www.diyaudiovillage.net

INTRODUCTIONS เสวนาภาษาพี่น้อง => เสวนาภาษาพี่น้อง => ข้อความที่เริ่มโดย: CreÃte_Lek ♫ ที่ 24 พฤศจิกายน 2012, 10:10:23 AM

หัวข้อ: พุทธธรรมนำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: CreÃte_Lek ♫ ที่ 24 พฤศจิกายน 2012, 10:10:23 AM
  
       ความมีน้ำใจ
     
     
    การอยู่ร่วมกันในสังคม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีน้ำใจไมตรีที่ดีต่อกัน จึงจะอยู่กันได้อย่างสันติสุขความมีน้ำใจเป็นเรื่องที่ทุกคนทำได้ โดยไม่ต้องใช้เงินทองมากมายเพียงแต่แสดงความเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ โดยการช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นการแสดงน้ำใจได้ เช่นการพาเด็กหรือผู้สูงอายุข้ามถนน หรือการสละที่นั่งบนรถโดยสารให้หญิงมีครรภ์ เป็นต้น ก็นับว่าเป็นการแสดงน้ำใจการแสดงความมีน้ำใจจึงไม่ใช่วัดกันด้วยเงิน บางคนมีเงินมากอาจแล้งน้ำใจก็ได้ บางคนเป็นเศรษฐีแต่ตระหนี่ถี่เหนี่ยว ไม่ยอมสละเงินโดยไม่รับผลประโยชน์ตอบแทน
     
    ความมีน้ำใจนั้น ตรงกันข้ามกับความเห็นแก่ตัวมักจะคิดแต่ประโยชน์ส่วนตัวมาก่อน และความมีน้ำใจตรงกันข้ามกับความอิจฉาริษยา คนที่อิจฉาริษยาคนอื่นย่อมปรารถนาที่จะเห็นความวิบัติของผู้ที่ได้ดีกว่า แต่คนมีน้ำใจนั้นเมื่อเห็นคนอื่นดีกว่า จะมีมุทิตาจิต แสดงความยินดีด้วยอย่างจริงใจผู้มีน้ำใจนั้นเมื่อเห็นคนอื่นได้ดีกว่า จะมีมุทิตาจิตแสดงความยินดีด้วยความจริงใจ ผู้มีน้ำใจจะนึกถึงผู้อื่น และจะพยายามช่วยผู้อื่นที่ด้อยโอกาสกว่า ผู้มีน้ำใจจึงเป็นที่รักและต้องการของคนเราอาจฝึกฝนตนเองให้เป็นคนมีน้ำใจได้ ดังนี้
     
1.     จงเอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดถึงหัวอกของคนอื่น และแสดงต่อผู้อื่นเหมือนที่เราต้องการให้คนอื่นแสดงต่อเรา จงทำดีต่อคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน ไม่ว่าความดีนั้นจะเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยหรือสิ่งยิ่งใหญ่ก็ตาม
     
2.     จงเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ
     
3.     จงแสดงน้ำใจกับคนรอบข้าง เช่น เมื่อเวลาไปเที่ยวในที่ไกลหรือใกล้ก็ตามควรมีค่าของฝากมาถึงคนที่เรารู้จักและญาติมิตรของเรา อันเป็นการแสดงความมีน้ำใจต่อกัน ไม่จำเป็นจะต้องใช้เงินมากมาย
     
4.     จงเสียสละกำลังทรัพย์ สติปัญญา กำลังกาย และเวลาให้แก่ผู้เดือดร้อนที่ต้องการพึ่งพาอาศัยเราโดยเป็นการกระทำที่ไม่หวังผลตอบแทน
     
5.     จงมีนิสัยเอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือเกื้อกูลต่อเพื่อนบ้าน เช่นไปร่วมงานพิธีต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน งานศพ หรืองานอื่น ๆ
     
6.     จงให้ความรักแก่คนอื่น ๆ และให้ความร่วมมือเมื่อเขาขอร้องหรือรู้ว่าเขากำลังลำบากต้องการความช่วยเหลือ
     
    การฝึกฝนตนเองให้เป็นคนมีน้ำใจ นอกจากจะทำให้เราจิตใจที่ดีงามเบิกบานแจ่มใส ผิวพรรณผ่องใสใบหน้าอิ่มเอิบแล้ว ยังทำให้มิตรสหายมาก ใครก็อยากคบหาสมาคมด้วย เพราะความมีน้ำใจแสดงถึงความมีเมตตา กรุณา ต่อเพื่อนมนุษย์ และความเมตตานี้เองจะเป็นกำแพงป้องกันภัยให้เราได้ ลองนำไปปฏิบัติดูนะคะ แล้วชีวิตจะพบแต่ความสุขนิรันดร์


     แหล่งที่มา : บทความสุขภาพจิต โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: LAK Klongklue ที่ 24 พฤศจิกายน 2012, 10:17:31 AM
 [yes-raccoon] [in-love-raccoon] [res] [clap hand2]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: jeerasak2330 ที่ 24 พฤศจิกายน 2012, 10:25:53 AM
ชัดเจนครับ [heyheybaby_watch]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: tuck4427 ที่ 24 พฤศจิกายน 2012, 10:28:20 AM
องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงคิดวิธีที่ทำให้พวกเรามนุษย์ได้อยู่ร่วมกัน อย่างง่ายๆ ก็คือมั่นคงในศีลเพียง 5 ข้อ เท่านั้น
ก็จะทำให้ได้เกิดเป็น มนุษย์ โดยสมบรูณ์ แล้วครับ แล้วยิ่งปฏิบัติตนให้อยู่ใน ทาน ศิล ภาวนาบารมี ด้วยแล้ว การที่จะได้เกิดก็จะสมบรูณ์ ยิ่งขึ้น
สาธุ กับสิ่งที่ คุณเล็ก คิดและกระทำสิ่งที่ดีๆ ให้กับ พวกเราทุกๆคน  สาธุ ๆ ๆ ครับ [clap hand2] [res] [clap hand2] [res]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: akradech ที่ 24 พฤศจิกายน 2012, 10:37:31 AM
 [clap hand2] [clap hand2] [clap hand2] [res]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: el36 ที่ 24 พฤศจิกายน 2012, 11:45:28 AM
ด้วยความเคารพ [res]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: LAK Klongklue ที่ 24 พฤศจิกายน 2012, 11:50:59 AM
จิตใสไร้ทุกข์...ทำจิตให้สงบ ทำใจให้สบาย โดยพระอาจารย์ มตซุโอะ คเวสโก
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ชีวิตของตัวเองนั่นแหละน่ารักที่สุด เราต้องรู้จักรักตัวเอง มีเมตตาต่อตัวเอง
หมายความว่า ทำจิตใจให้สงบ สบายใจ มีความสุขใจ การทำให้จิตใจมีความสุขต้องรู้จักปล่อยวางความรู้สึกที่ไม่ดี
เครียด หรืออารมณ์ต่างๆ ที่ตกค้างอยู่ น้อยใจ เสียใจ กลัว โกรธ อารมณ์เหล่านี้ต้องปล่อยวาง วิธีปล่อยวางก็คือ กำหนดรู้ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า
เมื่อเราพิจารณาด้วยปัญญาว่า ความไม่สบายใจนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เมื่อรู้ว่าอารมณ์ไม่สบายใจ หรืออุบายง่ายๆ
ก็ให้ปรับปรุงลมหายใจยาวๆ หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ ติดต่อกัน ต่อเนื่องกัน เพียงเท่านี้ เมื่อเรามีความรู้สึกตัวชัดเจน
จิตตั้งมั่นอยู่กับลมหายใจเข้า ลมหายใจออก แล้วความไม่สบายใจก็จะตั้งอยู่ไม่ได้ [c--c]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: chatdhapol ที่ 24 พฤศจิกายน 2012, 11:56:50 AM
แม้ไม่เคยพบคุณเล็กและอีกหลายๆท่าน.....ได้แค่เพียงอ่านกระทู้.....แล้วเห็นผลงานที่ออกมาของสมาชิก.....แจ้งชัดในใจครับ
ถ้าอะไรที่ทำให้กระทบใจจนต้องระบายออกมาบ้างผมว่าดีนะครับ.....ผมขอให้กำลังใจกับคุณเล็กและอีกหลายๆท่านแม้จะไร้รูปร่างก็ยินดีมอบให้ครับ
....ขอให้มีตวามสุขทุกท่านครับ..... [roll]... [fantazy-raccoon].... 3-2-1-raccoon
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: RuNgPuEnGⓇ ที่ 24 พฤศจิกายน 2012, 12:00:02 PM
 [res] ขอบครับที่แบ่งปัน บางครั้งก็หลงลืมไปบ้าง เอาแบบนี้มาให้อ่านก็ช่วยสังคมให้น่าอยู่  [pig90102]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: squid™ ที่ 24 พฤศจิกายน 2012, 12:51:44 PM
ขอบคุณคร๊าบบบ  [res]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: jinn ที่ 24 พฤศจิกายน 2012, 01:15:42 PM
ฮาโหล..1 2 3 ...เทส...ชู่...เทส...ชู่...


(http://i371.photobucket.com/albums/oo152/artker/205584_518906421454958_236889383_n.jpg)

ชีวิตไร้สาระขนาดใหน ยังไม่สายที่จะแก้ใข
แม้ชีวิตจะเหลือน้อยลงเพียงใด ก็ยังไม่สาย "เกินกว่าจะทำดี"?

http://www.youtube.com/watch?v=N8ZyDm2GFKs&feature=related

 " ติ๋ม เด็ก ใคร "
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: jinn ที่ 24 พฤศจิกายน 2012, 01:20:43 PM
" ตื่นก่อนตาย "

(http://board.postjung.com/data/643/643378-img-1353676915-1.jpg)

คำบรรยายของ Dr. Richard Teo เศรษฐีเงินล้านและแพทย์ด้านความงามชื่อดังชาวสิงคโปร์อายุ 40 ปี ซึ่งพบว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย

ตอนผมยังเด็ก ผมเป็นตัวอย่างผลผลิตของสังคมในปัจจุบัน เป็นผลผลิตที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จตามที่สังคมต้องการ
ตั้งแต่เด็กมาแล้ว ผมมาจากครอบครัวที่ต่ำกว่ามาตรฐาน, ผมถูกพร่ำสอนจากสื่อต่างๆ จากผู้คนรอบๆ ตัวว่าความสุขเป็นเรื่องของความสำเร็จ
และความสำเร็จที่ว่าก็เป็นเรื่องของความร่ำรวย ด้วยแนวคิดนี้ ผมจึงต้องต่อสู้ แข่งขัน อยู่เสมอตั้งแต่เป็นเด็ก...

