สำรวจความพึงพอใจต่อการฟังเพลง ชอบแบบแฟลตหรือปรุงแต่ง

[track]

ผมสำรวจความพึงพอใจต่อการฟังเพลงของผม พบว่า

 ในการฟังเพลงเสียงแฟลตโดยที่ไม่ปรับเสียงเบสกับแหลม ผมฟังแล้วก็ว่าเสียงมันยังไม่ถูกใจเท่าไหร่ ถึงแม้จะพยายามฟังแฟลตโดยไม่ปรับมาโดยตลอด แต่ในที่สุด ก็ต้องขอปรับเสียงเบสกับแหลมขึ้นอีกเล็กน้อย มันทำให้การฟังเพลงของผมมีความสุขขึ้นอีกมาก เสียงร้องของนักร้องหญิงชาย และเสียงฉาบมันจะใสกังวานมากขึ้น และเสียงเบสที่ไม่ค่อยมีก็มีมากขึ้น  เป็นที่ถูกใจ

โดยปกติถ้าผมปรับเบสกับแหลม ผมจะปรับขึ้นอีกสัก 1/3 จาก ระยะโวลลุ่มจากกลาง หรือเพิ่มอีก สัก 2 dB จากที่สามารถปรับได้ 6dB หนะครับ

ท่านสมาชิกชอบฟังเพลงกันแบบไหนครับ แบบแฟลตเลย หรือชอบปรุงแต่งแบบผม

[squid™]

ชอบฟังแบบไม่มีโทนคอนโทรลมากกว่าครับผม  [thumb up]

[numz]

 :-[ ฟังแบบ อพาร์ทเม้นท์ ขอรับ  (^_^) เพราะปรับๆแล้วมันแปร่งๆ เลยไม่ปรับแทน เพราะมันโดนปรุงแต่งมาตั้งแต่ตอนบันทึกหล่ะ  |:(

[audiomania]

อันนี้อยู่ที่ระบบที่เกี่ยวข้องครับ โดยเฉพาะลำโพงเป็นตัวแปรที่สำคัญมากที่สุด ทั้งตัวตู้เอง การวางตำแหน่งห่างกัน ระยะสูงของหน้าลำโพง ขาตั้ง ตำแหน่งฟังเสียง และอาจจะมีการ Toe-in หันหน้าช่วยเรื่องเสียงที่ได้ยิน

ส่วนแอมป์กับปรีรวมถึงแหล่งกำเนิด ถ้าไม่ได้ไปโมหรือจูนเสียงเอียงไปก่อนหน้านี้แล้ว โทนเสียงควรจะลงตัวในระดับนึง
และการไม่ปรับแต่งเลยจะดีที่สุดครับ เพราะเฟสเสียงจะไม่บิดตัว และตำแหน่งของชิ้นดนตรีจะนิ่งที่สุด ไม่วูบวาบครับ  [thumb up]

[electron]

           แล้วแต่อารมณ์ครับ(จริงๆไม่ได้กวน)เพราะเพลงบางประเภทปรับบ้างก็ฟังมันส์ดี  กับเพลงบางประเภทไม่ปรับถึงจะฟังดี เบื่อๆก็เอาเพลงที่ชอบแบบไม่ปรับมาปรับดูบ้าง ฟังไปได้เรื่อยๆครับ ไม่มีลิมิตใดๆ สบาย ๆ ครับ หลอดบ้าง ทรานซิสเตอร์บ้าง ทำมาแล้วใช้ให้คุ้มค่าที่ต้องจ่ายไปครับ

[CreÃte_Lek ♫]

อย่าคิดมากกันนะครับ ถามเพื่อประโยชน์ของตัวเพื่อนๆเอง  ผมขอย้อนถามก่อนนะครับว่า ท่านทราบได้อย่างไรเสียงที่ได้ยินจาก system ท่านนั้นว่าเป็นเสียงที่ flat  ไร้การปรุงแต่งเพราะการทำ ห้องฟังให้ได้เสียงที่ flat นั้นมีมากมายหลายขั้นตอนครับ โดยเฉพาะการทำ Equalizetion นอกจาก Room tune แล้วยกต้องใช้ EQ เข้าไปปรับอคูสติก เดี๋ยวผมมาคุยต่อ รอคำตอบก่อนครับ :)

 

 

[CreÃte_Lek ♫]

