ถามค่าอาร์หน่อยครับ

[civicdotcom]

   ข้อ1  47R กับ 47 โอมห์ มันตัวเดียวกันไหมครับ
       
   ข้อ2 สมมุติว่า 4R7  ก็คือ 4.7 โอมห์ ใช่ไหมครับ   
 

   ข้อ3  R50 กับ 50R คนละตัวกันใช่ไหมครับ     R50  คือ 0.50 โอมห์     ส่วน 50R คือ 50 โอมห์  ยังงี้ไหมครับ   

[CreÃte_Lek ♫]

   ข้อ1  47R กับ 47 โอมห์ มันตัวเดียวกันไหมครับ  ตัวเดียวกันครับ
       
   ข้อ2 สมมุติว่า 4R7  ก็คือ 4.7 โอมห์ ใช่ไหมครับ   ใช่ครับ   
  

   ข้อ3  R50 กับ 50R คนละตัวกันใช่ไหมครับ     R50  คือ 0.50 โอมห์  อันนี้ไม่แน่ใจ  แต่ถ้า 0.5 ohm จะเขียนว่า 0R5 ครับ    ส่วน 50R คือ 50 โอมห์  ยังงี้ไหมครับ    ใช่ครับ

[civicdotcom]

 ขอบคุณครับ พี่เล็ก
  ผมจะไปใส่ ตรง r i/v  ตอนนี้ 32 โอมห์  เสียงมันค่อย  ไปหาอาร์ในกา์ร์ดจอคอม เป็นตัวสี่เหลี่ยม มันเขียน 47R   อีกตัว R50  งั้นผมก็จะลองเปลี่ยนค่า47r ก่อน    ผมสังเกต r50 มันเล็กกว่า 47R

[CreÃte_Lek ♫]

 ยกขาข้างนึง แล้วเอามิเตอร์วัดซิครับ  แต่ถ้าใช้ fluke สามารถวัดในวงจรได้เลยไม่ต้องถอด

[electron]

                   0.5 ohm  เคยเห็นมีคนใช้เป็น  >>  0R5  ครับ   ถ้าเป็น R50 น่าจะเป็นลำดับ Resister ตัวที่ 50 มากกว่านะ

[jam_kung]

 R50  น่าจะเป็น 0.5 โอหม์นะครับ

[electron]

         
         เอ้า มีแบบนี้ด้วยอ่า ผมก็ไปมองแต่ที่เขียนในวงจร ก็ไม่รู้อีกว่า SMD เค้าใช้กันอย่างไรเหมือนกับในภาพข้างบนนี่มั๊ย ไม่เคยใช้เลย [gr_in]

[civicdotcom]

Thanks:   ฝากรูป

 มิเตอร์ดิจิตอลผมเสีย  เหลือแต่เข็มวัดไม่ชัวร์น่ะครับ  ผมตั้งวัดเทียบดูกับ r32โอมห์  มันกระดิกน้อยกว่า 32 โอมห์  น่าจะเป็น 0.50 โอมห์ครับ

[civicdotcom]

ยกขาข้างนึง แล้วเอามิเตอร์วัดซิครับ  แต่ถ้าใช้ fluke สามารถวัดในวงจรได้เลยไม่ต้องถอด

 

   มันช่วยไม่ให้ไฟดูดใช่ป่าว  ตอนวัดถึงต้องยกขา           












   .... ล้อเล่ง

[CreÃte_Lek ♫]

Thanks:   ฝากรูป

 มิเตอร์ดิจิตอลผมเสีย  เหลือแต่เข็มวัดไม่ชัวร์น่ะครับ  ผมตั้งวัดเทียบดูกับ r32โอมห์  มันกระดิกน้อยกว่า 32 โอมห์  น่าจะเป็น 0.50 โอมห์ครับ