เมื่อผมเริ่มสะสมเงินทอง ยิ่งผมมีมากเท่าไร ผมก็ยิ่งอยากมีมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งต้องการอะไรมาก เราก็ยิ่งหมกมุ่นอยู่กันมัน ทั้งหมดที่ผมทำก็คือสะสม ๆ ๆ
เพื่อที่จะให้ไปถึงจุดสูงสุด เหมือนกับที่สังคมทำกับเรา เหมือนกับที่สังคมอยากให้เราเป็น เมื่อผมหมกมุ่นอยู่กับมันแล้ว อะไรอื่นก็ไม่มีความหมายสำหรับผมอีกต่อไป

นานมากแล้วที่เราหลงคิดไปว่าเราจะต้องเป็นฝ่ายรับ เราหลงลืมเสียสนิทว่าเราแทบจะไม่ได้ให้ใครเลยเว้นแต่ตัวเราเอง

วันสุดสัปดาห์ผมใช้ชีวิตยังไง? ผมสังกัดกลุ่มคนรักรถ supercar ผมชอบสะสมรถครับ ผมซื้อรถหรูๆ ขับไปถึงมาเลเซียโน่น เพื่อไปแข่งรถในสนามแข่ง
นั่นละครับชีวิตของผม เงินยังเหลืออีกเยอะ ทำอะไรอีก? ผมซื้อ Ferrari ครับ ตอนนั้น รุ่น 458 ยังนิยมมาก เปิดประทุนได้ด้วย (ชี้ใน slide)
นี่เพื่อนสมัยมัธยมของผมครับ เป็นนายธนาคาร คันของเขาสีแดง ผมก็เลยต้องเลือกสีเงิน

พอได้รถแล้วทำอะไรอีก? ถึงเวลาที่ต้องซื้อบ้านแล้ว ผมเที่ยวหาทำเลสร้างบ้าน และก็สร้างบ้าน ดูผมใช้ชีวิตสิครับ
ผมอยู่ท่ามกลางสังคมของคนร่ำรวยและมีชื่อเสียง คนนี้เป็น Miss universe ผมไปดื่มไปเที่ยวกับคนพวกนี้
นี่ก็เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Facebook มหาเศรษฐีพันล้านเชียวนะครับ ร้านอาหารก็ต้องระดับ Michelin เท่านั้น

ตอนนั้นผมถึงจุดที่ได้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตแล้ว ผมถึงจุดสูงสุดในวิชาชีพของผม นี่คือรูปผมเมื่อปีก่อน กำลังเล่น Gym อยู่
หล่อล่ำเลย ตอนนั้นผมคิดไปว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายในการควบคุมของผมและผมถึงยอดเขาแล้ว

แต่...ผมผิดถนัดครับ ทุกอย่างไม่ได้อยู่ในการควบคุมของผม ปีที่แล้วเดือนมีนาคม ผมเริ่มรู้สึกเจ็บตรงกลางหลัง
ตอนนั้นคิดไปว่าอาจจะออกกำลังกายมากเกินไปb ผมจึงไปโรงพยาบาล พบเพื่อนผม ผมทำ MRI เพื่อดูว่าอาจจะมีหมอนรองกระดูกหลังเคลื่อนหรือเปล่า.

เย็นวันนั้น เพื่อนผมโทรมาบอกว่า ?กระดูกสันหลังของนายดูเหมือนจะมีเนื้องอกอะไรบางอย่างนะ? ผมตอบไปว่า ?ว่าไงนะ มันหมายความว่ายังไง??
อันที่จริงผมรู้ความหมายดี แต่ไม่ยอมรับความจริง ?พูดจริงหรือเปล่า? ตอนที่คุยนั้น ผมยังวิ่งอยู่ใน Gym อยู่เลยคุณรู้หรือเปล่า วันถัดมาผมทำ scan ต่างๆ เพิ่มเติม
รวมทั้ง PET scan ด้วย สุดท้ายก็สรุปว่าผมเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ตอนนั้นผมคิดในใจว่า ?มันมาจากไหนกันวะ? มะเร็งลามไปสมอง ไปกระดูกสันหลัง ไปตับและต่อมหมวกไตเรียบร้อยแล้ว
พวกคุณลองคิดดู ผมคิดว่าผมควบคุมทุกอย่างในชีวิตได้ ผมถึงจุดสูงสุดในชีวิตแล้ว แต่ฉับพลันผมก็สูญเสียมันไปในทันที

เมื่อผมเผชิญหน้ากับความตาย ผมได้ลอกคราบตัวเองออกทั้งหมด เหลือไว้เพียงสิ่งที่สำคัญที่สุดเท่านั้น ที่น่าขำก็คือ
เมื่อเราเรียนรู้ว่าเราจะตายอย่างไร นั่นแหละเราถึงจะเรียนรู้ว่าเราจะมีชีวิตอย่างไร

อย่าให้สังคมบอกคุณว่าคุณจะใช้ชีวิตอย่างไร อย่างให้สื่อต่างๆ บอกคุณว่าคุณควรจะทำอะไร สิ่งเหล่านั้นเคยเกิดขึ้นกับผมมาแล้ว
ผมปล่อยให้ชีวิตผมจมไปกับความคิดที่ว่าสิ่งเหล่านี้จะนำความสุขมาให้ ผมหวังว่าคุณจะใคร่ครวญกับเรื่องนี้และตัดสินใจเลือกว่าจะใช้ชีวิตของคุณเองอย่างไร
ไม่ใช่เพราะคนอื่นบอกให้คุณทำ คุณต้องตัดสินใจว่าคุณจะให้เฉพาะแต่ตัวคุณเอง หรือจะสร้างความแตกต่างขึ้นในชีวิตของผู้อื่น
เพราะความสุขที่แท้จริงไม่ได้มาจากการให้อะไรกับตัวเอง ผมเคยคิดว่ามันเป็นเช่นนั้น แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้นเลย

(Dr. Richard Teo ได้เสียชีวิตลงในวันที่ 18 ตุลาคม 2012 ขอให้ดวงวิญญาณของเขาจงไปสู่สุขคติ)

อ่านฉบับเต็มจาก http://goo.gl/yuT2P
ภาพจาก http://www.richardteo.com/
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: jinn ที่ 24 พฤศจิกายน 2012, 01:33:25 PM
"ยิ่งถ้าหากว่าคุณปฏิบัติธรรมอย่างลึกซึ้งจนกระทั่งไม่มีตัวกู มองตนโดยไม่มีตน โลกมันจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
จิตใจก็จะแผ่กว้างไปจนกระทั่งมองเห็น ตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างเขากับสรรพสิ่งว่าเป็นสิ่งเดียวกัน
 ตรงนี้แหล่ะคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ผู้ปฏิบัติธรรมก็จะพบว่า ตัวตนนั้นแตกสลาย จิตขยายออกไปอย่างไร้เขตแดน
จนทุกๆอย่างไม่ได้แยกจากตัวเองเลย อันนี้ คือการเปลี่ยนโลกอย่างแท้จริง เพราะเปลี่ยนแปลงจากลึกซึ้งจากภายใน"

พระไพศาล วิสาโล

http://www.youtube.com/v/m8A4W_61Atg?version=3&hl=th_TH&rel=0"
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: LAK Klongklue ที่ 24 พฤศจิกายน 2012, 02:05:07 PM
สาธุ สาธุ สาธุ [thanks-raccoon]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: LAK Klongklue ที่ 25 พฤศจิกายน 2012, 12:26:17 PM
 [gr_in]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: tosa2k ที่ 25 พฤศจิกายน 2012, 01:12:17 PM
 [res] [res] [res] [res] [res]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: cleaning ที่ 25 พฤศจิกายน 2012, 01:22:02 PM
[res] ขอบครับที่แบ่งปัน บางครั้งก็หลงลืมไปบ้าง เอาแบบนี้มาให้อ่านก็ช่วยสังคมให้น่าอยู่  [pig90102]
อยากได้รับน้ำใจ ครับ  [unde_cided] จะเอาอะไรดีนะ เดียวคิดก่อนถ้าไม่ให้แสดงว่า หลงลืมไปนะครับ เพราะฉนั้นต้องรีบมีน้ำใจครับ
ผมจะรอรับน้ำใจครับ  [laugh-raccoon]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: jeerasak2330 ที่ 25 พฤศจิกายน 2012, 02:42:25 PM
[res] ขอบครับที่แบ่งปัน บางครั้งก็หลงลืมไปบ้าง เอาแบบนี้มาให้อ่านก็ช่วยสังคมให้น่าอยู่  [pig90102]
อยากได้รับน้ำใจ ครับ  [unde_cided] จะเอาอะไรดีนะ เดียวคิดก่อนถ้าไม่ให้แสดงว่า หลงลืมไปนะครับ เพราะฉนั้นต้องรีบมีน้ำใจครับ
ผมจะรอรับน้ำใจครับ  [laugh-raccoon]
[roll-eyes]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: Guy_Audio ที่ 26 พฤศจิกายน 2012, 01:00:32 AM
เตือนสติได้ดีมากครับ  [gr_in]
และถ้าผมบอกว่า ผมเคยป่วยหนักถึงขั้นฉายแสง โคบอลต์ มาแล้ว
และไม่เคยทำงานเลยเป็นเวลาถึง 15 ปี (แต่เล่นดนตรีและฟังเพลงอยู่นะครับ)  laughhahaha
จนทุกวันนี้ก็ตระหนักได้ว่าทุกอย่างไม่ว่าสุขหรือทุกข์อยู่ที่ภายในจิตใจเราเอง
และถ้าไม่เบียดเบียนใคร ตั้งมั่นอยู่ในความซื่อสัตย์ สุจริต
คิดให้ดีให้รอบคอบในการประกอบอาชีพ รับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน
ผมเชื่อว่าเราสามารถอยู่ได้โดยไม่ลำบากแน่นอนครับ   [roll]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: jinn ที่ 26 พฤศจิกายน 2012, 01:29:58 AM
เตือนสติได้ดีมากครับ  [gr_in]
และถ้าผมบอกว่า ผมเคยป่วยหนักถึงขั้นฉายแสง โคบอลต์ มาแล้ว
และไม่เคยทำงานเลยเป็นเวลาถึง 15 ปี (แต่เล่นดนตรีและฟังเพลงอยู่นะครับ)  laughhahaha
จนทุกวันนี้ก็ตระหนักได้ว่าทุกอย่างไม่ว่าสุขหรือทุกข์อยู่ที่ภายในจิตใจเราเอง
และถ้าไม่เบียดเบียนใคร ตั้งมั่นอยู่ในความซื่อสัตย์ สุจริต
คิดให้ดีให้รอบคอบในการประกอบอาชีพ รับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน
ผมเชื่อว่าเราสามารถอยู่ได้โดยไม่ลำบากแน่นอนครับ   [roll]


ให้ 1 like......

