www.diyaudiovillage.net
INTRODUCTIONS เสวนาภาษาพี่น้อง => เสวนาภาษาพี่น้อง => ข้อความที่เริ่มโดย: kitcha23 ที่ 14 มกราคม 2013, 11:34:13 AM
-
ผมขอเสนอเรื่องบอลได้ไหมคับ น้าๆๆ ....... [roll]
ดูเรื่องวงจร ประกอบ มาเยอะแล้ว มาคุยเรื่องบอลกัน นิดนึ่งนะคับ แก้เขียดกันนะคับ ((( ถ้าน้าๆ ว่าไม่เหมาะสม รบได้เลยนะคับ ... [c--c] )))
ก่อนอื่นผมเปิดตัวก่อนนะคับ ผม ((( หงส์แดง ล้านเปอร์เซ็นคร๊าบบบบบ ))) (http://upic.me/i/t4/e5313545e7.jpg) (http://upic.me/show/42759361)
น้าท่านใหนมีความคิดยังไงหลังเกมส์ เชิญลงความคิดเห็นได้เลยนะ
คับ ชอบทีมใหน เชิญคับ คุนกันสนุกๆๆ นะคับ .... [roll]
บอลคือ กีฬา มีแพ้ มีชนะ ไม่ใช่เล่นแล้วสร้างคู่อริกันคับ แบบบอลไทยไม่เอานะคับ ไล่เตะกรรมการ...... laughhahaha
และไม่ใช่เพื่อการพนันคับ มีลูกหลานชวนกันไปดูบอลที่สนามหรือใน โทรภาพ คับ ดูกันได้ทั้งครอบครัว ผม เวลาชลบุรีเตะผมไปดูที่สนาม เชียร์ที่
กลับบ้านเสียงไม่มีเลยคับ......... [roll]
(http://upic.me/i/ht/226684_409297699149812_1870519029_n.png) (http://upic.me/show/42759466)
Man Utd. Vs Liverpool
Old Trafford 20:30 วันที่ 13.1.13 ,
ลิเวอร์พูลออกไปเยือนแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในเกมพรีเมียร์ลีคด้วยสภาพทีมที่ค่อนข้างพร้อม ขาดตัวหลักไปแค่เอนริเก้คนเดียวเท่านั้น โดยร็อดเจอร์ใช้วิสดอมในตำแหน่งแบ็คขวาแล้วโยกจอห์นสันไปซ้ายเหมือนเดิม แดนกลางเฮนเดอร์สันต้องนั่งก่อน เป็นอัลเลนที่ได้ลงตัวจริงพร้อมด้วยลูคัสและเจอราร์ด ส่วนริมเส้นยังคงเป็นสเตอริ่งและดาวนิ่งแต่วันนี้ดาวนิ่งไปเล่นทางขวา หน้าเป้าเป็นซัวเรส โดยม้านั่งสำรองมีทั้งสเตอริดจ์และบอรินี่รออยู่
-------------------------------------------------------
_______ เปิดเกมมาลิเวอร์พูลพยายามครองบอลเน้นความแน่นอนไม่เร่งเกมเร็ว แต่แมนฯยูไม่รอเล่นช้าด้วย ไล่บอลสูงและเล่นเร็วอยู่ตลอด โดยเน้นขึ้นเกมทางริมเส้นฝั่งซ้าย(ขวาวิสดอม)เป็นส่วนใหญ่ เกมโดยรวมเป็นแมนฯยูที่ทำได้ดีกว่า ครองบอลและบุกได้มากกว่าแต่ยังหาโอกาสจบสกอร์ไม่ได้ ส่วนลิเวอร์พูลพาบอลไปไม่ถึงเขตโทษ ได้แค่ลุ้นนิดหน่อยจากลูกฟรีคิกที่เปิดโด่งเข้าไปในเขตโทษซึ่งยังกดดันอะไรไม่ได้
_______ ลิเวอร์พูลพยายามเน้นคุมพื้นที่แดนตัวเองแน่น แต่การขึ้นบอลทำได้ไม่ดีพอทำให้เสียบอลในแดนกลางในแมนฯยูค่อนข้างบ่อย และในที่สุดก็เปิดช่องในแนวรับ นาที 19 เอฟร่าเติมขึ้นไปรับบอลทางริมเส้นก่อนจะเปิดเรียดเข้ากลางให้ฟาน เพอร์ซี่เปิดหน้าเท้ายิงจังหวะแรกผ่านเรน่าเข้าไปได้เป็น 1-0 หลังเสียประตูไปลิเวอร์พูลพยายามเน้นเกมรุกโดยดันกันขึ้นมาสูงมากขึ้น ได้ครองบอลบุกมากขึ้นแต่ยังหาจังหวะเข้าทำไม่ได้ และทำให้พื้นที่แดนกลางเปิดให้แมนฯยูได้เล่นง่ายขึ้นด้วย
(http://upic.me/i/lb/zpr05.jpg) (http://upic.me/show/42759452)
_______ เล่นไปเล่นมาแม้ลิเวอร์พูลจะบุกได้มากขึ้นแต่แทบไม่ได้ลุ้นประตู กลายเป็นแมนฯยูที่ตัดบอลแดนกลางและทำเร็วได้ลุ้นประตูอยู่ตลอด จวนเจียนจะได้ประตูอยู่ 2-3 ครั้งแต่ยังทำไม่สำเร็จ และจบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-0
_______ เข้าครึ่งหลัง ร็อดเจอร์ถอดเอาลูคัสที่โดนใบเหลืองในท้ายครึ่งแรกออกส่งสเตอริดจ์ลงมาแทน โดยวางสเตอริดจ์เป็นหน้าเป้าถอยซัวเรสมาเล่นหน้าต่ำ เกมรุกของลิเวอร์พูลในจังหวะเข้าทำดูดีขึ้น ไปได้ใกล้เขตโทษมากขึ้น สวนทางกับเกมรับแดนกลางที่ดูแย่ลง ไม่สามารถหยุดเกมของแมนฯยูได้เลย จนกระทั่งนาที 54 แมนฯยูได้ฟรีคิกโยนเข้าเขตโทษลึกไปถึงเสาสอง เอฟร่าขึ้นโหม่งเข้าไปได้เป็น 2-0
_______ แม้จะโดนลูกที่สองไปแล้วแต่เกมรุกของลิเวอร์พูลที่เริ่มดูดีขึ้นยังไม่สะดุด และทวงคืนได้เร็วด้วย ในนาที 57 เจอราร์ดไปแซะเอาบอลได้แถวหน้าเขตโทษก่อนจะยิงไกลไปติดเซฟเด เกอาแต่บอลไม่พ้นกรอบ สเตอริดจ์วิ่งเข้าไปชาร์จได้ทันเป็น 2-1 ลิเวอร์พูลยังเดินหน้าบุกต่อไปในขณะที่แมนฯยูเริ่มตั้งเกมของตัวเองได้น้อยลงแล้ว นาที 62 บอรินี่ได้ลงมาแทนสเตอริ่งอีกคน และถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลเริ่มครองบอลทำเกมได้ต่อเนื่องมากขึ้น
(http://upic.me/i/2o/k1t12.jpg) (http://upic.me/show/42759444)
_______ ผ่านนาที 70 ไปแล้วแมนฯยูที่นอกจากจะตั้งเกมของตัวเองได้น้อยลงแล้วยังเริ่มเล่นกันผิดพลาดมากขึ้น สวนทางกับลิเวอร์พูลที่ดันกันขึ้นมาเล่นเกมรุกกันเต็มที่ สามารถพาบอลไปถึงหน้าเขตโทษได้ตลอดและพอได้ลุ้นประตูบ้าง เข้า 10 นาทีสุดท้าย เฮนเดอร์สันได้ลงแทนอัลเลนมาอีกคน ทางฝั่งแมนฯยูทยอยเปลี่ยนตัวรับลงมาเพิ่มทีละคนและไม่สามารถตั้งเกมหรือโต้เร็วได้อีก แต่ยังปิดพื้นที่ในเขตโทษกันได้ค่อนข้างดี แม้ลิเวอร์พูลจะบุกได้ต่อเนื่องแต่โอกาสจบสกอร์มีไม่มากนัก
_______ ลิเวอร์พูลได้ลุ้นตีเสมอที่สุดจากจังหวะที่ซัวเรสพาบอลมุดเข้าไปในเขตโทษ จังหวะคลุกคลิกหน้าประตูบอลไหลไปเข้าทางสเตอริดจ์ได้ยืนยิ่งโล่งๆ ไม่กี่หลาแต่บอลโด่งข้ามคาน ก่อนที่ช่วงทดเจ็บแมนฯยูจะสามารถครองบอลปิดเกมเอาตัวรอดไปได้ จบเกมที่สกอร์ 2-1
-----------------------------------------
