พอดีช่วงนี้ได้เห็นเพื่อนๆพูดคุยเกี่ยวกับ ฮาร์โมนิค (Harmonic) เลยทำให้อยากรู้จริงๆว่า
เขาฟังกันยังไงถึงรู้ได้ว่าได้ยินเสียงฮาร์โมนิคที่สองบ้างที่สามบ้าง ผมพยายามหัดฟังมาหลายครั้งหลายหน
ก็ไม่อาจจะบอกได้เลยว่าเสียงไหนคือเสียงฮาร์โมนิค รบกวนเพื่อนๆช่วยชี้แนะด้วยครับ
:angel:อันนี้ผมคุยด้วยไม่ได้แล้วครับ เพราะท่านไปไกลกว่าผมมาก ต้องจัดอยู่ในกลุ่มผู้มีสัมผัสพิเศษ ผมแค่คนธรรมดาที่ฝึกฝนตามขั้นตอน รับรู้ได้เหมือนคนธรรมดาทั่วๆไปครับ [gr_in]
ถ้าผมได้ยินเสียงร้องของนักร้องคนที่สองเบาๆ กับ รู้ขนาดของห้องอัด เสียงความถี่สูงที่ทอดยาวค่อยๆหายไป คือชั้นใหนครับชั้นใหนครับ
:angel:
ถ้าผมได้ยินเสียงร้องของนักร้องคนที่สองเบาๆ กับ รู้ขนาดของห้องอัด เสียงความถี่สูงที่ทอดยาวค่อยๆหายไป คือชั้นใหนครับชั้นใหนครับ
ข้อที่หนึ่ง ประเด็นที่ผมสงสัยคือเขาฟังรู้กันได้ยังไงว่าเป็นฮาร์โมนิคที่สองหรือสามครับ ?
มีข้อแนะนำอะไรในการฟังบ้างครับ
ข้อที่สอง อีกนิดนึงครับตามความเข้าใจของผมไม่ว่าจะเป็นช่วง Attack , Decay , Sustain และ Release มันล้วนแต่มีฮาร์โมนิคทั้งนั้น
ไม่รู้ว่าตรงนี้ผมเข้าใจผิดอะไรหรือไม่อย่างไรรบกวนเพื่อนๆให้ความรู้ด้้วยครับ
ผมขอแย้งในสิ่งที่ผมเห็นว่าไม่ถูกต้องนะครับ จริงอยุ่ว่าเครื่องดนตรีประเภท เครื่องเคาะ เครื่องตี นั้น harmonic content ที่เกิดขึ้นจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ในลักษณะที่เป็นจำนวน เท่าตัว ของ fundamental note แบบที่ผมได้อธิบายมาแล้วในข้างต้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเครื่องดนตรีเหล่านี้ ไม่มีฮาโมนิค (harmonic) หรือ ถ้าพี่มีสมมุติฐาน หรือ เหตุผลมารองรับคำกล่าวอ้างนั้น รบกวนอธิบายต่อให้กระจ่างด้วยครับ ด้วยปุจฉานี้มิได้มีเจตนาอื่นใดแอบแฝง แต่เพื่อคงไว้ซึ่งความถูกต้อง นะครับพี่ ด้วยความเคารพครับ
ข้อที่สอง อีกนิดนึงครับตามความเข้าใจของผมไม่ว่าจะเป็นช่วง Attack , Decay , Sustain และ Release มันล้วนแต่มีฮาร์โมนิคทั้งนั้น
ไม่รู้ว่าตรงนี้ผมเข้าใจผิดอะไรหรือไม่อย่างไรรบกวนเพื่อนๆให้ความรู้ด้้วยครับ
คำตอบตามสไตล์ผมนะครับ
ข้อที่สอง พวกเครื่องดนตรี จำพวกเครื่องเคาะ เครื่องตี ไม่มี ฮาร์โมนิค นะครับ
ถ้ามีกลองสองใบคนละยี่ห้อกันปรับหนังกลองที่โน๊ตตัวเดียวกันและตีพร้อมกันทุกๆคนจะสามารถฟังออกได้ไหมว่ามีเสียงกลองสองใบครับแยกได้ชัดเจนครับพี่ แล้วถ้าพี่คุยกับ ด็อกเค้าจะบอกพี่อีกว่ายี่ห้ออะไร laughhahaha
ข้อที่สอง พวกเครื่องดนตรี จำพวกเครื่องเคาะ เครื่องตี ไม่มี ฮาร์โมนิค นะครับเสียงสั่นค้างที่ลอยอยู่ในอากาศที่เกิดจากหนังกลองขยับหลังจากตีไปแล้วเค้าเรียกว่าอะไรน้า ติ๊กต๊อก......
