หรือบางที่ต้องเอามาให้ผมลองเองเพราะว่าลำโพง ของเราไม่เหมือนกันครับ คนละแนวเสียงเลยครับ คงเอามาตามวงจรก่อนก็ได้ครับ
เพราะถ้าปรับมาอย่างดีเลย มาเจอลำโพงผมเข้าไปอาจจะไม่เข้ากันครับ เหมือน dac ผมไปฟังกับ psb b1 กับ ลำโพง ผมมันคนละแบบเลยครับ
และผมอาจจะเล่นลำโพงตัวใหม่ ก็ยิ่งอาจจะไม่เข้ากันไปอีกครับ ปรับเอาแค่คุณรุ่งฟังแล้วไม่เครียดก็พอครับ
ขออย่างครับคุณรุ่ง ถ่ายๆตรงแอมป์มาด้วยนะครับ เอาแบบใกล้ๆ เพราะไปรับปากเข้าไว้ครับ และเขาก็ส่ง pcb โวลุ่มแถมมาให้ด้วยแล้วครับ
ขอเป็นปากเป็นเสียงแทน PSB B1 หน่อยนะ [roll]
การฟังแบบ A-B Test
แบบที่ 1
Marantz SA7003 SACD ใช้ทำหน้าที่เป็น Transport + DAC + Pre 6DJ8 + LM1875 Amp. + PSB B1
เสียงที่ฟังในลักษณะัการต่ออย่างนี้ เสียงกลางละเมียด เนียนหู แต่ปลายแหลมไม่เปิดโปร่งเท่าใดนัก
นั่นจึงเป็นคำพูดของผมว่า "ฟ้าหม่น" หมายถึงเสียง ที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกบาง ๆ แดดไม่จัด
จึงทำให้ฟ้าดูครึ้มฟ้า แต่ไม่ใช้ครึ้มฝน ฟังเพลงจำพวก Easy Listening Music เข้าท่าดี
แต่ถ้าเอาไปฟังเพลง Jazz ที่ใช้เครื่องดนดรี จำพวกเครื่องเป่าทองเหลือง
ความรู้สึกประมาณว่าอยากให้เพิ่มประกายย่านแหลมขึ้นมาอีกนิด
การต่อแบบนี้ โดยรวมจะเหมาะกับการฟังเพลงร้องเสียมากกว่า
แบบที่ 2
ใช้ Marantz SA7003 SACD เป็น Front-End + Pre 6DJ8 + LM1875 Amp. + PSB B1
ซึ่งได้ตัด DAC ออกไป เพื่อจะได้เทียบเคียงว่า D-A Converter ใน SACD กับ DAC มีผลต่อเสียงไปทางใด
เสียงที่ได้ฟังกับการต่ออย่างนี้
เหมือนกับ "ฟ้าเปิด" ท้องฟ้าใส ไม่มีเมฆหมอก มาปกคลุม ย่านปลายแหลมใส โปร่ง
ด้วยความใส ผนวกกับความเคยชินที่ฟังแบบฟ้าหม่น เมื่อฟังอย่างนี้ในครั้งแรก อาจจะไม่คุ้นเคย
จึงบอกว่าสดไป เหมือนกับว่าแดดแรง
ทั้งหมดที่ผมกล่าวมานี้ ผมไม่ได้บอกว่าเสียงแบบไหนดีกว่ากัน เพราะนั่นคือความชอบของส่วนบุคคล
ที่ผมกำลังจะบอกว่า คนเรามักมีความชอบไม่เหมือนกัน จะให้ชอบของในสิ่งเดียวกันเหมือน ๆ กันได้เช่นไร
แต่ที่ผมร่ายยาวมานี้ เพียงที่อยากจะบอกว่า PSB B1 เขาได้ทำหน้าที่ของเขาอย่างเต็มที่แล้วครับ
ประการสุดท้าย
เสียงที่เราชอบ เราต้องฟังเอง
หากคุณรุ่งชอบในลักษณะเดียวกับนายอัลกอฮอล์
แล้วใครล่ะที่จะต้องเจ็บใจ
ได้แหย่คุณ Cleaning กวนตะกอนให้หงุดหงิดตอนเช้าซะหน่อย
ไม่งั้น เดี๋ยวหนีเงียบไม่มาคุยต่อ
laughhahaha laughhahaha