_______ ดูจากสกอร์ 2-1 อย่างเดียวเกมดูจะสูสี แต่ถ้าดูรูปเกมแล้วต้องบอกว่าเกมนี้ร็อดเจอร์สู้ประสบการณ์ของเซอร์อเล็กซ์ไม่ได้ (ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัดสินเกมนัดนี้ด้วย) ทางฝั่งแมนฯยูนั้นฤดูนี้มีปัญหาในแดนกลางที่โดนไล่แล้วเล่นไม่ออก รวมกับเกมรับที่มีข้อผิดพลาดเยอะ แต่เซอร์อเล็กซ์ปรับเกมมาเน้นเร็วตั้งแต่ต้น ใช้พละกำลังนักเตะวิ่งไล่เอาตั้งแต่ครึ่งแรก เป็นฝ่ายรุกใส่แทนที่จะรอเป็นฝ่ายโดยไล่ นอกจากจะปิดจุดอ่อนตัวเองได้แล้วยังเล่นงานจุดอ่อนลิเวอร์พูลได้ด้วย ในขณะเดียวกัน ร็อดเจอร์ยังคงเล่นด้วยแทคติคเดิม ไม่ได้ใส่อะไรมาช่วยแก้ปัญหาในเกมรับแดนกลางและริมเส้นที่ต้องใช้ดาวรุ่ง รวมไปถึงถึงไม่สามารถเล่นงานจุดอ่อนของแมนฯยูได้เลยด้วยเพราะไปเลือกเล่นรับต่ำและเล่นเกมช้า
_______ ไม่ใช่ว่าแทคติคที่เซอร์อเล็กซ์เลือกมามันจะยอดเยี่ยมไร้จุดอ่อน ในเกมครึ่งหลังก็แสดงให้เห็นแล้วว่าการเลือกที่จะวิ่งไล่เกือบเต็มสนามในครึ่งแรกทำให้พละกำลังผู้เล่นแมนฯยูทดถอยอย่างเห็นได้ชัด หมดแรงวิ่งและทำเกมรุกแทบไม่ได้เลย แต่นั่นคือแมนฯยูได้ประตูนำที่ต้องการแล้ว แม้จะบุกอีกไม่ได้แต่ก็อยู่ในสถานะเป็นต่อ ส่วนร็อดเจอร์ทำได้แค่ปรับเกมตามปัญหาที่เห็นในครึ่งแรก ซึ่งอันที่จริงก็ปรับได้ดีเมื่อถอยซัวเรสลงมาต่ำทำให้เกมรุกจังหวะเข้าทำดูดีขึ้นด้วย (ครึ่งแรกไม่มีคนปั้นเกมจังหวะเข้าทำ) แต่ก็ไม่สามารถทำให้ทีมกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ เพราะแมนฯยูสามารถเล่นรับอย่างเดียวได้แล้ว ร็อดเจอร์ตามหลังเซอร์อเล็กซ์อยู่ก้าวนึงจริงๆ ในวันนี้
_______ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าร็อดเจอร์จะผิดไปซะหมด อย่างที่บอกไปแล้วว่าอย่างน้อยร็อดเจอร์ก็ปรับแทคติคตามสถานการณ์ได้ดี แต่ที่สุดท้ายแล้วลิเวอร์พูลเอาตัวรอดกลับจากโอลด์ แทรฟฟอร์ดไม่ได้ก็มาจากตัวผู้เล่นเองด้วย ผู้เล่นดาวรุ่งของลิเวอร์พูลพอเจอเกมใหญ่แล้วมีปัญหาในเรื่องความนิ่งมากจริงๆ ไม่ว่าจะวิสดอม, อัลเลน(คงไม่มีใครคิดว่าหมอนี่เป็นนักเตะซีเนียร์นะ) สเตอริ่ง หรือแม้กระทั่งสเตอริดจ์ที่ลงมาทีหลังด้วย ถ้าดาวรุ่งเล่นได้นิ่งกว่านี้ ไม่แน่ลิเวอร์พูลอาจจะควัก 1 แต้มกลับบ้านได้เป็นอย่างน้อย...
(http://upic.me/i/zu/ybi11.jpg) (http://upic.me/show/42759449)
_______ อ้อ...ดูฮาเวิร์ด เวปป์เป่านัดนี้สงสัยเจ้าตัวจะย้ายทีมในช่วงมกรานี้แล้วนะครับ หลายจังหวะที่ 50/50 แล้วเป่าให้ลิเวอร์พูลเยอะเหลือเกิน ไม่ว่าจะลูคัสที่ครึ่งแรกโดนใบเหลืองช้ามาก, อัลเลนที่ไม่โดนซะงั้น และสเคอเทลที่โดนแค่เหลืองซึ่งจังหวะนั้นถ้าเป็นช่วงเวปป์ท๊อปฟอร์มสเคอเทลได้กลับเข้าห้องแต่งตัวแน่ ไม่นับจังหวะแซะนิดแซะหน่อยแล้วไม่เป่าอีกหลายจังหวะ...
_______ นัดนี้ แพ้ ครับ นัดหน้าว่ากันใหม่
-------------------------------
นัดนี้เล่นกันได้พอใช้ได้
เรน่า - ยืนตำแหน่งได้ดีและเซฟลูกสำคัญได้ไม่น้อย 2 ลูกที่เสียก็ไม่น่าจะทำอะไรได้ดีกว่านั้น ฟอร์มส่วนตัวถือว่าน่าพอใจ
วิสดอม - เกมรับหลุดตำแหน่งบ่อยครั้ง หลายจังหวะที่หุบเข้าไปในเขตโทษแบบไม่จำเป็น ช่วยเชื่อมเกมได้ไม่ดีนัก บอลต้องวนกลับหลังบ่อยครั้ง
แอกเกอร์ - ช้าไปครึ่งก้าวกับจังหวะที่เสียลูกแรกซึ่งดูแล้วน่าจะชมฟาน เพอร์ซี่มากกว่า นอกนั้นเล่นได้ดีไม่ว่าจะดักตัดบอลยาวและการเข้าสกัด ผ่านบอลได้ค่อนข้างดีด้วย
สเคอเทล -เล่นได้หนักและแม่นยำดี ตำแหน่งค่อนข้างดี ผ่านบอลขึ้นหน้าพาเพื่อนเครียดอยู่นิดหน่อยแต่ไม่มาก ครึ่งหลังประกบกองหน้าได้ดีมาก กองหน้าเก็บบอลเล่นต่อได้น้อย
จอห์นสัน - ทำเกมรุกไม่ถนัดนักได้แค่ช่วยเชื่อมเกม เกมรับโดยรวมทำได้ดีแต่พลาดเล็กน้อยในจังหวะเสียลูกที่สองที่ไม่ได้ตามเอฟร่าไปให้สุด
ลูคัส - หยุดเกมรุกคู่ต่อสู้ได้ดีที่สุดในบรรดาผู้เล่นแดนกลาง แต่เสียฟาลว์ง่ายไปนิด และออกบอลช้าไปหน่อย
อัลเลน - ครึ่งแรกเล่นได้เลวร้ายมาก ยืนสูงกว่าเพื่อนแต่ทำเกมรุกไม่ได้ โดนไล่จนพลาดก็บ่อยครั้ง และเกมรับที่ลงมาช่วย(ไม่ว่าครึ่งแรกครึ่งหลัง)ก็ยืนตำแหน่งได้ไม่ดีและหยุดคู่ต่อสู้ไม่อยู่ เป็นวันที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่
เจอราร์ด - ครึ่งแรกรับภาระหนักมาก ถ้าเจ้าตัวไม่ดันขึ้นมาเล่นเกมรุก ทีมรุกไม่ขึ้นโดยสิ้นเชิง แต่พอจะรุกก็กลายเป็นเปิดพื้นที่ข้างหลัง และในเกมรับก็ตามสปีดบอลของแมนฯยูไม่ค่อยทัน ออกบอลพลาดเยอะทีเดียว แต่ครึ่งหลังพอปรับแทคติคแล้วเจอราร์ดเล่นได้ง่ายขึ้น และออกบอลได้ดีขึ้น ตั้งเกมจากหลัง(แถวๆ ครึ่งสนาม) ไปข้างหน้าได้ดี
ดาวนิ่ง - มีส่วนร่วมกับเกมไม่มากนัก และช่วยอะไรไม่ค่อยได้ เกมรุกแทบไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรเลยและเกมรับในครึ่งแรกก็ช่วยวิสดอมได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ครึ่งหลังเล่นได้ดีขึ้นทั้งรุกและรับแต่ก็ไม่เตะตาอะไรเท่าไหร่
สเตอริ่ง - ...