อย่าไปยุ่งกับมันเชียวนา พวก SMD น่ะ ผมเองยังแทบไม่รอดตั้งแต่ต้องใส่แว่นเนี่ยไม่ค่อยกล้าไปยุ่งหากไม่จำเป็นครับ ถ้าท่านไปเขี่ยมันหล่ะเละแน่ เดี๋ยวจะหาไม่เจอเอา

[RuNgPuEnGⓇ]

 [roll] ประมาณนี้ครับสำหรับ SMD ไปก็อปเขามา  [laugh-raccoon]

0R1=0.1 Ohm
0000= 0 ohms= link or jumper
R33=0.33 Ohm
00R1=0.1 Ohm
8R2= 8.2 Ohm
0R47=0.47 Ohm
220 is 22 Ohm and not 220 ohms
1R00=1 Ohm
331= 330 Ohms
1000= 100 Ohm
473=47000 or 47k
8202= 82000=82k

[ต่อภูเขียว]

[roll] ประมาณนี้ครับสำหรับ SMD ไปก็อปเขามา  [laugh-raccoon]

0R1=0.1 Ohm
0000= 0 ohms= link or jumper
R33=0.33 Ohm
00R1=0.1 Ohm
8R2= 8.2 Ohm
0R47=0.47 Ohm
220 is 22 Ohm and not 220 ohms
1R00=1 Ohm
331= 330 Ohms
1000= 100 Ohm
473=47000 or 47k
8202= 82000=82k

อ่านแรกๆก็งงครับ ตัว 1000 แต่ทำไมเป็น 100 ถึงบางอ้อ เลขตัวหลังเป็นตัวบอจำนวน 0 นี่เอง [yes-raccoon]

[psang]

Thanks:   ฝากรูป

 มิเตอร์ดิจิตอลผมเสีย  เหลือแต่เข็มวัดไม่ชัวร์น่ะครับ  ผมตั้งวัดเทียบดูกับ r32โอมห์  มันกระดิกน้อยกว่า 32 โอมห์  น่าจะเป็น 0.50 โอมห์ครับ

อย่าไปยุ่งกับมันเชียวนา พวก SMD น่ะ ผมเองยังแทบไม่รอดตั้งแต่ต้องใส่แว่นเนี่ยไม่ค่อยกล้าไปยุ่งหากไม่จำเป็นครับ ถ้าท่านไปเขี่ยมันหล่ะเละแน่ เดี๋ยวจะหาไม่เจอเอา

ขออนุญาตยืมรูป และขอถามเป็นความรู้ด้วยครับ

อุปกรณ์ที่มีแถบคาดสีม่วง 5 ตัวนั้น เป็น C ใช่หรือไม่
ด้านคาดแถบสีนั้นเป็นชั้วลบ(-) ใช่หรือไม่
และเขาอ่านค่ากันอย่างไร ตัวอย่างจากบนบอร์ทนี้ค่าแต่ละบรรทัดมีความหมายว่าอย่างไร ยังคงบอก UF/V อยู่ด้วยหรือไม่

เคยเห็นแต่ที่ซื้อหามาทำ DIY จะระบุค่าเป็น UF/V เช่น 330uF 400VDC (ของฮิตาชิ) เป็นต้น กรณีนี้มีสร้อยต่อท้ายว่า DC ด้วย แต่ถ้าไม่ระบุ จะใช้ได้ทั้ง AC และ DC หรือไม่ ส่วนข้อความอื่น ๆ บนอุปกรณ์ยังบอกอะไรอีกมากมาย ไม่ลงลึกถึงขนาดนั้น

ขอบพระุคุณครับ

[RuNgPuEnGⓇ]

Thanks:   ฝากรูป

 มิเตอร์ดิจิตอลผมเสีย  เหลือแต่เข็มวัดไม่ชัวร์น่ะครับ  ผมตั้งวัดเทียบดูกับ r32โอมห์  มันกระดิกน้อยกว่า 32 โอมห์  น่าจะเป็น 0.50 โอมห์ครับ

