ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille  (อ่าน 10782 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กรกฎาคม 2016, 10:28:37 AM โดย CreÃte_Lek ♫ »
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 10:25:38 AM »


     Tenses มีไว้เพื่อระบุ
- เวลา (ว่าเป็น อดีต / ปัจจุบัน / หรืออนาคต)
- ลักษณะของเหตุการณ์ (ว่าเป็นเหตุการณ์แบบปกติ / กำลังเกิดขึ้น / หรือเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ในอดีตหรือ ณ เวลาหนึ่งๆ)

     จริงๆแล้วมีทั้งหมด 12 แบบ ไม่อยากให้จำนะครับ เพราะจำๆเดี๋ยวก็ลืมครับ อยากจะให้เข้าใจมากกว่า คือเข้าใจว่า 12 Tenses นั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร

ไปดูวีดีโอเต็มๆ กันเลยครับ แค่10 นาที ได้ครบทุก Tense เลยจ้า

ดูวีดีโอที่ --> http://www.mylearnville.com/lesson/grammar-free-lesson4/
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 10:27:15 AM »


การเลือกใช้ Verb ให้ถูกต้อง ดูสิ่งต่อไปนี้
1 ดู Subject (ประธาน) ว่าเป็นเอกพจน์ หรือพหูพจน์ - แล้วเลือก Verb ให้สอดคล้องกันครับ

2 ดู Tenses ว่าเหมาะสมหรือไม่ - ต้องดู2 อย่าง คือ :
- ดูเวลา - ว่ากริยานั้นเกิดใน อดีต / ปัจจุบัน / หรืออนาคต
- ดูลักษณะเหตุการณ์ - ว่าเป็นเหตุการณ์แบบปกติ / กำลังเกิดขึ้น / หรือเริ่มเกิดตั้งแต่ในอดีตหรือ ณ เวลาหนึ่งๆ

3 ดู Voices ว่าเป็น Active หรือ Passive เช่น
- Active (ประธานทำกริยาเอง)
= We wash the car every two weeks.
= พวกเราล้างรถทุกๆ 2 อาทิตย์

- Passive (ประธานถูกกระทำ)
= The car is washed every two weeks.
= รถยนต์ถูกล้างทุกๆ 2 อาทิตย์

ตัวอย่างที่ 1
We wash the car every two weeks.
พวกเราล้างรถทุกๆ 2 อาทิตย์
- wash เหมาะสมกับประธาน We
- Tense เป็น Present Simple คือ เป็นเหตุการณ์ที่เป็นความจริง เกิดขึ้นเป็นปกติ
- ประโยคนี้เป็น Active Voice คือ เน้นประธาน (We) ว่าเป็นคนทำกริยา “ล้างรถ” (wash)

ตัวอย่างที่ 2
The car is washed every two weeks.
รถยนต์ถูกล้างทุกๆ 2 อาทิตย์
- is washed เหมาะสมกับประธาน The car (เอกพจน์)
- Tense เป็น Present Simple คือ เป็นเหตุการณ์ที่เป็นความจริง เกิดขึ้นเป็นปกติ
- ประโยคนี้เป็น Passive Voice คือ เน้นประธาน (The car) ว่าเป็นถูกกระทำ คือ “ถูกล้าง” (is washed)
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 10:30:01 AM »



     Active Voice ประธานในประโยคเป็นผู้กระทำกริยา
 Passive voice ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ
เรานิยมใช้ Passive Voice เมื่อเราไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ทำ หรือไม่สนใจว่าใครเป็นผู้ทำ

 วิธีการเปลี่ยน Active Voice เป็น Passive Voice
1. สลับที่ประธานและกรรม (ใส by นำหน้าผู้กระทำ)
2. เปลี่ยนกริยาให้อยู่ในรูป be + V3

ตัวอย่าง 1
Active Voice: They are making new TV shows all the time.
พวกเขาทำรายการโชว์ทางทีวีตลอดเวลา
- สลับที่ ประธาน (They) และ กรรม (new TV shows)
- “are making” เป็น Verb (Present Continuous Tense) เปลี่ยนเป็น “are being made”
- คำว่า “by them” สามารถละไว้ได้ ถ้าไม่สำคัญ หรือไม่ได้มีใจความที่ชัดเจน
 Passive Voice: New TV shows are being made all the time (by them).

