ผู้เขียน หัวข้อ: ขอย้อนสู่ยุค Classic กับ Nelson Pass A40 ตำนานแห่ง Transistor Class-A  (อ่าน 3316 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ YukAudible

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 184
  • ถูกใจกด Like+ 50
   เมื่อพูดถึงผลงาน Power Amp Class-A ยุคเริ่มต้นของ nelson pass หากเป็นขาประจำของท่าน np คงไม่มีใครไม่รู้จัก A-40 Class-A Power Amplifier ซึ่งออกแบบโดยใช้ Transistor ตั่งแต่ I/P ถึง O/P และ Output stage ออกแบบเป็น Constant current load ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าแบบวงจรยุคเก่าแก่ที่ใช้ตัวต้านทานเป็น R-LOAD สำหรับเจ้าตัวที่มาอวดใหี่น้องๆพี่ๆชาว solid state ใด้ทัศนานี้เป็นเครื่องที่ผมใด้ทดลองประกอบขึ้นเมื่อประมาณปี 2002 part บางตัวก็ไม่ใด้ใช้แบบต้นแบบใช้วิธี cross reference เอา แผ่นวงจร gain board ใช้ตัวเดียวกับที่เคยตีพิมพ์ใน paper ท่าน np ส่วน output stage ใช้วิธี hard-wire ทั้งหมด หลังจากที่เก็บในในกรุนานหลายปีใด้เวลาเอามาปัดฝุ่นใช้งานกันอีกครั้ง ไม่นาเชื่อว่ายังสามารถใช้งานใด้ดีจากที่ตอนเปิดเครื่องมีอาการเสียวนิดหน่อยว่าจะรอดหรือไม่ร้อน
   ความรู้สึกกับวันเก่าๆก็กลับมาอีกครั้งกับความร้อนของ heater ที่สามารถนำไปปิงไข่กินกันใด้เลย แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยคือคุณภาพของเสียงที่ผ่านการทำงานของ CLASS-A ให้ความเป็น musical มี Total balance ที่ดีตั่งแต่ระดับต่ำถึงสูง

  ลองทัศนากันตามสบายเลยครับ

 วงจร gain board ครับ PWB จากใน paper

 output stage แบบ hard-wire

  แหล่งกำลังงานแบบ dual mono ลูกเขื่องๆเพื่อให้สมกับฐาณะCLASS-Aหน่อย

   ฝุ่นยังจับอยู่เลย [pig90124]

   เต็มๆอีกรูปกับการทำงานแบบ Dual Mono

   ดูหม้อ(แปลง)แบบชัดๆอีกที
 เป็น power amp อีกตัวของท่าน np ที่น่าทดลองครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 มีนาคม 2013, 03:56:57 PM โดย YukAudible »

ออฟไลน์ YukAudible

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 184
  • ถูกใจกด Like+ 50
Re: ขอย้อนสู่ยุค Classic กับ Nelson Pass A40 ตำนานแห่ง Transistor Class-A
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 01 มีนาคม 2013, 04:14:17 PM »
   วงจรของ PASS A40 ท่านใดสนใจสามารถหา download ใด้เลยครับใน paper มีข้อมูลและรายละเอียดครบถ้วนชัดเจนครับ 

ออฟไลน์ squid™

  • ++ทีมพาออกทะเล++
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5275
  • ถูกใจกด Like+ 150
  • เพศ: ชาย
  • "อย่าทิ้งความกระหาย อย่าคลายความเชื่อ"
Re: ขอย้อนสู่ยุค Classic กับ Nelson Pass A40 ตำนานแห่ง Transistor Class-A
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 01 มีนาคม 2013, 05:06:28 PM »
 [shock1] เห็นขนาดหม้อแล้วแทบช็อคเลยครับน้า
กดเลยนะตะเองที่อยู่เค้าเองล่ะ "Seize the day"

[tig12]

squid --> GolDFish --> ปลาทองคะนอง Valve --> เข้น้อยคอย DAC --> จิ้งจกจ๋า AMP ข้าอยู่ไหน -->อุย ดุก ดุก...-->
โดมคูล่า...หล่อค่อดเรยย -->Liberty--> Mike Lowery-->C3po™-->View Smith™ เหล่านี้คือชื่อ ยูสเซอร์ที่ผมใช้ครับ ไล่เรียงมาเรื่อย

LongPlay ADDICT

ออฟไลน์ YukAudible

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 184
  • ถูกใจกด Like+ 50
Re: ขอย้อนสู่ยุค Classic กับ Nelson Pass A40 ตำนานแห่ง Transistor Class-A
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 01 มีนาคม 2013, 05:24:57 PM »
  ต้องใช้หม้อใหญ่ๆครับถึงจะมันถึงใจ

ออฟไลน์ electron

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3289
  • ถูกใจกด Like+ 217
  • >> diy lover <<
Re: ขอย้อนสู่ยุค Classic กับ Nelson Pass A40 ตำนานแห่ง Transistor Class-A
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 01 มีนาคม 2013, 06:40:07 PM »