[unde_cided] ความถี่ก็ครอบคุมมากนะ หรือว่าเสียงมันเร็วไปจนไม่ได้ยิน เสียงไม้ทีกระทบ กับเสียงทีมันกำลังสั่นคลอน
ถ้ามีกลองสองใบคนละยี่ห้อกันปรับหนังกลองที่โน๊ตตัวเดียวกันและตีพร้อมกันทุกๆคนจะสามารถฟังออกได้ไหมว่ามีเสียงกลองสองใบครับแยกได้ชัดเจนครับพี่ แล้วถ้าพี่คุยกับ ด็อกเค้าจะบอกพี่อีกว่ายี่ห้ออะไร laughhahaha
ผมยกตัวอย่างของหนังกลองสองชนิดนะ กลองจัดอยู่ในกลุ่มของ purcussion ซึ่งตรงกับที่พี่มะละกอกล่าวถึงด้วย
Uncoated Head
คือหนังชันเดียวแบบความหนามาตรฐาน หนังชนิดนี้จะมีวอลลุ่มของเสียง,Sustain และฮาโมนิค เร้นจ์ อยุ่ในเกณฑ์สูง หนังชนิดนี้อาจจะทำมาในรูปแบบหนังใส,หนังขาว(แต่ไม่สากมือ) ฯลฯ และส่วนมากจะผลิตมาจากแผ่นฟิลม์ที่เรียกว่า Mylar (เป็นวัสดุท่คิดค้นขึ้นโดย Du Pont USA หรือ Plastic Polyester Nylon)
Coated Head
หนังแบบ Coated คือหนังที่ทำมาจากแผ่นฟิลม์ใสและขุ่น เช่นกัน แต่มีการพ่น Coated อาจเป็นสีขาวหรือดำ เพื่อให้เกิดพื้นผิวที่หยาบ ซึ่งจุดประสงค์ที่ชัดเจนในการเลือกใช้หนังแบบนี้ก้เพื่อใช้กับ Brushes (แส้) ซึ่งทำให้เกิด Scratch Sound พื้น(ผิวที่หยาบสากเมื่อมีการใช้Brushes จะมีเสียงลากยาวต่อเนื่องที่เกิดจากการเสียดสี ระหว่าง พื้นผิวของหนัง (Head Texture)กับ Brushes) บรรดามือกลอง, โปรดิวเซอร์และซาวด์เอ็นจิเนียร์เลือกใช้หนังกลองชนิดนี้เพื่อเ สียงที่กระชับเฉียบคม เมื่อตีด้วยไม้กลอง และเมื่อใช้ไมโครโฟนจ่อใกล้กับหนังกลองเสียงที่ได้จะกลมกล่อมละ เอียดอย่างสมบูรณ์แบบ
จากคุณสมบัติที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าหนังกลองสองชนิดให้เสียงที่แตกต่างกันอย่างแน่นอนแม้จะเล่นโน๊ตตัวเดียวกันก็ตาม
clapping-1-2 [c--c] clapping-1-2 3-2-1-raccoonข้อที่สอง พวกเครื่องดนตรี จำพวกเครื่องเคาะ เครื่องตี ไม่มี ฮาร์โมนิค นะครับเสียงสั่นค้างที่ลอยอยู่ในอากาศที่เกิดจากหนังกลองขยับหลังจากตีไปแล้วเค้าเรียกว่าอะไรน้า ติ๊กต๊อก......
[unde_cided] ความถี่ก็ครอบคุมมากนะ หรือว่าเสียงมันเร็วไปจนไม่ได้ยิน เสียงไม้ทีกระทบ กับเสียงทีมันกำลังสั่นคลอน
ไปนอนละ bye ฝันดีราตรีสวัสดิ์ครับทุกท่าน
[unde_cided].........าข้อที่สอง พวกเครื่องดนตรี จำพวกเครื่องเคาะ เครื่องตี ไม่มี ฮาร์โมนิค นะครับเสียงสั่นค้างที่ลอยอยู่ในอากาศที่เกิดจากหนังกลองขยับหลังจากตีไปแล้วเค้าเรียกว่าอะไรน้า ติ๊กต๊อก......