ตัวอย่าง 2
Active Voice: People consider Tom Cruise to be a successful actor.
คนคิดว่า ทอม ครูซ เป็น นักแสดงที่ประสบความสำเร็จ
- สลับที่ ประธาน (People) และ กรรม (Tom Cruise)
- “consider” เป็น Verb (Present Simple Tense) เปลี่ยนเป็น is considered
- คำว่า “by people” สามารถละไว้ได้ ถ้าไม่สำคัญ หรือไม่ได้มีใจความที่ชัดเจน
 Passive Voice: Tom Cruise is considered to be a successful actor.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กรกฎาคม 2016, 11:16:16 AM โดย CreÃte_Lek ♫ »
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 10:31:06 AM »


     Adjective คือคำที่ ขยายคำนาม (Noun) เช่น
- comfortable = สะดวกสบาย สบาย
- bossy = ชอบออกคำสั่ง เจ้ากี้เจ้าการ ชอบบงการ
- different = ซึ่งแตกต่าง
- dirty = สกปรก ไม่สะอาด ลามก
- beautiful = สวยงาม สวย

Adjective โดยส่วนใหญ่จะปรากฏอยู่ 3 ที่คือ
1) Adj. นำหน้า Noun
That’s a dirty dog. นั่นคือหมาที่สกปรก
[ Adj. คือ “dirty” และ N. ในที่นี้คือ “dog” ]

2) Adj. อยู่หลัง V. to be
She is bossy. หล่อนเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการ
[ be ก็คือ “is” และ Adj. ก็คือ “bossy” ]

3) Adj. อยู่หลัง linking verb
They look tired. พวกเขาดูเหนื่อยๆ
[ linking verb คือ look และ Adj. คือ “tired” ]

 linking verb คือคำที่แสดงภาพหรือแสดงความรู้สึกของประธาน เช่น
กลายเป็น = become, go, get, turn, ...
ดูเหมือนว่า =seem, appear, look, ...
อยู่ในสภาพนั้นๆ = fall, remain, maintain, keep, stay, ...
อื่นๆ = feel (รู้สึก...), smell (มีกลิ่น...), taste (รสชาติ...), sound (ฟังดู), ...

ตำแหน่งอื่นของ Adjective เช่น
- I find my job interesting.
interesting เป็น Adjective ซึ่งวางอยู่หลัง Verb หลัก (find)

- There is nothing interesting here, let’s go somewhere else.
interesting เป็น Adjective ซึ่งวางอยู่หลัง Pronoun ที่ไม่ชี้เฉพาะ

 ตัวอย่างคำของกลุ่ม Pronoun ไม่ชี้เฉพาะ ไม่ระบุว่าเป็นใครชัดเจน เช่น
someone, anyone, no one, everyone, somebody, anybody, nobody, everything, something, anything, nothing, everybody
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 10:32:20 AM »



     กฏ 1 ข้อของ Adverb คือ Adverb จะทำหน้าที่ขยายทุกอย่างที่ไม่ใช่ Noun (เพราะสิ่งที่ขยาย Noun นั้นคือ Adjective )

ลักษณะของ Adverb:
- 90% ของ Adverb จะลงท้ายด้วยคำว่า ‘ly’ ยกเว้นคำบางกลุ่ม เช่น hard, fast, ...
- 90% ของ Adverb มักจะแปลว่า “อย่าง...” เช่น “อย่างไว อย่างมากๆ อย่างช้า ... ”

ตัวอย่างหน้าที่ของ Adverb ในประโยค
- ขยาย Verb: He works hard every day.
hard เป็น adverb และ works เป็น verb
hard ขยาย works เพื่อเน้นว่า ทำงาน “อย่างหนัก”

- ขยาย Adjective: It is surprisingly hot today.
surprisingly เป็น adverb และ hot เป็น adjective
surprisingly ขยาย hot เพื่อเน้นว่า ร้อน “อย่างน่าประหลาดใจ”

- ขยาย Adverb ด้วยกันเอง: The train travels very quickly. (very ขยาย quickly)
very และ quickly เป็น adverb
quickly ขยาย travels เพื่อเน้นว่า เดินทาง “อย่างรวดเร็ว”
very ขยาย quickly เพื่อเน้นว่า อย่างรวดเร็ว “อย่างมากๆ”

- ขยาย ทั้งประโยค: Unfortunately, we didn’t see any shows. (Unfortunately ขยาย ทั้งประโยค)
Unfortunately เป็น adverb
Unfortunately ขยาย ทั้งประโยค เพื่อเน้นว่า “เสียดายจัง” ที่ไม่ได้ดูโชว์
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 10:35:27 AM »



     ขั้นกว่า - มี than ตามหลัง Adj./Adv.
ขั้นสูงสุด - มี the นำหน้า Adj./Adv.