(http://thumbsup.in.th/wp-content/uploads/2012/04/Facebook-like-thumbs-up-symbol.jpg)
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: Guy_Audio ที่ 26 พฤศจิกายน 2012, 02:01:17 AM
ขอบคุณ คุณ jinn มากครับ
คือถ้าช่วงหนึ่งของชีวิต มีเหตุให้เราต้องนิ่งคิด ในความเป็นตัวตนของเรา
แม้ว่าช่วงนั้นอาจจะเป็นช่วงที่เราทุกข์ ผมว่านั่นเป็นสิ่งที่ดี เป็นบททดสอบเรา  [pig80901]
แต่เราต้องใช้ช่วงเวลานั้นอย่างมีสติ มีเหตุ มีผล ถึงแม้ทุกอย่างในขณะนั้นจะสับสนไปทั้งหมด  [heyheypig447]
แต่ถ้าเราเคยเป็นผู้ให้มาก่อน แม้บางอย่างจะเป็นแค่เพียงเรื่องเล็กน้อยที่เราก็ลืมไปแล้ว
บางครั้งเราอาจจะกลับมาเป็นผู้รับแทนก็เป็นได้  [roll]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: track ที่ 26 พฤศจิกายน 2012, 09:22:35 AM
 [clap hand2] [g-o-o-d] จขกท และทุกท่านยอดเยี่ยมครับ เห็นด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: jinn ที่ 12 ธันวาคม 2012, 12:11:50 PM
(http://sphotos-b.xx.fbcdn.net/hphotos-snc6/c0.0.400.400/p403x403/251839_362188560518580_1146420079_n.jpg)

แนะนำให้อ่านครับ ใช้เวลาไม่กี่นาที คุณได้กำไรชีวิตมากมายเลย
อย่าลืมแชร์สิ่งดีๆเหล่านี้ให้แก่คนที่คุณรักนะครับ...ขอบคุณครับ (^_^)~
---------------------------------------
...ที่เมืองไทยปีที่แล้วมีข่าวเกรียวกราวมาก
คือมีดาราคนหนึ่งซึ่งมีชื่อดังมาก
เป็นคนดำเนินรายการคนค้นคน
ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร นะ
มาเรียนที่อเมริกา
เป็นคนเพอร์เฟคชั่นนิส
ทำงานทุกอย่างต้องดูดีที่สุดแม้กระทั้งล้างจาน
ล้างเสร็จแล้วแกต้องเอามาดมดู
ว่าสะอาดจริงมั้ย
กลับไปเมืองไทยก็ไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย
มีแฟนก็จีบดาวมหาวิทยาลัยเลย
ต้องให้ดีที่สุด
เวลาแกไปเสนองานอะไรต่าง ๆ
เขียนไว้สามแผน
แผนที่หนึ่งลูกค้าไม่ซื้อ
แกเสนอแผนที่สอง
แผนที่สองลูกค้าไม่ซื้อแกเสนอแผนที่สาม
ใครไปดีลงานกับแกติดทุกราย
แกมีบ้าน มีรถ มีลูก มีภรรยา
มีธุรกิจ
มีชื่อเสียงทุกอย่าง
แกมีทุกอย่าง
วันหนึ่งแกพักผ่อน
หลังจากที่ทำงานแบบไม่ได้พักเลย
ลูกเมียไปขอพบ
บอกไปเจอพ่อที่ออฟฟิต
วันหนึ่งแกไปพักที่ปากช่อง
ตื่นขึ้นมากลางวันล้มฟุ๊บลงไป
ภรรยาพาเข้าโรงบาล
ตรวจพบมะเร็ง
พอพบปุ๊บเป็นระยะสุดท้ายเลย
จริง ๆ เค้าก็เตือนตลอด
แต่พอไม่มีเวลาไปตรวจมันก็แก้ไม่ได้
แกไปนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล
แล้วก็สารภาพให้รายการคนค้นคน
บันทึกชีวิตแก
ก่อนจะเสียชีวิต
แกก็ไปนอนให้พ่อแม่เช็ดเนื้อเช็ดตัว
แกก็บอกว่าสังเวชตัวเองมากแทนที่ลูกจะได้ดูแลพ่อแม่
กลับมาเป็นว่าพ่อแม่ต้องมาดูแลลูก

ก่อนจะเสียชีวิตแกให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์คมชัดลึกบอกว่า
พ่อผมเคยบอกว่า ...
เกิดเป็นคนต้องได้ปริญญาสองใบ

1...ปริญญาใบที่หนึ่ง ....
"ปริญญาวิชาชีพ"
เราจะต้องทำมาหากินเป็น
กินอิ่ม นอนอุ่น พูดง่าย ๆ
ล้วงไปในกระเป๋าแล้วมีเงินใช้
อยากจะนอนมีบ้านเป็นของตัวเอง
แค่นี้คือปริญญาวิชาชีพ

2...แต่"ปริญญาวิชาชีวิต" ..
ซึ่งเป็นปริญญาใบที่สองที่พ่อแกบอกไว้
แกบอกว่าผมสอบตกโดยสิ้นเชิง
ผมเป็นดอกเตอร์จากอเมริกาได้ปริญญาวิชาชีพ
แต่ปริญญาวิชาชีวิตสอบตก
เพราะอะไร
เพราะทำงานจนป่วยตาย

ก่อนที่จะเสียชีวิตแกได้สารภาพว่าผมได้เตรียมทุกอย่าง
บ้าน รถ
มอบมันให้กับลูกและภรรยา
แต่ในวันที่ผมมีทุกสิ่งทุกอย่าง
ผมกลับลืมมอบหนึ่งอย่างให้กับลูกและภรรยา
สิ่งนั้นคือสิ่งที่ผมลืมและทำให้ผมล้มเจ็บใหญ่ครั้งนี้
สิ่งที่ว่านี้คือผมลืมมอบตัวเองเป็นของขวัญให้กับลูกและเมีย
เพราะทำงานหนักจนกระทั่งป่วยตาย

...นี่คือปริญญาวิชาชีวิต ...
ธรรมะเราจะต้องมี
ถ้าเราไม่มีธรรมะ
เราจะกลายเป็นหุ่นยนต์เท่านั้นเอง
ที่ทำงานแทบล้มประดาตายแล้วสุขภาพไม่ดี
ดังนั้นเมื่อเราทุกคนทำงานแล้ว
อย่าลืมชั่วโมงสุขภาพของตัวเองในแต่ละวันนะ
แต่ละวันควรจะมี
ให้ดูแลตัวเอง ดูจิต
ดูใจตัวเอง
ว่าเราเอ๊ะมันทุกข์
มันทุกข์มากเกินไปรึเปล่า
แบกเรื่องโน้นเรื่องนี้
เกินไปหรือเปล่า
พยายามลดลงในแต่ละวัน ๆ
เพื่อที่ว่าอะไร
เพื่อที่ว่าเราจะได้ปริญญาสองใบในชีวิต
หนึ่งปริญญาวิชาชีพ
เราทำมาหากินจนประสบความสำเร็จร่ำรวยมั่งคั่ง
มีเงินมีทองใช้มีบ้านอยู่
แต่ต้องไม่ลืมปริญญาใบที่สอง
คือวิชาธรรมะ
สำหรับจะดูแลชีวิตให้ดำเนินอยู่ในทางสายกลาง
ไม่ทุกข์เกินไปไม่เดือนร้อนเกินไป
ทำอะไรให้พอดี
พอดีอยู่ดีมีสุข
อยากเที่ยวให้ได้เที่ยว
อยากพักให้ได้พัก
อยากทำบุญให้ได้ทำบุญ
ลูกหลานมาหาก็ให้ได้มีเวลากับลูกกับหลานบ้าง
อย่าวิ่งไปจนซ้ายสุด ขวาสุด
และมารู้สึกตัวอีกทำจนล้มเจ็บใหญ่ไม่ดี
เพราะอะไร
เพราะว่าสิ่งสูงค่าทีสุดในชีวิตของเรา

เคยมีคนไปทูลถามพระพุทธเจ้า..
ว่าอะไรคือสิ่งสูงค่าที่สุด
บางคนก็ตอบเงิน
บางคนก็ตอบเพชร
บางคนก็ตอบทอง
บางคนก็ตอบอำนาจ
บางคนก็ตอบราชบัลลังก์

พระพุทธเจ้าบอกไม่ใช่
สิ่งสูงค่าที่สุดในชีวิตของพวกเธอคือสุขภาพและชีวิต..
สุขภาพก็คือการที่เราไม่เจ็บไข้ได้ป่วย
คนที่สุขภาพดีดื่มน้ำธรรมดาก็อร่อยนะ
และก็ชีวิตของเรา

หากบุญกุศลอันใดจะเกิดได้จากการเผยแพร่เรื่องราว ผู้บันทึกก็ขอให้กุศลผลบุญนี้
จงเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขเพื่อปัญญาของเพื่อนผู้ร่วมวัฏฏะทุกท่าน และขอให้ ดร.อนุวัฒน์
 ไม่ว่าจะไปอยู่ภพไหนหนใดก็ขอให้มีปัญญาเท่าทันต้นเหตุแห่งทุกข์เช่นที่ท่าน ได้ถ่ายทอดเรื่องราวเตือนสติผู้อื่นไว้...
...ขอขอบพระคุณในข้อคิดดีดี...
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: mr.bean ที่ 12 ธันวาคม 2012, 12:38:23 PM
Thank น้า jinn ครับที่นำสิ่งดีๆมาให้อ่านเพื่อเตือนตัวเอง [res] [res] [res]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: LAK Klongklue ที่ 12 ธันวาคม 2012, 03:20:35 PM
ได้ธรรมะมากล่อมจิตใจทำให้เห็นหลักความจริงขึ้นมาอีกเยอะเลยขอบคุณคร้าบ [thanks-raccoon] [yes-raccoon]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: civicdotcom ที่ 13 ธันวาคม 2012, 09:10:22 AM
 [clap hand2] [clap hand2]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: MonAudio ที่ 14 ธันวาคม 2012, 10:49:50 AM
ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ครับ  [res]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: Guy_Audio ที่ 14 ธันวาคม 2012, 12:38:45 PM
ลึกซึ้งแต่เข้าใจได้ง่ายดีครับ  [roll]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: stomboy ที่ 14 ธันวาคม 2012, 10:16:08 PM
 [clap hand2]  เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: LAK Klongklue ที่ 19 ธันวาคม 2012, 09:22:33 AM
 [pig90136]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: jeerasak2330 ที่ 19 ธันวาคม 2012, 09:56:07 AM
[pig90136]
[clap hand2]  อั้ย ย้ะ คมมากครับผู้พัน  [clap hand2]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 19 ธันวาคม 2012, 10:39:37 AM
[pig90136]
[clap hand2]  อั้ย ย้ะ คมมากครับผู้พัน  [clap hand2]

อย่างนี้หรือเปล่าที่เค้าว่า "ได้อย่าง ก็ต้องเสียอย่าง"   [heyheybaby_watch]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: LAK Klongklue ที่ 20 ธันวาคม 2012, 12:05:14 PM
เก็บมาฝากน้อง cleaning จะโดนใหมนี่ laughhahaha 3-2-1-raccoon
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: Alcohol ที่ 20 ธันวาคม 2012, 05:27:45 PM
ขอระบายมั่งเพื่อสั่งท้ายปีเก่า
ปีใหม่จะเปลี่ยนสไตล์วัยทีน ดี๊ ด๊า จ๋า จ๊ะ ไม่บ่นเป็นตาแก่อีกแล้ว

DIY กันทำไหมหนอ....คนที่ทำย่อมรู้คำตอบ
ประสบการณ์ ทักษะ ความรู้ ความชำนาญ มองข้ามไปแล้วหรือ

บ่นแค่นี้แหล่ะ.... [roll] [roll]
 
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: LAK Klongklue ที่ 09 มกราคม 2013, 11:34:59 AM
ขอระบายมั่งเพื่อสั่งท้ายปีเก่า
ปีใหม่จะเปลี่ยนสไตล์วัยทีน ดี๊ ด๊า จ๋า จ๊ะ ไม่บ่นเป็นตาแก่อีกแล้ว

DIY กันทำไหมหนอ....คนที่ทำย่อมรู้คำตอบ
ประสบการณ์ ทักษะ ความรู้ ความชำนาญ มองข้ามไปแล้วหรือ

บ่นแค่นี้แหล่ะ.... [roll] [roll]
 
บ่นเยอะๆก็ได้ครับสนุกดีออกไม่บ่นไม่พูดเดี๋ยวเสียเอกลักษณ์คุณอัลหมด laughhahaha 3-2-1-raccoon
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: jinn ที่ 12 มกราคม 2013, 12:13:29 PM


(http://i371.photobucket.com/albums/oo152/artker/702029_580175018662874_1146876846_n.jpg)



หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: jinn ที่ 11 เมษายน 2013, 07:06:58 PM
(http://sphotos-b.xx.fbcdn.net/hphotos-prn1/p480x480/72394_347296352037357_1573616007_n.jpg)

สมองซีกซ้ายยังทำงานแบบวิเคราะห์แยกแยะ
จัดระบบ จัดหมวดหมู่และลำดับก่อนหลัง ทั้งยังรับรู้โลก
แบบที่มีตัวตนของเราเป็นศูนย์กลางอีกด้วย

ส่วนสมองซีกขวารับรู้โลกแบบเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว
รับรู้สรรพสิ่งแบบไม่แบ่งแยกความจริงเป็นท่อนๆ

จิลล์ เทย์เลอร์ ยืนอยู่ที่ห้องน้ำและรู้สึกว่าโลกที่ตนเองเคยรับรู้ไม่ได้เป็นอย่างที่เคยอีกแล้ว สรรพสิ่งเป็นประหนึ่งมณฑลแห่งพลังที่เชื่อมประสานกัน
ไหลเวียน แปรเปลี่ยน ไร้ขอบเขต จักรวาลเป็นเสมือนพลังอันไพศาล สวยงามหมดจด เลื่อนไหลแต่สงบนิ่ง
สันติและไร้ตัวตน

จังหวะนั้นเอง เหมือนมีสัญญาณสมองส่งมาเตือนว่า
มีบางอย่างผิดปกติ ต้องรีบหาความช่วยเหลือ !?!