แต่ถ้าเป็นในรถ กราฟ flat ฟังไม่ได้เลยครับ แตกต่างกับในบ้านอย่างสิ้นเชิง  :)

 

[Bang doi]

 ของผมแต่งเสียงที่แอมป์กะปรีแอมป์เรียบร้อย ไม่ต้องบิดเพิ่มละครับ  [roll] [roll] [roll]

[harn]

ชอบเบสหนักๆ แหลมใสๆเด่น  แต่พอทำปรีมีเป็นแบบไม่มีปรับทุ้มแหลมเลยสักตัว  งงๆตัวเองเลยต้องไปฟังในรถแทน   hahaha

[nakpat]

ของผมถ้าเป็นเครื่องเสียงกลางแจ้ง ก็ชอบแบบปรับครับ แต่ถ้าเป็น HI-END เปลี่ยนแนวมาแบบเดิมๆ น่าจะเคลิ้มกว่าครับ..... [))]

[track]

อ.ใหญ่(คุณพี่เล็ก)มาให้ความรู่เรื่องอะคูสติกรูมแล้ว   [thumb up] ผมต้องรอเก็บความรู้อยู่แถวหน้าๆ

สำหรับผม ผมว่าบางแผ่น ก็เพิ่มเบสเพิ่มแหลมมาพอควรอยู่แล้ว ไม่น่าจะ แฟลต อย่างเพลงร็อคหรือบ็อป เพราะเขาต้องการอารมณ์เพลงแบบนั้น

แต่ถ้าเพลงจากพวกออดีโอไฟล์ท แจ๊ส หรือแผ่นที่เน้น เสียงร้อง อันนี้เขาอาจจะไม่ปรับแต่งมาเลย มายังไงก็มาหยังนั้น ไม่รู้ถูกหรือเปล่าครับ

[tfender]

การฟังด้วยแอมป์ที่มีไม่  Tone ปรับ  ถึงแม้ว่าเสียงที่เราได้ยิ่งมันอาจจะไม่ใช่เสียง  FLat  1000%   แต่ผมมั่นใจว่า  ถ้าลำโพงที่เราฟังนั้นมันสามารถตอบสนองย่านเสียงได้ดี  ขนาดตู้เหมาะสมกับลำโพงนั้   ก็สามารถรับรู้ถึงความเป็ฯดนตรีที่ดีได้เช่นกัน  ครับ
สมมุติว่า  ผมชอบ  เบสแน่นจุกอก-แหลมใส กรุ๊งกรุ๊ง  หากปริมาตรตู้ลำโพงเราไม่สามารถตอบสนองได้นั้น  ต่อให้เร่งที่ EQ   จนสุดก็เถอะ  เสียงที่ได้นั้นมันก็มีแต่ความผิดเพี้ยนจากต้นฉบับของเพลงนั้น ๆ ครับ

** เชิญเกจิ  ท่านต่อไปเลยครับ :)

[Eiam]

ผมชอบฟังแบบไม่ปรับอะไรเลยครับ มาไงฟังอย่างงั้นเลย

[track]

การฟังด้วยแอมป์ที่มีไม่  Tone ปรับ  ถึงแม้ว่าเสียงที่เราได้ยิ่งมันอาจจะไม่ใช่เสียง  FLat  1000%   แต่ผมมั่นใจว่า  ถ้าลำโพงที่เราฟังนั้นมันสามารถตอบสนองย่านเสียงได้ดี  ขนาดตู้เหมาะสมกับลำโพงนั้   ก็สามารถรับรู้ถึงความเป็ฯดนตรีที่ดีได้เช่นกัน  ครับ
สมมุติว่า  ผมชอบ  เบสแน่นจุกอก-แหลมใส กรุ๊งกรุ๊ง  หากปริมาตรตู้ลำโพงเราไม่สามารถตอบสนองได้นั้น  ต่อให้เร่งที่ EQ   จนสุดก็เถอะ  เสียงที่ได้นั้นมันก็มีแต่ความผิดเพี้ยนจากต้นฉบับของเพลงนั้น ๆ ครับ

** เชิญเกจิ  ท่านต่อไปเลยครับ :)

อย่างนี้ ถ้าเราเล่นลำโพงที่ใหญ่หน่อย ก็น่าจะตอบสนองเราได้ค่อนข้างครอบคลุมกว่าลำโพงเล็กใช่ใหมครับ

