www.diyaudiovillage.net
Source & Line amp & Amplifier Project ผลงาน DIY => Vacuum Tubes => ข้อความที่เริ่มโดย: tosa2k ที่ 26 มิถุนายน 2012, 02:29:49 PM
-
คือว่า จะว่าผมโง่ไม่รู้เรื่องก็ได้นะครับ แต่ผมไม่รู้จริงๆครับ คือผมลองดูข้อมูลของหลอดหลายๆเว็ป มีการเรียกเกรดของหลอด ซึ่งผมไม่เข้าใจ ผมขอถามดังนี้นะครับ
- หลอดเกรดทหาร คือหลอดเกรดไหนหรือครับ
- การแบ่งเกรดของหลอดนี่มีหลายเกรดมั๊ยครับ แล้วมีเกรดใดบ้าง และมีชื่อเรียกของเกรดนั้นๆอย่างไรครับ
- ราคากลางของหลอดเเต่ละชนิดนี่มีหรือเปล่าครับ ว่าหลอดเบอร์นี้ราคาน่าจะอยู่ที่ ประมาณเท่านี้ถึงเท่านี้ เกรดนี้ราคาประมาณเท่านี้
ขอบคุณมากครับ [c--c]
-
อีกคำถามครับ หลอดที่ระบุว่า NOS นี่หมายความว่าอย่างไรครับ [c--c]
-
สงสัยตั้งกระทู้ผิดห้อง รบกวนผู้ดูแลย้ายไปห้องDIY มือใหม่ด้วยนะครับ [unde_cided]
-
ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆเก็บความรู้จากในเว็บ นานๆไป เดี๋ยวก็คุ้นชินเองครับ clapping-1-2
หลอดเกรดทหาร คือถ้าแปลกำปั้นทุบดินคือหลอดที่ถูกใช้ในเครื่องมือเครื่องใช้ในงานทหาร กองทัพ จริงๆนั่นล่ะครับ ทั้งหลอดทหารอเมริกัน ทหารอังกฤษ ฝั่งยุโรปตะวันตก ตะวันออก ของไทยเราก็มี เพียงแต่ปัจจุบันเรื่องใช้เกือบทุกอย่างที่ต้องใช้หลอด ถูกแทนที่ด้วยโซลิตสเตจไปเกือบหมดแล้ว หลอดก็เลยไม่ได้ใช้ ถูกเอามาโล๊ะขายอยู่เนืองๆ ครับ
คุณสมบัติที่แน่นอนอย่างนึงของอุปกรณ์เกรดทหาร ไม่ว่าจะเป็น R C TR IC หลอด วัสดุคอนเน็กเตอร์ ต้องมีอย่างนึงคือ ต้องทน ถึก ชัวร์ ห้ามมั่ว ครับ เพราะงานที่ใช้จะผิดพลาดกันไม่ได้
แต่เวลาเอามาทำเครื่องเสียง ก็หนังคนละม้วนครับ อาจจะมีโดนใจบ้าง ไม่โดนใจบ้างเป็นธรรมดา [smi_ley]
การแบ่งเกรด ก็ง่ายๆครับ เหมือนคัดผลไม้ส่งนอกเลย ผิวสวย สด ไซซ์ใหญ่เท่ากัน ไม่มีแมง ก็ชั้นหนึ่ง
ถ้าเป็นหลอดก็ รูปดี เพลตสวย พิมพ์ชัด วัดเกนแมทช์กันเป๊ะก็ เกรดดีเลิศ ก็คู่จัดใส่กล่องกำมะหยี่ ขายราคาพิเศษ สำหรับงานที่ซีเรียสหรือ เครื่องเสียงสุดๆ
แต่ถ้าเกนใกล้เคียง คุณภาพดีอยู่ ก็เกรดรองลงมา ใช้ในงานเครื่องมือวัดละเอียด เครื่องเสียงราคาปานกลาง