อย่าไปยุ่งกับมันเชียวนา พวก SMD น่ะ ผมเองยังแทบไม่รอดตั้งแต่ต้องใส่แว่นเนี่ยไม่ค่อยกล้าไปยุ่งหากไม่จำเป็นครับ ถ้าท่านไปเขี่ยมันหล่ะเละแน่ เดี๋ยวจะหาไม่เจอเอา

ขออนุญาตยืมรูป และขอถามเป็นความรู้ด้วยครับ

อุปกรณ์ที่มีแถบคาดสีม่วง 5 ตัวนั้น เป็น C ใช่หรือไม่
ด้านคาดแถบสีนั้นเป็นชั้วลบ(-) ใช่หรือไม่
และเขาอ่านค่ากันอย่างไร ตัวอย่างจากบนบอร์ทนี้ค่าแต่ละบรรทัดมีความหมายว่าอย่างไร ยังคงบอก UF/V อยู่ด้วยหรือไม่

เคยเห็นแต่ที่ซื้อหามาทำ DIY จะระบุค่าเป็น UF/V เช่น 330uF 400VDC (ของฮิตาชิ) เป็นต้น กรณีนี้มีสร้อยต่อท้ายว่า DC ด้วย แต่ถ้าไม่ระบุ จะใช้ได้ทั้ง AC และ DC หรือไม่ ส่วนข้อความอื่น ๆ บนอุปกรณ์ยังบอกอะไรอีกมากมาย ไม่ลงลึกถึงขนาดนั้น

ขอบพระุคุณครับ

เข้าใจถูกต้องแล้วครับ ยังคงบอก uF/V ส่วนตัวอักษรอื่นก็ต้องตามหาข้อมูลของยี่ห้อนั้นๆ



ลองอ่านตามลิ้งค์ดูครับจะเข้าใจมากขึ้น

http://wara.com/article-587.html

[psang]

ขออนุญาตยืมรูป และขอถามเป็นความรู้ด้วยครับ

อุปกรณ์ที่มีแถบคาดสีม่วง 5 ตัวนั้น เป็น C ใช่หรือไม่
ด้านคาดแถบสีนั้นเป็นชั้วลบ(-) ใช่หรือไม่
และเขาอ่านค่ากันอย่างไร ตัวอย่างจากบนบอร์ทนี้ค่าแต่ละบรรทัดมีความหมายว่าอย่างไร ยังคงบอก UF/V อยู่ด้วยหรือไม่

เคยเห็นแต่ที่ซื้อหามาทำ DIY จะระบุค่าเป็น UF/V เช่น 330uF 400VDC (ของฮิตาชิ) เป็นต้น กรณีนี้มีสร้อยต่อท้ายว่า DC ด้วย แต่ถ้าไม่ระบุ จะใช้ได้ทั้ง AC และ DC หรือไม่ ส่วนข้อความอื่น ๆ บนอุปกรณ์ยังบอกอะไรอีกมากมาย ไม่ลงลึกถึงขนาดนั้น

ขอบพระุคุณครับ

เข้าใจถูกต้องแล้วครับ ยังคงบอก uF/V ส่วนตัวอักษรอื่นก็ต้องตามหาข้อมูลของยี่ห้อนั้นๆ



ลองอ่านตามลิ้งค์ดูครับจะเข้าใจมากขึ้น

http://wara.com/article-587.html

ขอบพระคุณครับ

[civicdotcom]

  อาร์ 0 โอมห์  ต่างกับฟิวส์ ในแง่ไหนครับ
ไปค้นมา อ่านยังไม่เข้าใจครับ  เขาบอกว่าต่างกันที่กระแส  ที่เข้าใจน่ะครับ สมมุติฟิวส์ 5 แอมป์ ก็ทนกระแส 5 แอมป์ ถ้าเกิน 5 แอมป์ก็ขาด ส่วนอาร์0โอมห์ รับกระแสได้เยอะ มากกว่า 5 แอมป์ อย่างงี้ไหมครับ   แล้วมันจะต่างกับเอาลวดทองแดงมาต่อยังไงครับ
  หรือต่างกันในผลทางเสียง ไหมครับ   ระหว่างฟิวส์กับอาร์0โอมห์  