จากนั้นเราก็ค่อยไปหาขนาดแอมป์ให้แมทซ์กับขนาดของลำโพงเรา

[tfender]

การฟังด้วยแอมป์ที่มีไม่  Tone ปรับ  ถึงแม้ว่าเสียงที่เราได้ยิ่งมันอาจจะไม่ใช่เสียง  FLat  1000%   แต่ผมมั่นใจว่า  ถ้าลำโพงที่เราฟังนั้นมันสามารถตอบสนองย่านเสียงได้ดี  ขนาดตู้เหมาะสมกับลำโพงนั้   ก็สามารถรับรู้ถึงความเป็ฯดนตรีที่ดีได้เช่นกัน  ครับ
สมมุติว่า  ผมชอบ  เบสแน่นจุกอก-แหลมใส กรุ๊งกรุ๊ง  หากปริมาตรตู้ลำโพงเราไม่สามารถตอบสนองได้นั้น  ต่อให้เร่งที่ EQ   จนสุดก็เถอะ  เสียงที่ได้นั้นมันก็มีแต่ความผิดเพี้ยนจากต้นฉบับของเพลงนั้น ๆ ครับ

** เชิญเกจิ  ท่านต่อไปเลยครับ :)

อย่างนี้ ถ้าเราเล่นลำโพงที่ใหญ่หน่อย ก็น่าจะตอบสนองเราได้ค่อนข้างครอบคลุมกว่าลำโพงเล็กใช่ใหมครับ

จากนั้นเราก็ค่อยไปหาขนาดแอมป์ให้แมทซ์กับขนาดของลำโพงเรา

ลำโพงที่ใหญ่หน่อย ก็น่าจะตอบสนองเราได้ค่อนข้างครอบคลุมกว่าลำโพงเล็ก     ผมก็ไม่เสมอไปนะครับ ว่าของใหญ่กว่าจะลงความถี่ต่ำได้ดีกว่า  ต้องดูที่ศักยภาพของลำโพงด้วยครับ  ซึ่งจากที่ผมได้สัมผัสกับตัวเองแล้ว   ถึงเข้าใจคำตอบ  ยกตัวอย่างลำโพงตัวเก่าของผม 6.5 นิ้ว  แต่ให้เบสได้น้อยกว่า  ดอก 4 3/4 นิ้ว   รุ่นยอดนิยมได้ครับ  เพราะไม่ว่า  จะบ้านเดี่ยว 2 ชั้น  หรือทาวเฮ้า  ดอกขนาด  4 3/4 นิ้ว  ก็เอาอยู่ครับ  ผม Test  มาแล้ว
ผมเปิดบ้านผมแล้วข้างบ้านฟังกันยินดี 4 หลัง สบายๆ  เลยครับ    จนต้องโดนสั่งให้ปิด  ดึงปลั๊ก [thif]

[Alcohol]

ชอบบิดเร่งแค่โวลุ่มอย่างเดียว ปุ่มอื่น ๆ ที่มีก็มักจะตั้งไว้ที่กึ่งกลาง หรือหากมีปุ่ม Direct ก็จะกดปุ่มนี้ไว้เลย
เพราะไม่ชอบปรับแต่งเสียงที่ Preamp ครับ

[CreÃte_Lek ♫]

อ.ใหญ่(คุณพี่เล็ก)มาให้ความรู่เรื่องอะคูสติกรูมแล้ว   [thumb up] ผมต้องรอเก็บความรู้อยู่แถวหน้าๆ

สำหรับผม ผมว่าบางแผ่น ก็เพิ่มเบสเพิ่มแหลมมาพอควรอยู่แล้ว ไม่น่าจะ แฟลต อย่างเพลงร็อคหรือบ็อป เพราะเขาต้องการอารมณ์เพลงแบบนั้น

แต่ถ้าเพลงจากพวกออดีโอไฟล์ท แจ๊ส หรือแผ่นที่เน้น เสียงร้อง อันนี้เขาอาจจะไม่ปรับแต่งมาเลย มายังไงก็มาหยังนั้น ไม่รู้ถูกหรือเปล่าครับ