ซัวเรส - ครึ่งแรกโดนตัดจากเกม บอลที่ได้บ้างก็ต้องเล่นคนเดียวไม่มีคนช่วย ครึ่งหลังถอยลงมาเล่นต่ำลงแล้วช่วยสร้างเกมรุกจังหวะเข้าทำได้วูบวาบดี
ตัวสำรอง
สเตอริดจ์ - ลงมาทำได้ดีในจังหวะที่ทำประตูได้ ตามเข้าไปซ้ำได้เร็ว วิ่งทำทางและมีส่วนร่วมกับเกมรุกเยอะและทำได้ค่อนข้างน่าพอใจ เล่นกับเพื่อนได้ดีด้วยแต่จังหวะยิงหลังจากนั้นอัดตาข่ายข้างไป 2-3 รอบ รวมไปถึงยิงจ่อๆ นกตายมันซะงั้น
บอรินี่ - ลงมาช่วยต่อเกมในแดนหน้าได้ดี เก็บบอลได้และเคาะต่อให้เพื่อนไม่ค่อยเสีย แต่ไม่มีจังหวะวูบวาบอะไรให้เห็นไม่ว่าจะกระชากเอง วิ่งทำทางสวยๆ หรือจ่ายบอลคมๆ
เฮนเดอร์สัน - ลงมาในช่วงที่แมนฯยูเลิกไล่สูงแล้วเลยเล่นง่าย ลงมาช่วยตั้งเกมจากแดนหลังขึ้นไปพอใช้ได้
ยังไงก็เป็นเกมส์กีฬานะคับ ชนะเขาก็เก่งคับ เราแพ้ก็ยอมรับ หน้าเราไม่คม คับ ............. [entreat-raccoon] [entreat-raccoon]
-
[roll] [roll] [roll] [roll] ผมเด็กผีครับ ไงก็สู้ๆนะครับ [roll] [roll]
-
เป็นอีกนัดที่แฟนแมนยูฯใจหายใจคว่ำ แต่ก็ขอชมว่าเป็นแมทช์การแข่งขันที่สนุกและสะอาดมากครับ ถ้าเจ้าหมูรูนหรือพอล สโคลส์ ลง ต้องมีใบแดงบ้างหละ
-
เป็นอีกนัดที่แฟนแมนยูฯใจหายใจคว่ำ แต่ก็ขอชมว่าเป็นแมทช์การแข่งขันที่สนุกและสะอาดมากครับ ถ้าเจ้าหมูรูนหรือพอล สโคลส์ ลง ต้องมีใบแดงบ้างหละ
ดุแล้วเพลินดีคับผม......... เอาใหม่ครั้งหน้า.......ยังไงก็แดงเดือดคับ
-
จุดกำเนิดวันแดงเดือด................. laughhahaha
(http://upic.me/i/a5/o111012a3o4k.jpg) (http://upic.me/show/42760823)
เกมแดงเดือดกำลังจะกลับมาเผดียงแข้งกันอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ ก่อนจะไปร่ายถึงรายละเอียดเกมดังกล่าว เราลองมาย้อนกลับไปว่าถึงประวัติความเป็นมาของความแค้นระหว่าง 2 ทีมนี้กันสักเล็กน้อย
เชื่อว่าหลายคนคงจะไม่เคยทราบมาก่อนว่า ลิเวอร์พูล และแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้เป็นเพียงแค่คู่อริลูกหนังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
หากเรามองย้อนมาที่หน้าประวัติศาสตร์ของประเทศอังกฤษในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรม (คริสต์ศตวรรษที่ 18 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19) จะเห็นได้ว่าทั้งเมืองลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ต่างพยายามชิงดีชิงเด่นกันในฐานะเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจของภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองผู้ดีมาโดยตลอด
ลิเวอร์พูล จัดว่าเป็นเมืองท่าสำคัญอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งสะดวกต่อการติดต่อซื้อขายสินค้ากับต่างประเทศ กล่าวกันว่าในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 นั้น การค้าขายทางเรือกว่า 40% ของทั้งโลกต้องมาเทียบท่าที่เมอร์ซี่ย์ไซด์
ในขณะที่แมนเชสเตอร์ เองก็ถือเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมแห่งแรกและใหญ่ที่สุดของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุตสาหกรรมทอฝ้ายที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรในเวลานั้น จนได้รับการขนามนามว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญอันดับสองของอังกฤษรองจากมหานครลอนดอน
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจที่นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าเป็นต้นตอของความบาดหมางระหว่างเมืองลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ คือการขุดลอก ''คลองเดินเรือแมนเชสเตอร์'' ซึ่งเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการในปี 1894
ในเวลานั้น แมนเชสเตอร์ กำลังเฟื่องฟูสุดขีดในด้านอุตสาหกรรมทอฝ้าย อย่างไรก็ตาม วัตถุดิบสำคัญอย่าง ฝ้ายดิบ นั้นต้องขนส่งผ่านทางเรือเท่านั้น แถมต้องเสียค่าธรรมเนียมมหาศาลให้กับท่าเรือลิเวอร์พูลโดยใช้เหตุอีกต่างหาก
สภาเมืองแมนเชสเตอร์ จึงแก้เกมด้วยการขุดลอก ''คลองเดินเรือแมนเชสเตอร์'' ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือที่ทำให้เรือขนฝ้ายดิบสามารถล่องไปยังท่าเรือที่เมืองแมนเชสเตอร์ ได้โดยตรงและไม่ต้องจอดเทียบท่าเพื่อเสียภาษีปากเรือที่ เมอร์ซี่ย์ไซด์ อีกต่อไป
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ข้าราชการกรมเจ้าท่าชาวลิเวอร์พัดเลี่ยน ซึ่งเดิมทีมีรายได้หลักจากการเก็บค่าธรรมเนียมจากเรือสินค้าเข้าออก ต้องสูญรายได้มหาศาลและตกงานกันไปเป็นแถบๆ เลยทีเดียว
ชาวลุ่มน้ำเมอร์ซี่ย์ไซด์ ซึ่งต่างรู้สึกว่าพวกตนเป็นฝ่ายเสียผลประโยชน์ เนื่องจากไม่สามารถขูดเลือดขูดเนื้อเงินภาษีจากเพื่อนบ้านจากเมืองแมนเชสเตอร์ ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนแต่ก่อน จึงคิดวลีเด็ดซึ่งยังคงมีให้ได้ยินกันอยู่บ้างในเขตเมืองลิเวอร์พูล มาถากถางเพื่อนร่วมแคว้นที่อยู่ห่างกันแค่ 30 ไมล์ กว่าๆ ว่า
''ชนชั้นข้าราชการที่ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายจัดหาฝ้ายดิบมาให้ชนชั้นแรงงานที่แมนเชสเตอร์ได้มีงานทำ''
นอกจากจะห้ำหั่นกันทางเมืองและเศรษฐกิจแล้ว ชาวลิเวอร์พัดเลี่ยน และ ชาวแมนคูเนี่ยน ก็ยังชิงดีชิงเด่นกันจนเกิดกรณีพิพาททางลูกหนังอีกจนได้
เรื่องของเรื่องคือ ในช่วงทศวรรษที่ 60 ลิเวอร์พูล ในยุคของ บิลล์ แชงค์ลี่ย์ และแมนฯยูไนเต็ด ของ แม็ตต์ บัสบี้ กำลังห้ำหั่นกันสูสีบนลีกสูงสุดเมืองผู้ดี โดยผลัดกันเป็นแชมป์กันอยู่แค่สองทีมระหว่างปี 1963-1967
แชงค์ลี่ย์ พาลิเวอร์พูล เข้าป้ายในฐานะแชมป์ลีกเมื่อจบฤดูกาล 1963-64 โดยมีแต้มเหนือ ''ยูไนเต็ด'' ที่เข้าป้ายเป็นอันดับ 2 อยู่ 4 แต้ม แต่ในฤดูกาลถัดมา (1964-65 ) บัสบี้ ก็พา ''ปีศาจแดง'' เข้าวินเป็นแชมป์ลีกได้บ้าง
ในอีกสองฤดูกาลถัดมาก็ยังเหมือนหนังม้วนเดิม เมื่อลิเวอร์พูล ได้แชมป์ลีกไปก่อนในฤดูกาล 1965-1966 ก่อนแมนฯ ยูไนเต็ด จะตามติดมาเข้าป้ายเป็นที่ 1 อีกครั้ง ในฤดูกาล 1966-1967
ดูเหมือนว่าทั้ง ''หงส์'' และ ''ผี'' จะกินกันไม่ลงสำหรับการแข่งขันระดับประเทศ เพราะในเวลานั้นทั้งคู่สะสมแชมป์ลีกสูงสุดเท่ากันพอดีที่ 7 สมัยเสียอย่างนั้น!