   ตัวอย่างการเปลี่ยนคำ

   คำที่มี 1 พยางค์
- ขั้นกว่า เติม ‘er’ ขั้นสูงสุด เติม ‘est’
- เสียงสั้น ให้เพิ่มตัวสะกดก่อน
small - smaller - the smallest
big - bigger - the biggest

   คำที่มี 2 พยางค์ ขึ้นไป
- ขั้นกว่าเติม ‘more’ ด้านหน้า
- ขั้นสูงสุดเติม ‘most’ สำหรับ
worried - more worried - the most worried
beautiful - more beautiful - the most beautiful

   ลงท้ายด้วย ‘y’ ให้เปลี่ยน ‘y’ เป็น ‘i’ แล้วเติม ‘er’ หรือ ‘est’ เช่น
happy - happier - the happiest
early - earlier - the earliest

  ยกเว้นคำบางกลุ่ม ที่มีการเปลี่ยนเป็นคำอื่น เช่น
good - better - the best
bad - worse - the worst
little - less - the least
much / many - more - the most

3 ระดับของการเปรียบเทียบ

 1. ขั้นเท่า (ใช้ as)
- the same + Noun + as
She registers the same course as I.
(เปลี่ยน I เป็น I do, หรือ me ก็ได้)

- as + Adj. / Adv. + as
My dress is three times as big as a your dress.
(three times เน้นว่า 3 เท่า)

 2. ขั้นกว่า
The guitar is bigger than the violin.
= กีตาร์ใหญ่กว่าไวโอลิน
A horse can run much faster than a cow.
= ม้าสามารถวิ่งได้เร็วกว่าวัวมากๆ
(much เน้นว่าเร็วกว่า “มากๆ”)

 3. ขั้นสูงสุด
Cheetah is the fastest land animal in the world.
= เสือชีต้าร์เป็นสัตว์บนบกที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก
(ใส่ in the world เน้นว่าที่สุดในโลก)

This is the most expensive couch of this brand.
= นี่คือโซฟาที่ราคาแพงมากที่สุดของยี่ห้อนี้

 4. อื่นๆ
- The + ขั้นกว่า , the + ขั้นกว่า (ยิ่ง ... , ยิ่ง ... )
The sooner, the better.
(ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี)

The more you laugh, the longer you live.
(ยิ่งคุณหัวเราะมาก ยิ่งอายุยืนยาวมาก)

- การใช้ other
She is more dependable than any other student.
(หรือ other students)
= หล่อนเป็นคนที่เชื่อถือได้มากกว่านักเรียนคนอื่นๆ

No other student is as dependable as she.
= ไม่นักเรียนคนไหนที่น่าเชื่อถือได้เท่ากับหล่อน
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ RuNgPuEnGⓇ

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9482
  • ถูกใจกด Like+ 590
  • Emergency :[img width=800 height=600]
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 10:53:37 AM »
 [0002053E] เป็นวิชาที่ยากกว่าวงจรไฟฟ้ากระเเสสลับ

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 11:03:31 AM »


Preposition คือคำที่ทำหน้าที่เชื่อมคำอื่นๆกับคำนาม
เช็ค 2 อย่าง
1. เช็คว่า Preposition ตามด้วย Noun
2. ความหมายต้องเข้ากับบริบทเมื่อแปล

ตัวอย่างเช่น
Your blood and urine will be checked for infection.
[ เลือดและปัสสาวะของคุณจะถูกนำไปตรวจ สำหรับภาวะการติดเชื้อ ]
- for เป็น Preposition
- ตามด้วย Noun ซึ่งก็คือ “infection”
- แปลแล้วเข้ากับบริบท คือ “ตรวจสำหรับภาวะการติดเชื้อ”
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 11:05:29 AM »