แต่ถ้าเกนห่างกันมากหน่อย แต่ยังอยู่ในสเปคก็เป็นหลอดงานวิทยุทั่วไป
แต่ถ้าไม่ได้สเปค เค้าจะเอาไปบดทิ้ง แยกวัสดุ เอาไปรีไซเคิลทำหลอดใหม่ครับ [yes-raccoon]
ราคาหลอด มีหลายปัจจัยครับ คือราคาหลอดเดิมจริงๆ ในอดีต, ความนิยมในการถูกเอามาใช้งานปัจจุบัน และความชื่นชอบของน้ำเสียงที่หลอดล็อตนั้นๆให้ได้ ถ้าถูกโฉลกเสียงเสนาะหู ราคาเหมือนวัตถุมงคลเลยทีเดียว เพราะอยู่ที่ความพอใจของคนซื้อและคนขาย รวมถึงราคาตลาดโลกด้วยครับว่าถูกใจแบบ inter ขนาดไหนน่ะครับ [roll]
-
NOS , New Old Stock หลอดเก่าเดิมๆ เก็บจนเก่า
NIB , New In Box หลอดยังใหม่อยู่ในกล่อง (ซิงๆ) ไม่เคยแกะกล่องเสียบใช้งาน [gr_in]
-
JAN ไม่ใช่ January นะครับ แต่มั.นคือ Join Army Navy คือหลอดที่ทำสัญญาส่งขายให้กับทหาร เช่น JAN CHS 5Y3WGT
-
แล้วหลอดหัวหงอก เป็นอย่างไรครับ เห็นคนเล่นวิทยุเก่า ๆ มักจะุถามเวลาซื้อว่าหลอดหัวหงอกหรือเปล่า (หรือว่าเป็นหลอดแก่ ถึงเรียกหัวหงอก)
-
แล้วหลอดหัวหงอก เป็นอย่างไรครับ เห็นคนเล่นวิทยุเก่า ๆ มักจะุถามเวลาซื้อว่าหลอดหัวหงอกหรือเปล่า (หรือว่าเป็นหลอดแก่ ถึงเรียกหัวหงอก)
คืออาการที่แสดงว่ามีอากาศรั่วเข้าไปในหลอด แล้วทำปฏิกิริยากับแบเรี่ยมที่ฉาบไว้เดิมจากสีเงิน เป็น คราบไอสีขาวแทน ซึ่งปกติตำแหน่งที่แบเรี่ยมฉาบอยู่ก็อยู่แถวๆ ด้านบนหัวนั่นล่ะครับ เลยเรียกว่าหัวหงอก
ถ้าหลอดมีอาการนี้ ไม่ต้องเสียบลองนะครับ ฟันธงได้เลยว่าทำงานไม่ได้แล้ว display only ตั้งโชว์ได้อย่างเดียว [gr_in]
-
เข้าใจแล้วครับ [yes-raccoon]
-
- หลอดเกรดทหาร คือหลอดเกรดไหนหรือครับ
- การแบ่งเกรดของหลอดนี่มีหลายเกรดมั๊ยครับ แล้วมีเกรดใดบ้าง และมีชื่อเรียกของเกรดนั้นๆอย่างไรครับ
- ราคากลางของหลอดเเต่ละชนิดนี่มีหรือเปล่าครับ ว่าหลอดเบอร์นี้ราคาน่าจะอยู่ที่ ประมาณเท่านี้ถึงเท่านี้ เกรดนี้ราคาประมาณเท่านี้
ขอบคุณมากครับ [c--c]
มือใหม่เหมือนกันครับ อยากขอออกความคิดเห็นบ้าง ผิดถูกยังไง ช่วยกันแก้ไขนะครับ
- หลอดเกรดทหาร คือหลอดเกรดไหนหรือครับ
ผมเข้าใจว่า หลอดพวกนี้ เป็นหลอดที่คุณสมบัติทางไฟฟ้า ไม่แตกต่างจากหลอดเกรดปกติ แต่หลอดเกรดทหารนี้คุณภาพจะดีขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ถ้าเทียบกับเบอร์ที่เป็นเกรด commercial เช่น สัญญาณรบกวนต่ำกว่า