ความอาฆาตริษยาในความสำเร็จของทีมคู่อริของแฟนบอลทั้งสองทีมจึงเริ่มอุบัติและทวีความรุนแรงขึ้น!
ทว่าในปี 1968 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ปล่อยหมัดแย็บเข้าเต็มหน้า ลิเวอร์พูล เมื่อพลพรรค ''บัสบี้ เบ็บส์'' นำทัพ โดย บ็อบบี้ ชาร์ลตัน และ จอร์จี้ เบสท์ สามารถทำให้มหาชนชาวแมงค์ เชิดหน้าชูคอบนเวทีใหญ่ที่สุดของทวีปได้ก่อน เมื่อก้าวขึ้นไปเป็นทีมแรกจากอังกฤษที่คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ได้ หลังจากอัดเบนฟิก้า ไป 4-1 ที่เวมบลีย์
อย่างไรก็ตาม หลังจากโดนหมัดแย็บไปเต็มดอก ลิเวอร์พูลก็ปล่อยหมัดรัวใส่ยูไนเต็ด จนแทบลงไปกองกับพื้น!
โดยเฉพาะช่วงทศวรรษที่ 70 และ 80 ยุคทองของชาว ''สเกาเซอร์ส'' ก็มาถึง เมื่อ ''หงส์แดง'' ภายใต้การคุมทัพของยอดกุนซือ ไล่ตั้งแต่ บิลล์ แชงค์ลี่ย์ และ บ็อบ เพสลี่ย์ ไปจนถึง โจ เฟแกน สามารถสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นอภิมหาอำนาจลูกหนังแห่งยุค กวาดแชมป์ลีกดิวิชั่น 1 ได้เรียบวุธ (11 สมัย) บวกแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพอีก 4 ครั้ง ในช่วงเวลาดังกล่าว
การจากไปค้าแข้งในต่างแดนของ เควิน คีแกน ในปี 1977 ไม่ได้ทำให้ แสนยานุภาพของลิเวอร์พูล ลดน้อยถอยลง แต่นั่นเสมือนการเปิดทางให้อีกหนึ่งตำนาน อย่าง เคนนี่ ดัลกลิช ได้เฉิดฉายที่แอนฟิลด์
เพสลี่ย์ ควักเงิน 4.4 แสนปอนด์ ให้เซลติก เพื่อเป็นค่าฉีกสัญญาของ ดัลกลิช และคุณหนุ่มจากกลาสโกว์ ก็ตอบแทนลิเวอร์พูล คุ้มค่าทุกเพนนี ด้วยการทำไปทั้งสิ้น 118 ประตู ตลอดการค้าแข้ง 13 ปีกับ ''หงส์แดง'' และรวมถึงประตูโทนดับคลับ บรูช ทีมแกร่งจากเบลเยียม ในนัดชิงยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1978 ด้วย
สาวกสเกาต์เซอร์ต่างดื่มดำกับความสำเร็จเหนือคู่พิพาทจากเมืองเหนืออยู่ราวสองทศวรรษ จากผลงานแชมป์ลีกสูงสุด (ดิวิชั่น 1 เดิม) 18 สมัย ทำให้ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลสหราชอาณาจักร ณ เวลานั้น
สวนทางกับ ''ปีศาจแดง'' ที่จำนวนถ้วยแชมป์ลีกสูงสุดยังหยุดนิ่งที่ 7 สมัย อีกทั้งหลังจากสิ้นยุค ''บัสบี้ เบ็บส์'' เหล่าชาวแมงค์ก็ได้แต่นั่งมองความสำเร็จของทีมคู่แค้นตาปริบๆ เพราะทีมรักกลับต้องไปดิ้นรนอยู่แถวครึ่งล่างของตารางเสียส่วนใหญ่ และเลวร้ายที่สุดคือ การต้องตกชั้นไปสู่ดิวิชั่นสองเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 1973-1974
สำหรับแฟนลิเวอร์พูล อะไรจะมีความสุขไปกว่าการที่ทีมรักคว้าแชมป์เป็นว่าเล่น ขณะที่ทีมที่พวกเขากำลังชิงดีชิงเด่นกันมานานยังสะกดคำว่า ''แชมป์ลีก'' ไม่เป็นมานานเกิน 2 ทศวรรษ
แต่ใครจะคิดว่าหนังเรื่องนี้ยังไม่จบง่ายๆ!
การเข้ามาคุมบังเหียน ''ปีศาจแดง'' ของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในปี 1986 ทำให้ขั้วอำนาจเปลี่ยนมือมาที่แมนเชสเตอร์ อีกคำรบ
เมื่อลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเปลี่ยนชื่อจากดิวิชั่น 1 เป็นพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 1992-1993 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยุติการร้างราตำแหน่งแชมป์ลีกนาน 26 ปีลงได้สำเร็จ นับตั้งแต่คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ครั้งล่าสุดในฤดูกาล 1966-1967
ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่เข้ามารับงานหัวเรือใหญ่ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พาทีมคว้าแชมป์เป็นว่าเล่น โดยตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 12 ของ ''เฟอร์กี้'' เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้ ''ปีศาจแดง'' เบียดแซงหน้าลิเวอร์พูล ก้าวขึ้นไปสู่บังลังค์ทีมที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุด (19 สมัย)
คราวนี้กลับต้องเป็นฝ่าย ''เดอะ ค็อป'' บ้างที่ต้องนั่งมองความสำเร็จของ แมนฯ ยูไนเต็ด แบบละเหี่ยใจ เพราะทีมตัวเองยังไม่เคยได้ชูถ้วยพรีเมียร์ลีกเลยนับตั้งแต่ปี 1993 หรือแค่ 18 ปีเท่านั้นเอง
ความรู้สึกคงไม่ต่างกันเท่าไหร่สำหรับสาวก ''เร้ด เดวิลส์'' เพราะอะไรจะสำราญใจไปกว่าการเห็นลิเวอร์พูล ทำได้ดีที่สุดเพียงแค่แย่งตั๋วใบสุดท้ายเพื่อไปเล่นบอลยุโรป ขณะที่พวกเขายึดพื้นที่หัวตารางซิวแชมป์ลีกปีแล้วปีเล่า
เรียกว่าใครล้มก็ต้องถูกข้ามจริงๆ สำหรับลิเวอร์พูล และแมนฯ ยูไนเต็ด
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าทั้งสองทีมคือสองสุดยอดสโมสรแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษทั้งในแง่ของความสำเร็จ และชื่อเสียง เนื่องจากทั้งคู่ต่างพากันฟาดแชมป์รายการสำคัญรวมกัน 118 รายการ
อีกทั้งการที่ทั้งสองทีมผลัดกันแย่งชิงความเป็นหนึ่งของแผ่นดินอังกฤษมาตลอดในช่วงครึ่งศตวรรษหลังสุด ยิ่งทำให้เกม ''แดงเดือด'' นั้นเป็นมากกว่านัดแห่งศักดิ์ศรีนัดหนึ่งของแฟนบอลทั้งสองทีม
และไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมลิเวอร์พูล และแมนฯ ยูไนเต็ด ต่างเป็นทีมที่มีแฟนบอลติดตามเชียร์มากที่สุดในโลก!