[unde_cided] ความถี่ก็ครอบคุมมากนะ หรือว่าเสียงมันเร็วไปจนไม่ได้ยิน เสียงไม้ทีกระทบ กับเสียงทีมันกำลังสั่นคลอน
ไปนอนละ bye ฝันดีราตรีสวัสดิ์ครับทุกท่าน
ถ้ามีกลองสองใบคนละยี่ห้อกันปรับหนังกลองที่โน๊ตตัวเดียวกันและตีพร้อมกันทุกๆคนจะสามารถฟังออกได้ไหมว่ามีเสียงกลองสองใบครับถึงเป็นยี้ห้อเดียวกันแบบเดียวกันตีพร้อมกันก็ฟังออกครับว่าเป็นสองใบ อันนี้ไม่นับการบันทึกมานะอาจจะเพี้ยนแล้วฟังไม่ออก แต่ถ้าปิดตาฟังสดๆ ก็ฟังออกครับ
ถ้ามีกลองสองใบคนละยี่ห้อกันปรับหนังกลองที่โน๊ตตัวเดียวกันและตีพร้อมกันทุกๆคนจะสามารถฟังออกได้ไหมว่ามีเสียงกลองสองใบครับ
คำถาม เสียงกลองถือได้ว่าเป็น pitch หรือ nonpitch หรือเป็นทั้งคู่ หรือ ฯลฯ
หรือกลองหลายๆ ใบ ทำเสียง โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด ได้อย่าง ชัดเจนแม่นยำ เหมือนดนตรีชิ้นอื่นหรือไม่?
ในกีต้าร์ สายทั้ง 6 เส้นมีบ้างไหมครับที่เล่นแล้วเป็นโน๊ตตัวเดียวกัน
แล้วถ้ามีเสียงต่างกันไหมครับ อย่างไร
(เห็นมีมือกีต้าร์หลายคน ในเวปเราน่าจะให้คำตอบได้ (อยากรู้อยู่เหมือนกันครับ) )
เพราะโดยส่วนตัวเล่นดนตรีไม่เป็น
แต่ในความเข้าใจส่วนตัว เข้าใจเองว่า น่าจะมีที่โน๊ตซ้ำกัน แต่น่าจะให้เสียงที่ไม่เหมือนกัน
และ/หรือ สายเส้นเดียวกัน(เช่นสายที่1) แต่คนละยี่ห้อให้โน๊ตตัวเดียวกันแต่เสียงก็ยังไม่เหมือนกัน
รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ ว่าผมเข้าใจผิดหรือเปล่า
ถ้ามีกลองสองใบคนละยี่ห้อกันปรับหนังกลองที่โน๊ตตัวเดียวกันและตีพร้อมกันทุกๆคนจะสามารถฟังออกได้ไหมว่ามีเสียงกลองสองใบครับ
ผมขอแบ่งความคิดเห็นผมบ้างครับ จากคำถามของพี่เกรียง
1. ผมมีสมมติฐานว่าเนื่องจาก (ตำราฝรั่งบอกมา) หูคนเรา (ปกติ) สามารถแยกแยะแหล่งกำเนิดเสียงความถี่ 1 khz ที่อยู่ห่างกัน 3 องศา ที่อยู่ห่างออกไป 10 เมตรได้ เนื่องจากหูแต่ละข้างของเราอยู่ห่างกัน 22cm และสมมติว่าความเร็วเสียงอยู่ที่ 340เมตรต่อวินาที
2. การตีกลอง 1 ใบกับการตีกลอง 2 ใบ น้ำหนักเสียงมันไม่เท่ากันครับ
3. ปกติแล้ว เสียงกลองคนละยี่ห้อกัน (เอาแบบที่มียี่ห้อนะครับ ไม่มียี่ห้อเนี่ยฟังยากมาก ว่าเป็นเสียงกลองหรือเปล่า [c--c]) เสียงมันต่างกันอยู่แล้วครับ มันคล้ายๆ กีต้าร์ตรงที่แต่ละยี่ห้อเค้ามีเอกลักษณ์เฉพาะเช่น fender ต้อง twang, Gibson ต้อง sustain ยาวๆ อะไรประเภทนี้ นักดนตรีเค้าก็จะเลือกจุดเด่นของยี่ห้อนั้นๆ มา กลองก็น่าจะเหมือนกัน แต่ผมเล่นกลองไม่ค่อยเป็นนะครับ เลยไม่ค่อยรู้เรื่องกลองเท่าไหร่
