ผมก็ต่อสายดินนะครับ และต่อขากลางของ IEC ลงกล่องไว้ด้วยครับ แต่พอใช้หลังมือแตะกล่องมันจะดูดนิดๆครับ ก่อนหน้านั้นผมไม่เคยรู้สึกคงเป็นเพราะกล่องพ่นสีไว้ แต่กล่องใหม่ผมไม่ได้พ่นสีเลยสัมผัสได้ถึงไฟช๊อตนิดๆครับ
และพอผมเอาปรีมาเปิดเพลงไง เสียงมันแตกพร่าแหบแห้งไปเลย พอสักพักก็กลับมาดังปกติอีก แล้วก็แหบอีก
พอเปลี่ยน IEC เปลี่ยนโวลุ่ม มันก็หายไปเลย เสียงปกติเหมือนเดิมครับ
ถ้าต่อสายดินถูกต้อง มันต้องไม่ดูดครับ
ถ้าดูดแสดงว่ายังไม่ถูก ไม่ลงดินจริงๆ และถ้ามีไฟวิ่งทั่วกล่องแบบนั้นกราวด์สัญญาณก็เพี้ยน เสียงก็เพี้ยนพร่าตามไปด้วยครับ
ผมลองใช้ไขควงวัดไฟแบบดิจิตอลแตะไปตามกล่องไม่มีไฟขึ้นครับ จะมีขึ้นก็ที่ turbo ครับ แต่ไม่ซ๊อตแต่อย่างใดครับ
ผมลองถอดอุปกรณ์เครื่องเสียงออกหมดถอดคอมพิวเตอร์ออกจากปลั๊กผนังบ้าน แล้วไปวัดไฟที่กราวดที่ตู้เมน ก็ไม่มีไฟขึ้นนะครับ แต่ถ้าผมเอามือแตะผนังปูน หรือว่า ผมยืนที่พื้นจะมีไฟขึ้นที่ไขควงครับ แต่พอผมยืนบนโต๊ะ ก็จะไม่มีไฟขึ้นที่ไขควง
กราวด์บ้านผมจะห่วงกับสาย N ของการไฟฟ้านะครับ
มันก็แปลกตรงว่าพอเปลี่ยนเต้ารับเป็นพลาสติกก็ไม่ดูดอีกเลย
ความเห็นผม... ไฟมาจากเครื่องเล่นอื่นที่มาต่อพ่วงครับ โดยเฉพาะตัวที่ใช้ภาคจ่ายไฟแบบสวิทชิ่ง ลำพังปรีแอมป์ตัวนี้ คิดว่าไม่น่าที่จะมีไฟรั่วออกมาจนดูดเราได้แบบนั้น และควรไล่เช็คการต่อสายกราวด์ไปจนถึงการต่อลงดินว่าต่อถึงกันถูกต้องดิมั๊ย ขนาดกราวด์จำเป็นที่ผมใช้อยู่ยังช่วยแก้ปัญหาไฟดูดเล็กๆนี้ได้เลยครับ น้าคลีนนิ่งควรจะเช็คโดยไวเพื่อความปลอดภัยของตนเองและคนในบ้านด้วยครับ
ผมไม่ได้ต่อพ่วงกับตัวไหนเลยครับอยู่ระหว่างการประกอบครับ พอประกอบเสร็จเอามาต่อถึงได้เสียงแตกพร่า และก็เอากลับไปทำใหม่พอ แขนไปโดนถึงได้รู้ว่าไฟดูดครับ ดูดเล็กน้อยเหมือนโดนไฟจากคอมดูดนั้นแหละครับ
ผมนั่งทำกับพื่นปูนครับ ตัวสัมผัสกับพื่นปูน
ล่าสุดก็ปกติครับไม่มีอาการเสียงแตกพร่าแต่อย่างใดอีกครับ ก็งงเหมือนกันครับ เพราะเรื่องไฟผมจะ safety มากๆ เป็นห่วงความปลอดภัย พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีปลั๊ก 3 ขาผมจะต้องเข้าระบบสายดินหมด
ว่าจะติด safery cut แต่ยังไม่มีกระต๋างเลย เอาไว้กันความสะเพร่าของผมเองครับ