(http://upic.me/i/lu/o111012d9m6r.jpg) (http://upic.me/show/42760827)
[/quote]
-
ผมแฟนแมนยูครับ ขอวิจารณืทีมตัวเองก่อน ในครึ่งแรกแมนยูทำเกมส์ได้ดีกว่า ครองบอลได้ดีกว่า มีโอกาสลุ้นประตูอยู่หลายลูก ครึ่งหลัง หลังจากที่แมนยูนำเป็นสองศูนย์แล้ว เกมส์น่าจะเล่นได้ง่ายขึ้น แต่ไปพลาดจากการเสียบอลในแดนตัวเอง ซึ่งก่อนหน้านี้หลายจังหวะ แมนยูเล่นแบบโชว์มากเกินไป แทนที่จะเอาบอลเล่นกับพื้นให้ง่าย ก็ส่งกันให้ยากและเสียบอลอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งผมเห็นในหลายๆเกมส์มักจะเป็นแบบนี้ เกมส์แมนยูจะอาศัยการเปิดบอลจากทางปีกหรือการจ่ายจากกกลางสนามเป็นหลัก มิดฟิวส์แมนยูไม่มีแบบไสตล์ลากเลื้อย อาศัยปีกพาบอลแล้วครอสมาตำแหน่งนัดพบ มิดฟิวส์ของแมนยูเองโดยส่วนใหญ่จะชอบผ่านบอลให้พ้นตัวไปให้ปีกหรือกองหน้า ไม่มีการทำเกมส์แบบที่ได้เปรียบเท่าไหร่ ทั้งทอมและคาริคเอง ผมยังชอบการทำเกมส์ของชินจิมากกว่า ถ้าเอาชินจิมายืนในตำแหน่งของทอมน่าจะรุ่งกว่า ส่วนกองหลังแมนยูก็ยังเหมือนเดิม ขาดความแน่นอน เด็ดขาด ชอบเล่นยากเกินความจะเป็นในบางจังหวะ แต่โดยร่วมเมื่อคืนก็ยังถือว่าดีกว่าบางนัด ประตูผมว่า เดเคอา เซฟได้ดี แต่มักจะปัดเข้าทางปืนให้เข้าซ้ำเสมอ
ส่วนลิเวอพูล ทำเกมส์ในครึ่งหลังได้ดี ได้ลุ้นหลายลูก ในครึ่งแรกเล่นแบบเกร็งๆ ผม่วาถ้าได้เชวี่เล่นน่าจะดีกว่านี้ ลิเวอร์พูลยังอาศัย เจอราดและซัวเรส มากเกินไป หรืออาจจะเกรงใจมากเกินไป จริงแล้วผมว่ารอดเจอร์น่าจะเสี่ยงลองดรอปเจอราดลงบ้าง เพราะการผ่านบอลและทำเกมส์ไม่ดีเท่าเมื่อก่อน [gr_in]
-
5555++ ยังดีปลอบจัยมา 1 ลูกคร๊าบบบ..... [gr_in]
(http://upic.me/i/4j/danielsturridgegoalforliverpool-youtube-new.gif) (http://upic.me/show/42576204)
-
10อันดับ นักเตะใหม่ของหงส์แดง ที่ประเดิมสนาม ยิงประตูเร็วสุด
อันดับ 10 หลุยส์ ซัวเรส (16 นาที) กุมภาพันธ์ 2011
(http://upic.me/i/3n/421025_462426017152503_2015227890_n.png) (http://upic.me/show/42769418)
อันดับ 9 อาเบล ซาเวียร์ (16นาที) กุมภาพันธ์ 2002
(http://upic.me/i/gi/309587_462426030485835_1003885349_n.png) (http://upic.me/show/42769427)
อันดับ 8 ไมเคิล โอเว่น (16 นาที) พฤษภาคม 1997
(http://upic.me/i/ip/207622_462426023819169_824135909_n.png) (http://upic.me/show/42769432)
อันดับ 7 เควิน คีแกน (12นาที) สิงหาคม 1971
(http://upic.me/t/h5/427514_462426043819167_793791166_n.png) (http://upic.me/show/42769519)
อันดับ 6 อลัน อีแวนซ์ (10นาที) กันยายน 1968
(http://upic.me/i/8r/270394_462426050485833_1313321886_n.png) (http://upic.me/show/42769536)
อันดับ 5 โทนี่ แมคนามาร่า (9 นาที) ธันวาคม 1957
(http://upic.me/i/y6/544027_462426057152499_1887928008_n.png) (http://upic.me/show/42769565)
อันดับ 4 วิลเลี่ยม วัคกินสัน (9นาที) เมษายน 1947
(http://upic.me/i/j9/524601_462426063819165_1576360043_n.png) (http://upic.me/show/42769580)
อันดับ 3 ไคลลิล โดนส์ ( 9 นาที) ตุลาคม 1946
(http://upic.me/i/pa/405987_462426070485831_603843759_n.png) (http://upic.me/show/42769604)
อันดับ 2 ดาเนียล สเตอริส ( 7 นาที) มกราคม 2013
(http://upic.me/i/h4/226688_462426090485829_2137940532_n.png) (http://upic.me/show/42769778)
อันดับ 1 มาร์ค กอนซาเลส (3 นาที) จำไม่ได้ว่า เดือนไหน ปี 2007 อ่ะครับ
(http://upic.me/i/r2/530776_462426117152493_284435918_n.png) (http://upic.me/show/42769625)
(http://upic.me/i/u6/the-one-and-only-bill-shankly-734943232.jpg) (http://upic.me/show/42761124)
(http://upic.me/i/4j/danielsturridgegoalforliverpool-youtube-new.gif) (http://upic.me/show/42576204)
-
[roll] [roll] แฟนผีแอบมามอง อิอิ
-
[roll] [roll] แฟนผีแอบมามอง อิอิ
ไรเนี้ย หงส์โดนล้อมแล้วคร๊าบบบ ท่านใดหงส์ช่วยด้วยคร๊าบบบบบ............ [pig90126]
-
พี่เล็ก Create ก็แฟนหงส์ น๊าา.... แต่เป็นสมัยที่ ดักลิช ยังวิ่งหัวตั้งอยุ่ในสนามนู้นน [laugh-raccoon] [laugh-raccoon] [laugh-raccoon]
-
พี่เล็ก Create ก็แฟนหงส์ น๊าา.... แต่เป็นสมัยที่ ดักลิช ยังวิ่งหัวตั้งอยุ่ในสนามนู้นน [laugh-raccoon] [laugh-raccoon] [laugh-raccoon]
จิงง้อคับเฮมีหงส์อีก นึง .......... [roll]
ตามสโลแกนเลยคับ ........ you'll never walk alone คุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย
(http://upic.me/i/l6/image-f66c_4e9e17ff.jpg) (http://upic.me/show/42772419)
-
คงรู้นะว่าผมเป็นแฟนทีมไหน
[roll]
-
คงรู้นะว่าผมเป็นแฟนทีมไหน
[roll]
โอ้โห้.........น้าก็เด็กผี.............. [pig90136]
-
หงส์ ยุค 70-80 จาก เรย์ คลีเม้นท์ มาสู่ ก็อบเบล่า หลังจากนั้นไม่เคยดู หรือ ติดตามอีกเลย
-
หงส์ ยุค 70-80 จาก เรย์ คลีเม้นท์ มาสู่ ก็อบเบล่า หลังจากนั้นไม่เคยดู หรือ ติดตามอีกเลย
อย่างน้องก็ยังเคยมีหงส์.....อยู่ในจัยคับผม........ [roll]
-
คงรู้นะว่าผมเป็นแฟนทีมไหน
[roll]
โอ้โห้.........น้าก็เด็กผี.............. [pig90136]
Oh!!!! No..
-
คงรู้นะว่าผมเป็นแฟนทีมไหน
[roll]
โอ้โห้.........น้าก็เด็กผี.............. [pig90136]
Oh!!!! No..
ตายแล้วขนาดตู้ลำโพงยังเป็นรุ่น ลิเวอร์พูล เลยครับ
[heyheybaby_watch] [heyheybaby_watch] [heyheybaby_watch]
-
คงรู้นะว่าผมเป็นแฟนทีมไหน
[roll]
โอ้โห้.........น้าก็เด็กผี.............. [pig90136]
Oh!!!! No..