ถ้ามีกลองสองใบคนละยี่ห้อกันปรับหนังกลองที่โน๊ตตัวเดียวกันและตีพร้อมกันทุกๆคนจะสามารถฟังออกได้ไหมว่ามีเสียงกลองสองใบครับ
ผมขอแบ่งความคิดเห็นผมบ้างครับ จากคำถามของพี่เกรียง
1. ผมมีสมมติฐานว่าเนื่องจาก (ตำราฝรั่งบอกมา) หูคนเรา (ปกติ) สามารถแยกแยะแหล่งกำเนิดเสียงความถี่ 1 khz ที่อยู่ห่างกัน 3 องศา ที่อยู่ห่างออกไป 10 เมตรได้ เนื่องจากหูแต่ละข้างของเราอยู่ห่างกัน 22cm และสมมติว่าความเร็วเสียงอยู่ที่ 340เมตรต่อวินาที
2. การตีกลอง 1 ใบกับการตีกลอง 2 ใบ น้ำหนักเสียงมันไม่เท่ากันครับ
3. ปกติแล้ว เสียงกลองคนละยี่ห้อกัน (เอาแบบที่มียี่ห้อนะครับ ไม่มียี่ห้อเนี่ยฟังยากมาก ว่าเป็นเสียงกลองหรือเปล่า [c--c]) เสียงมันต่างกันอยู่แล้วครับ มันคล้ายๆ กีต้าร์ตรงที่แต่ละยี่ห้อเค้ามีเอกลักษณ์เฉพาะเช่น fender ต้อง twang, Gibson ต้อง sustain ยาวๆ อะไรประเภทนี้ นักดนตรีเค้าก็จะเลือกจุดเด่นของยี่ห้อนั้นๆ มา กลองก็น่าจะเหมือนกัน แต่ผมเล่นกลองไม่ค่อยเป็นนะครับ เลยไม่ค่อยรู้เรื่องกลองเท่าไหร่
ที่ผมหยิบยกตัวอย่างเรื่องกลองนั้น เนื่องมาจากข้อความของคุณพี่มะละกอที่ว่า "ข้อที่สอง จำพวก "เสียง ตี เสียงเคาะ เสียงครูด" มักจะ "ขาด" ฮาร์โมนิค นะครับ" ซึ่งถ้าฮาร์โมนิคเป็นตัวบ่งชี้ว่าเสียงนั้นคือเสียงอะไรแล้ว และกลองสองใบก็มีเสียงที่แตกต่างกันตามที่คุณ fender ว่า ดังนั้นการตีกลองสองใบในเวลาเดียวกันย่อมทำให้ทุกคนสามารถรับรู้ได้ว่ามีกลองสองใบจริงครับ ผมจึงคิดว่าเสียงกลองก็ต้องมีฮาร์โมนิคของมันนะครับ
ถ้ามีกลองสองใบคนละยี่ห้อกันปรับหนังกลองที่โน๊ตตัวเดียวกันและตีพร้อมกันทุกๆคนจะสามารถฟังออกได้ไหมว่ามีเสียงกลองสองใบครับ
ผมขอแบ่งความคิดเห็นผมบ้างครับ จากคำถามของพี่เกรียง
1. ผมมีสมมติฐานว่าเนื่องจาก (ตำราฝรั่งบอกมา) หูคนเรา (ปกติ) สามารถแยกแยะแหล่งกำเนิดเสียงความถี่ 1 khz ที่อยู่ห่างกัน 3 องศา ที่อยู่ห่างออกไป 10 เมตรได้ เนื่องจากหูแต่ละข้างของเราอยู่ห่างกัน 22cm และสมมติว่าความเร็วเสียงอยู่ที่ 340เมตรต่อวินาที
2. การตีกลอง 1 ใบกับการตีกลอง 2 ใบ น้ำหนักเสียงมันไม่เท่ากันครับ
3. ปกติแล้ว เสียงกลองคนละยี่ห้อกัน (เอาแบบที่มียี่ห้อนะครับ ไม่มียี่ห้อเนี่ยฟังยากมาก ว่าเป็นเสียงกลองหรือเปล่า [c--c]) เสียงมันต่างกันอยู่แล้วครับ มันคล้ายๆ กีต้าร์ตรงที่แต่ละยี่ห้อเค้ามีเอกลักษณ์เฉพาะเช่น fender ต้อง twang, Gibson ต้อง sustain ยาวๆ อะไรประเภทนี้ นักดนตรีเค้าก็จะเลือกจุดเด่นของยี่ห้อนั้นๆ มา กลองก็น่าจะเหมือนกัน แต่ผมเล่นกลองไม่ค่อยเป็นนะครับ เลยไม่ค่อยรู้เรื่องกลองเท่าไหร่