ห้ามเรียกผมว่า" อาจารย์ " ผมเคยประกาศไปหลายเวปแล้วว่าไม่เคยเป็นอาจารย์ใคร ความรู้แค่หางอึ่ง มิบังอาจครับ ถือซะว่าเอาประสพการณ์ที่พอจะมีอยู่บ้างอันน้อยนิดมาแชร์กันครับ  โดยปกติแล้วห้องแต่ละห้องหากไม่ได้ทำการปรับอคูสติก ไม่มีทางที่จะให้เสียงที่ flat ได้เลยครับ นอกจากเรื่องของ reflex (การก้องสะท้อน) แล้ว ยังมีปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องเป็น factor อีกมากมาย อย่างเช่นวัสดุที่นำมาใช้ทำห้อง มีการก้องสะท้อนที่แตกต่างกัน ยังส่งผลให้บางความถี่โ่ด่ง หรือ บางความถี่หุบ หรือ หายไปจากระนาบ นอกเหนือจากการฟังแบบปกติที่เราๆ ท่านนั่งฟังกัน ยังต้องใช้เครื่องมือวัดเข้ามาตรวจสอบความถี่ทั้งนาบด้วยครับ จึงจะสามารถทราบความถี่ที่มาก หรือ น้อยเกินไปในแต่ละย่านความถี่ เพื่อทำการปรับ อคูสติกของห้อง จึงมีอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการปรับอคูสติกของห้องออกมาขายกันมากมายในปัจจุบัน ผมขอยกตัวอย่าง Diffuser  ที่ถูกสร้างขึ้นจริงๆแล้วไม่สามารถที่จะใช้ได้กับทุกๆห้อง ก็เพราะความแตกต่างกันของอคูสติกแต่ละที่ ที่เราเห็นซี่ไม้สูงๆต่ำๆ สั้นบ้าง ยาวบ้าง ล้วนที่ผลต่อความถี่ทั้งสิ้น เพราะเค้าจะต้องเอาข้อมูลจากการเก็บวัดไปคำนวณเพื่อทำ diffuser  ออกมาครับ เพื่อเพิ่ม หรือ ลดย่านความถี่นั้นๆ รวมถึงควบคุมการสะท้อนด้วยครับ :)

 

 

 

  ทั้งหมดนี้อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อโดยตรง แต่แค่อยากให้รู้ว่าเสียงที่เราได้ยินได้ฟังกัน ไม่ได้ Flat ถ้าต้องการให้ flat ต้องปรับครับ เพราะแผ่นแต่ละแผ่นที่ถูกก็ไม่ได้ถูกบันทึกมาแบบ Flat มีการปรับ EQ ตามตลาด หรือ สไตล์ของ โปรดิวเซอร์แต่ละท่าน ไม่ว่าไทย หรือ เทศ

[sanosak]

ตามอ่านอยู่ครับ
ส่วนใหญ่ก็จะพูดกันที่อุปกรณ์กับสิ่งแวดล้อมผมว่าผู้ฟังเองก็มีส่วนอย่างมากในกำลังงานเท่ากันการรับรู้ในแต่ละความถี่ก็ไม่เท่ากันนะครับ และเคยลองทดสอบตัวเองเล่นฯใหมครับว่ารับได้ที่ความถี่จากใหนถึงใหนตัวผมเลย 12KHz ก็ไม่ได้ยินแล้วครับ ไม่แปลกใจเลยขณะที่ผมว่ามันเพราะแต่ท่านอื่นบอกไม่ได้เรื่อง ผมเอาตามความชอบของผมครับ
ถึงต้องมาทำเอง [HAHAHA]

[fender]

  ทั้งหมดนี้อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อโดยตรง แต่แค่อยากให้รู้ว่าเสียงที่เราได้ยินได้ฟังกัน ไม่ได้ Flat ถ้าต้องการให้ flat ต้องปรับครับ เพราะแผ่นแต่ละแผ่นที่ถูกก็ไม่ได้ถูกบันทึกมาแบบ Flat มีการปรับ EQ ตามตลาด หรือ สไตล์ของ โปรดิวเซอร์แต่ละท่าน ไม่ว่าไทย หรือ เทศ

ถูกต้องนะครับ producer ทุกคนมีสไตล์ที่แตกต่างกัน เสียงที่บันทึกมา ผ่านการปรุงแต่งแล้วทั้งนั้น mixer ที่ใช้ microphone ที่ใช้ สายสัญญาณที่ใช้ แอมป์ที่ใช้ ลำโพงหรือหูฟังที่ใช้ โอยตัวแปรเต็มไปหมด ผมยังไม่เคยเห็น mixer ตัวไหนไม่มีปุ่มปรับทุ้มแหลมเลย