(บางส่วนจากบทความ)

? A Stroke of Insight : การระเบิดของความรู้แจ้ง

A Stroke of Insight เป็นเรื่องเล่าของนักวิทยาศาสตร์หญิงคนหนึ่งชื่อ จิลล์ โบลเต เทย์เลอร์ (Jill Bolte Taylor) เธอศึกษาสมองของมนุษย์

วันหนึ่งเมื่อเธอตื่นขึ้นตอนเช้า เธอรู้สึกมึนศีรษะอย่างแรงแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากจึงไปออกกำลังกายตามปกติ
 เธอนั่งโยกกรรเชียงบกอยู่สักพักก็รู้สึกว่าความรับรู้โลกและตัวตนของตัวเธอเริ่มแตกต่างไปจากเดิม

เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเธอจึงมานั่งโยกกรรเชียงอยู่ มือไม้และร่างกายของเธอก็ดูแปลกๆ มันเหมือนกับเธอกำลังมองมาที่ตัวของเธอเองจากที่ไหนสักแห่ง

เมื่อออกกำลังกายสักพัก อาการก็ไม่ดีขึ้น เธอจึงลุกขึ้นจากเครื่องกรรเชียงบกและเริ่มรู้สึกว่าร่างกายของเธอไม่เหมือนเดิม เธอเดินไปเข้าห้องน้ำและเซจนต้องใช้มือยันผนังไว้

เมื่อเธอมองไปที่มือของเธอ มันเหมือนกับว่าอณูของมือเธอนั้นได้แผ่ซ่านแทรกซึมไปกับผนังห้องน้ำ เส้นแบ่งระหว่างตัวเธอและสรรพสิ่งพร่ามัวลง

ทันใดนั้นทุกอย่างเงียบสนิทเหมือนปิดสวิทซ์และความรู้สึกนึกคิดของเธอก็ถูกตรึงไว้ด้วยสนามแห่งพลังอันวิจิตรที่ผสานโลกและตัวเธอเป็นหนึ่งเดียว
เธอรับรู้ถึงความอิสระ เบาสบาย และไร้ขอบเขต

เธออยู่ในภวังค์สักพักก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งและพบว่าแขนขาข้างขวาของเธออ่อนแรง

ความที่เป็นนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับระบบสมองทำให้เธอรู้ทันทีว่าเส้นเลือดในสมองของเธอแตกแน่
เพราะอาการปวดศีรษะที่เพิ่มขึ้นและแขนขาอ่อนแรงด้านขวาจะต้องเป็นผลมาจากเส้นเลือดแตกในสมองข้างซ้ายอย่างไม่ต้องสงสัย

????????

สมองซีกซ้ายและซีกขวาของเรานั้นทำงานต่างกันแต่เสริมกัน สมองซีกขวาคุมร่างกายซีกซ้าย ส่วนสมองซีกซ้ายคุมร่างกายซีกขวา

นอกจากนั้น สมองซีกซ้ายยังทำงานแบบวิเคราะห์แยกแยะ
จัดระบบ จัดหมวดหมู่และลำดับก่อนหลัง ทั้งยังรับรู้โลกแบบที่
มีตัวตนของเราเป็นศูนย์กลางอีกด้วย

ส่วนสมองซีกขวารับรู้โลกแบบเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว
รับรู้สรรพสิ่งแบบไม่แบ่งแยกความจริงเป็นท่อนๆ

จิลล์ เทย์เลอร์ ยืนอยู่ที่ห้องน้ำและรู้สึกว่าโลกที่ตนเองเคยรับรู้ไม่ได้เป็นอย่างที่เคยอีกแล้ว สรรพสิ่งเป็นประหนึ่งมณฑลแห่งพลังที่เชื่อมประสานกัน
 ไหลเวียน แปรเปลี่ยน ไร้ขอบเขต จักรวาลเป็นเสมือนพลังอันไพศาล สวยงามหมดจด เลื่อนไหลแต่สงบนิ่ง
สันติและไร้ตัวตน

จังหวะนั้นเอง เหมือนมีสัญญาณสมองส่งมาเตือนว่า
มีบางอย่างผิดปกติ ต้องรีบหาความช่วยเหลือ

เธอประคองร่างกายที่ซีกขวาอ่อนแรงไปที่โต๊ะทำงาน หยิบบัตรจดหมายเลขโทรศัพท์ขึ้นมา
เธอมองเห็นตัวอักษรแต่กลับไม่รู้จักมันเลย เห็นรูปร่างอักขระต่างๆ กันแต่ไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร

เธอค่อยๆ ใช้สติสัมปชัญญะที่เหลือเพ่งพินิจบัตรจดหมายเลขโทรศัพท์ทีละใบและใช้เวลาไป 45 นาทีเพื่อคัดเลือกบัตร
โทรศัพท์เพียงไม่กี่สิบใบจนสำเร็จ

????????

แต่เธอก็ต้องพบกับปัญหาอีกก็คือ เธออ่านตัวเลขบนบัตรโทรศัพท์ไม่ออกเสียแล้ว

เธอหาทางหมุนหมายเลขโดยการเอาแป้นโทรศัพท์มาวางข้างๆ บัตรจดหมายเลขโทรศัพท์ แล้วอาศัยการเปรียบเทียบรูปทรงของตัวเลขในบัตร
 กดปุ่มหมายเลขโทรศัพท์ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับหมายเลขในบัตรจดเบอร์โทรศัพท์

กว่าจะต่อโทรศัพท์ได้ก็ใช้เวลานาน เมื่อเพื่อนร่วมงานของเธอรับสาย เธอดีใจมาก แต่เสียงที่ดังมาตามสายนั้นกลับเป็นเสียงที่เธอฟังไม่ออกเลย
 ได้ยินแต่เสียงดังอยู่แต่ไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าเขาพูดอะไร

เมื่อเธอเปล่งเสียงตอบกลับไป เสียงที่ออกมาก็ไม่เป็นภาษามนุษย์ แต่ในที่สุด เพื่อนของเธอก็จำเสียงเธอได้ และนำรถพยาบาลมาพาเธอไปโรงพยาบาล

เธอได้รับการผ่าตัดเอาก้อนเลือดขนาดเท่าลูกกอล์ฟออกจากสมองซีกซ้ายของเธอ และใช้เวลา 8 ปีในการพักฟื้น จนกลับมาเป็นปกติในปัจจุบัน

????????

แม้ว่าเธอจะฟื้นและมีชีวิตเหมือนเดิม แต่วิธีมองโลกของเธอเปลี่ยนไป เธอบอกว่าเมื่อเธออยู่ในสภาวะเส้นเลือดแตกในสมอง
 โลกที่เธอรับรู้นั้นมันงดงามและเปี่ยมล้นด้วยสันติภาพ สรรพสิ่งเป็นเอกภาพและเป็นอเนกอนันต์

เธอรู้สึกว่าชีวิตเป็นเหมือนพลังที่ยิ่งใหญ่ไพศาลและมหัศจรรย์ จนเธอรู้สึกฉงนและไม่เชื่อว่าร่างกายอันน้อยนิดนี้จะสามารถรองรับชีวิตที่ยิ่งใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขตนั้นอย่างไรได้

ประสบการณ์เส้นเลือดในสมองแตกนี้ทำให้เธอเห็นว่าสมองของเรามีศักยภาพที่จะเข้าถึงโลกแห่งการรับรู้อย่างใหม่
และถ้าเธอรับรู้โลกแห่งความหลุดพ้นนี้ได้ คนอื่นก็ต้องรับรู้มันได้เช่นกัน

เธอจินตนาการไปถึงโลกที่งดงาม สันติและเต็มเปี่ยมด้วยความรักความเมตตาต่อกัน
 และเธอก็ตระหนักว่าประสบการณ์ที่เธอพบนี้เป็นของขวัญอันยิ่งใหญ่ที่บอกถึงวิถีอันประเสริฐของการเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ในโลก

????????

เส้นเลือดในสมองแตกระเบิดที่เรียกว่า Stroke ของ จิลล์ เทย์เลอร์ จึงเป็นการระเบิดของความรู้แจ้ง หรือ Stroke of Insight ที่เปลี่ยนวิธีคิดและวิธีมองโลกของเธอ

จิลล์ เทย์เลอร์ ได้ใช้เวลาหลังฟื้นจากการเจ็บป่วยออกเดินทางบรรยายเรื่องความมหัศจรรย์ของสมองมนุษย์กับศักยภาพแห่งการเข้าถึงความดี
ความงามและความจริง ด้วยความเชื่อมั่นว่ามนุษย์สามารถเลือกที่จะรับรู้โลกได้

เธอเชื่อจากประสบการณ์ชีวิตของเธอว่า สันติภาพ ความเป็นหนึ่งเดียวกัน จะเป็นไปได้หรือไม่นั้น

ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกยืนอยู่บนการรับรู้โลกแห่งความเป็นจริงแบบไหน


Credit : นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: jinn ที่ 09 พฤษภาคม 2013, 10:05:12 AM
(http://keithpp.files.wordpress.com/2011/01/zen-archer.jpg?w=450)

~ Here where I am ~

หลังจากชนะการแข่งขันยิงธนูหลายต่อหลายครั้งแล้ว ผู้ชนะเลิศของเมืองนั้นก็ไปพบอาจารย์เซนท่านหนึ่ง

?ผมเก่งที่สุดแล้ว? เขาว่า

?ผมไม่ได้ศึกษาศาสนา ไม่เคยไปขอให้พระที่ไหนช่วย แล้วผมก็ประสบความสำเร็จจนเป็นนักยิงธนูที่แม่นที่สุดในแถบนี้
 ผมได้ยินมาว่าท่านเคยเป็นนักยิงธนูที่ดีที่สุดมาก่อน ขอถามท่านว่า จำเป็นด้วยหรือที่ต้องบวชเพื่อศึกษาการยิงธนู?

