มันเริ่มจากห้องควบคุมอุปกรณ์สำหรับห้องซ้อมดนตรีที่มีขนาดเพียง ขนาด 1.5 เมตร x 3 เมตร เพราะคิดว่าคงไม่ต้องใช้พื้นที่อะไรมากมาย ใช้แค่วาง mixer , power amp , computer , audio interface แล้วก็ลำโพงมอเตอร์สำหรับมิกซ์เพลงคู่หนึ่งเท่านั้น
แต่พอทำงานเข้าจริงๆ โดยเฉพาะเวลามีงานที่จะต้องบันทึกเสียง มันต้องการใช้พื้นที่ที่มากขึ้นกว่านั้น เพราะมีคนอื่นๆที่ต้องมานั่งฟังงาน เข้ามาช่วยกันคิด
เข้ามาช่วยกันแก้ไขงาน ห้องเล็กๆมันเลยทำอะไรๆได้ไม่ค่อยถนัดนัก และบรรยากาศในการทำงานมันก็รู้สึกอึดอัดจนเกินไป
ห้องเล็กๆห้องเดิมก็เลยถูกขยับขยายออกมาอีกหน่อย เป็นขนาด 4 เมตร x 4 เมตร เพื่อการทำงานบันทึกเสียงได้สะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้เปิดฝาผนังทึบๆให้กลายเป็นช่องกระจกบานใหญ่ เพื่อให้มองเห็นบรรยากาศภายในสวนของบ้านได้ด้วย เพื่อให้การทำงานรู้สึกผ่อนคลาย และในขณะเดียวกันก็ยังถูกใช้เป็นห้องฟังเพลงไปด้วยในตัว
แต่เพราะว่าพื้นที่ที่ต้องใช้ทำงาน และต้องใช้เป็นที่ฟังเพลงไปด้วย มันเลยเป็นข้อจำกัดบางอย่างสำหรับทฤษฎีบางข้อที่จะนำมาใช้กับการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ แต่ก็พยายามอย่างที่สุด เพื่อที่จะให้มันใกล้เคียงจุดที่ดีที่สุดเท่าที่มันจะเป็นไปได้