ตายแล้วขนาดตู้ลำโพงยังเป็นรุ่น ลิเวอร์พูล เลยครับ
[heyheybaby_watch] [heyheybaby_watch] [heyheybaby_watch]
ใช่แล้ว
แอมป์ก็เป็นรุ่น Liverpool
ลำโพงก็เป็นรุ่น Liverpool
อย่างนี้มาให้ผมเป็นเด็กผีได้ไง
สมัยเมื่อดัลกริชอยู่กับทีมหงส์แดง ถึงผมจะเป็นแฟนหงส์
บางครั้งผมยังอยากเห็นหงส์แพ้บ้าง เพราะชนะรวดแล้วมันกร่อย
แต่ปัจจุบัน ผมอยากเห็นหงส์แดงชนะมากกว่า
เพราะเด็กผีในห้องมันแซวผมไม่ยอมเลิกลา
ไม่ว่าผี ไม่ว่าหงส์ หากเจอกับทีมอื่นนอกลีกอังกฤษ
ผมเชียร์ทั้งสองทีมครับ
-
สมัยที่ดู หงส์เล่นกันอย่างเทพเลย พวกผียังไม่เห็นฝุ่นเลย ยิ่งมาขุด 3 ประสาน เอียนรัช จอนบานส์ เบลียด์รี่ หาทีมที่จะหยุด 3 คนนี้ได้ยากมากเลยครับ
หงส์ยุคนี้ขาดตัวที่เข้าจุดยิงประตูแบบเอียนรัช ขอให้ลูกบอลถึงเอียนรัชต้องเป็นประตูทันที ตัวเข้าจุดทำประตูหงส์ไม่เคยขาดเลย จะมีตัวแทนตลอด พอไม่มี
ก็เป็นอย่างที่เห็นน่ะครับ เดี๊วนี้ดูหงส์แล้วหงุดหงีดครับ สมัยก่อนต่อบอลสั้นๆ ไปตามพื้นดิน ครองบอลไปเรือยๆ เดี๋ยวก็ได้ประตู มันดูง่ายๆจัง แต่ยุ๕นี้วิ่งกันตับแลบหาประตูไม่เจอ เหนือยแทนจริงๆ [in-love-raccoon] [roll-eyes] [in-love-raccoon] [roll-eyes]
-
ผ่านมาดูมาเชียร์เฉยๆไม่รู้เรื่องกับเขาหร [thif]อก
-
คงรู้นะว่าผมเป็นแฟนทีมไหน
[roll]
โอ้โห้.........น้าก็เด็กผี.............. [pig90136]
Oh!!!! No..
เฮน้าอัลมาช่วยผมแว๊ว.................. [thanks-raccoon]
-
สมัยที่ดู หงส์เล่นกันอย่างเทพเลย พวกผียังไม่เห็นฝุ่นเลย ยิ่งมาขุด 3 ประสาน เอียนรัช จอนบานส์ เบลียด์รี่ หาทีมที่จะหยุด 3 คนนี้ได้ยากมากเลยครับ
หงส์ยุคนี้ขาดตัวที่เข้าจุดยิงประตูแบบเอียนรัช ขอให้ลูกบอลถึงเอียนรัชต้องเป็นประตูทันที ตัวเข้าจุดทำประตูหงส์ไม่เคยขาดเลย จะมีตัวแทนตลอด พอไม่มี
ก็เป็นอย่างที่เห็นน่ะครับ เดี๊วนี้ดูหงส์แล้วหงุดหงีดครับ สมัยก่อนต่อบอลสั้นๆ ไปตามพื้นดิน ครองบอลไปเรือยๆ เดี๋ยวก็ได้ประตู มันดูง่ายๆจัง แต่ยุ๕นี้วิ่งกันตับแลบหาประตูไม่เจอ เหนือยแทนจริงๆ [in-love-raccoon] [roll-eyes] [in-love-raccoon] [roll-eyes]
ใช่แล้วท่านพี่
การครอบครองบอลแดนกลาง ก็ยังไม่เข้าตา
ยิ่งการต่อบอลสั้น ๆ ก็ทำไม่ได้ ยิ่งผู้เล่นริมเส้นแบบจอห์น บานส์ ดูว่าหงส์หาได้ยากเย็นเต็มทน
สุดท้ายก็จุดพลุแล้ววิ่งไล่ ดูแล้วเหนื่อยแทน
แต่ถ้าวันไหน หงส์อัดผีได้
วันนั้น ดื่มเบียร์อร่อยครับ
laughhahaha laughhahaha
-
สมัยที่ดู หงส์เล่นกันอย่างเทพเลย พวกผียังไม่เห็นฝุ่นเลย ยิ่งมาขุด 3 ประสาน เอียนรัช จอนบานส์ เบลียด์รี่ หาทีมที่จะหยุด 3 คนนี้ได้ยากมากเลยครับ
หงส์ยุคนี้ขาดตัวที่เข้าจุดยิงประตูแบบเอียนรัช ขอให้ลูกบอลถึงเอียนรัชต้องเป็นประตูทันที ตัวเข้าจุดทำประตูหงส์ไม่เคยขาดเลย จะมีตัวแทนตลอด พอไม่มี
ก็เป็นอย่างที่เห็นน่ะครับ เดี๊วนี้ดูหงส์แล้วหงุดหงีดครับ สมัยก่อนต่อบอลสั้นๆ ไปตามพื้นดิน ครองบอลไปเรือยๆ เดี๋ยวก็ได้ประตู มันดูง่ายๆจัง แต่ยุ๕นี้วิ่งกันตับแลบหาประตูไม่เจอ เหนือยแทนจริงๆ [in-love-raccoon] [roll-eyes] [in-love-raccoon] [roll-eyes]
ใช่แล้วท่านพี่
การครอบครองบอลแดนกลาง ก็ยังไม่เข้าตา
ยิ่งการต่อบอลสั้น ๆ ก็ทำไม่ได้ ยิ่งผู้เล่นริมเส้นแบบจอห์น บานส์ ดูว่าหงส์หาได้ยากเย็นเต็มทน
สุดท้ายก็จุดพลุแล้ววิ่งไล่ ดูแล้วเหนื่อยแทน
แต่ถ้าวันไหน หงส์อัดผีได้
วันนั้น ดื่มเบียร์อร่อยครับ
laughhahaha laughhahaha
สมัยนี้เจอกับผีเหนือยครับ ต้องเล่นกับผี 12 -14 ตัว กรรมการเป่าไม่ทันเกมส์เลยครับ ยิ่งกรรมการหัวล้านด้วยแล้วน่าเขกกระโหลกจริงๆ [laugh-raccoon] [pig80901]
-
ท่านประธานครับ ขอให้สมาชิกถอนคำว่าผีซื้อกรรมการครับ เราคุยกันแบบสนุกๆ นะครับ
-
ท่านประธานครับ ขอให้สมาชิกถอนคำว่าผีซื้อกรรมการครับ เราคุยกันแบบสนุกๆ นะครับ
น้าคับ ไงเปลี่ยนไหม เป็น กรรมการ ณ แมนยูแล้วกานนะคับ..... [roll]
เหมือนกรรมการเมืองไทย ชื่อ ชัยยะ ณ เมืองทอง ............ [laugh-raccoon]
ลองถามอากู๋ พิมเลย.......... ชัยยะ ณ เมืองทอง
นุกๆๆ นะคับน้า....... laughhahaha [roll]
-
ผมมาดูฟุตบอลอังกฤษแบบจริงๆ จังๆ ตอนปี 96 ตอนแมนยูถ่ายเลือดพอดี ตอนนั้นมีคนวิจารณ์ว่าแมนยูจะไม่ประสบความสำเร็จ มีแต่นักเตะอายุน้อย แต่ทุกวันนี้ก็เห็นๆ กันอยู่ว่านโยบายของท่านเซอร์มาถูกทางแล้ว
ส่วนลิเวอร์พูลได้ดูแบบฉาบฉวย ทันได้ดูจอห์นบานลากเลื้อยพอดี ชอบบุคลิกของเอียน รัช และได้ทันดูเคนนี่ ดัชกลิช เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาอะไรสักอย่างนี่แหละ
ตอนอูดิเย่ทำทีมลิเวอร์พูล ผมว่าเกมรุกน่ากลัวมากๆ แมนยูแพ้มากกว่าชนะ ชอบดูเจอร์ราดตอนวัยรุ่นที่เล่นบอลได้ทั้งรุกและรับ ปีกกระดูกยุงอย่างสตีฟ แมกมานามาน ลากเลื้อยทางฝั่งซ้าย กองหน้าโอเว่นกับฟลาวเลอร์ก็สุดอันตรายทั้งคู่ กองหลังซามี่ ฮูเปีย ปราการน้ำแข็งจากไอซ์แลนด์ก็เหนียวแน่น
ผมไม่ชอบให้โค้ชสเปนมาทำทีมอังกฤษ เพราะดูลิเวอร์พูลเปลี่ยนไป เล่นเกมรุกไม่สนุกเหมือนเดิม เน้นผลการแข่งขันมากกว่าจะเอ็นเตอร์แทนคนดู