ที่ผมหยิบยกตัวอย่างเรื่องกลองนั้น เนื่องมาจากข้อความของคุณพี่มะละกอที่ว่า "ข้อที่สอง จำพวก "เสียง ตี เสียงเคาะ เสียงครูด" มักจะ "ขาด" ฮาร์โมนิค นะครับ" ซึ่งถ้าฮาร์โมนิคเป็นตัวบ่งชี้ว่าเสียงนั้นคือเสียงอะไรแล้ว และกลองสองใบก็มีเสียงที่แตกต่างกันตามที่คุณ fender ว่า ดังนั้นการตีกลองสองใบในเวลาเดียวกันย่อมทำให้ทุกคนสามารถรับรู้ได้ว่ามีกลองสองใบจริงครับ ผมจึงคิดว่าเสียงกลองก็ต้องมีฮาร์โมนิคของมันนะครับ
พี่เข้าใจ ถูกต้องแล้วครับ [yes-raccoon]
ผมถามพี่มะละกอกลับแล้วกันว่า " Harmonic minor " คืออะไร และ มีไว้เพื่อการใด ???
เดี๋ยวผมวานให้ ด็อกเตอร์มาอธิบายให้ก็แล้วกัน เค้าน่าจะเข้าใจ และ อธิบายได้ดีกว่าผมมากครับ เพราะเค้าทั้งเล่น ทั้งสอน และ เรียนดนตรีมาโดยตรง จบวิศวะทั้งคู่ (ผมน่ะ ME ส่วนด็อกน่ะ instrument ) แต่ต้องมาคุยเรื่องอะไรที่ไม่เกี่ยวกับที่เรียนมาเลยสักนิด laughhahahaถ้ามีกลองสองใบคนละยี่ห้อกันปรับหนังกลองที่โน๊ตตัวเดียวกันและตีพร้อมกันทุกๆคนจะสามารถฟังออกได้ไหมว่ามีเสียงกลองสองใบครับ
ผมขอแบ่งความคิดเห็นผมบ้างครับ จากคำถามของพี่เกรียง
1. ผมมีสมมติฐานว่าเนื่องจาก (ตำราฝรั่งบอกมา) หูคนเรา (ปกติ) สามารถแยกแยะแหล่งกำเนิดเสียงความถี่ 1 khz ที่อยู่ห่างกัน 3 องศา ที่อยู่ห่างออกไป 10 เมตรได้ เนื่องจากหูแต่ละข้างของเราอยู่ห่างกัน 22cm และสมมติว่าความเร็วเสียงอยู่ที่ 340เมตรต่อวินาที
2. การตีกลอง 1 ใบกับการตีกลอง 2 ใบ น้ำหนักเสียงมันไม่เท่ากันครับ
3. ปกติแล้ว เสียงกลองคนละยี่ห้อกัน (เอาแบบที่มียี่ห้อนะครับ ไม่มียี่ห้อเนี่ยฟังยากมาก ว่าเป็นเสียงกลองหรือเปล่า [c--c]) เสียงมันต่างกันอยู่แล้วครับ มันคล้ายๆ กีต้าร์ตรงที่แต่ละยี่ห้อเค้ามีเอกลักษณ์เฉพาะเช่น fender ต้อง twang, Gibson ต้อง sustain ยาวๆ อะไรประเภทนี้ นักดนตรีเค้าก็จะเลือกจุดเด่นของยี่ห้อนั้นๆ มา กลองก็น่าจะเหมือนกัน แต่ผมเล่นกลองไม่ค่อยเป็นนะครับ เลยไม่ค่อยรู้เรื่องกลองเท่าไหร่
ที่ผมหยิบยกตัวอย่างเรื่องกลองนั้น เนื่องมาจากข้อความของคุณพี่มะละกอที่ว่า "ข้อที่สอง จำพวก "เสียง ตี เสียงเคาะ เสียงครูด" มักจะ "ขาด" ฮาร์โมนิค นะครับ" ซึ่งถ้าฮาร์โมนิคเป็นตัวบ่งชี้ว่าเสียงนั้นคือเสียงอะไรแล้ว และกลองสองใบก็มีเสียงที่แตกต่างกันตามที่คุณ fender ว่า ดังนั้นการตีกลองสองใบในเวลาเดียวกันย่อมทำให้ทุกคนสามารถรับรู้ได้ว่ามีกลองสองใบจริงครับ ผมจึงคิดว่าเสียงกลองก็ต้องมีฮาร์โมนิคของมันนะครับ
พี่เข้าใจ ถูกต้องแล้วครับ [yes-raccoon]
ผมถามพี่มะละกอกลับแล้วกันว่า " Harmonic minor " คืออะไร และ มีไว้เพื่อการใด ???