?ไม่จำเป็น? ท่านอาจารย์ตอบ

แต่นักยิงธนูผู้ชนะเลิศยังไม่พอใจ เขาคว้าคันธนูออกมา เสียบลูกธนูเข้าที่ ยิงออกไปโดนลูกเชอรี่ที่อยู่ไกลลิบ
แล้วยิ้มราวกับจะบอกว่า ?ท่านจะประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยถ้าทุ่มเทฝึกแต่เรื่องเทคนิควิธี?

เขากล่าวกับอาจารย์เซนว่า
?ท่านทำแบบนี้ได้หรือเปล่า?

โดยไม่มีวี่แววกังวลใจสักนิด ท่านอาจารย์เดินเข้าไปหยิบคันธนูออกมา จากนั้นเดินตรงไปยังภูเขาใกล้ๆ
ระหว่างทางมีหุบเหวลึกที่จะข้ามไปได้ก็ด้วยสะพานเก่าคร่ำ ที่ทำจากเชือกเปื่อยยุ่ยจะพังมิพังแหล่

ท่านอาจารย์เซนเดินไปหยุดกลางสะพาน หยิบธนูขึ้นมา วางลูกศรลงไปแล้วเล็งไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งบนหน้าผาด้านที่อยู่ไกลสุด...เข้าเป้า

?ตาเจ้าแล้ว? ท่านบอกหนุ่มนักยิงธนูอย่างเมตตาเมื่อเดินกลับมายังพื้นดิน

เจ้าหนุ่มเมื่อมองลงไปหุบเหวเบื้องล่างที่อยู่ใต้เท้าของตนก็ตื่นตระหนก เขาไปหยุดที่จุดเดียวกันแล้วยิงออกไป ธนูพลาดเป้าไปไกลโข

?นี่เป็นเหตุผลที่ควรค่าแก่การฝึกสมาธิ? ท่านอาจารย์สรุปเมื่อชายหนุ่มเดินกลับมา

?เจ้าอาจมีทักษะยอดเยี่ยมในเครื่องมือที่เจ้าใช้ในการดำรงชีวิต แต่มันก็ไร้ประโยชน์ถ้าเจ้าไม่สามารถสั่งใจที่ใช้เครื่องมือได้?

"Here where I am" โดย Paulo Coelho
ที่มา : เฟสบุ๊คอ่านเอาเพื่อน
http://www.facebook.com/readerships
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: Alcohol ที่ 09 พฤษภาคม 2013, 10:20:28 AM
เรื่องดี ๆ อย่างนี้ สุดยอดมากครับ
 [clap hand2] [clap hand2]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: jinn ที่ 09 พฤษภาคม 2013, 10:40:20 AM
แข่งยิงหนังสติ๊ก....  [gr_in] พี่เขานิ่ง....มาก

http://www.youtube.com/watch?v=V8aEklqyeA0
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: akradech ที่ 09 พฤษภาคม 2013, 11:37:24 AM
 [clap hand2] [clap hand2] [res]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: civicdotcom ที่ 09 พฤษภาคม 2013, 01:01:13 PM
 [clap hand2] [clap hand2]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: Alcohol ที่ 13 พฤษภาคม 2013, 02:19:42 PM
เรื่องดี ๆ ที่เพื่อนแชร์มาให้อ่าน

(https://lh4.googleusercontent.com/-GWiQNX3Gpbo/UZBOV1gZx3I/AAAAAAAAAD4/WbKsKbX2PEQ/s517-no/01.jpg)

 [res] [res]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: anan_125 ที่ 13 พฤษภาคม 2013, 02:21:42 PM
เรื่องดี ๆ ที่เพื่อนแชร์มาให้อ่าน

(https://lh4.googleusercontent.com/-GWiQNX3Gpbo/UZBOV1gZx3I/AAAAAAAAAD4/WbKsKbX2PEQ/s517-no/01.jpg)

 [res] [res]

 [yes-raccoon] [res]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: Alcohol ที่ 13 พฤษภาคม 2013, 02:27:35 PM
ฟังธรรมวันละนิด จิตแจ่มใส
พุทธวจน ? ปุญญาภิสันทวรรค - สมชีวิสูตรที่ ๑

        สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ เภสกฬามฤคทายวัน ใกล้บ้านสุงสุมารคีระ แคว้นภัคคะ ครั้งนั้นแล เวลาเช้า
พระผู้มีพระภาคทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตรและจีวรเสด็จเข้าไปยังนิเวศน์ของนกุลบิดาคฤหบดี แล้วประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้
ครั้งนั้นแล คฤหบดีผู้นกุลบิดาและคฤหปตานี ผู้นกุลมารดา เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้วคฤหบดีผู้นกุลบิดาได้กราบทูลกะพระผู้มีพระภาคว่า
       ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ...... หม่อมฉันทั้งสองปรารถนาพบกันและกันทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ ฯ
       ดูกรคฤหบดีและคฤหปตานี  ถ้าภรรยาและสามีทั้งสอง หวังจะพบกันและกันทั้งในปัจจุบันทั้งในสัมปรายภพไซร้
ทั้งสองพึงเป็นผู้มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น
ย่อมได้พบกันและกันทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพฯ

(https://lh5.googleusercontent.com/-vktVjvV0lHU/UZBB00Ft8_I/AAAAAAAAyHA/vB1Y3QX7nog/w497-h373/p31.jpg)
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: tuck4427 ที่ 13 พฤษภาคม 2013, 02:36:39 PM
เห็นน้าอัล นำสิ่งดีๆมาให้สมาชิกก็เลยขอฝากการประกันที่ไม่มีบริษัทไหนเขาทำกัน นอกจาก พทุธศาสนาประกันถัย จำกัด
เป็นการประกันที่ส่งผลถึงชาติหน้า และชาติต่อๆไปเลยน่ะครับ
(http://upic.me/i/bp/155952_542572712430834_483250861_n.jpg) (http://upic.me/show/44841321)(http://)
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: Alcohol ที่ 13 พฤษภาคม 2013, 02:48:55 PM
(https://lh3.googleusercontent.com/-zbN4KbWcfeI/UY-iPfcwY7I/AAAAAAACE6Q/RF-hDtTTewc/w646-h485-no/904104_402706813169969_1885557120_o.jpg)

ขอมอบให้ 1 ช่อเลยครับ
 [clap hand2] [clap hand2]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: Guy_Audio ที่ 13 พฤษภาคม 2013, 02:57:56 PM
ชอบมากเลยครับ คุณ tuck4427 ขอบคุณมากครับ
ที่นำข้อคิดที่ดีและง่ายต่อความเข้าใจ
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: akradech ที่ 13 พฤษภาคม 2013, 03:06:50 PM
 [clap hand2]
 [clap hand2]
หัวข้อ: Re: ความในใจ ที่อยากจะระบาย
เริ่มหัวข้อโดย: jinn ที่ 07 มิถุนายน 2013, 06:44:26 PM
(https://lh4.googleusercontent.com/-qLyQ8XnzQvg/UUqYWh7CXXI/AAAAAAAAW6A/O6irF9-Ola4/s579/527620_10151540594920535_2080093161_n.png)

ความสุขที่ถูกมองข้าม

(พระไพศาล วิสาโล)

คุณเป็นคนหนึ่งหรือไม่ที่เชื่อว่า ยิ่งมีเงินทองมากเท่าไร ก็ยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น ความเชื่อดังกล่าวดูเผิน ๆ ก็น่าจะถูกต้องโดยไม่ต้องเสียเวลาพิสูจน์
แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ประเทศไทยน่าจะมีคนป่วยด้วยโรคจิตน้อยลง มิใช่เพิ่มมากขึ้น ทั้ง ๆ ที่รายได้ของคนไทยสูงขึ้นทุกปี
ในทำนองเดียวกันผู้จัดการก็น่าจะมีความสุขมากกว่าพนักงานระดับล่าง ๆ เนื่องจากมีเงินเดือนมากกว่า แต่ความจริงก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป

ไม่นานมานี้มหาเศรษฐีคนหนึ่งของไทยได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่า เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิต เขาพูดถึงตัวเองว่า "ชีวิต(ของผม)
เริ่มหมดค่าทางธุรกิจ" ลึกลงไปกว่านั้นเขายังรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความหมาย เขาเคยพูดว่า "ผมจะมีความหมายอะไร ก็เป็นแค่....มหาเศรษฐีหมื่นล้านคนหนึ่ง"
เมื่อเงินหมื่นล้านไม่ทำให้มีความสุข เขาจึงอยู่เฉยไม่ได้ ในที่สุดวิ่งเต้นจนได้เป็นรัฐมนตรี ขณะที่เศรษฐีหมื่นล้านคนอื่น ๆ ยังคงมุ่งหน้าหาเงินต่อไป
ด้วยความหวังว่าถ้าเป็นเศรษฐีแสนล้านจะมีความสุขมากกว่านี้ คำถามก็คือ เขาจะมีความสุขเพิ่มขึ้นจริงหรือ ?

คำถามข้างต้นคงมีประโยชน์ไม่มากนักสำหรับคนทั่วไป เพราะชาตินี้คงไม่มีวาสนาแม้แต่จะเป็นเศรษฐีร้อยล้านด้วยซ้ำ
แต่อย่างน้อยก็คงตอบคำถามที่อยู่ในใจของคนจำนวนไม่น้อยได้บ้างว่า ทำไมอัครมหาเศรษฐีทั้งหลาย
รวมทั้งบิล เกตส์ จึงไม่หยุดหาเงินเสียที ทั้ง ๆ ที่มีสมบัติมหาศาล ขนาดนั่งกินนอนกินไป ๗ ชาติก็ยังไม่หมด

แต่ถ้าเราอยากจะค้นพบคำตอบให้มากกว่านี้ ก็น่าจะย้อนถามตัวเองด้วยว่า ทำไมถึงไม่หยุดซื้อแผ่นซีดีเสียทีทั้ง ๆ ที่มีอยู่แล้วนับหมื่นแผ่น
ทำไมถึงไม่หยุดซื้อเสื้อผ้าเสียทีทั้ง ๆ ที่มีอยู่แล้วเกือบพันตัว ทำไมถึงไม่หยุดซื้อรองเท้าเสียทีทั้ง ๆ ที่มีอยู่แล้วนับร้อยคู่
แผ่นซีดีที่มีอยู่มากมายนั้น บางคนฟังทั้งชาติก็ยังไม่หมด ในทำนองเดียวกัน เสื้อผ้า หรือรองเท้า ที่มีอยู่มากมายนั้น
บางคนก็เอามาใส่ไม่ครบทุกตัวหรือทุกคู่ด้วยซ้ำ มีหลายตัวหลายคู่ที่ซื้อมาโดยไม่ได้ใช้เลย แต่ทำไมเราถึงยังอยากจะได้อีกไม่หยุดหย่อน

ใช่หรือไม่ว่า สิ่งที่เรามีอยู่แล้วในมือนั้นไม่ทำให้เรามีความสุขได้มากกว่าสิ่งที่ได้มาใหม่ มีเสื้อผ้าอยู่แล้วนับร้อยก็ไม่ทำให้จิตใจเบ่งบานได้เท่ากับเสืยงตัวที่ได้มาใหม่
มีซีดีอยู่แล้วนับพันก็ไม่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นได้เท่ากับซีดี ๑ แผ่นที่ได้มาใหม่ ในทำนองเดียวกันมีเงินนับร้อยล้านในธนาคารก็ไม่ทำให้รู้สึกปลาบ ปลื้มใจเท่ากับเมื่อได้มาใหม่อีก ๑ ล้าน
พูดอีกอย่างก็คือ คนเรานั้นมักมีความสุขจากการได้ มากกว่าความสุขจากการ มี มีเท่าไรก็ยังอยากจะได้มาใหม่ เพราะเรามักคิดว่าของใหม่จะให้ความสุขแก่เราได้มากกว่าสิ่งที่มีอยู่เดิม
บ่อยครั้งของที่ได้มาใหม่นั้นก็เหมือนกับของเดิมไม่ผิดเพี้ยน แต่เพียงเพราะว่ามันเป็นของใหม่ ก็ทำให้เราดีใจแล้วที่ได้มา

