลอก คลาส B -> AB -> A ส่วนวิธีจัดกระแสมากน้อยและการคำนวณไปค้นจาก Wiki ได้เลยครับ...
เรื่องการป้อนกลับ ว่ากันด้วยระบบควบคุมแบบลูปปิด... เอาแบบคร่าวๆ สั้นๆ ก่อน
ปกติเรารู้ว่าอุปกรณ์แต่ละตัว มีอัตราการขยายสัญญาณอยู่ ซึ่งถ้าเราไว้แล้ว เอาถ้าเรามองในแง่การขยาย ก็คำนวณวงจร และทำวงจรขยายสัญญาณได้อัตราขยายสัญญาณ(เกน)ตามนั้น
แต่ในความเป็นจริง อุปกรณ์ที่ซื้อมา มันไม่เคยได้ค่าเท่าเดิม และระหว่างทำงานค่าเปลี่ยนไปตามอุณหภูมิ รวมถึงธรรมชาติของอุปกรณ์ เมื่อใช้ไปนานๆ จะเกิดการเสื่อมถอยในตัวมันเอง เรื่องนี้ในหลอดสูญญากาศจะเห็นได้ชัดเจน ว่าเกนลด
วิธีที่"สะดวก"ในการทำคือ อุปกรณ์ขยาย"สามารถ" ขยายได้มากกว่าที่ต้องการ แต่จะใช้การป้อนกลับ เพื่อคอยดูเอาต์พุตว่าเกินกว่าที่ต้องการหรือไม่
ในกรณีป้อนกลับ"ทางลบ" คือเอา"ส่วนต่าง" (Error) มาเป็นตัวแปรในการคุมวงจรขยายให้ "ลดลง" จนทำให้ระบบขยายสัญญาณได้ตามที่ต้องการ ซึ่งหมายถึงวงจรขยายทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ
(ส่วนกรณีป้อนกลับ"ทางบวก" มีไว้ทำวงจรกำเนิดความถี่ ครับ เพราะยิ่ง error ยิ่งบวกเพิ่มไป จนได้สัญญาณเป็นความถี่ออกมา
กรณีวงจรป้อนกลับนั้นก็มีอีกหลายเทคนิค คือ ประเภทขยายชุดเดียวรวดเดียวหมด แล้วป้อนกลับทีเดียวเช่นกัน แบบนี้เป็น global feedback
แต่ถ้าขยายทีละนิด แล้วป้อนกลับคุมชุดนั้นก่อน จากนั้นค่อยส่งมาขยายชุดถัดไป ซึ่งมีป้อนกลับของตัวเองเช่นกัน ต่อพ่วงๆ กัน
หรือแอมป์บางตัวก็มีทั้งสองแบบ เพื่อคุมเกนทั้งหมดก็ได้ เพื่อลดผลของ error สะสม ก็ทำได้เช่นกัน
ส่วนเรื่องที่บอกว่าไม่มี Negative feedback น่าจะหมายถึง Global negative Feedback คือ วิธีคิดของคนออกแบบ มองว่าการแก้ error ที่ปลายเหตุรวดเดียว มันอาจจะแก้สัญญาณที่ error ได้ไม่เร็วเท่าทันนัก และยังคงให้ความเพี้ยนสัญญาณอยู่ เลยคิดว่าให้เป็นลักษณะของวงจรควบคุมแบบลูปย่อย ต่อกัน error สุดท้ายจะทำงานได้ดีกว่า
ซึ่งเรื่องแบบนี้ อยู่ที่วิธีคิดของคนออกแบบครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม ถ้าอยากรู้ไปหาอ่านจากหนังสือที่ว่าด้วยเรื่องระบบควบคุมเชิงเส้นก็แล้วกันครับ เรื่องมันยาว มีอีกหลายเทคนิคที่ไม่ได้เอามาบอกในที่นี้
ส่วนเรื่องไบอัสเป็น 0 น่าจะเข้าใจความหมายไม่ถูกต้อง เพราะถ้าไม่ไบอัสเลย ไม่ว่าจะเป็นแรงดัน หรือกระแส อุปกรณ์สารกึ่งตัวนำจะทำงานในวงจรขยายเชิงเส้นได้อย่างไร
ส่วนเรื่องไบอัสคลาส A แล้วไม่ร้อนเลย เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพียงแต่มีอุปกรณ์สมัยใหม่ พิเศษๆ บางตัว สามารถทำงานขยายในคลาส A ได้สมบูรณ์ โดยเทียบกับอุปกรณ์แบบเดิมแล้ว จะใช้จุดไบอัสต่ำลง ซึ่งทำให้การสูญเสยพลังงานไปเปล่าๆ ของกระแสสงบลดลงด้วย ซึ่งนั่นก็จะหมายถึงความร้อนที่ลดลง เมื่อเทียบกับตัวเดิมๆ ครับ
แต่ถ้าเป็นเทคนิคการออกแบบวงจรจ่ายกระแสแบบ On demand คือใช้แล้วค่อยจ่ายพลังงานให้ ก็จะเป็นอีกเรื่องนึงที่ว่ากันด้วยเทคนิคการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพครับ
ซึ่งถ้าจะเอาประสิทธิภาพสูงๆ ก็พวกแอมป์คลาสดิจิตอลครับ ประสิทธิภาพทำงานดีกว่า
อ้อ... อันนี้เรื่องเล่าตอบคำถามของน้า civic นะครับ ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ Camp turbo แต่อย่างใด...