    ยกตัวอย่างครับ  v= i*r  
    สมมุติว่าผมรู้ค่า v = 12 โวลต์  ค่า r สมมุติคือฟิวส์  0 โอมห์   ผมจะหากระแส    ใช้สูตรแล้วกระแส มันก็เป็น ศูนย์ (จริงๆ 12หาร0 เท่ากับหาค่าไม่ได้)    งงตรงนี้หล่ะครับ 

 

[jam_kung]

ขอ ออกความเห็นบ้าง
ผมว่า มันก็ต่างกันที่กระแส เหมือนที่ท่านค้นมานั่นแหละครับ
คือ อาร์ 0 โอมห์ มันก็คือ ตัวต้านทาน ที่สร้างให้มีค่า 0 โอมห์  แต่จริงๆ ไม่ใช่ศูนย์ มันยังมีค่าเป็น มิลลิโอมห์ อยู่ ลองดูเสปค นี้
http://www.vishay.com/docs/31017/rcwp99.pdf
http://www.vishay.com/docs/31016/frj.pdf

อาร์ 0 โอมห์ มันก็ยังมีข้อจำกัดทางกระแส เหมือนตัวต้านทานปกติ เช่นเดิม ตามวัสดุที่ใช้ทำ

จัมป์เปอร์ หรือลวดทองแดง มันก็ไม่ได้มีความต้านทาน เท่ากับ 0 ต่อให้ ต่อให้วัดที่ความยาว เป็นมิลลิเมตร
มันก็ยังมีความต้านทานเป็น มิลลิโอห์ม เผลอๆจะเป็น ไมโครโอห์มด้วย

ผลทางเสียง  อันนี้ไม่ทราบครับ 

มันต้อง เป็น อินฟินิตี้ ไม่ใช่รึครับ
ในการคำนวน มันได้ผลออกมาว่า กระแสผ่านได้ ไม่จำกัด
 
แต่ในทางปฏิบัติ เนื่องจากโลหะทุกชนิด มีค่าความต้านทานเฉพาะตัว
เปลี่ยนไปตามขนาด หน้าตัด รูปทรง  และอื่นๆ
และฟิวส์ มันก็ไม่ได้ทำด้วยตะกั่วล้วนๆ แบบที่เราคิด
มันยังมีสารโลหะอื่นๆประกอบอื่นๆ อยู่ด้วย

ดูอย่าง แท่งทองแดง ในตู้คอนโทรล หรือที่เรียกว่า บัสบาร์
แท่งขนาดๆ น้องๆไม้หน้าสาม ยังมีระบุเสปคว่าทนกระแสกี่ร้อยแอมป์

[civicdotcom]

   

ขอ ออกความเห็นบ้าง
ผมว่า มันก็ต่างกันที่กระแส เหมือนที่ท่านค้นมานั่นแหละครับ
คือ อาร์ 0 โอมห์ มันก็คือ ตัวต้านทาน ที่สร้างให้มีค่า 0 โอมห์  แต่จริงๆ ไม่ใช่ศูนย์ มันยังมีค่าเป็น มิลลิโอมห์ อยู่ ลองดูเสปค นี้
http://www.vishay.com/docs/31017/rcwp99.pdf
http://www.vishay.com/docs/31016/frj.pdf

อาร์ 0 โอมห์ มันก็ยังมีข้อจำกัดทางกระแส เหมือนตัวต้านทานปกติ เช่นเดิม ตามวัสดุที่ใช้ทำ

จัมป์เปอร์ หรือลวดทองแดง มันก็ไม่ได้มีความต้านทาน เท่ากับ 0 ต่อให้ ต่อให้วัดที่ความยาว เป็นมิลลิเมตร
มันก็ยังมีความต้านทานเป็น มิลลิโอห์ม เผลอๆจะเป็น ไมโครโอห์มด้วย