ทนการสั่นสะเทือนได้มากกว่า อายุการใช้งาน นานกว่า แบบนี้เป็นต้น
อย่างเช่น
เกรด commercial เบอร์ 12au7 ถ้าเป็นหลอดเกรดทหาร จะเป็นเบอร์ 6189
6dj8 ถ้าเป็นหลอดเกรดทหาร จะเป็นเบอร์ 6922
- การแบ่งเกรดของหลอดนี่มีหลายเกรดมั๊ยครับ แล้วมีเกรดใดบ้าง และมีชื่อเรียกของเกรดนั้นๆอย่างไรครับ
ผมเข้าใจว่า มีแค่สองเกรดนะครับ
commercial คือเกรด อุตสาหกรรมที่จำหน่ายกันทั่วไป
millitary คือ เกรดที่ใช้ในการทหาร
- ราคากลางของหลอดเเต่ละชนิดนี่มีหรือเปล่าครับ ว่าหลอดเบอร์นี้ราคาน่าจะอยู่ที่ ประมาณเท่านี้ถึงเท่านี้ เกรดนี้ราคาประมาณเท่านี้
ราคากลาง ผมคิดว่า มี นะครับ แต่....... กระแสการกลับมาของหลอดสูญญากาศ มันแรงจนผมคิดว่า ราคากลาง ไม่มีความหมายแล้วล่ะครับ
-
การแบ่งเกรดหลอดนั้นเท่าที่ผมทราบจะมีเพียง 2 เกรดเท่านั้น
ไม่เหมือนกับการแบ่งเกรดของปลั๊กไฟซึ่งมีหลายเกรด
การเลือกหลอดหลัก ๆ จะถูกแบ่งเป็น
1. หลอดที่ใช้ในกิจการทหาร (Military Grade) หลอดจำพวกนี้จะมีรหัส JAN, CHS ซึ่งมีคุณสมบัติตามที่หลาย ๆ ท่านได้กล่าวไว้
2. หลอดที่ขายกันทั่วไป (Commercial)
แล้วหลอดใดล่ะเสียงดี ที่นักเล่นถวิลหาไล่ล่ามาฟังกัน
ความถึกทน เที่ยงตรงของหลอด JAN นั้น มันคนละเรื่องกับเสียงที่ได้
ไม่แน่นอนเสมอไปว่าหลอดที่ใช้ในกิจการทหารต้องเสียงดีเสมอไป
หลอดที่ขายทั่ว ๆ ไปนี่แหล่ะ ที่เซียนน้อยเซียนใหญ่ไล่ล่าหามาฟัง
ส่วนใหญ่แล้วเขาจะดูยี่ห้อ แหล่งผลิต ปีผลิต และองค์ประกอบรวมถึงคุณสมบัติพิเศษของหลอด เช่น เพลท กริด ขาทอง (Gold Pin)
ยังมีอีกเยอะที่ผู้สันทัดไม่ยอมเปิดเผย
เล่นหลอด บางครั้งต้องนั่งส่องกล้องเหมือนกับส่องพระสมเด็จเลยครับ
-
แล้วหลอดหัวหงอก เป็นอย่างไรครับ เห็นคนเล่นวิทยุเก่า ๆ มักจะุถามเวลาซื้อว่าหลอดหัวหงอกหรือเปล่า (หรือว่าเป็นหลอดแก่ ถึงเรียกหัวหงอก)
คืออาการที่แสดงว่ามีอากาศรั่วเข้าไปในหลอด แล้วทำปฏิกิริยากับแบเรี่ยมที่ฉาบไว้เดิมจากสีเงิน เป็น คราบไอสีขาวแทน ซึ่งปกติตำแหน่งที่แบเรี่ยมฉาบอยู่ก็อยู่แถวๆ ด้านบนหัวนั่นล่ะครับ เลยเรียกว่าหัวหงอก