[numz]

ตามอ่านอยู่ครับ
ส่วนใหญ่ก็จะพูดกันที่อุปกรณ์กับสิ่งแวดล้อมผมว่าผู้ฟังเองก็มีส่วนอย่างมากในกำลังงานเท่ากันการรับรู้ในแต่ละความถี่ก็ไม่เท่ากันนะครับ และเคยลองทดสอบตัวเองเล่นฯใหมครับว่ารับได้ที่ความถี่จากใหนถึงใหนตัวผมเลย 12KHz ก็ไม่ได้ยินแล้วครับ ไม่แปลกใจเลยขณะที่ผมว่ามันเพราะแต่ท่านอื่นบอกไม่ได้เรื่อง ผมเอาตามความชอบของผมครับ
ถึงต้องมาทำเอง [HAHAHA]

กด like 1 ดอก

[Bang doi]

ตามอ่านอยู่ครับ
ส่วนใหญ่ก็จะพูดกันที่อุปกรณ์กับสิ่งแวดล้อมผมว่าผู้ฟังเองก็มีส่วนอย่างมากในกำลังงานเท่ากันการรับรู้ในแต่ละความถี่ก็ไม่เท่ากันนะครับ และเคยลองทดสอบตัวเองเล่นฯใหมครับว่ารับได้ที่ความถี่จากใหนถึงใหนตัวผมเลย 12KHz ก็ไม่ได้ยินแล้วครับ ไม่แปลกใจเลยขณะที่ผมว่ามันเพราะแต่ท่านอื่นบอกไม่ได้เรื่อง ผมเอาตามความชอบของผมครับ
ถึงต้องมาทำเอง [HAHAHA]

กด like 1 ดอก

 ของผมฟังได้แถวๆ 17K ก็ไม่ไปต่อละคับ  [roll] [roll]

[squid™]

ตามอ่านอยู่ครับ
ส่วนใหญ่ก็จะพูดกันที่อุปกรณ์กับสิ่งแวดล้อมผมว่าผู้ฟังเองก็มีส่วนอย่างมากในกำลังงานเท่ากันการรับรู้ในแต่ละความถี่ก็ไม่เท่ากันนะครับ และเคยลองทดสอบตัวเองเล่นฯใหมครับว่ารับได้ที่ความถี่จากใหนถึงใหนตัวผมเลย 12KHz ก็ไม่ได้ยินแล้วครับ ไม่แปลกใจเลยขณะที่ผมว่ามันเพราะแต่ท่านอื่นบอกไม่ได้เรื่อง ผมเอาตามความชอบของผมครับ
ถึงต้องมาทำเอง [HAHAHA]

กด like 1 ดอก

 ของผมฟังได้แถวๆ 17K ก็ไม่ไปต่อละคับ  [roll] [roll]

พอๆกันเรยยย  :)

[CreÃte_Lek ♫]

ตามอ่านอยู่ครับ
ส่วนใหญ่ก็จะพูดกันที่อุปกรณ์กับสิ่งแวดล้อมผมว่าผู้ฟังเองก็มีส่วนอย่างมากในกำลังงานเท่ากันการรับรู้ในแต่ละความถี่ก็ไม่เท่ากันนะครับ และเคยลองทดสอบตัวเองเล่นฯใหมครับว่ารับได้ที่ความถี่จากใหนถึงใหนตัวผมเลย 12KHz ก็ไม่ได้ยินแล้วครับ ไม่แปลกใจเลยขณะที่ผมว่ามันเพราะแต่ท่านอื่นบอกไม่ได้เรื่อง ผมเอาตามความชอบของผมครับ
ถึงต้องมาทำเอง [HAHAHA]

ที่ไม่พูดเดี๋ยวจะกลายเป็นแตกประเด็นไปครับ เพราะ จขกท พูดถึงเรื่องเสียง flat   ส่วนเรื่องเสียงกับการรับรู้ สามารถฝึกกันได้ครับ เพื่อชดเชยสิ่งที่ขาดหายไปตามอายุขัยของมนุษย์ ที่สำคัญ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ  บุหรี และ สุราคือ กฏเหล็ก( ของต้องห้าม )ของนักฟังที่ดี :)

[numz]