ผลทางเสียง  อันนี้ไม่ทราบครับ 

มันต้อง เป็น อินฟินิตี้ ไม่ใช่รึครับ
ในการคำนวน มันได้ผลออกมาว่า กระแสผ่านได้ ไม่จำกัด
 
แต่ในทางปฏิบัติ เนื่องจากโลหะทุกชนิด มีค่าความต้านทานเฉพาะตัว
เปลี่ยนไปตามขนาด หน้าตัด รูปทรง  และอื่นๆ
และฟิวส์ มันก็ไม่ได้ทำด้วยตะกั่วล้วนๆ แบบที่เราคิด
มันยังมีสารโลหะอื่นๆประกอบอื่นๆ อยู่ด้วย

ดูอย่าง แท่งทองแดง ในตู้คอนโทรล หรือที่เรียกว่า บัสบาร์
แท่งขนาดๆ น้องๆไม้หน้าสาม ยังมีระบุเสปคว่าทนกระแสกี่ร้อยแอมป์

เออใช่ครับ  ลิมไป  อะไรหารด้วยศูนย์เป็นอินฟินีตี้  ก็แสดงว่า กระแสผ่านได้อนันต์(ถ้าตัวนำมันทนได้)  เข้าใจตรงนี้แล้วครับ     
 เห็นในแอมป์ผม มันมีฟิวส์ dc เลยเห็นว่า ถ้า อาร์ 0 โอมห์มันไม่อั้นกระแส ว่าจะเปลี่ยนลองดู   

แล้ว อาร์ 0 โอมห์ มันต่างกับ ลวดเอามาจั๊ม ยังไงครับ  หรือจะต่างกันที่วัตต์หรือเปล่าครับ

[civicdotcom]

   สรุปเองเลย  ลวดจัมเปอร์ก็คือฟิวส์  ถ้าจะให้ความต้านทานใกล้ 0 โอมห์มากที่สุด ลวดหรือฟิวส์ต้องเส้นใหญ่  แต่ข้อเสียคือถ้ามันเส้นใหญ่ มันจะไม่ขาด เมื่อกระแสมาเกิน   แต่อาร์ศูนย์โอมห์  เขาทำออกมาน่าจะทำให้ใกล้เคียงกับความต้านทานที่ระบุมากที่สุด
 
    ดังนั้น
    ฟิวส์ ทำหน้าที่ขาด เมื่อกระแสเกิน ผู้ผลิตคงเน้นที่ทำอย่างไร มันจะขาด ถ้ามีกระแสเกินจากที่กำหนดคงไม่ได้เน้นค่าความต้านทาน   ดังนั้นจากสูตร E= MC2 (ไม่เกี่ยวกัน เขียนไปให้มันขลัง)  ฟิวส์ที่ดี  (อ้างอิงกับ การขาดเมื่อกระแสเท่ากัน)  ลวดต้องเส้นใหญ่กว่า(เพราะความต้านทานน้อยกว่า)
     อาร์ ผู้ผลิต คงทำให้คุณสมบัติใกล้เคียงสเปกที่กำหนด คือศูนย์โอมห์   ในทางเสียง อาร์ดีกว่าฟิวส์ (ถ้าไม่คำนึงถึงว่ามันจะขาดยากกว่า) เพราะมันมีความต้านทานน้อยกว่าฟิวส์


        ที่พูดมาทั้งหมดผมคิดเอาเองน่ะครับ   ล่อ ให้น้าแว่นออกมาเฉลย


         

[jam_kung]

   สรุปเองเลย  ลวดจัมเปอร์ก็คือฟิวส์  ถ้าจะให้ความต้านทานใกล้ 0 โอมห์มากที่สุด ลวดหรือฟิวส์ต้องเส้นใหญ่  แต่ข้อเสียคือถ้ามันเส้นใหญ่ มันจะไม่ขาด เมื่อกระแสมาเกิน   แต่อาร์ศูนย์โอมห์  เขาทำออกมาน่าจะทำให้ใกล้เคียงกับความต้านทานที่ระบุมากที่สุด
 
