Source & Line amp & Amplifier Project ผลงาน DIY > Headphone Amp

แผ่นที่น้องกายใช้เทสเสียง เป็นประจำครับ

(1/8) > >>

Guy_Audio:



พี่ๆ ลองหามาฟังกันนะครับ ฟังได้ง่ายมากๆครับ  [wink-11]
1-in-akustik - Great Voices Vol. 1 Reference Sound Edition
โดยใช้แทรคเเรกของ Evie Sands - While I Look At You ซึ่งให้เร้นท์ที่ค่อนข้างกว้าง
อีกทั้งยังให้ไดนามิกที่รุนเเรง ย่านเสียงต่ำปล่อยรายละเอียดของเสียงกระเดื่องกลองได้ดี
แยกขาดออกมาจาก กีตาร์เบส ที่ให้ฮามอร์นิกลงได้ลึกจนฟังออกได้ชัดถึงความถี่ควบคู่ที่เจือมา
ถ้าลำโพงหรือหูฟังตอบสนองต่อเสียงเบสได้ไม่ดีอาจมีอาการเบลอหรือตอบสนองไม่ได้เลย

-ส่วนเสียงกลางให้ความชัดเจนอย่างเป็นธรรมชาติ โฟกัสรวมตัวกันนิ่งสนิท
ให้จินตภาพรูปทรงของเสียงที่ดี ไม่มีขอบเสียงที่บางแบน และ Sibilance ที่มากจากการตกแต่งเสียงที่เกินจริง
อีกทั้งยังให้บรรยากาศของเสียงที่ก้องสะท้อนจากผนังห้อง กลับเข้าสู่ไมค์ขณะทำการบันทึก
จนได้ยินถึงขอบเสียงที่มีการหุ้มด้วยเสียงก้องเล็กน้อยโดยที่แก่นกลางของ
เสียงยังคงความสด-เข้ม-ชัด จากการบันทึกสดพร้อมกันทั้งวงในแบบLive Studio

-เสียงแหลมถือว่าเป็นจุดเด่นในแทรคนี้อีกเช่นกัน จากการที่เก็บรายละเอียดที่อาจจะเป็นความผิดพลาดขณะทำการบันทึก
โดยมีกีตาร์โปร่งอยู่ในไลน์ตรงตำแหน่งกลางเยื้องไปทางด้านซ้ายหลังตำแหน่ง เสียงร้อง ซึ่งเป็นเสียงที่บางเบา
จนไม่ได้ยินตลอดทั้งเพลง แต่จะได้ยินชัดในขณะขึ้น Intro ก่อนที่เสียงร้องจะเข้ามาจนเสียงกีตาร์โปร่งที่สตรัมคอร์ดอยู่ได้จมหายไป
ซึ่งชุดที่ใช้ฟังหรือหูฟังบางตัว อาจเก็บในส่วนนี้ไม่ได้ (ก่อนที่จะจบ จะได้ยินเสียงกีตาร์โปร่งชัดเจนมากจากการคลายตัวจางลงของเครื่องดนตรีต่างๆ)
อีกทั้งความโปร่งใสของไฮแฮทยังให้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ควบไปกับกีตาร์ไฟฟ้าที่มีการโซโล่ในเกน Overdrive ทั้งสองแทรคซ้ายและขวา ให้หางเสียงที่ค้างยาวติดตามได้จนสุดปลายเสียง
เป็นแทรคที่ให้ความไพเราะควบคู่ไปกับการเทสเสียง อีกทั้งยังจับประเด็นความต่างได้โดยง่าย

2-Cheryl Wheeler - Walk Around Downtown เทสความโปร่งของเสียง
และปลายเสียงแหลมของกีตาร์โปร่ง พื้นเสียงต้องสะอาดเบสลงได้ลึกแต่ปริมาณจะไม่มากจนบดบังความกระจ่างใส
อีกทั้งยังเป็นตัวเทียบกับแทรค “While I Look At You” เพื่อที่จะดูปริมาณของเสียงเบสว่าจะให้ไปตามซาวด์ของเพลงในแต่ละเพลงได้หรือไม่

3- Dire Straits = So Far Away Released: 13 May 1985
• Grammy Awards “Brothers in Arms” Best Engineered Recording, Non-Classical •
คุณภาพเสียงสมกับที่ได้รับรางวัล จนถือเป็นมาตรฐานเสียงที่ดีในยุคใหม่ที่ใช้มาสเตอร์เป็น DAT
ความสมดุลทางโทนเสียงดีมาก จนนำมาอ้างอิงเพื่อใช้เทสกับชุดที่ฟังจนกลายเป็นธรรมเนียมปฎิบัติ
จากการที่ให้เสียงราบเรียบในทุกย่านความถี่ ลงได้ลึกและปลายแหลมไปได้ไกล อีกทั้งยังให้ไดนามิกในระดับกลางสูง
ซึ่งไม่มากและน้อยจนเกินไป ด้วยเหตุที่มีค่าความเป็นกลาง การนำมาเปิดกับชุดที่ใช้ฟัง
จึงสามารถที่จะบอกบุคลิกเสียงได้โดยง่าย ว่าได้โน้มเอียงไปในทิศทางใด