กินกาแฟแทนมื้อเช้าแล้วก็นอนตามปรกติ ตื่นมาอีกทีเกือบเที่ยง เป็นอย่างนี้ทุกวันครับ
Harmonic minor คืออะไรนี่ ไม่รู้จริงๆ ครับเป็นความสัตย์
ถ้าความเข้าใจผมถูกต้องแล้วตามข้อความที่ว่า "ฮาร์โมนิคเป็นตัวบ่งชี้ว่าเสียงนั้นคือเสียงอะไรแล้ว" ผมจึงไม่เข้าใจกับคำพูดที่ว่า...ได้ยินเสียงฮาร์โมนิคที่สองหรือที่สามชัดขึ้นไงละครับ จึงเป็นที่มาของคำถามข้างบนว่า...เขาฟังเสียงฮาร์โมนิคกันยังไงละครับกระผมคิดว่าเสียงทุกเสียง น่าจะมีฮาโมนิกประกอบอยู่ในโครงสร้างของคลื่นเสียง ซึ่งนั่นคือสิ่งที่บอกบุคลิกของเสียง
ถ้าความเข้าใจผมถูกต้องแล้วตามข้อความที่ว่า "ฮาร์โมนิคเป็นตัวบ่งชี้ว่าเสียงนั้นคือเสียงอะไรแล้ว" ผมจึงไม่เข้าใจกับคำพูดที่ว่า...ได้ยินเสียงฮาร์โมนิคที่สองหรือที่สามชัดขึ้นไงละครับ จึงเป็นที่มาของคำถามข้างบนว่า...เขาฟังเสียงฮาร์โมนิคกันยังไงละครับกระผมคิดว่าเสียงทุกเสียง น่าจะมีฮาโมนิกประกอบอยู่ในโครงสร้างของคลื่นเสียง ซึ่งนั่นคือสิ่งที่บอกบุคลิกของเสียง
อย่างเวลาผมเลือกกีต้าร์โปร่ง สิ่งแรกที่ผมเลือกผมจะไม่ดีดก่อนครับ
แต่ผมจะใช้นิ้วชี้เคาะเบาๆที่สะพานสาย เพื่อที่จะดูความกังวาลของเนื้อไม้ก่อน(ซึ่งจะมีเสียงของการสั่นของสายตามมาด้วยเล็กน้อย)
และจะไล่ที่ละเฟรตเพื่อจะตรวจดูว่ามี Dead Note หรือเปล่า(ความถี่ที่ไม้ให้ไม่ได้หรืออาจจะเกิดจากการหักล้างกันพอดี
ซึ่งจะทำให้โน๊ตตัวนั้นมีแต่เสียงต้น fundamental เพียงอย่างเดียว แต่ Sustain ซึ่งมาพร้อมกับ ฮาโมนิกจะกุดสั้น )
แต่ถ้าถามผมว่า ที่ได้ยินเป็น ฮาโมนิกที่เท่าไหร่ 2 หรือ 3 ผมคงตอบไม่ได้ แต่ผมคืดว่าน่าจะจับ ฮาโมนิกที่ 2 ได้ง่ายกว่า
เพราะเป็นความถี่ควบคู่ ที่ คูณ 2
ถ้าความเข้าใจผมถูกต้องแล้วตามข้อความที่ว่า "ฮาร์โมนิคเป็นตัวบ่งชี้ว่าเสียงนั้นคือเสียงอะไรแล้ว" ผมจึงไม่เข้าใจกับคำพูดที่ว่า...ได้ยินเสียงฮาร์โมนิคที่สองหรือที่สามชัดขึ้นไงละครับ จึงเป็นที่มาของคำถามข้างบนว่า...เขาฟังเสียงฮาร์โมนิคกันยังไงละครับ