     คำกลุ่มนี้ใส่หน้าคำนาม เมื่อพูดถึงสิ่งอื่น อันอื่น หรือคนอื่นๆ

 ใช้แบบไม่เจาะจง
  อีกชิ้นหนึ่ง (เอกพจน์)
- ใช้ another หรือ another cookie
- เช่น I would like another.
= ฉันต้องการคุกกี้อีกชิ้นหนึ่ง
(อร่อยๆ ขอเพิ่มอีก 1 ชิ้น)

      ชิ้นอื่นๆ (พหูพจน์)
- ใช้ others หรือ other cookies
- เช่น I would like other cookies.
- ฉันต้องการคุกกี้อื่นๆ
(อันไหนก็ได้ แต่ไม่ชอบคุกกี้ในจานนี้)

   ใช้แบบเจาะจง (มี the เสมอ)
   อีกชิ้นหนึ่งที่เหลือ
- ใช้ the other หรือ the other cookie (เอกพจน์)
- เช่น I would like the other cookie.
- ฉันต้องการคุกกี้อีกชิ้นที่เหลือ
(อร่อยมาก ขอกินอีก 1 ชิ้นที่เหลืออยู่)

      ชิ้นอื่นๆ อันอื่นๆ หรือสิ่งอื่นๆ ที่เหลือ (พหูพจน์)
- ใช้ the others หรือ the other cookies
- เช่น I would like the other cookies.
- ฉันต้องการคุกกี้ชิ้นอื่นๆที่เหลือ
(เจาะจง ขอกินที่เหลือทั้งหมด)
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 11:06:35 AM »



      Like
- เป็น Verb = ชอบ
I like your dog.
[ฉันชอบสุนัขของคุณ]

- เป็น Prep = เช่นเดียวกับ
Like his brother, John drives to school.
[เช่นเดียวกับพี่ชายของเขา จอห์นขับรถไปโรงเรียน]

- เป็น Adj = เหมือน
She is like your friend. [หล่อนเหมือนเพื่อนของคุณ]

 Unlike
- เป็น Prep = ต่างจาก
Unlike his brother, Josh doesn’t drive to school.
[ต่างจากพี่ชายของเขา จอร์ชไม่ได้ขับรถไปโรงเรียน]

- เป็น Adj = ไม่เหมือนกับ
Bill is unlike his brother.
[Bill ไม่เหมือนกับน้องชายของเขา]

 Alike
- เป็น Adj = เหมือนกัน
The twin girls are so alike.
[เด็กหญิงคู่แฝดเหมือนกันจริงๆ]

- เป็น Adv = เช่นเดียวกัน
These rules apply to everybody alike.
[กฎเหล่านี้ใช้กับทุกคน]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กรกฎาคม 2016, 11:13:29 AM โดย CreÃte_Lek ♫ »
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 11:18:18 AM »



      so เป็น Adverb แปลว่า “มากๆ”
เช่น
so happy = มีความสุขมากๆ
so beautiful = สวยมากๆ

 such ก็แปลว่า “มากๆ”
แต่จะต้องมีคำนาม ตามหลังเสมอ เช่น
such a happy girl = ช่างเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความสุขมากๆ
such a beautiful house = ช่างเป็นบ้านที่สวยงามมากจริงๆ

so...that และ such...that ใช้เชื่อมอีกประโยคได้
 so + Adj. + that + ประโยค
I’m so hungry that I could eat a horse right now.
ฉันหิวมากๆซะจนกินม้าได้ทั้งตัวเลย

 such + Adj. + N + that + ประโยค
It was such an amazing view that we'll never forget it.
มันช่างเป็นวิวที่น่าประหลาดใจมากๆซะจนเราจะไม่ลืมมันเลย
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 11:19:55 AM »



     Relative clause คือประโยคย่อยๆ
ทำหน้าที่ขยาย Noun ตัวหนึ่งในประโยคหลัก
จะเชื่อมกันด้วย Relative Pronoun