จะว่าไปนี่อาจเป็นสัญชาตญาณที่มีอยู่กับสัตว์หลายชนิดไม่เฉพาะแ ต่มนุษย์เท่านั้น ถ้าโยนน่องไก่ให้หมา หมาก็จะวิ่งไปคาบ
แต่ถ้าโยนน่องไก่ชิ้นใหม่ไปให้ มันจะรีบคายของเก่าและคาบชิ้นใหม่แทน ทั้ง ๆ ที่ทั้งสองชิ้นก็มีขนาดเท่ากัน ไม่ว่าหมาตัวไหนก็ตาม ของเก่าที่มีอยู่ในปากไม่น่าสนใจเท่ากับของใหม่ที่ได้มา
ถ้าหากว่าของใหม่ให้ความสุขได้มากกว่าของเก่าจริง ๆ เรื่องก็น่าจะจบลงด้วยดี แต่ปัญหาก็คือของใหม่นั้นไม่นานก็กลายเป็นของเก่า
และความสุขที่ได้มานั้นในที่สุดก็จางหายไป ผลก็คือกลับมารู้สึก "เฉย ๆ" เหมือนเดิม และดังนั้นจึงต้องไล่ล่าหาของใหม่มาอีก
เพื่อหวังจะให้มีความสุขมากกว่าเดิม แต่แล้วก็วกกลับมาสู่จุดเดิม เป็นเช่นนี้ไม่รู้จบ น่าคิดว่าชีวิตเช่นนี้จะมีความสุขจริงหรือ ?

เพราะไล่ล่าแต่ละครั้งก็ต้องเหนื่อย ไหนจะต้องขวนขวายหาเงินหาทอง ไหนจะต้องแข่งกับผู้อื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ
ครั้นได้มาแล้วก็ต้องรักษาเอาไว้ให้ได้ ไม่ให้ใครมาแย่งไป แถมยังต้องเปลืองสมองหาเรื่องใช้มันเพื่อให้รู้สึกคุ้มค่า
ยิ่งมีมากชิ้นก็ยิ่งต้องเสียเวลาในการเลือกว่าจะใช้อันไหนก่อน ทำนองเดียวกับคนที่มีเงินมาก ๆ ก็ต้องยุ่งยากกับการตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวลอนดอน นิวยอร์ค เวกัส โตเกียว มาเก๊า หรือซิดนีย์ดี

ถ้าเราเพียงแต่รู้จักแสวงหาความสุขจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว ชีวิตจะยุ่งยากน้อยลงและโปร่งเบามากขึ้น อันที่จริงความพอใจในสิ่งที่เรามีนั้นไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ที่เป็นปัญหาก็เพราะเราชอบมองออกไปนอกตัว และเอาสิ่งใหม่มาเทียบกับของที่เรามีอยู่ หาไม่ก็เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
เมื่อเห็นเขามีของใหม่ ก็อยากมีบ้าง คงไม่มีอะไรที่จะทำให้เราทุกข์ได้บ่อยครั้งเท่ากับการชอบเปรียบ เทียบตัวเองกับคนอื่น การเปรียบเทียบจึงเป็นหนทางลัดไปสู่ความทุกข์ที่ใคร ๆ ก็นิยมใช้กัน
นิสัยชอบเปรียบเทียบกับคนอื่น ทำให้เราไม่เคยมีความพอใจในสิ่งที่ตนมีเสียที แม้จะมีหน้าตาดี ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่สวย เพราะไปเปรียบเทียบตัวเองกับดาราหรือพรีเซนเตอร์ในหนังโฆษณา

การมองแบบนี้ทำให้ "ขาดทุน" สองสถาน คือนอกจากจะไม่มีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่แล้ว ยังเป็นทุกข์เพราะไม่ได้สิ่งที่อยาก พูดอีกอย่างคือไม่มีความสุขกับปัจจุบัน
แถมยังเป็นทุกข์เพราะอนาคตที่พึงปรารถนายังมาไม่ถึง ไม่มีอะไรที่เป็นอุทธาหรณ์สอนใจได้ดีเท่ากับนิทานอีสปเรื่องหมา คาบเนื้อ คงจำได้ว่า มีหมาตัวหนึ่งได้เนื้อชิ้นใหญ่มา
ขณะที่กำลังเดินข้ามสะพาน มันมองลงมาที่ลำธาร เห็นเงาของหมาตัวหนึ่ง (ซึ่งก็คือตัวมันเอง) กำลังคาบเนื้อชิ้นใหญ่ เนื้อชิ้นนั้นดูใหญ่กว่าชิ้นที่มันกำลังคาบเสียอีก
ด้วยความโลภ (และหลง) มันจึงคายเนื้อที่คาบอยู่ เพื่อจะไปคาบชิ้นเนื้อที่เห็นในน้ำ ผลก็คือเมื่อเนื้อตกน้ำ ชิ้นเนื้อในน้ำก็หายไป มันจึงสูญทั้งเนื้อที่คาบอยู่และเนื้อที่เห็นในน้ำ

บ่อเกิดแห่งความสุขมีอยู่กับเราทุกคนในขณะนี้อยู่แล้ว เพียงแต่เรามองข้ามไปหรือไม่รู้จักใช้เท่านั้น เมื่อใดที่เรามีความทุกข์ แทนที่จะมองหาสิ่งนอกตัว
ลองพิจารณาสิ่งที่เรามีอยู่และเป็นอยู่ ไม่ว่า มิตรภาพ ครอบครัว สุขภาพ ทรัพย์สิน รวมทั้งจิตใจของเรา ล้วนสามารถบันดาลความสุขให้แก่เราได้ทั้งนั้น
ขอเพียงแต่เรารู้จักชื่นชม รู้จักมอง และจัดการอย่างถูกต้องเท่านั้น

แทนที่จะแสวงหาแต่ความสุขจากการได้ ลองหันมาแสวงหาความสุขจากการ มี หรือจากสิ่งที่ มี ขั้นต่อไปคือการแสวงหาความสุขจากการให้
กล่าวคือยิ่งให้ความสุข ก็ยิ่งได้รับความสุข สุขเพราะเห็นน้ำตาของผู้อื่นเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม และสุขเพราะภาคภูมิใจที่ได้ทำความดีและทำให้ชีวิตมีความหมาย
จากจุดนั้นแหละก็ไม่ยากที่เราจะค้นพบความสุขจากการ ไม่มี นั่นคือสุขจากการปล่อยวาง ไม่ยึดถือในสิ่งที่มี และเพราะเหตุนั้น แม้ไม่มีหรือสูญเสียไป ก็ยังเป็นสุขอยู่ได้
เกิดมาทั้งที น่าจะมีโอกาสได้สัมผัสกับความสุขจากการ ให้ และ การ ไม่มี เพราะนั่นคือสุขที่สงบเย็นและยั่งยืนอย่างแท้จริง

...........................
หัวข้อ: Re: พุทธธรรมนำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: jinn ที่ 14 มิถุนายน 2013, 11:20:41 PM
(http://www.mediabistro.com/galleycat/files/2013/01/tumblr_inline_mh7e2j6XHv1qz4rgp.jpg)

"ถ้าคุณไม่อยากให้ใครสักคนไร้สุข
ก็อย่าให้เขาเห็นปัญหาสองด้าน
เขาจะกังวลให้เห็นแค่ด้านเดียวพอ
หรือถ้าจะให้ดีไม่ต้องให้เห็นเลยสักด้าน...
ยัดเยียด ?ข้อเท็จจริง?เข้าไป ให้พวกเขารู้สึกอิ่มพุงกาง
คิดว่าตัวเองหลักแหลม จะได้รู้สึกว่ากำลังคิดอยู่
กำลังเคลื่อนไหวอยู่ทั้งๆ ที่ไม่ได้ขยับ"

เรย์ แบรดเบอรี่
หัวข้อ: Re: พุทธธรรมนำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: track ที่ 16 มิถุนายน 2013, 08:34:49 AM
วันนี้ผมขออนุญาต เอาลิ้งค์เวปกัลยาณธรรมมาฝากทุกท่านครับ ผมเข้าไปอ่านในเวป ไปโหลดหนังสือ มาอ่านหลายเล่มละ พบว่าเท่าที่ผมอ่าน ผู้เขียนแต่ละท่าน เขียนจากประสพการณ์จริงจากการปฏิบัติ ไม่ใช่เขียนจากตำรา ใช้จิตเราสัมผัสได้เลย ว่านี่ละของจริง เยี่ยมมากเลย

http://kanlayanatam.com/tammabook_1.htm



พอดี ช่วงสองสามปีหลังๆมานี่ ผมรู้สึกว่าหาความต้องการในชีวิตไม่ค่อยเจอ มีความอยาก มีความต้องการมากมาย ได้เล่นได้ลองได้สัมผัสสิ่งต่างๆ ที่มีความอยากไปแล้วหลายๆอย่าง ทั้งความเจริญในหน้าที่การงานก็พอควร

ได้ลองเล่นกิจกรรมหลายๆอย่าง MTB, Golf ,ของเล่นพวก วิทยุบังคับ ลองมาหมด เครื่องเสียง ,หนัง High definition ,งานDIY อื่นๆ

ก็พบว่าทั้งหลายทั้งปวง ก็แก้ความอยากได้ในระดับนึง ทำไปสักพักก็เบื่อ ก็แสวงหาอย่างอื่นมาชดเชยอีกเรื่อยๆ ก็ว่ายังค้นไม่พบสิ่งที่ต้องการจริงๆในชีวิตสักที

แล้วก็มาพบว่าธรรมะ อาจจะเป็นสิ่งที่ผมอาจแสวงหามาตลอดก็ได้

หัวข้อ: Re: พุทธธรรมนำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: jinn ที่ 21 มิถุนายน 2013, 09:54:46 AM
พอดี...ตอนนี้กำลังเรียนอยู่...อีกไม่กี่เดือนก็จะจบแล้ว....ครับ

แวะมาแนะนำให้ลองไปเรียน... ดูครับ ดีมาก...มาก....เลยครับ

.......................................................

หลักสูตรครูสมาธิ สถาบันพลังจิตตานุภาพ

Willpower Institute (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/60526_252829711528166_2058241831_n.jpg)

สถาบันพลังจิตตานุภาพก่อตั้งโดยพระเดชพระคุณพระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์  สิรินฺธโร)

มีจุดประสงค์ในการเผยแผ่สมาธิ เพื่อเพิ่มพลังจิตแก่ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ
โดยท่านคำนึงว่า ?ชาวโลกได้พัฒนาก้าวไปไกลถึงยุคโลกาภิวัฒน์ เขาได้ลงทุนสร้างวัตถุต่าง ๆ
ทั้งแหล่งบันเทิงเริงรมย์ ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกสบายทั้งหลาย ทั้งที่อยู่อาศัย ทั้งรถยนต์ เรือยนต์ เครื่องบิน ยานอวกาศ
สามารถย่นระยะทางไกลให้ใกล้ ไปมาได้ง่าย ทั้งโทรทัศน์ โทรศัพท์ โทรสาร คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เนท และอีเมล
ก็ย่นระยะการติดต่อสื่อสาร กันได้อย่างสบาย ทั้งหมดเป็นเงินเป็นหมื่นล้านแสนล้าน เขาก็ยังลงทุนกันได้
แล้วทำไมเราจะลงทุนสร้างนครธรรมให้ทันสมัยด้วยไฮเทคต่าง ๆ เพื่อย่นระยะการศึกษาและปฏิบัติธรรมะบ้างมิได้หรือ??

ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้สร้างนครธรรมและเปิดสอนสมาธิให้กับประชาชนเพื่อย่นระยะการศึกษาและปฏิบัติธรรมะ
โดยสร้างเป็นสถาบันพลังจิตตานุภาพจัดทำหลักสูตรครูสมาธิขึ้นเพื่อสอนสมาธิระยะเวลา ๖ เดือน
หลักสูตรครูสมาธิเป็นหลักสูตรที่สอนสมาธิให้กับประชาชนเพื่อสามารถที่จะเป็นครูสอนสมาธิได้
ตามหลักการของพระเดชพระคุณพระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์  สิรินฺธโร)
ซึ่งเริ่มเปิดดำเนินการเรียนการสอนมาตั้งแต่วันที่ ๒๔? กรกฎาคม ๒๕๔๐
ใช้ระยะเวลาในการเรียน ๖ ?เดือน (หลักสูตร ๒๐๐? ชั่วโมง)
ในแต่ละหลักสูตรแบ่งออกเป็น ๓? เทอม ๆ ละ ๔๐ วัน เรียนทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฎิบัติ
พร้อมทั้งนำไปสอบปฏิบัติภาคสนาม ณ ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่เป็นเวลา ๔ วัน ๓ คืน
จึงจะจบหลักสูตรครูสมาธิและจัดพิธีมอบใบประกาศนียบัตร

รายนามสาขาต่างๆ มีดังต่อไปนี้ครับ...

สำนักงานใหญ่วัดธรรมมงคล  สุขุมวิท 101(ปุณณวิถี 20) โทร : 02-311-1387 , 02-311-3903 (จันทร์-ศุกร์ / เสาร์ -อาทิตย์)

1. บ้านอาจารย์อำนวย  สุวรรณคีรี ซ.นวมินทร์51 บางกะปิ กรุงเทพมหานคร  โทร : 02-736-7781-2 , 087-980-6377 (จันทร์-ศุกร์)

2. วัดพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ ถ.พระราม2 กรุงเทพมหานคร  โทร : 02-874-8108 , 081-651-4237 , 085-561-6868 , 087-909-7510 (เสาร์-อาทิตย์)

4. วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) ถ.พหลโยธิน ซ.เสนานิคม1 แยกวังหิน/ลาดพร้าวโชคชัย4 กรุงเทพมหานคร

โทร : 02-570-8281 , 081-910-5996 (จันทร์-ศุกร์ / เสาร์ -อาทิตย์)

5. หาดใหญ่ ถ.บุญตรัตน์ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  โทร : 087-291-1177 , 081-368-0566 (เสาร์-อาทิตย์)

6. วัดบางโฉลงใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ  โทร : 081-371-2130 , 081-913-2794 (เสาร์-อาทิตย์)

7. มหาวิทยาลัยเนชั่น อ.เมือง จ.ลำปาง  โทร : 081-716-5842 , 054-265-170 ต่อ 145 (วิทันตสาสมาธิ)

8. อาคารไอทาวเวอร์ ถ.วิภาวดี-รังสิต ใกล้ตึกฐานเศรษฐกิจ(พหลโยธิน19)กรุงเทพมหานคร  โทร : 02-554-9000 , 089-201-5465 (จันทร์-ศุกร์)

9. บ้านบรรณรุจิ มบ.พนักงานธนาคารทหารไทย ซ.ทิมแลนด์ ถ.งามวงศ์วาน กรุงเทพมหานคร  โทร : 02-580-4700 , 089-665-2323 (เสาร์-อาทิตย์)

10. วัดผ่องพลอยวิริยาราม ถ.สุขุมวิท105 ซ.ลาซาล กรุงเทพมหานคร  โทร : 081-558-8017 (เสาร์-อาทิตย์)

14. บ้านปิยะธรรม ซ.อ่อนนุช10 (สุขุมวิท81) สวนหลวง กรุงเทพมหานคร  โทร : 02-332-5827 , 081-822-2335 , 089-665-4242 (จันทร์-ศุกร์)

15. ศูนย์นำชัย 145 ถ.พังงา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต  โทร : 076-217-321 , 081-676-7758 (จันทร์-ศุกร์)

17. วัดป่าหลวง ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี  โทร : 081-708-0069,081-6016543 (เสาร์-อาทิตย์)

18. วัดเขาเต่า หัวหิน ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์  โทร : 081-445-3305 , 083-180-8513  (เสาร์-อาทิตย์)

19. วัดแหลมทอง ถ.สุขุมวิท อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี  โทร : 089-823-3889 , 02-311-1387  (เสาร์-อาทิตย์)

20. ศูนย์สมาธิพระยาวิสูตรโกษา ถ.ตรีรัตน์ อ.เมือง จ.จันทบุรี  โทร : 081-806-5030  (เสาร์-อาทิตย์)

22.?วัดเชตวัน อ.เมือง จ.ลำปาง  โทร : 089-501-4841 (เสาร์-อาทิตย์)

23. วัดเม็งรายมหาราช (ฮ่องลี่) ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย  โทร : 081-783-2331 , 081-810-8961 (เสาร์-อาทิตย์)

24. บ้านศรีสุกรี(หางดง) ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่  โทร : 089-798-4608,089-433-0130 (จันทร์-ศุกร์ ,เสาร์-อาทิตย์)

25. มูลนิธิรวมใจเผยแผ่ธรรมะ ถ.สุขุมวิท71 ซ.ปรีดีพนมยงค์46 กรุงเทพฯ โทร.02-391-3565-6ต่อ 113,02-391-8069,083-841-8735(จันทร์-ศุกร์)

26. พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 41 ถ.พระอาทิตย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  โทร : 02-282-2888 , 089-153-4566 (เสาร์-อาทิตย์)

27. วัดรัตนวนาราม อ.เมือง จ.พะเยา  โทร : 084-805-5241 , 081-781-3536 (เสาร์-อาทิตย์)

28. มูลนิธิส่งเสริมการบริหารจิต ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ถ.พระราม9(ใกล้วัดพระราม9)กรุงเทพมหานคร  โทร : 089-897-3776,02-719-7676 (จันทร์-ศุกร์)

29. วัดสุทธจินดา อ.เมือง จ.นครราชสีมา(ใกล้อนุสาวรีย์ย่าโม)  โทร : 081-846-0513,089-200-2129,083-8092112 (เสาร์-อาทิตย์)

30. โรงเรียนวชิรมกุฏ ถ.กรุงเกษม บางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  โทร : 089-996-0390,085-145-2590 (จันทร์-ศุกร์)

31. วัดศรีจันทร์  อ.เมือง จ.ขอนแก่น  โทร : 084-428-1395 (เสาร์-อาทิตย์)

32. วัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวง ถ.เพาะนิยม ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี  โทร : 081-260-0948 (จันทร์-ศุกร์)

33. มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ 19/1 ถ.เพชรเกษม หนองแขม กรุงเทพมหานคร  โทร : 02-807-4582,089-992-6816 (เสาร์-อาทิตย์)

34. สถาบันพระปกเกล้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ80 พรรษา อาคารบี ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร  โทร : 02-141-9641 , 02-141-9523 (จันทร์-พุธ หลักสูตรวิทันตสาสมาธิ)

35. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ถ.พิบูลย์สงคราม วงศ์สว่าง บางซื่อ กรุงเทพมหานคร  (หลักสูตรวิทันตสาสมาธิ) โทร.081-910-5996

36. วัดป่าท่าทราย อ.ท่าจีน จ.สมุทรสาคร โทร.089-837-6415,081-651-4237,02-874-8108  (เสาร์-อาทิตย์)

37. อนุบาลพุทธชาด ถ.ศรีไทย มบ.สหกรณ์ ซ.21 บางกะปิ กรุงเทพมหานคร โทร.089-0055599,02-379-7239,081-847-0337  (เสาร์-อาทิตย์)

38. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จ.สงขลา (วิทันตสาสมาธิ)

39. คณะนิติศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โทร.085-122-3803 (วิทันตสาสมาธิ)

40. วัดตรีรัตนาราม จ.ระยอง โทร.086-607-3399,088-194-9293 (เสาร์-อาทิตย์)

41. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล สุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โทร.081-841-5236 (วิทันตสาสมาธิ)

42. วัดบ้านคุ้มจัดสรรค์ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น โทร.082-106-8651,081-662-7880  (เสาร์-อาทิตย์)

43. วัดจันทรสามัคคี อ.เมือง จ.หนองคาย โทร.089-7122424,081-7897397,085-0005449,081-6624495 (เสาร์-อาทิตย์)

44. วัดสุปัฏนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โทร. 087-453-2095,084-958-1984,080-073-7994 (เสาร์-อาทิตย์)

45. วัดดอนขวาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา (ชินนสาสมาธิ)

46. วี เอส เคม ถ.พระราม รองเมือง(ยศเส อาคารศรีจุลทรัพย์ ติด ธ.กรุงไทย(เข้าซอย 100 ม.)) โทร.081-612-0775 (เสาร์-อาทิตย์)

47. บริษัท ซิฟโก้ ถ.รามอินทรา ซอย 109 คลองพระยาสุเรนทร์ โทร. 02-919-0090 ต่อ 203,220,100

48. วัดป่าสว่างอารมณ์ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โทร. 086-253-1899 (เสาร์-อาทิตย์)

49. วุฒิสภา (วิทันตสาสมาธิ)

50. ที่ 50/1 จ.ยะลา โทร. 087-291-1177

51. วัดยาง อ.เมือง จ.เพชรบุรี โทร. 081-721-1724 (เสาร์-อาทิตย์)

52. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โทร. 02-919-0090 ต่อ 203  (จันทร์-ศุกร์)

53. วัดห้วยจรเข้ ต.นครปฐม จ.นครปฐม โทร. 081-699-5917,086-699-2848,089-987-5702 (เสาร์-อาทิตย์)

54. วัดศรีสวัสดิ์ อ.เมือง จ.มหาสารคาม โทร. 089-5777242  (เสาร์-อาทิตย์)

55. บ้านภูภาบุรี อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี โทร. 086-655-9958  (เสาร์-อาทิตย์)

56. อาคารแกรนด์คอนโดทาวน์ จ.ชลบุรี โทร. 085-945-1198  (เสาร์-อาทิตย์)

57. อาคารพัฒนาชุมชน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โทร. 082-453-9545,081-835-7196 (เสาร์-อาทิตย์)

58. วัดศิริกาญจนาราม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โทร. 089-1226292  (เสาร์-อาทิตย์)

59. วัดเกตุการาม อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม โทร.083-292-8292  (เสาร์-อาทิตย์)

60. วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการศรีอยุธยา อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา โทร. 081-612-0775,086-618-4539,089-9453232  (เสาร์-อาทิตย์)