 :-\ งั้นผมก็แหกกฏหมดเลยสิเนี่ย  [HAHAHA] [HAHAHA]

[track]

ส่วนใหญ่ฟังแบบไม่ปรุงแต่งจากโทนคอลโทลกันเยอะเลย

นอกจากเรื่องห้องแล้ว อันนี้เป็นไปได้ใช่ใหมว่า เจ้าลำโพงหรือแอมป์ที่ผมใช้ฟังอยู่ มันอาจจะไม่สามารถจะถ่ายทอดน้ำเสียงที่ดีพอ จากการบันทึกเสียงออกมาให้ผมได้ยิน ทำให้ผมต้องไปปรับแต่งเสียงแหลมเสียงเบสช่วย เพื่อให้เสียงอยู่ในระดับที่ผมชอบใจ ซึ่งเป็นไปได้ว่ายิ่งถ้าปรับมาก ก็ยิ่งทำให้เสียงกลางเพียนตามไปกันใหญ่

 คงต้องลองฟังแบบไม่ปรับแต่งให้คุ้นหู และหาแอมป์หรือเครืองเสียงดีๆ (ของคนอื่น )ลองฟังเปลียบเทียบกับของที่มีดูครับ

เชิญท่านอื่นแชร์กันต่อครับ

[wongs2522]

ห้องผม อคูสติกไม่ดี ของเยอะ จุดนั่งฟังเบสบางหาย

เสียงแหลม สะท้อนกันเปรี้ยงปร้าง

ผมต้องเพิ่มเบส ลดแหลมนิดๆครับ

[tfender]

ส่วนใหญ่ฟังแบบไม่ปรุงแต่งจากโทนคอลโทลกันเยอะเลย

นอกจากเรื่องห้องแล้ว อันนี้เป็นไปได้ใช่ใหมว่า เจ้าลำโพงหรือแอมป์ที่ผมใช้ฟังอยู่ มันอาจจะไม่สามารถจะถ่ายทอดน้ำเสียงที่ดีพอ จากการบันทึกเสียงออกมาให้ผมได้ยิน ทำให้ผมต้องไปปรับแต่งเสียงแหลมเสียงเบสช่วย เพื่อให้เสียงอยู่ในระดับที่ผมชอบใจ ซึ่งเป็นไปได้ว่ายิ่งถ้าปรับมาก ก็ยิ่งทำให้เสียงกลางเพียนตามไปกันใหญ่

 คงต้องลองฟังแบบไม่ปรับแต่งให้คุ้นหู และหาแอมป์หรือเครืองเสียงดีๆ (ของคนอื่น )ลองฟังเปลียบเทียบกับของที่มีดูครับ

เชิญท่านอื่นแชร์กันต่อครับ

 OTL  อสูร  สามารถตอบโจทย์  ป๋ากิตติได้นะครับ  [we're number 1] [we're number 1]   ผมว่าต่อง่ายกว่า เกรนโคลนเสียอีก 

[nakpat]

ส่วนใหญ่ฟังแบบไม่ปรุงแต่งจากโทนคอลโทลกันเยอะเลย

นอกจากเรื่องห้องแล้ว อันนี้เป็นไปได้ใช่ใหมว่า เจ้าลำโพงหรือแอมป์ที่ผมใช้ฟังอยู่ มันอาจจะไม่สามารถจะถ่ายทอดน้ำเสียงที่ดีพอ จากการบันทึกเสียงออกมาให้ผมได้ยิน ทำให้ผมต้องไปปรับแต่งเสียงแหลมเสียงเบสช่วย เพื่อให้เสียงอยู่ในระดับที่ผมชอบใจ ซึ่งเป็นไปได้ว่ายิ่งถ้าปรับมาก ก็ยิ่งทำให้เสียงกลางเพียนตามไปกันใหญ่

 คงต้องลองฟังแบบไม่ปรับแต่งให้คุ้นหู และหาแอมป์หรือเครืองเสียงดีๆ (ของคนอื่น )ลองฟังเปลียบเทียบกับของที่มีดูครับ

เชิญท่านอื่นแชร์กันต่อครับ

 OTL  อสูร  สามารถตอบโจทย์  ป๋ากิตติได้นะครับ  [we're number 1] [we're number 1]   ผมว่าต่อง่ายกว่า เกรนโคลนเสียอีก 

เห็นด้วยครับ......