กระผมคิดว่าเสียงทุกเสียง น่าจะมีฮาโมนิกประกอบอยู่ในโครงสร้างของคลื่นเสียง ซึ่งนั่นคือสิ่งที่บอกบุคลิกของเสียง
อย่างเวลาผมเลือกกีต้าร์โปร่ง สิ่งแรกที่ผมเลือกผมจะไม่ดีดก่อนครับ
แต่ผมจะใช้นิ้วชี้เคาะเบาๆที่สะพานสาย เพื่อที่จะดูความกังวาลของเนื้อไม้ก่อน(ซึ่งจะมีเสียงของการสั่นของสายตามมาด้วยเล็กน้อย)
และจะไล่ที่ละเฟรตเพื่อจะตรวจดูว่ามี Dead Note หรือเปล่า(ความถี่ที่ไม้ให้ไม่ได้หรืออาจจะเกิดจากการหักล้างกันพอดี
ซึ่งจะทำให้โน๊ตตัวนั้นมีแต่เสียงต้น fundamental เพียงอย่างเดียว แต่ Sustain ซึ่งมาพร้อมกับ ฮาโมนิกจะกุดสั้น )
แต่ถ้าถามผมว่า ที่ได้ยินเป็น ฮาโมนิกที่เท่าไหร่ 2 หรือ 3 ผมคงตอบไม่ได้ แต่ผมคืดว่าน่าจะจับ ฮาโมนิกที่ 2 ได้ง่ายกว่า
เพราะเป็นความถี่ควบคู่ ที่ คูณ 2
ผมยังไม่บอกดีกว่าครับผมอยากให้พี่เข้าใจด้วยตัวเอง ถ้าพี่เข้าใจในจุดเริ่มต้น(กำเนิด) ของเสียงแล้ว ลองอ่านและทำความเข้าใจต่ออีกหน่อย ผมว่าพี่น่าจะพอเข้าใจในหลักการแล้วต่อไปไปยากแล้วที่เหลือก็ต้อง listening และ จะค่อยๆเข้าใจในความหมายที่ผมบอกมามากขึ้นครับ เดี๋ยวผมจะเลือกแผ่นสำหรับฝึกมาหนึ่งแผ่น แล้วจะส่งไปให้เพื่อนทำ โคลน เพราะต้องใช้วิธีการบันทึกแบบพิเศษเพื่อสร้างบรรยากาศจำลองเสมือนจริง ( Image simulation ) ครับ แต่ขอให้เสร็จภารกิจหลักก่อนผมจะจัดทำขึ้นมาให้ 1 ชุดส่วนใครจะโคลนต่อก็ยินดี แต่ห้ามนำไปเพื่อการค้าโดยเด็ดขาดเพราะเป็นของมีลิขสิทธิ์ นะครับ
กระผมพึ่งนึกออกครับ พี่ fender ว่าเพื่อนผมตั้งเสียงกลองก็ใช้สูตรนี้เหมือนกัน แต่ของพี่คงซื้อด้วยเงินสด เลยใช้ รสกลมกล่อม ได้
คำถาม เสียงกลองถือได้ว่าเป็น pitch หรือ nonpitch หรือเป็นทั้งคู่ หรือ ฯลฯ
หรือกลองหลายๆ ใบ ทำเสียง โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด ได้อย่าง ชัดเจนแม่นยำ เหมือนดนตรีชิ้นอื่นหรือไม่?