ถ้าหลอดมีอาการนี้ ไม่ต้องเสียบลองนะครับ ฟันธงได้เลยว่าทำงานไม่ได้แล้ว display only ตั้งโชว์ได้อย่างเดียว [gr_in]
แบเรี่ยมไม่ได้ถูกฉาบอยู่ที่หลอดตั้งแต่เริ่มผลิตนะครับ แต่จะอยู่ที่กระเปาะรูปทรงต่างๆที่เราเรียกว่า getter ( halo , D , square ) เหมือนหลอดเริ่มทำงานถึงจะมีแบเรี่ยมออกมาจับที่ตัวหลอดครับ
-
แล้วหลอดหัวหงอก เป็นอย่างไรครับ เห็นคนเล่นวิทยุเก่า ๆ มักจะุถามเวลาซื้อว่าหลอดหัวหงอกหรือเปล่า (หรือว่าเป็นหลอดแก่ ถึงเรียกหัวหงอก)
คืออาการที่แสดงว่ามีอากาศรั่วเข้าไปในหลอด แล้วทำปฏิกิริยากับแบเรี่ยมที่ฉาบไว้เดิมจากสีเงิน เป็น คราบไอสีขาวแทน ซึ่งปกติตำแหน่งที่แบเรี่ยมฉาบอยู่ก็อยู่แถวๆ ด้านบนหัวนั่นล่ะครับ เลยเรียกว่าหัวหงอก
ถ้าหลอดมีอาการนี้ ไม่ต้องเสียบลองนะครับ ฟันธงได้เลยว่าทำงานไม่ได้แล้ว display only ตั้งโชว์ได้อย่างเดียว [gr_in]
แบเรี่ยมไม่ได้ถูกฉาบอยู่ที่หลอดตั้งแต่เริ่มผลิตนะครับ แต่จะอยู่ที่กระเปาะรูปทรงต่างๆที่เราเรียกว่า getter ( halo , D , square ) เหมือนหลอดเริ่มทำงานถึงจะมีแบเรี่ยมออกมาจับที่ตัวหลอดครับ
[res] แหะๆ... ผมก็หลงเข้าใจว่าอยู่ในกระบวนการผลิตในขั้นตอนไล่อากาศออกมา หลงอยู่ตั้งนาน... [phok]
ตามพี่เล็กว่าไว้ครับผม [yes-raccoon]
-
เข้ามาขอบคุณคนถามคนตอบครับ [res]
-
เข้ามาขอบคุณคนถามคนตอบครับ [res]
clapping-1-2
[yes-raccoon]เช่นเดียวกันครับ
[res] [res] [res]
-
ขอบคุณทุกท่านมากครับ [res] [res] [res] [res]
-
มีอใหม่เหมือนกันครับ....ถามหน่อย...ครับ..?
เรามีวิธีวัดหลอดแบบ...ง่าย...ง่าย.... เบื้องต้นไหมครับ... [confused-raccoon]( เช่นแบบ ใช้มิเตอร์หรืออะไรทำนองนี้..)
ว่าหลอดไหนดี....หลอดไหนเสีย... ดูค่ายังไงว่าหลอดนี้...ดี
บางทีไปเจอหลอดดี...ดี / ขายถูกมาก ...แต่ไปกล้าซื้อมา...
กลัว...เปิดไม่ติดครับ...
-
ต้องจ่่ายไฟอย่างเดียวครับถึงจะรู้ว่าหลอดสามารถใช้งานได้หรือไม่ มิเตอร์วัดได้เฉพาะไส้หลอด ว่าขาด หรือไม่เท่านั้นครับ
-
มือใหม่อย่างเรา จดๆๆ
-
ต้องจ่่ายไฟอย่างเดียวครับถึงจะรู้ว่าหลอดสามารถใช้งานได้หรือไม่ มิเตอร์วัดได้เฉพาะไส้หลอด ว่าขาด หรือไม่เท่านั้นครับ
วัด...ไส้หลอด ว่าขาด...ไม่ขาด...