 กฏการใช้ 2 ข้อ:
1. Relative Clause จะอยู่หลังนามที่ถูกขยาย
2. Relative Pronoun ต้องสอดคล้องกับนามที่ขยาย ตัวอย่าง ของ Relative Pronoun ได้แก่
- that ใช้กับนามที่เป็น คนหรือสิ่งของ [คนซึ่ง อันซึ่ง]
- which ใช้กับนามที่เป็น สิ่งของ [อันซึ่ง]
- who ใช้กับนามที่เป็น คน [ผู้ซึ่ง]
- whose ใช้กับการเป็นเจ้าของ [ซึ่งมี]
- where ใช้กับสถาที่ [ที่ซึ่ง]
- when ใช้กับเวลา [เมื่อ]

 ตัวอย่างที่ 1 - that (อันซึ่ง ซึ่ง)
Havaianas are a global fashion that started in Brazil.
(Havaianas เป็นแฟชั่นระดับโลกซึ่งเริ่มขึ้นในประเทศบราซิล)
- ประโยคหลัก = Havaianas are a global fashion
- Relative Clause = that started in Brazil
- Relative Pronoun = that
(ขยาย global fashion)

 ตัวอย่างที่ 2 - which [อันซึ่ง ซึ่ง]
Please pass me the books which are on the table.
(ช่วยส่งหนังสือซึ่งอยู่บนโต๊ะมาให้ฉันหน่อย)
- ประโยคหลัก = Please pass me the books
- Relative Clause = which are on the table.
- Relative Pronoun = which
(ขยาย the books)

 ตัวอย่างที่ 3 - who (คนที่ คนซึ่ง)
My company needs employees who can speak English.
(บริษัทของฉันต้องการพนักงานคนที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ )
- ประโยคหลัก = My company needs employees
- Relative Clause = who can speak English
- Relative Pronoun = who
(ขยาย employees ซึ่งเป็น คน)

 ตัวอย่างที่ 4 - whose (ซึ่งมี)
Taekwondo is a martial art whose origins are in Korea.
(เทควันโดเป็นศิลปะการป้องกันตัวซึ่งมีแหล่งกำเนิด (ของศิลปะการป้องกันตัว) อยู่ในประเทศเกาหลี )
- ประโยคหลัก = Taekwondo is a martial art
- Relative Clause = whose origins are in Korea
- Relative Pronoun = whose
(ขยาย a martial art)
** whose ต้องมี Noun ตามหลัง

 ตัวอย่างที่ 5 - where (ที่ซึ่ง)
Hollywood is the place where most movies are made.
(ฮอล์ลีวูดเป็นสถานที่ ที่ซึ่งภาพยนตร์ส่วนใหญ่ถูกผลิตขึ้น)
- ประโยคหลัก = Hollywood is the place
- Relative Clause = where most movies are made
- Relative Pronoun = where
(ขยาย the place ซึ่งเป็น สถานที่)

 ตัวอย่างที่ 6 - when (เมื่อ)
We are living in a time when the world’s economies are connected.
(พวกเรากำลังอาศัยอยู่ในเวลาเมื่อเศรษฐกิจของโลกมันถูกเชื่อมโยงต่อกัน )
- ประโยคหลัก = We are living in a time
- Relative Clause = when the world’s economies are connected
- Relative Pronoun = when
(ขยาย a time ซึ่งเป็นเวลา)
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 11:21:16 AM »



      Participle คือ คำที่มีรูปคล้ายกริยา แต่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นกริยา

 มักมีรูป 2 แบบคือ
- Ving ทำกริยา (ซึ่งทำ...)
- V3 ถูกทำ (ซึ่งถูกทำ...)

 และมักจะทำหน้าที่ 2 แบบคือ
- เป็น Adjective ขยาย Noun
(ใส่คำว่า “ซึ่ง” เวลาแปล)
- เป็น Participle Phrase
คือวลีที่ขยายประโยคหรือคำนามด้านหน้า

ตัวอย่างที่ 1
farming town
= เมืองซึ่งทำเกษตรกรรม
= farming เป็น Participles อยู่ในรูปของ Ving
= เป็น Adjective ขยาย “town” (ที่เป็น Noun)

ตัวอย่างที่ 2
An explosive, believed to be …
= วัตถุระเบิด “ที่ถูกเชื่อว่า” เป็น...
= believed เป็น Participles อยู่ในรูปของ V3
= เป็น Adjective ขยาย “An explosive”
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 11:23:22 AM »