1. เวลาตั้งเสียงกลองชุด (กลองอื่นผมไม่ทราบ) มาตรฐานคนไทย (ผมไม่เคยเห็นฝรั่งใช้) จะใช้คำว่า รสกลมกล่อม เป็นคีย์มาตรฐาน ไล่จาก snare tom1 tom2 โดย snare ต้องปลดโซ่ก่อน
2. คนที่เคยตีกลองจะรู้ว่า เวลามากีต้าร์เบสมาเล่นใกล้ๆ แล้วเสียงหรือโน๊ตมันตรงกับ snare เสียง snare มันจะดังหึ่งๆ (Resonanant)
3. ถ้าเคยใช้ alesis D4 จะรู้เลยครับ เพราะมันบอกเราเลยกลองใบที่เราเลือกเป็นโน๊ตอะไร
น่าจะช่วยเป็นแนวทางในการตอบได้ว่า เสียงกลอง เป็น pitch หรือ nonpitch ครับ ผมออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่พวก perfect pitch ที่สามารถบอกเสียงของตัวโน๊ตได้จากการฟังเพียงแค่ครั้งเดียว
ด้วยความสงสัยในเรื่องนี้เมื่อคืนเลยลองไปค้นข้อมูลเก่าใน com ดูเลยไปจองานวิจัยเข้าชิ้นหนึ่ง ' Power Amplifier testing based on psychoacoustic 'ถ้าในทางหลักการนะดูดีครับแต่ปฏิบัติแตกต่างกันมาก เอาไว้อ้างอิง ผลรับคือหูเราที่ตัดสิน แต่ก็แปลกเหมือนกันนะ เอาสแปคเป็นตัวแสดงประสิทธิภาพ แล้วทำไม่ไม่เอาไมร์มาวัดประสิทธิผลถึงจะถูกหลักกาณ์ แต่เอาหูอนาล๊อคมาตัดสินเพราะฉนั้นต้นเสียงก็ต้องเป็นอนาล็อค ก็ไม่ผิดอะไรที่จะไปกันได้
ในงานวิจัยเขาพูดถึงการเปรียบเทียบระหว่าง AMPLIFIER ที่มี spec ที่ดีเยี่ยม low T.H.D , low harmonic distortion เปรียบเทียบกับ amp หลอด Cary 300SEI ที่ spec ทุกอย่างแย่หมด T.H.D ที่สูง , harmonic distortion เพี้ยบแต่ไหงทุกคนฟังบอกว่าชอบฟังเสียงจากเจ้า Cary 300SEI ใด้ไงซึ่งเขาสรุปว่าคุณความเพี้ยน harmonic นี่แหละที่มันสำคัญ ทานใดต้องการเอาไปอ่าน email มาใด้ครับแต่เป็น ภาษาอังกฤษนะครับ
ด้วยความสงสัยในเรื่องนี้เมื่อคืนเลยลองไปค้นข้อมูลเก่าใน com ดูเลยไปจองานวิจัยเข้าชิ้นหนึ่ง ' Power Amplifier testing based on psychoacoustic 'ถ้าในทางหลักการนะดูดีครับแต่ปฏิบัติแตกต่างกันมาก เอาไว้อ้างอิง ผลรับคือหูเราที่ตัดสิน แต่ก็แปลกเหมือนกันนะ เอาสแปคเป็นตัวแสดงประสิทธิภาพ แล้วทำไม่ไม่เอาไมร์มาวัดประสิทธิผลถึงจะถูกหลักกาณ์ แต่เอาหูอนาล๊อคมาตัดสินเพราะฉนั้นต้นเสียงก็ต้องเป็นอนาล็อค ก็ไม่ผิดอะไรที่จะไปกันได้
ในงานวิจัยเขาพูดถึงการเปรียบเทียบระหว่าง AMPLIFIER ที่มี spec ที่ดีเยี่ยม low T.H.D , low harmonic distortion เปรียบเทียบกับ amp หลอด Cary 300SEI ที่ spec ทุกอย่างแย่หมด T.H.D ที่สูง , harmonic distortion เพี้ยบแต่ไหงทุกคนฟังบอกว่าชอบฟังเสียงจากเจ้า Cary 300SEI ใด้ไงซึ่งเขาสรุปว่าคุณความเพี้ยน harmonic นี่แหละที่มันสำคัญ ทานใดต้องการเอาไปอ่าน email มาใด้ครับแต่เป็น ภาษาอังกฤษนะครับ
สำหรับหลอดแล้ว ตัวเลขเหล่านี้ผมไม่ได้มองว่าแย่ครับ เพราะจะไปเทียบกับ โซลิตคงไม่ได้ เพราะว่ามันต่างกันสุดขั้ว หรือ ตัวประหลาดอย่าง Damping factor ซึ่งของหลอดน้อยกว่าทางโซลิตชนิดเทียบไม่ติด แต่ก็ได้ผลลัพธ์ ออกมาได้ดีไม่แพ้กัน คนชอบเสียงหลอดก็เพราะว่าความเพี้ยน คนเขียนบทความหลายคนติด ego ส่วนตัวออกมาในลักษณะการชี้นำ จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่เรื่องของความชอบ ไม่มีเครื่องมือตัวใดสามารถวัดได้นอกจากใจเรา อ่านเยอะเสพข้อมูลเยอะก็ดีครับจะได้รู้เท่าทัน แต่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดเลยคือใจเรา เล่นแล้วจะได้ไม่ "หลง"นี่แหละ ที่ผมชอบตัวเราเอง หมดน้อยด้วย laughhahaha