นี่เราต้องใช้ตำแหน่งขา...ที่จ่ายไฟเข้าของแต่ละหลอด...วัดใช่ไหมครับ.. [confused-raccoon]
-
ต้องจ่่ายไฟอย่างเดียวครับถึงจะรู้ว่าหลอดสามารถใช้งานได้หรือไม่ มิเตอร์วัดได้เฉพาะไส้หลอด ว่าขาด หรือไม่เท่านั้นครับ
วัด...ไส้หลอด ว่าขาด...ไม่ขาด...
นี่เราต้องใช้ตำแหน่งขา...ที่จ่ายไฟเข้าของแต่ละหลอด...วัดใช่ไหมครับ.. [confused-raccoon]
ในหนึ่งหลอดจะขาไส้หลอดอยู่สองขาครับ เบอร์ไหนขาอะไรไปเปิดดูดาต้าชีสเอาครับ
ยกตัวอย่าง หลอด 6DJ8 จะมีขาจุดไส้หลอดคือ 4 กับ 5
(http://tdsl.duncanamps.com/link.php?target=FC258E41)
-
อยากรู้จักหลอดต้องอ่านเยอะๆ แล้วหัดดูดาต้า อย่างน้อยก็ให้รู้ว่าขาไหนเป็นอะไรจะได้ใช้งานได้ถูกต้อง ส่วน code เป็นเรื่องที่ต้องค่อยๆใช้เวลาในการศึกษาครับ มีผม และ เพื่อนได้ลงกันไว้เกี่ยวกับการดู code หลอดยี่ห้อต่างๆไว้ลองหากันดูครับ อันนี้เป็นตัวอย่าง code ของหลอด philips
http://frank.pocnet.net/other/Philips/PhilipsCodeListAB.pdf
-
อยากรู้จักหลอดต้องอ่านเยอะๆ แล้วหัดดูดาต้า อย่างน้อยก็ให้รู้ว่าขาไหนเป็นอะไรจะได้ใช้งานได้ถูกต้อง ส่วน code เป็นเรื่องที่ต้องค่อยๆใช้เวลาในการศึกษาครับ มีผม และ เพื่อนได้ลงกันไว้เกี่ยวกับการดู code หลอดยี่ห้อต่างๆไว้ลองหากันดูครับ อันนี้เป็นตัวอย่าง code ของหลอด philips
[url]http://frank.pocnet.net/other/Philips/PhilipsCodeListAB.pdf[/url]
มาสนับสนุนน้าเล็กเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาโค๊ดหลอด
เพราะว่าโค๊ดที่ประทับลงบนแต่ละหลอด คือ กุญแจสำคัญในการไขปริศนาในการเลือกหาหลอดไว้ใช้งาน
มันเด็ดขาดตรงนี้แหล่ะ..
[yes-raccoon]
-
เรามีวิธีวัดหลอดแบบ...ง่าย...ง่าย.... เบื้องต้นไหมครับ... [confused-raccoon]( เช่นแบบ ใช้มิเตอร์หรืออะไรทำนองนี้..)
ว่าหลอดไหนดี....หลอดไหนเสีย... ดูค่ายังไงว่าหลอดนี้...ดี
บางทีไปเจอหลอดดี...ดี / ขายถูกมาก ...แต่ไปกล้าซื้อมา...
กลัว...เปิดไม่ติดครับ...