[sanosak]

ห้องผม อคูสติกไม่ดี ของเยอะ จุดนั่งฟังเบสบางหาย

เสียงแหลม สะท้อนกันเปรี้ยงปร้าง

ผมต้องเพิ่มเบส ลดแหลมนิดๆครับ

การมีของเยอะมันก็ไมใช่ว่าจะไม่ดีนะครับ ผมว่านะถ้าลองศึกษาเรื่องอคูสติกที่คุณCreate กำลังนำเสนอแล้วนำไปปรับใช้มันอาจจะลงตัวได้นะครับ  [yahoo]  yahoo1

[sansirn]

ผมขออกความเห็นบ้างครับ เอาแบบสเตปเลยละกัน

1.คำว่า Flat ในการเล่นเครื่องเสียงหมายถึง การตอบสนองทางความถี่ของซิสเต็มที่ใช้เล่นกลับ (แหล่งกำเนิด+ปรี/แอมป์+ลำโพง) ที่ราบเรียบตลอดย่านความถี่เสียง ไม่เกี่ยวกับการบันทึกเสียงครับ

2.ในขั้นตอนการบันทึกเสียง จะเป็นศิลปะเฉพาะตัวของ Sound engineer ที่จะจัดระดับความดังเสียงของเครื่องดนตรีชิ้นแต่ละชิ้นรวมถึงเสียงนักร้องให้กลมกลืนและถูกโสตประสาทหูคนฟังมากที่สุด แล้วจึงทำเป็นมาสเตอร์ออกมา และถ้ามาสเตอร์ที่ทำออกมานั้นให้ระดับเสียงที่ถูกหูคนฟังส่วนใหญ่ (บางนิยามก็ว่าให้เสียงใกล้เคียงกับการเล่นดนตรีจริง) ก็จะถูกเรียกว่า "Audiophile" ........ จะเห็นว่าขั้นตอนบันทึกไม่มี Flat มีแต่ถูกหูหรือไม่อ่ะครับ

3.เหตุที่ต้องมีวงจร Tone control เกิดขึ้นมาก็เพราะ
3.1 การบันทึกเสียงสมัยก่อนมีขีดจำกัด ไม่สามารถบันทึกเสียงให้ครอบคลุมคลอดย่านความถี่เสียงได้
3.2 การตอบสนองของลำโพงยุคก่อน ตอบสนองความถี่ได้ไม่ดีพอ
3.3 ปรี+แอมป์ ให้โทนเสียงที่ไม่เป็นกลาง (ถ้าเป็นเครื่องหลอดจะมีสีสันของหลอดนั้นๆ ออกมา) ทำให้ต้องมีการปรับโทนเสียงให้เข้าบุคลิกของคนฟังแต่ละคน
3.4 ปัญหาการรับฟังเสียงของหูคนแต่ละเพศ แต่ละวัยไม่เหมือนกัน
3.5 มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบเสียงทุ้มจัดๆ หรือไม่ก็แหลมจัดๆ
*ทั้งหมดที่ว่ามา ทำให้วิศวกรยุคก่อนต้องใส่วงจร Tone control + Loudness เข้าไปชดเชยความต้องการของคนแต่ละกลุ่มครับ

4.การฟังเพลงแบบ Flat มีข้อดีในเรื่องของการตอบสนองทางเฟสของระบบที่ผิดเพี้ยนน้อย ทำให้สามารถรับรู้+รับฟังบรรยากาศหรือแบล็คกราวด์เล็กๆ น้อยๆ ที่บันทึกมาได้ ...แต่เมื่อใส่วงจรปรับทุ้มแหลมเข้าไปจะทำให้เกิดความผิดเพียนทางเฟส ผลคือเกิดการหักล้างของเสียงบางช่วงความถี่ เวลาฟังจะรู้สึกว่าเสียงบางอย่างมันหายไป

บทสรุป.....หากท่านจะฟังเพลงแบบ Flat จริงๆ ระบบของท่านต้อง Flat และคุณภาพดีพอ มิฉะนั้นท่านจะได้ฟัง Flat แบบคิดไปเอง หากงงในสิ่งที่ผมเขียน ผมแนะนำให้ไปลองฟังเสียง Flat ของเครื่องไฮเอนด์จากโชว์รูมดีๆ แล้วลองกลับมาฟังที่บ้านเทียบกันดูครับ