ชอบดูรูปแบบการเล่นเกมรุกของแมนยู ถ้าวันไหนแมนยูเล่นเกมรับจะดูไม่ค่อยสนุก
-
ช่ายแล้วคับ แมนยูตอนนนี้ทีมกำลังลงตัวดีคับหน้าคม ตัวเก่าแทนตัวใหม่ได้เยี่ยมคับ แต่หันมาหาหงส์คับ ตอนนี้ผมว่าโคชกำลังเรียกใช้นักเตะไม่ค่อยถูกตำแหน่งนะคับ
อย่างที่เตะกับแมนยู ผมมองกลางแล้วไม่ค่อยดีนะคับ จิงน่าจะจับเชวี่ ลงมานะคับเขาเป้น พายเนอร์ กับ Danniel Sturridge เพราะว่านัดที่ที่
แล้วFA cup กว่าชนะเขา 2-1 [tremor-raccoon] เหนื่อยคับ
คู่นี้เลยคับจับตาดูกันยาวๆ คับ
(http://upic.me/i/4j/danielsturridgegoalforliverpool-youtube-new.gif) (http://upic.me/show/42576204)
ถ้าตอนนี้ยังมีเจ้าชาย Xabi Alonso อยู่ บอกได้คำเดียวคับ................ [in-love-raccoon]
(http://upic.me/i/ql/xabi-alonso-460-737949033.jpg) (http://upic.me/show/42831152)
แต่ ณ ตอนนี้ ก็ต้องติดตามกันแบบนัด ต่อนัดนะคับ นัดนีชนะ นัดต่อไปเสมอ ไม่เป็นไรคับ ณ ตอนนี้เหมือนเป็นเอกลักของเด็กหงส์ไปแล้วคร๊าบบบ
มีรายงานมาจากฮอลแลนด์ว่า สโมสรลิเวอร์พูล กำลังมีการติดต่อเจรจากับสโมสร Ajax ในดีลย้ายสลับข้างระหว่าง อุซซามา อัสไซดี้ ย้ายกลับไปฮอลแลนด์ และ Siem De Jong มิดฟิลด์ตัวรุก กัปตันทีม Ajax จะย้ายมาแอนฟิลด์แทน
Siem De Jong กองกลางวัย 23 ปี มีค่าตัวในราว 9 ล้านปอนด์ และเบรนแดน ร็อดเจอร์ส หวังใช้อัสไซดี้ ซึ่งปรับตัวเข้ากับระบบไม่ได้ บวกเงินอีกจำนวนหนึ่ง แลกกับ Siem De Jong
(http://upic.me/i/au/195633hp2.jpg) (http://upic.me/show/42827852)
(http://upic.me/i/bt/1e5b391150f1d73149a854f9604b5a63a298f569693320a97117374019a8663b6g.jpg) (http://upic.me/show/42828049)
-
เอาน่าครับผมก็มาทันยุคเบ็คแฮมครับ
ดูมายุคนั้น
แต่ใจเชียร์ Chelsea ครับ ชอบ Zola กับ T.A.Flo ครับ
ความสูงต่างกันมาก แต่โมเมนในเกมส์ดีมากครับคู่นี้
[roll] [roll] [roll]
-
เอาน่าครับผมก็มาทันยุคเบ็คแฮมครับ
ดูมายุคนั้น
แต่ใจเชียร์ Chelsea ครับ ชอบ Zola กับ T.A.Flo ครับ
ความสูงต่างกันมาก แต่โมเมนในเกมส์ดีมากครับคู่นี้
[roll] [roll] [roll]
ชอบ เดนิส ไวท์ อีกคนครับ แกเป็นกัปตันที่มีบุคลิกเป็นผู้นำมากครับ
-
ผมมาดูฟุตบอลอังกฤษแบบจริงๆ จังๆ ตอนปี 96 ตอนแมนยูถ่ายเลือดพอดี ตอนนั้นมีคนวิจารณ์ว่าแมนยูจะไม่ประสบความสำเร็จ มีแต่นักเตะอายุน้อย แต่ทุกวันนี้ก็เห็นๆ กันอยู่ว่านโยบายของท่านเซอร์มาถูกทางแล้ว
ส่วนลิเวอร์พูลได้ดูแบบฉาบฉวย ทันได้ดูจอห์นบานลากเลื้อยพอดี ชอบบุคลิกของเอียน รัช และได้ทันดูเคนนี่ ดัชกลิช เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาอะไรสักอย่างนี่แหละ
ตอนอูดิเย่ทำทีมลิเวอร์พูล ผมว่าเกมรุกน่ากลัวมากๆ แมนยูแพ้มากกว่าชนะ ชอบดูเจอร์ราดตอนวัยรุ่นที่เล่นบอลได้ทั้งรุกและรับ ปีกกระดูกยุงอย่างสตีฟ แมกมานามาน ลากเลื้อยทางฝั่งซ้าย กองหน้าโอเว่นกับฟลาวเลอร์ก็สุดอันตรายทั้งคู่ กองหลังซามี่ ฮูเปีย ปราการน้ำแข็งจากไอซ์แลนด์ก็เหนียวแน่น
ผมไม่ชอบให้โค้ชสเปนมาทำทีมอังกฤษ เพราะดูลิเวอร์พูลเปลี่ยนไป เล่นเกมรุกไม่สนุกเหมือนเดิม เน้นผลการแข่งขันมากกว่าจะเอ็นเตอร์แทนคนดู
ชอบดูรูปแบบการเล่นเกมรุกของแมนยู ถ้าวันไหนแมนยูเล่นเกมรับจะดูไม่ค่อยสนุก
ซามี ฮูเปีย ปราการหลังทีมชาติ ฟินแลนต์ครับ
-
ขอบคุณครับคุณเล็ก ขออภัยข้อมูลผิดพลาดครับ
-
ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ คนเรามันก็ผิดพลาดกันได้ ผมก็บ่อยครับ [yes-raccoon]
-
ผมเชียร์อยู่สองทีอ่ะคร๊าบ ถ้าเซียรีอาร์ก็ ม้าลาย ถ้าพรีเมี่ยก็ สิงห์สำอางค์
-
ผมเชียร์อยู่สองทีอ่ะคร๊าบ ถ้าเซียรีอาร์ก็ ม้าลาย ถ้าพรีเมี่ยก็ สิงห์สำอางค์
สิงห์สำอางค์เป็นไงเหรอ รู้จักแต่ ยายสำอางค์ [laugh-raccoon]
-
ผมเชียร์อยู่สองทีอ่ะคร๊าบ ถ้าเซียรีอาร์ก็ ม้าลาย ถ้าพรีเมี่ยก็ สิงห์สำอางค์
สิงห์สำอางค์เป็นไงเหรอ รู้จักแต่ ยายสำอางค์ [laugh-raccoon]
ลืมเลยครับ เดี๋ยวนี้เค้าเรียก สิง์หไฮโซ แล้ว ตั้งแต่ได้เจ้าของสโมสรเป็นมหาเศรษฐี แต่สิ่งที่เหมือนกันในช่วงที่ผมเริ่มดูก็คือ เป็นทีมรวมสหประชาชาติจริงๆ บางเกมส์ไม่มีนักเตะอังกฤษแม้แต่คนเดียวลงสนาม ผมล่ะชอบเลย จำได้ว่าเริ่มดูทีมนี้ตอนปี 94 สมัยนั้น ทีมนี้หน่อมแน๊ม วิ่งไปล้มไป เลยเรียกกันสิงห์สำอางค์ laughhahaha
สงสัยไม่ค่อยมีคนดูบอลอิตาลีแหยมๆ [unde_cided]
ปอลิง สิงห์จะแตะกับนักบุญแล้ว ตอน 2.45 จะดูดีมั้ยน๊อ ดูทีไรมันแพ้ทุกทีเลย laughhahaha [laugh-raccoon]
-
The Kop 10: ทำเนียบดาวยิงยอดแฮทริคหงส์แดง
Luis Suarez เตรียมตัวออกไปทำแฮทริคสามเกมติด Norwich ในวันเสาร์นี้
เราจะย้อนกลับไปดูกันว่าในประวัติศาสตร์ของหงส์แดงนั้นมีใครทำแฮทริคได้บ่อยๆมั้ง
(http://upic.me/i/mu/dalglish01.jpg) (http://upic.me/show/42850451)
No.10: Kenny Dalglish, John Aldridge, Yossi Benayoun และ John Toshack (3ครั้ง)