ความเห็นผม... ยากครับที่สภาพหลอดจะบอกเราว่าดีหรือเสีย หรือการวัดที่มีผลวัดออกมาเป็นตัวเลข สำหรับหลอดใช้แล้ว (used) อย่างที่น้า Create ว่ามาคือการวัดใส้หลอดดูควรทำทุกครั้งเมื่อซื้อมา... จากการที่ไม่มีปัญญาซื้อหลอด NOS หามาได้ก็เป็นหลอดใช้แล้วซะส่วนมาก(บางเบอร์หลอดใหม่หาไม่มี) ประสบการที่เจอคือ ผลวัดด้วยเครื่องวัดนะครับ ออกมาดี เอามาเสียบดู ซ่าส์ ๆ ออกลำโพงเลยก็มี ยังไม่ทันได้ฟังเพลงเลย บางหลอดก็ใช้ได้ไม่เท่าไรไปซะละ ไม่รู้จะรีบไปไหน ... สรุปคือซื้อหลอดเก่าเก็บ (NOS)ช่วยลดความเสี่ยงได้มาก แต่ราคาจะสูง .. ซื้อหลอดใช้แล้วเสี่ยงมากครับแต่ราคาถูกลงมาก แล้วแต่ดวงจริงๆ ผลวัดนั้นพอช่วยได้ในระดับนึง... แต่ถ้าเราชอบอ่ะ เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน กลัวไปใยเพราะเปอร์เซ็นต์ที่จะเจอก็ไม่บ่อยมาก แล้วแต่ดวงเลยครับ เพราะเราก็ไม่รู้ได้จริงๆว่าหลอดที่เราอยากจะซื้อ อยากจะได้นั้น จริงๆแล้วมันผ่านร้อนผ่านเย็นมาเท่าไรกันแน่ครับ .. หากผู้ขายรับประกันภายในเวลากี่วันก็ดี รีบลองดูเลยว่ายังใช้ได้ดีอยู่มั๊ย ถ้าไม่ดียังมีโอกาสส่งคืน แต่ถ้าเก็บเงียบไปเลยแบบนั้นเสดงว่าเรายอมรับความเสี่ยงเอง ถ้าเอาออกมาใช้วันหลังเกิดเสียขึ้นมาต้องทำใจครับ ก็เลือกเอาครับว่าจะยังไง .. ผมเองยังไม่เข็ดครับ
-
มีอใหม่เหมือนกันครับ....ถามหน่อย...ครับ..?
เรามีวิธีวัดหลอดแบบ...ง่าย...ง่าย.... เบื้องต้นไหมครับ... [confused-raccoon]( เช่นแบบ ใช้มิเตอร์หรืออะไรทำนองนี้..)
ว่าหลอดไหนดี....หลอดไหนเสีย... ดูค่ายังไงว่าหลอดนี้...ดี
บางทีไปเจอหลอดดี...ดี / ขายถูกมาก ...แต่ไปกล้าซื้อมา...
กลัว...เปิดไม่ติดครับ...
มิเตอร์ ใช้ได้แค่วัดว่า ไส้หลอด ขาดหรือไม่ เท่านั้นเองครับ
หลอดสูญญากาศ จะรู้ว่า ดีหรือไม่ดี ต้องอาศัยเครื่อมือเฉพาะ ที่เรียกว่า tube tester
ก็คล้ายๆกับ ที่เราวัดเกนณ์การขยาย ของทรานซิสเตอร์นั่นแหละครับ
ไส้หลอดไม่ขาด อากาศไม่ซึมเข้า ก็พอจะใจชื้นว่า หลอดนั้นๆ น่าจะทำงานได้อยู่
แต่จะให้รู้ว่า ดี หรือไม่ดี อันนี้คงต้องอาศัยเครื่องมือเฉพาะ หรือลองกับวงจรจริงๆ
- เพราะยังต้องลุ้นว่า ช็อต หรือเปล่าอีก