     ประโยคเงื่อนไข 4 แบบของ IF:
 IF1: If + Present Simple, will + Inf. V
ถ้าสิ่งหนึ่งเกิด อีกสิ่งหนึ่งจะเกิดตาม
If you try this, you will love it.
= ถ้าคุณได้ลอง คุณจะชอบมันมาก

 IF2: If + Past Simple, would + V1
1) ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามกับความจริงในปัจจุบัน
If I were you, I would marry him.
= ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะแต่งงานกับเขา

2) ใช้กับการขอร้องเชิงสุภาพ
I would appreciate it if you could do it today.
= ฉันจะซาบซึ้งมาก ถ้าคุณช่วยทำมันวันนี้
 ** ใช้ were กับทุกประธานใน IF2

 IF3: If + Past Perfect , would have + V3
ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามกับความจริงในอดีต
If I had attended the class, I would have passed the exam.
= ถ้าฉันเข้าเรียน ฉันน่าจะสอบผ่านนะ

 IF4: If + Past Perfect, would + V1 (now)
ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามกับความจริงในอดีต
ผลลัพธ์ที่ตรงข้ามกับอนาคต
If you had talked to me, you wouldn’t be in trouble now.
= ถ้าคุณมาคุยกับฉัน คุณก็ไม่ต้องเดือดร้อนแบบนี้

จริงๆ จะมีการใช้ IF อีกแบบหนึ่ง ที่ไม่ใช่เงือนไข จึงไม่อยู่ในกฏนี้
แต่ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริงในปัจจุบัน เช่น
If we drop the glass, it breaks.
= ถ้าคุณทำแก้วตก มันจะแตก
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 11:24:43 AM »



    Subjunctive mood คือ การพูดเหตุการณ์สมมุติ ที่เราอยากให้เป็น
อยากให้เกิดขึ้น พูดง่ายๆคือมันไม่ใช่ความจริง

 มีหลักการใช้ 2 ข้อตามนี้:
1: ใช้กับเรื่องสมมติ
2: มีกลุ่มคำที่เกี่ยวกับการสมมติ เช่น:
- Verb: suggest, propose, advise, recommend, ask, require, demand, command, urge, …
- Noun: suggestion, proposal, advice, recommendation, requirement, command, preference, …
- Adjective: important, necessary, essential, imperative, …

 โครงสร้างประโยค:
1) ประโยค + (that) + Inf. V
2) ประโยค + (that) + should + Inf. V

เช่น ฉันแนะนำให้เขาขับรถช้าๆ
= I suggest that he drive slowly. หรือ
= I suggest that he should drive slowly.
เราอยากให้เขาขับช้า เป็นเหตุการณ์ที่เราอยากให้เป็น
เราจึงไม่ใช้ ‘drives’ แต่จะใช้ ‘drive’ แทน
เพราะต้องเป็น Vinf (ไม่มีการเติม s, es, ing, ed, ...)

 แต่ Verb, Noun, หรือ Adjective อาจอยู่ในประโยคที่ไม่ใช่ Subjunctive Mood
และ Verb Tense ต้องเหมาะสมกับประธาน เช่น

This report suggested that there was corruption in this project.
= รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่ามีคอรับชั่นในโครงการนี้
= มี suggested (คำในกลุ่มสมมติ)
= ใช้ “was” ซึ่งเป็น Verb ที่ถูกต้องตาม Tense และประธาน
= เพราะว่า report = รายงาน
= ชี้ให้เห็นความจริง ไม่ได้เป็นเหตุการณ์สมมุติ

*** สุดท้าย ***
หากเราเจอ Subjunctive Mood ให้ดูที่ความหมาย
ไม่ใช่ดูที่โครงสร้างอย่างเดียวนะครับ
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 11:25:57 AM »


     คือการที่ประธานนำประโยคอื่นมาพูดต่อ เล่าต่อ
ประโยคดั้งเดิมเรียกว่า Direct Speech
วิธีเปลี่ยนเป็น Reported Speech:
1. เปลี่ยน Tense ของ Verb ให้เป็นอดีต 1 ขั้น
2. เปลี่ยน Pronoun (I, you, we, she, … )
3. ลบ เครื่องหมายคำถาม หรือ เครื่องหมายคำพูด

