ขอตัดเอา ประวัติ ?หลวงพ่อในกุฏิ" วัดกุยบุรี มาให้ฟังซักส่วนเล็ก ๆ นะคับ
หลวงพ่อเมื่อคราวท่านว่างจากภารกิจต่างๆ ของวัดแล้ว ท่านจะต้องบำเพ็ญภาวนาของท่านอยู่เป็นประจำ เล่ากันว่าบางครั้งท่านจะเข้าสมาธิเจริญวิปัสสนาอยู่แต่ในกุฏิของท่าน ตลอด ๗ วันบ้าง ๑๕ วันบ้าง โดยท่านจะไม่ลุกและออกจากกุฏิของท่านไปไหนเลย ด้วยเหตุอันนี้เอง จึงได้มีคำเรียกท่านอีกคำหนึ่งว่า ?หลวงพ่อในกุฏิ? คำที่เรียกว่าหลวงพ่อในกุฏินั้น ก็มาจากสาเหตุที่ ท่านนั่งสมาธิแล้วไม่ออกจากกุฏิ ของท่านไปไหน ชาวบ้าน จึงเรียกท่านอย่างนั้นเรื่อยมาตลอด คำว่าหลวงพ่อมากหรือบุญมากตามชื่อเดิมของท่าน จึงได้เลือนหายไป นิยมแต่คำว่าหลวงพ่อในกุฏิกันเท่านั้นจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
ในสมัยหนึ่ง คนเฒ่าคนแก่เล่ากันมาว่า ครั้งหนึ่งที่เมืองกุยบุรีนี้ได้มีโรคระบาดเกิดขึ้นอย่างร้ายแรง ผู้คนล้มตายกันเป็นจำนวนมาก ในสมัยก่อนเรียกกันว่าโรคห่าลง ปัจจุบันก็คืออหิวาตกโรคนั่นเอง ล้มตายกันจนใบไม้เหลือง คำว่าใบไม้เหลืองนั้นก็คือ คนโบราณเมื่อมีคนตายแล้ว จะต้องนำไปฝังไว้ในป่าช้า แล้วตัดต้นไม้หรือกิ่งไม้ปักไว้ที่หลุมฝังศพเพื่อเป็นเครื่องหมายพอจำได้ ประชาชนตายเช้าตายเย็นกันทุกวัน หลวงพ่อท่านก็ได้พยายามช่วยอนุเคราะห์ด้วยการแผ่เมตตาจิต และเจริญพระพุทธมนต์ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อขับไล่เสนียดจัญไร พร้อมทั้งได้ใช้เวทมนต์คาถาอาคมทางไสยศาสตร์ ช่วยปัดเป่าให้ชาวกุยบุรีได้ผ่อนคลายและผ่านพ้นจากทุกข์ภัยและมรณภัยไปได้ เป็นอย่างมาก
หลวงพ่อในกุฏิท่านเป็นผู้เคร่งครัดในด้านวิปัสสนา กัมมัฏ ฐาน และชำนิชำนาญคล่องแคล่วทางด้านไสยศาสตร์ พร้อมทั้งเป็นผู้มีเมตตาจิตอย่างสูง ทั้งเป็นผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย คือเมื่อพูดคำใดแล้วจะต้องเป็นอย่างนั้น เมื่อเป็นดังนี้ชาวเมืองกุยบุรี เมืองคลองวาฬ เมืองปราณ ตลอดถึงเมืองใกล้เคียง จึงได้ศรัทธาเลื่อมใสในบุญบารมีเป็นอันมาก เมื่อใดได้รับความทุกข์ก็จะต้องหาโอกาสมาบนบานศาลกล่าว ขอให้ช่วยปัดเป่าให้ผ่อนคลายหายจากทุกข์นั้นๆ ครั้นเมื่อได้รับความสำเร็จแล้ว หรือสมความปรารถนาจากที่ตนได้บอกกล่าวต่อหลวงพ่อไว้แล้ว ก็จะต้องมานมัสการ และปิดทองที่ตัวท่านเป็นจำนวนมาก จนไม่สามารถที่จะปฏิเสธในการที่ได้บนบาน ของผู้ที่ศรัทธาเลื่อมใสได้ จึงจำต้องยอมให้เขาเหล่านั้นปิดทอง ตามที่เขาได้บนบานเอาไว้ เล่ากันว่าหลวงพ่อท่านต้องถูกปิดทองทั้งเป็น คือปิดตั้งแต่หัวเข่าของท่านลงไปจนถึง ปลายเท้าทั้งสองข้าง ในเรื่องไสยศาสตร์เวทมนตร์คาถานั้นนับว่า หลวงพ่อเป็นผู้มีอาคมขลัง และศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษองค์หนึ่ง