- เกนณ์ขยาย ตกลงไปขนาดไหน โดยเฉพาะกับหลอดเก่าเก็บ
โอเค ถ้าไส้หลอด ดูแล้วหรือวัดแล้วว่า ใช้ได้ ทีนี้ก็ต้องมาดูสภาพภายในของหลอด
ปกติ หลอดสูญญากาศ จะมีแบเรี่ยมอยู่ บางเบอร์ก็อยู่ข้างบน บางเบอร์ก็อยู่ข้างๆ แบเรี่ยมที่ว่านี้ จะเป็นสีดำๆ เงาๆ เหมือนปรอท
ถ้าหลอดๆนั้นมีอากาศซึมเข้าไป อากาศจะทำปฎิกิริยากับแบเรี่ยม ทำให้แบเรี่ยมเปลี่ยนเป็นสีขาว เราจึงใช้เป็นจุดสังเกตว่า
มีอากาศเข้าไปในตัวหลอดหรือไม่
ถ้าเจอหมอกขาวๆ อยู่ในหลอด ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าหลอดนั้นอากาศซึมเข้าไปแล้วซึ่งก้ใช้งานไม่ได้แน่ๆ ....แต่
ควรทำการบ้าน หรือศึกษามาให้เยอะสักนิด หรือโทรปรึกษาผู้รู้ เพราะหลอดบางเบอร์ จะมีบางรุ่นที่เป็นเหมือนฝ้าบางๆอยู่ข้างใน
หรือที่เรียกว่า smoke อาจทำให้ชวดหลอดดีๆไปก้ได้
แต่บางเบอร์ ก็ไม่มีแบเรี่ยมนะเออ แต่ก็น้อยมาก อันนี้ต้องศึกษาดีๆ
ทีนี้ ก็มาดูสภาพหลอด ที่อาจมีผลต่อจิตใจ และราคาขายต่อ
เบอร์หลอด ยี่ห้อ ลบเลือนไปมั๊ย หรือชัดเว่อร์เหมือนเพิ่งออกจากโรงงาน
เบอร์หลอด เป็นเบอร์ที่นิยมกันรึเปล่า อย่างเช่น 6l6 ซึ่งก็นิยมมากกว่า 25l6 เป็นต้น เลขตัวหน้าจะใช้บอกว่า หลอดเบอร์นั้น ใช้ไฟจุดไส้หลอดกี่โวลท์
แต่มีหลอดบางเบอร์ ที่ เลขตัวหน้าต่างกัน ทั้งๆที่ ตัวหลังเหมือนกัน แต่...เป็นหลอดคนละตระกูลกันเลยก็มี
แผ่นไมก้าข้างใน หลุด ร่อน เป็นสะเก็ด รึเปล่า
ขาหลอด งอจนเกือบหัก หรือเป็นสนิม หรือ มีรอยเสียบใช้งาน แต่คนขายกลับบอกว่า ไม่เคยใช้ อันนี้ก็น่าระวัง
มีเขม่า ข้างในหรือไม่ ถ้ามี แสดงว่า หลอดนี้ เคยถูกใช้งานมาแล้วแน่นอน
จะซื้อหลอดราคาถูก ยิ่งกว่าแทงหวยรางวัลที่หนึ่งอีกนะครับ
ผมว่า รอซื้อจากเพื่อนๆในเว็บนี่แหละครับ ถึงจะไม่ถูกแบบที่ขายกันในคลองถม(แต่เดี๋ยวนี้ก็คลองถมก็ไม่ค่อยขายหลอดถูกแล้วน่ะ)
แต่อย่างน้อยก็เชื่อใจกันได้ ในระดับหนึ่ง
ใครมีวิธีดูหลอดคร่าวๆอีก เอามาแชร ์กันบ้างนะครับ
-
ให้เดากันเล่นๆ ว่าหลอดนี้ อากาศซึมเข้าไปในหลอดรึยัง
ปล. ภาพประกอบจาก"บ้านผีสิง"
-
>>>>>ไปคุ้ย....มาครับ<<<<<<
หัวข้อ:ลักษณะภายนอกของหลอด บอกอาการเสียได้ไหมครับ
http://www.diyaudiovillage.net/index.php?topic=1515.0