 ตัวอย่าง 1: ประโยคบอกเล่า
“I did everything I could to be chosen in this team,” Said Tania.
= Tania said (that) she had done everything she could to be chosen in that team.
- said เป็นอดีต เพราะฉะนั้น did ต้องเป็น had done
- I เปลี่ยนเป็น she เพราะ Tania เป็นผู้หญิง
- this เปลี่ยนเป็น that

 ตัวอย่าง 2: ประโยคคำถาม
(WH-word เช่น what, when, … )
“Why did you choose Tania for this team?” the manager asked Mrs. Jane.
= The manager asked Mrs. Jane why she had chosen Tania for that team.
- asked เป็นอดีต เพราะฉะนั้น did ... chose ต้องเป็น had chosen
- Mrs. Jane. เปลี่ยนเป็น she เพราะเป็นผู้หญิง
- this เปลี่ยนเป็น that

 ตัวอย่าง 3: ประโยคคำถาม
(ที่ตอบ Yes/No) - ใช้ if / whether
“Do you want to join my team?” the manager asked Tania.
= The manager asked Tania if/whether she wanted to join his team.
- asked เป็นอดีต เพราะฉะนั้น want ต้องเป็น wanted
- you เปลี่ยนเป็น she เพราะคุยกับ Tania
- my team เปลี่ยนเป็น his team

 ตัวอย่าง 4: ประโยคคำสั่ง
“Do it quickly!” the robber told the teller.
= The robber told the teller to do it quickly.

“Don’t move!” the robber told the teller.
= The robber told the teller not to move.

————————
** ตัวอย่างของการเปลี่ยน Tense (ให้เป็นอดีต)
- Present Simple เปลี่ยนเป็น Past Simple
- Present Continuous เปลี่ยนเป็น Past Continuous
- Present Perfect เปลี่ยนเป็น Past Perfect
- Present Continuous เปลี่ยนเป็น Past Continuous
- Past Simple เปลี่ยนเป็น Past Perfect
- Past Perfect ยังคงเป็น Past Perfect เหมือนเดิม
- will , shall, can เปลี่ยนเป็น would , should , could (ตามลำดับ)

** ตัวอย่างของการเปลี่ยนคำที่เกี่ยวกับเวลา (ให้เป็นอดีต)
today เปลี่ยนเป็น that day
tonight เปลี่ยนเป็น that night
tomorrow เปลี่ยนเป็น the next day / the following day
yesterday เปลี่ยนเป็น the day before
next week เปลี่ยนเป็น the following week
now เปลี่ยนเป็น then / at that time
ago เปลี่ยนเป็น before
this เปลี่ยนเป็น that
these เปลี่ยนเป็น those
here เปลี่ยนเป็น there
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ chiko

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3508
  • ถูกใจกด Like+ 170
  • เพศ: ชาย
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 01:01:06 PM »
ถ้าให้ผมสอบวิชานี้..ติด0 แน่ๆๆ [yellow-lol]

ออฟไลน์ CreÃte_Lek ♫

  • BuRaPha_TeAm
  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 57906
  • ถูกใจกด Like+ 1372
  • เพศ: ชาย
  • DHT Crazy Club
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 01:09:05 PM »
 มันอยู่ที่ความพยายามครับน้า บางคนที่เค้าไม่ได้เรียนหนังสือ เค้ายังพูดปร๋อเลยนา บนเกาะแถวบ้านน้าก็เยอะนา  [yellow-lol]
Define Me Radiant Charm  เชื่อในสิ่งที่เราเลือก และ ภูมิใจในความเป็นเราในแบบที่เราเป็น    

Define Me Radiant Bright ไม่ต้องปรับตัวเองให้เป็นใคร แต่เป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวัน

>>> ข้อมูลส่วนตัวครับ

ออฟไลน์ Major.

  • คลิ๊กเลยครับ
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 505
  • ถูกใจกด Like+ 18
  • เพศ: ชาย
Re: สรุปแกรมม่า 15 กฏ (แอดมิชชั่น) GATEng DEK60 @ Cr.MyLearnVille
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2016, 09:33:25 PM »
 [huge-thumbs-up] [huge-thumbs-up] [huge-thumbs-up]