61. วัดป่านิคมพัฒนาราม จ.ยโสธร โทร.086-246-4140  (เสาร์-อาทิตย์)

62. วิทยาลัยชุมชนสตูล จ.สตูล โทร.081-096-2922  (เสาร์-อาทิตย์)

65. วัดอมรินทราราม จ.ราชบุรี โทร.089-204-1246,084-924-3436,081-491-3598 (เสาร์-อาทิตย์)

67.วัดป่าเทพเนรมิต จ.ลพบุรี โทร.089-402-1631,085-834-3355,080-568-2229 (เสาร์-อาทิตย์)

73. วัดพระงาม  อ.เมือง จ.ตรัง โทร.081-636-1466 , 089 -731- 6828 (เสาร์-อาทิตย์)

ท่านใดที่ดูแล้วเกิดความสนใจอยากจะศึกษาหลักสูตรสมาธิ  

ตามแนวทางของพระเดชพระคุณพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์  สิรินฺธโร

ก็สามารถสอบถามที่สาขาใกล้บ้านได้เลยครับ... ( ไม่มีค่าใช้จ่าย.... สบายใจได้)
หัวข้อ: Re: พุทธธรรมนำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: akradech ที่ 21 มิถุนายน 2013, 11:10:58 AM
19. วัดแหลมทอง ถ.สุขุมวิท อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี  โทร : 089-823-3889 , 02-311-1387  (เสาร์-อาทิตย์)

ใกล้บ้านผมเลยครับ  [smile-watermelon]
หัวข้อ: Re: พุทธธรรมนำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: jinn ที่ 21 มิถุนายน 2013, 12:11:46 PM
พระธรรมเทศนา โดยพระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

เรื่องสติกับสมาธิ วันจันทร์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ณ วัดราชธรรมวิริยาราม 3 เมืองแอดแมนตัน รัฐอัลเบอร์ต้า ประเทศแคนาดา

http://www.youtube.com/watch?v=fogAkSqmPq4
หัวข้อ: Re: พุทธธรรมนำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: jinn ที่ 03 กรกฎาคม 2013, 12:44:53 PM
(http://sphotos-b.xx.fbcdn.net/hphotos-ash4/s480x480/199218_437415072963982_1696009825_n.jpg)

เสวนาธรรม "ชีวิตแท้ งามงดและสดชื่น"

http://www.youtube.com/watch?v=owLT9QznF60

........................................
หัวข้อ: Re: พุทธธรรมนำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: jinn ที่ 19 กรกฎาคม 2013, 08:40:56 PM
ปัญญา 3 ฐาน

ณ มหาวิทยาลัยหอการค้า บรรยายโดย ดร.วรภัทร ภู่เจริญ

http://www.youtube.com/watch?v=05wkSlleDvk
หัวข้อ: Re: พุทธธรรมนำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: LAK Klongklue ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2014, 11:04:34 AM
วันนี้เป็นวันเกิดของเทวดาผู้พิทักษ์ทรัพย์.60ปีจะวนมาครั้งหนึ่ง
ผู้ที่ได้อ่านข้อความนี้จะได้พบโชคลาภเงินทองใหลมาเทมา
เเละที่สำคัญคือไม่เทไป ปีนี้เป็นปีแห่งโชคลาภและเงินทอง
ดูเดือนที่3 จะพบว่ามีวันศุกร์5วัน. วันเสาร์5วัน. วันอาทิตย์5วัน.
ปรากฏการนี้จะเวียนมาทุกๆ823ปี จึงเรียกว่าเป็นปีถุงเงิน
(เป็นการคำนวณปฏิธินโดยโรงเรียนสอนฮวงจุ้ยของประเทศจีน.)
ผู้ใดได้อ่านข้อความนี้ภายใน4วันท่านจะได้โชคลาภ หรือส่งต่อ
ให้เพื่อนๆที่ท่านปรารถนาดีเพื่อนท่านก็จะได้โชคลาภเช่นกัน
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่.
                          [thanks-raccoon] [thanks-raccoon] [thanks-raccoon]
ผมส่งต่อให้กับเพื่อนๆได้อ่านจะได้รับโชคลาถได้โดยทั่วถึงกัน [smile-12] [YL76]
หัวข้อ: Re: พุทธธรรมนำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: dowson ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2014, 11:08:08 AM
วันนี้เป็นวันเกิดของเทวดาผู้พิทักษ์ทรัพย์.60ปีจะวนมาครั้งหนึ่ง
ผู้ที่ได้อ่านข้อความนี้จะได้พบโชคลาภเงินทองใหลมาเทมา
เเละที่สำคัญคือไม่เทไป ปีนี้เป็นปีแห่งโชคลาภและเงินทอง
ดูเดือนที่3 จะพบว่ามีวันศุกร์5วัน. วันเสาร์5วัน. วันอาทิตย์5วัน.
ปรากฏการนี้จะเวียนมาทุกๆ823ปี จึงเรียกว่าเป็นปีถุงเงิน
(เป็นการคำนวณปฏิธินโดยโรงเรียนสอนฮวงจุ้ยของประเทศจีน.)
ผู้ใดได้อ่านข้อความนี้ภายใน4วันท่านจะได้โชคลาภ หรือส่งต่อ
ให้เพื่อนๆที่ท่านปรารถนาดีเพื่อนท่านก็จะได้โชคลาภเช่นกัน
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่.
                          [thanks-raccoon] [thanks-raccoon] [thanks-raccoon]
ผมส่งต่อให้กับเพื่อนๆได้อ่านจะได้รับโชคลาถได้โดยทั่วถึงกัน [smile-12] [YL76]

 [thank-you]
ขอบคุณมากครับ ...ได้อ่านแล้วครับ รอลุ้นโชคลาภงวดวันที่16นี้ สาธุๆๆ
หัวข้อ: Re: พุทธธรรมนำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: CreÃte_Lek ♫ ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2014, 11:16:11 AM
วันนี้เป็นวันเกิดของเทวดาผู้พิทักษ์ทรัพย์.60ปีจะวนมาครั้งหนึ่ง
ผู้ที่ได้อ่านข้อความนี้จะได้พบโชคลาภเงินทองใหลมาเทมา
เเละที่สำคัญคือไม่เทไป ปีนี้เป็นปีแห่งโชคลาภและเงินทอง
ดูเดือนที่3 จะพบว่ามีวันศุกร์5วัน. วันเสาร์5วัน. วันอาทิตย์5วัน.
ปรากฏการนี้จะเวียนมาทุกๆ823ปี จึงเรียกว่าเป็นปีถุงเงิน
(เป็นการคำนวณปฏิธินโดยโรงเรียนสอนฮวงจุ้ยของประเทศจีน.)
ผู้ใดได้อ่านข้อความนี้ภายใน4วันท่านจะได้โชคลาภ หรือส่งต่อ
ให้เพื่อนๆที่ท่านปรารถนาดีเพื่อนท่านก็จะได้โชคลาภเช่นกัน
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่.
                          [thanks-raccoon] [thanks-raccoon] [thanks-raccoon]
ผมส่งต่อให้กับเพื่อนๆได้อ่านจะได้รับโชคลาถได้โดยทั่วถึงกัน [smile-12] [YL76]
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: พุทธธรรมนำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: ton taopoon ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2014, 11:21:50 AM
อ่านแล้วครับลุงเล็ก สาธุ ....ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: พุทธธรรมนำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: samud ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2014, 12:02:27 PM
ดูปฏิทินแล้ว เดือน 3 มีนาคม วันเสาร์มี  5 วัน วันอาทิตย์ มี 5 วัน  วันจันทร์ มี 5 วัน แต่วันศุกร์มี 4 วันครับ
หัวข้อ: Re: พุทธธรรมนำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: johnney_chivas ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2014, 01:12:11 PM
วันนี้เป็นวันเกิดของเทวดาผู้พิทักษ์ทรัพย์.60ปีจะวนมาครั้งหนึ่ง
ผู้ที่ได้อ่านข้อความนี้จะได้พบโชคลาภเงินทองใหลมาเทมา
เเละที่สำคัญคือไม่เทไป ปีนี้เป็นปีแห่งโชคลาภและเงินทอง
ดูเดือนที่3 จะพบว่ามีวันศุกร์5วัน. วันเสาร์5วัน. วันอาทิตย์5วัน.
ปรากฏการนี้จะเวียนมาทุกๆ823ปี จึงเรียกว่าเป็นปีถุงเงิน
(เป็นการคำนวณปฏิธินโดยโรงเรียนสอนฮวงจุ้ยของประเทศจีน.)
ผู้ใดได้อ่านข้อความนี้ภายใน4วันท่านจะได้โชคลาภ หรือส่งต่อ
ให้เพื่อนๆที่ท่านปรารถนาดีเพื่อนท่านก็จะได้โชคลาภเช่นกัน
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่.
                          [thanks-raccoon] [thanks-raccoon] [thanks-raccoon]
ผมส่งต่อให้กับเพื่อนๆได้อ่านจะได้รับโชคลาถได้โดยทั่วถึงกัน [smile-12] [YL76]
วันนี้เป็นวันเกิดของเทวดาผู้พิทักษ์ทรัพย์.60ปีจะวนมาครั้งหนึ่ง
ผู้ที่ได้อ่านข้อความนี้จะได้พบโชคลาภเงินทองใหลมาเทมา
เเละที่สำคัญคือไม่เทไป ปีนี้เป็นปีแห่งโชคลาภและเงินทอง
ดูเดือนที่3 จะพบว่ามีวันศุกร์5วัน. วันเสาร์5วัน. วันอาทิตย์5วัน.
ปรากฏการนี้จะเวียนมาทุกๆ823ปี จึงเรียกว่าเป็นปีถุงเงิน
(เป็นการคำนวณปฏิธินโดยโรงเรียนสอนฮวงจุ้ยของประเทศจีน.)
ผู้ใดได้อ่านข้อความนี้ภายใน4วันท่านจะได้โชคลาภ หรือส่งต่อ
ให้เพื่อนๆที่ท่านปรารถนาดีเพื่อนท่านก็จะได้โชคลาภเช่นกัน
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่.
                          [thanks-raccoon] [thanks-raccoon] [thanks-raccoon]
ผมส่งต่อให้กับเพื่อนๆได้อ่านจะได้รับโชคลาถได้โดยทั่วถึงกัน [smile-12] [YL76]

ขอให้ร่ำรวยกันตลอดไปครับ....
หัวข้อ: Re: พุทธธรรมนำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: LAK Klongklue ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2014, 11:32:45 PM
 
ดูปฏิทินแล้ว เดือน 3 มีนาคม วันเสาร์มี  5 วัน วันอาทิตย์ มี 5 วัน  วันจันทร์ มี 5 วัน แต่วันศุกร์มี 4 วันครับ
ข้อความคงจะคัดลอกและบอกต่อๆกันมาก็เลยมีผิดได้ครับ ที่ถูกคงจะเป็นวันที่น้าว่าครับ
แต่ไม่เป็นไรครับขอให้เราได้รับรู้และได้อ่านหรือบอกต่อก็พอครับ ส่วนผลจะให้ผลเป็นเช่นไร
จะมาช้าหรือมาเร็วเราไม่ต้องพะวง ขอให้เราทำแล้วสบายใจก็เพียงพอแล้วครับ
ขอบคุณมากครับ [smile-watermelon]
หัวข้อ: Re: พุทธธรรมนำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: LAK Klongklue ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014, 12:32:25 AM
.