    ดังนั้น
    ฟิวส์ ทำหน้าที่ขาด เมื่อกระแสเกิน ผู้ผลิตคงเน้นที่ทำอย่างไร มันจะขาด ถ้ามีกระแสเกินจากที่กำหนดคงไม่ได้เน้นค่าความต้านทาน   ดังนั้นจากสูตร E= MC2 (ไม่เกี่ยวกัน เขียนไปให้มันขลัง)  ฟิวส์ที่ดี  (อ้างอิงกับ การขาดเมื่อกระแสเท่ากัน)  ลวดต้องเส้นใหญ่กว่า(เพราะความต้านทานน้อยกว่า)
     อาร์ ผู้ผลิต คงทำให้คุณสมบัติใกล้เคียงสเปกที่กำหนด คือศูนย์โอมห์   ในทางเสียง อาร์ดีกว่าฟิวส์ (ถ้าไม่คำนึงถึงว่ามันจะขาดยากกว่า) เพราะมันมีความต้านทานน้อยกว่าฟิวส์


        ที่พูดมาทั้งหมดผมคิดเอาเองน่ะครับ   ล่อ ให้น้าแว่นออกมาเฉลย


         

งั้นเรามาเถียง กันไปเรื่อยๆ เผื่อน้าแว่น(เรียกตามท่าน) จะหลงเข้ามาตอบ 5555

[jam_kung]

   สรุปเองเลย  ลวดจัมเปอร์ก็คือฟิวส์  ถ้าจะให้ความต้านทานใกล้ 0 โอมห์มากที่สุด ลวดหรือฟิวส์ต้องเส้นใหญ่  แต่ข้อเสียคือถ้ามันเส้นใหญ่ มันจะไม่ขาด เมื่อกระแสมาเกิน   แต่อาร์ศูนย์โอมห์  เขาทำออกมาน่าจะทำให้ใกล้เคียงกับความต้านทานที่ระบุมากที่สุด
 
    ดังนั้น
    ฟิวส์ ทำหน้าที่ขาด เมื่อกระแสเกิน ผู้ผลิตคงเน้นที่ทำอย่างไร มันจะขาด ถ้ามีกระแสเกินจากที่กำหนดคงไม่ได้เน้นค่าความต้านทาน   ดังนั้นจากสูตร E= MC2 (ไม่เกี่ยวกัน เขียนไปให้มันขลัง)  ฟิวส์ที่ดี  (อ้างอิงกับ การขาดเมื่อกระแสเท่ากัน)  ลวดต้องเส้นใหญ่กว่า(เพราะความต้านทานน้อยกว่า)
     อาร์ ผู้ผลิต คงทำให้คุณสมบัติใกล้เคียงสเปกที่กำหนด คือศูนย์โอมห์   ในทางเสียง อาร์ดีกว่าฟิวส์ (ถ้าไม่คำนึงถึงว่ามันจะขาดยากกว่า) เพราะมันมีความต้านทานน้อยกว่าฟิวส์


        ที่พูดมาทั้งหมดผมคิดเอาเองน่ะครับ   ล่อ ให้น้าแว่นออกมาเฉลย
         

อาร์ 0 โอมห์  ไม่ใช่ ฟิวส์นะครับ
ตัวต้านทาน ออกแบบ ให้ต้านทานกระแสไฟฟ้าไว้ส่วนหนึ่ง ตามค่าของมัน ที่เหลือก็ยอมให้ไหลผ่านตัวมันไป  ค่า อาร์มาก ก็ต้านทานมาก  ค่าน้อย ก็ต้านทาน น้อย
แต่ ฟิวส์ ออกแบบให้ กระแสไฟฟ้า ไหลผ่านไปได้ จนถึงระดับหนึ่ง ตามพิกัดที่มันทนได้ เกินกว่านี้ มันจะร้อนอย่างรวดเร็ว จนขาดวงจรออกจากัน