                [roll-eyes]   เล่นของร้อนด้วยแฮะ 

ออฟไลน์ YukAudible

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 184
  • ถูกใจกด Like+ 50
Re: ขอย้อนสู่ยุค Classic กับ Nelson Pass A40 ตำนานแห่ง Transistor Class-A
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 01 มีนาคม 2013, 10:50:53 PM »
เหมือนซุปชั้นยอดปิัรุงรสโดยเชพขั้นเทพจากภัตตาคารชื้อดังเวลาเสริพต้องกินตอนร้อนๆถึงจะใด้รสอร่อยครับ
quote author=electron link=topic=13680.msg178893#msg178893 date=1362138007]


                [roll-eyes]   เล่นของร้อนด้วยแฮะ 
[/quote]

ออฟไลน์ YukAudible

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 184
  • ถูกใจกด Like+ 50
Re: ขอย้อนสู่ยุค Classic กับ Nelson Pass A40 ตำนานแห่ง Transistor Class-A
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 06 มีนาคม 2013, 04:13:19 PM »
   
 รูปแบบและเทคนิคการจัดวงจรในแบบ  Class-A ในแบบต่างๆ
เครื่องขยายเสียงที่ทำงานในโหมดนี้วงจรจะไม่ซับซ้อนยุ่งยากมากนักแต่ให้ประสิทธิภาพต่อกำลังงานสูญเสียที่ค่อนข้างต่ำมากซึ่งเป็นผลมาจากที่ต้องให้กระแสไหลที่ Transistor Output อยู่ตลอดเวลาดังนั้นในการออกแบบจึงต้องใช้แหล่งจ่ายที่มีขนาดใหญ่และต้องมีชุดระบายความร้อนที่ใหญ่ขึ้นด้วยเนื่องมาจากที่ต้องให้กระแสไหลที่ Transistor Output อยู่ตลอดเวลานั้นเอง แต่ถึงจะมีข้อเสียเหล่านี้และต้องใช้งบประมาณที่สูงในการทำแต่ก็ยังมีนักเล่นที่นิยมและหลงไหลเครื่องขยายเสียงที่ทำงานในโหมดนี้อยู่เพราะสามารถออกแบบให้เป็นแบบ Single Output Stage ใด้เหมือนกับวงจรเครื่องขยายเสียงที่ใช้หลอดสูญญากาศในการขยาย ให้ความลื่นไหลในการฟังเพราะไม่เกิด Cross Over distortion ให้ความเป็น Musical ที่สูง
  1.Output stage แบบ Single-ended โดยใช้ Resistive Load
ดังแสดงในรูปตำแหน่ง RE จะถูกใช้เพื่อจัดการ BIAS และเป็น Emitter load สำหรับ Transistor Output เมื่อใด้รับ BIAS จนเข้าใกล้จุดอิ่มตัวกระแสจะวิ่งผ่านจาก +V ของแหล่งจ่ายไปยัง Load และเมื่อเข้าใกล้จุดหยุดนำกระแส กระแสจะผ่าน-V ของแหล่งจ่ายไปยัง Load
เมื่อวิเคราะห์ถึงประสิทธิภาพต่อกำลังงานสูญเสียพบว่ากำลังงานสูญเสียจะเกิดขึ้นกับ Transistor Output 50% เป็นเพราะการ BIAS ให้มีกระแสสงบอยู่ตลอดเวลาและ Output Voltage สามารถขยายใด้ประมาณ ? ของ VCC และจะเกิดกลังงานสญเสียที่ RE อีกประมาณ 25% จะเห็นใด้ว่าประสิทธิภาพค่อนข้างต่ำ
 
 2.Output stage แบบ Single-ended โดยใช้ active load
การทำงานด้วยเทคนิคนี้เป็นการนำ Current source ในตำแหน่ง CCS แทนที่ Resistive load และมาทำงานร่วมกับชุด Output stage ที่เป็น Single ended  เมื่อ Transistor Output ใด้รับ BIAS จนเข้าใกล้จุดอิ่มตัวกระแสจะวิ่งผ่านจาก +V ของแหล่งจ่ายไปยัง Load และเมื่อเข้าใกล้จุดหยุดนำกระแส กระแสจะผ่าน Current source ไปยัง Load ด้วยเทคนิคนี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพใด้เพราะไม่ต้องเสียกำลังงานที่ Resistive load ในแบบวงจร 3(a) และยังจะสามารถเพิ่ม Power supply rejection ratio ใด้อีกด้วยเพราะมีชุด Current source มากั้นระหว่างแหล่งจ่ายกับ load นั้นเองเป็นผลให้สัญญาณรบกวนที่แฝงมากับแหล่งจ่ายถูกลดทอนลงไป
 
 3.) Output stage แบบ Push pull class A
Output stage จะใด้รับแรงดัน BIAS ที่ VBE โดยแรงดัน Vbias และยังแป็นตัวควบคุมกระแสสงบที่ Output stage ด้วย และเทคนิค Push pull class A นี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพใด้ถึง 50% และค่อนข้างเป็นที่นิยมเพราะสูญสียกำลังงานน้อยและวงจรไม่ซับซ้อนมากนัก 
หากเพิ่มแรงดันที่ Vbias มากขึ้น Output stage จะนำกระแสมากขึ้นและหากลดแรงดันที่ Vbias น้อยลง Output stage จะนำกระแสลดลง ด้วยเทคนิคจะมำให้ใด้ Output voltage เพิ่มขึ้น