โดยก่อนหน้านี้ยังมี Tony Hateley, Fred Howe, John Miller, Bobby Robinson, Albert Stubbins, John Toshack และ John Wark ที่เคยทำแฮทริค3ครั้งให้ลิเวอร์พูล
(http://upic.me/i/3t/torres01.jpg) (http://upic.me/show/42850469)
No.9: Fernando Torres และ George Allan (4ครั้ง) (พี่ต็อดผมทำตั้ง4ครั้งแหนะ เก่งจังเลย Embarassed )
ตอร์เรสตะบัน3เม็ดเป็นของขวัญแก่ Reading, Middlesbrough, West Ham และ Hull
(http://upic.me/i/ot/gerrard01_50f532458b605520568648.jpg) (http://upic.me/show/42850480)
No.8: Steven Gerrard, Billy Liddell, Joe Hewitt และ Harry Chambers (5 ครั้ง)
Gerrard เพิ่งซัดแฮทริคล่าสุดใส่ Everton และ Napoli ในขณะที่ Billy Liddell ทำ5 แฮทริคในระหว่างปี 1951-1958
(http://upic.me/i/h9/samraybould_50f5b7ca07575177559725.jpg) (http://upic.me/show/42850495)
No.7: Sam Raybould (6 ครั้ง)
Raybould เป็นนักเตะลิเวอร์พูลคนแรกที่ทำได้ถึง 30 ประตูในหนึ่งฤดูกาล ในปี1902-03
(http://upic.me/i/ym/parkinson.jpg) (http://upic.me/show/42850533)
No.6: Jack Parkinson (7 ครั้ง)
สุดยอดกองหน้ารายนี้ ยังเป็นนักวิ่งชั้นยอดอีกด้วย โดยมีรางวัลจากการแข่งขันวิ่งถึง 20 รางวัล ทำ7แฮทริคในระหว่างปี 1905 - 1913
(http://upic.me/i/oy/dickforshaw.jpg) (http://upic.me/show/42850550)
No.5: Dick Forshaw (8 ครั้ง)
หนังสือพิมพ์ได้รายงานว่า Forshaw (กลาง) เป็น 'หนุ่มน้อยอัจฉริยะรายนี้ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรเมื่ออยู่ในสนาม' 8 แฮทริคสำหรับลิเวอร์พูลของเขาเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมจากทั้งหมด 124 ประตู
(http://upic.me/i/dw/fowlerowen.jpg) (http://upic.me/show/42850565)
No.4: Michael Owen และ Robbie Fowler (10 ครั้ง)
2 ครั้งของ Owen คือการซัดใส่ Newcastle ในขณะที่ Fowler สร้างสถิติแฮทริคเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีคในนัดที่เจอกับอาร์เซน่อลด้วยเวลาแค่ 4 นาที 33 วินาที
(http://upic.me/i/zv/hunt01.jpg) (http://upic.me/show/42850577)
No.3: Roger Hunt (12 ครั้ง)
ไม่มีใครล่าตาข่ายให้ลิเวอร์พูลได้มากเท่า Hunt อีกแล้ว และมีเพียง 2 คนเท่านั้นที่แฮทริคได้มากกว่าเขา "Sir Roger'' ทำไปถึงห้าครั้งในหกเดือนระหว่างเดือนสิงหาคม 1961 ถึงกุมภาพันธ์ 1962
(http://upic.me/i/ec/rush01.jpg) (http://upic.me/show/42850586)
No.2: Ian Rush (16 ครั้ง)
ชอบนักเรื่องทำประตูเอฟเวอตัน เพชฌฆาตของเราทำได้ถึง 2 แฮทริคเอฟเวอตัน
(http://upic.me/i/2n/hodgson01.jpg) (http://upic.me/show/42850599)
No.1: Gordon Hodgson (17 ครั้ง)
Hodgson เป็นนักเตะลิเวอร์พูลที่ทำประตูสูงสุดเป็นอันดับ3ของสโมสร แต่เขาซัดแฮทริคมากกว่าเพื่อนเลย โดยทำไปทั้งหมด 17 ครั้งใน9 ปีระหว่าง 1926 ถึง 1935
(http://upic.me/i/u6/the-one-and-only-bill-shankly-734943232.jpg) (http://upic.me/show/42761124)
-
ตกรอบอีกแล้วครับท่าน ดูการจัดตัวก็น่าแพ้แล้ว เหมือนไม่อยากได้ถ้วย FA เลยครับ [roll-eyes] [roll-eyes] [roll-eyes]
-
ตกรอบอีกแล้วครับท่าน ดูการจัดตัวก็น่าแพ้แล้ว เหมือนไม่อยากได้ถ้วย FA เลยครับ [roll-eyes] [roll-eyes] [roll-eyes]
ถูกต้มแล้วคร๊าบบบบ.......... laughhahaha
เมื่อคืนง่วงแล้วง่วงอีก ตั้งตาดู โดนเร็วทั้ง ครึ่งแรกและหลัง บอกเลยคับ
ตัวผู้เล่น
ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1
----------------------สเตอริดจ์----------------------
บอรินี่-----------------ซัวเรส----------------สเตอริ่ง
----------เฮนเดอร์สัน----------อัลเลน--------------
โรบินสัน-----โคอาเตส------สเคอเทล-------วิสดอม
-----------------------โจนส์-------------------------
ดูเถอะคับ หน้า ต่างคนต่างจะโชว์คับ
หลัง โคอาเตส ถือว่าบ่อน้ำมันนะคับ ช้า
กลางครึ่งหลังเปลี่ยนน้าเจิด มา กับ ดาวนิ่ง เกมก็กลับมาดีขึ้น ((( ทำไมไมลงตั้งแต่แรก คงคิดว่าเขาอ่อน )))
อัลเลน มายิ่งตาม 3-2 ท้ายเกมไล่อย่างไรก็ยากคับ
น้าเจิดตะบัน นอกกรอบบอลพรุ่งสวยคับ แต่ได้ นายคานมาช่วยเซฟ...... แต่อย่างว่าบอลถ้าโดนคานโดนเสา บอกได้เลยคับ (( รอดยาก ))
ต้องยอมรับนะคับ โอลด์แดม ทำการบ้านมาดีคับ เขามาร์ตัวทั้งแต่บอลอยู่ฟรั่งหงส์เลยคับ
หน้าบอกได้เลยขยับยากคับ บอลยังไม่ถึงตัวเด็กหงส์เลย เขามารอเสียบอยู่ด้านหลังแล้ว
เอาคับ ถึงแพ้ หรือ ชนะ เราก็เชียร์ หงส์เหมือนเดิมคับ
(http://upicy.com/image-BE8C_5105F503.jpg) (http://upicy.com/share-BE8C_5105F503.html)
-
นัดนี้ถ้าจัดตัวเหมือนนัดที่เจอกับนอริช ถึงจะโดนก่อนก็ไม่แพ้แบบนี้ครับ นัดนั้นเล่นลูกทางพื้นดินได้ดี ส่วน นัดนี้กับเล่นโยนเข้าไป เสียของหลายลูก
ไม่รู้ว่าทำไม่คิดแผนการเล่นแบบนี้ครับ เห็นตัวผู้เล่นแล้วชนะยาก และการแก้เกมส์ก็ช้าไป นัดหน้าเจอของหนักจะรอดไหมครับ [shock1]