[civicdotcom]

อ้าว งั้นอาร์ก็คงอั้นกระแส 
สรุป ขอเปลี่ยน  ฟิวส์ดีกว่าอาร์ครับ   


ตัวต้านทาน ออกแบบ ให้ต้านทานกระแสไฟฟ้าไว้ส่วนหนึ่ง ตามค่าของมัน ที่เหลือก็ยอมให้ไหลผ่านตัวมันไป  ค่า อาร์มาก ก็ต้านทานมาก  ค่าน้อย ก็ต้านทาน น้อย


เอ๊ะ งงอีกแร๊ว  เราพูดถึงอาร์ 0 โอมห์นิ   ความต้านทานน้อย เผลอๆมันจะน้อยกว่าฟิวส์อีก แล้วทำไมมันแทนฟิวส์ไม่ได้ครับ  ในดาต้าชีทที่ลิงค์มา (ผมอ่านแบบงูๆปลาๆนะ) มันก็จะบอกพิกัดเป็น กี่แอมป์กี่แอมป์ ค่อยขาดไม่ใช่หรือครับ ผมนึกว่ามันออกแบบมาแทนฟิวส์ซะอีก  แล้วถ้าไม่ใช่มาแทนฟิวส์ อาร์ 0 โอมห์เอามาใช้ส่วนไหนในวงจรครับ เพื่อประโยชน์อะไรครับ

[RuNgPuEnGⓇ]

 [confused-raccoon] R 0 Ohm เอามาใช้แทน จั๊มป์เปอร์ และ ใช้ร่วมกับ R ในรูปร่างที่เหมือนกันบนบอร์ดเดียวกัน เพื่อ สวยงาม ความเป็นระเบียบ และปลอดภัยจาก ลายวงจรลอดผ่านตัวมัน  รวมถึงง่ายต่อการประกอบที่ใช้เครื่องจักร

หากใช้ลวดมาแทน ลายปริ้นท์แบบ 2 หน้าเส้นลวดอาจไปซ็อตกับลายวงจรที่ลอดผ่านตัวมันได้ อันนี้น่าจะเป็นจุดสำคัญ แต่ถ้าหน้าเดียวก็ใช้เส้นลวดแทนได้

ไม่ควรเอาไปแทนฟิวส์ครับ เพราะทำงานคนละหน้าที่กัน และ R 0 Ohm ถ้าพูดง่ายๆ ก็คือเส้นลวดที่หน้าตาเหมือน R นั้นแหละครับ  [roll]

[jam_kung]

คือ จะบอกว่า อาร์ แต่เดิม ไม่ได้ออกแบบให้ เป็นตัวตัดวงเมื่อกระแสเกิน แบบ ฟิวส์  นะครับ
แต่ปัจจุบัน มีตัวต้านทานอีกแบบหนึ่ง ที่เป็นฟิวส์ ด้วย
http://www.vishay.com/resistors-discrete/wslt2010/fusible/

อันข้างล่างนี้ เดาล้วนๆ
ผมว่า อาร์ฟิวส์ จุดประสงค์หลักๆ คือน่าจะใช้เป็นจัมป์เปอร์ ในวงจร ในส่วนทางเดินของสัญญาณ หรือ ทางเดินที่มีกระแสไม่สูง
เหตุ ที่ออกแบบมาเ็นตัวต้านทาน ไม่ใช่ ลวด  ก็น่าจะ เพราะ เวลาเข้าเครื่องเสียบอุปกรณื ตามโรงงานประกอยแผงวงจร มันจะสะดวก( รึเปล่า)
หรือ อย่างแผง วงจร smd พวกนี้ เวลา จัํมป์ข้ามไปยังจุดอื่น จะไม่ใช้ลวดจั๊มป์ ก็จะมี อาร์ 0 โอมห์ ที่ออกแบบเป็น ชิป แทน

[civicdotcom]

   เดี๋ยว  รอเดี๋ยวน่ะครับ ท่านทั้งสอง   ผมจะไปถ่ายรูปอะไรมาให้ดู 

[civicdotcom]

Thanks:   ฝากรูป

   ตัวนี้เป็น int cec3300 r  ที่เห็นในรูปไม่ใส่ฟิวส์  ผมหักขาปลั๊กเอามาใส่แทนฟิวส์    ตรงนี้แหละครับ มันคือฟิวส์ dc เห็นเขาคุยกันว่า ใส่ฟิวส์ c3 แล้วเสียงดีขึ้นอีกหลายเติบ  ทีนี้ฟิวส์ มันตัวละ2200บาท บน2ล่าง2 เป็น 4 ตัว  เป็นเงิน 8800 บาท  ผมก็ว่าถ้าซื้อฟิวส์แพงขนาดเนี้ย อัพเป็นรุ่นสูงขึ้นไปน่าจะดีกว่า  เลยคิดขึ้นเอาเองว่าในเมื่อเปลี่ยนฟิวส์แล้วเสียงมันดีขึ้น ต่อตรงมันไปเลย มันน่าจะดีกว่ามีฟิวส์อีก ถ้ามันพังก็สมน้ำหน้าตัวเองล่ะกัน แต่ถ้าเสียงดีมันคุ้มน๊า ตั้ง8800  เลยเปลี่ยนลองดู  ที่ไหนได้ มันไม่ได้เปลี่ยนง่ายๆ ตอนแรกเปลี่ยนเสร็จมันฮัม เข้าใจว่ามันต้องมีตรงไหนไม่แน่น  ต้องทำตั้งหลายรอบกว่าจะหายฮัม  ก็เลยค้างไว้อย่างนี้เลย ก็เป็นปีแล้วยังไม่พัง  
   คราวเนี้ย ถ้าผมเอาอาร์ 0 โอมห์ มาแทน คิดว่ามันน่า..ทำ  ไหมครับ   ไฟไม่เกิน 22 vdc

ที่เขาคุยมา   http://piyanas.com/test_product1.php?cat=1&id=205&lang=th

[jam_kung]

เรื่องเสียง  ขอผ่านครับ
แต่ในความเห็นส่วนตัว
จุดประสงค์ ที่เค้าใช้ฟิวส์  ก็เพื่อ เผื่อเอาไว้ว่า หากวงจร มีการลัดวงจรเกิดขึ้น ฟิวส์ จะเป็นตัวตัดวงจร เพื่อป้องกันการเสียหายที่จะลุกลามออกไป
แต่หากว่าคิดว่า จะไม่ใช้ฟิวส์แล้ว ตรงนี้จะใช้ ลวดเงิน ลวดชุบทอง มาแทนฟิวส์ ก็ได้ครับ

[civicdotcom]

เรื่องเสียง  ขอผ่านครับ
แต่ในความเห็นส่วนตัว
จุดประสงค์ ที่เค้าใช้ฟิวส์  ก็เพื่อ เผื่อเอาไว้ว่า หากวงจร มีการลัดวงจรเกิดขึ้น ฟิวส์ จะเป็นตัวตัดวงจร เพื่อป้องกันการเสียหายที่จะลุกลามออกไป
แต่หากว่าคิดว่า จะไม่ใช้ฟิวส์แล้ว ตรงนี้จะใช้ ลวดเงิน ลวดชุบทอง มาแทนฟิวส์ ก็ได้ครับ

   
    ขอบคุณครับ  แวะมาบ่อยๆหน่อยน่ะครับ   
 ผมเห็นลีลาท่านตอบแล้ว  สงสัยไม่ธรรมดาหล่ะ   (ผมคาดการณ์จากการเขียนอ่ะครับ ) ตกลงผมไม่เปลี่ยนแระ  หมดข้อสงสัยเรื่องอาร์ศูนย์โอมห์แล้วครับ ขอบคุณ ทั้งสองท่านที่ให้ความกระจ่าง เข้าใจแจ่มแจ้งชัดเจนครับ