-โดยแทรคที่ใช้ So Far Away ซึ่งให้โทนเสียงที่ราบเรียบกว่าในทุกแทรคของอัลบั้ม
เสียงที่ได้จะต้องสะอาด เฉลี่ยรายละเอียดของเสียงทุกเสียงออกมาได้ดี
โดยเฉพาะย่านกลางแหลมที่แยกแยะได้แม้กระทั่งเสียงของไม้กลองที่กระทบกับสแนร์จนได้ยินเสียงของเเส้ใต้หนังกลอง
ว่าน้ำหนักที่ลงไม้และหน้าสัมผัสไม่ได้เท่ากันในทุกครั้งไป ความสด คม กระชับ กับเร้นจ์เสียงที่กว้างควบคู่ไปกับไดนามิกที่รุนแรง
แต่ให้ความรู้สึกที่โปร่งในสัมผัสของเนื้อเสียง การจัดวางตำแหน่งชิ้นดนตรีได้สมดุลทั้งทางด้านลึกและด้านกว้าง
จากความคมชัดนี้เอง ทำให้รูปทรงของเสียงขึ้นรูปมาอย่างชัดเจนไม่เพียงแต่สัมผัสทางเสียงเท่านั้น ที่รับรู้ได้
แต่การจำลองจินตภาพของเสียงถือว่าทำได้ดีมากจนปรากฏชัดออกมา การฟังจับประเด็นในเรื่องสมดุลของโทนเสียง
เพียงแค่จับประเด็นเสียงกระเดื่องกลอง - เสียงสแนร์ - เสียงกีตาร์และไฮแฮท ว่าให้ปริมาณที่พอๆกัน ไม่เน้นหนักไปในชิ้นใดชิ้นหนึ่ง

4-Money For Nothing ให้ไดนามิกที่ค่อนข้างรุนแรงและดังมากของเสียงกีต้าร์
ต้องไม่มีอาการเสียงเครียดหรือคลิปให้ได้ยิน แต่จะรับรู้ได้ถึงความ สด-เปิด เพิ่มขึ้นมาเท่านั้น (เทสผ่านยากพอสมควร)
รายละเอียดของเสียงต่างๆปรากฏออกมาให้รับรู้ได้ในทุกย่านความถี่ของเสียง
โดยเฉพาะเสียงแหลมให้รายละเอียดที่ดีมาก อีกทั้งสปีดของเสียงที่กำลังพอดีไม่ช้าเกินไปจนฟังเพลงเร็วแล้วรู้สึกว่ามี
อาการเก็บตัวช้าของเสียงเบส หรือเร็วกระชับเกินจนฟังเพลงที่ช้าแล้วขาดอารมณ์ร่วมที่คอยติดตามฮาร์มอนิกของเสียง

5-You and Your Friend ถ้าผ่านสองแทรคแรกของ Dire Straits มาแล้ว แทรคนี้จะคงความไพเราะอย่างแน่นอน
จากการบันทึกเสียงในเรท Audiophile ที่ให้บรรยากาศของเสียงที่ดี โทนเสียงโดยรวมต้องออกไปในทางอุ่น นุ่ม
แต่คงให้ปลายเสียงแหลมและมิติของเสียงที่กว้างไกลออกไปของกีตาร์ทั้งสองตัว

6-Daft Punk - Give Life Back to Music แค่เพียงท่อนอินโทร ที่ส่งผ่านไดนามิกออกมาอย่างฉับพลันและรุนแรง
ชุดที่ใช้ฟังหรือหูฟังบางตัว ไม่สามารถที่จะตอบสนองได้ทัน จนเกิด Distortion พล่าออกมาให้ได้ยิน

7-Daft Punk - Lose Yourself to Dance - Random Access Memories
เป็นอัลบั้มที่ได้รางวัล
-Record of the Year
-Best Pop Duo/Group Performance
-Album of the Year
-Best Dance/Electronica Album
-Best Engineered Album, Non-Classical
อีกทั้งทำมาสเตอร์ริ่งโดย Bob Ludwig โดยคุมไดนามิกเฮดรูมไว้แบบพอดีติดขีดแดงที่ 0 dB
ถ้าเบสล้นเกินกว่านี้เพียงนิดเดียว จะกลายเป็นเบสบวมและมีปริมาณที่มากเกิน
เสียงเบสจะไม่ได้เน้น First Impact กลับไปเน้นในความลึกของเบส
จึงนำมาเทสได้อย่างมั่นใจในเรื่องย่านเสียงต่ำที่ต้องตอบสนองไดนามิกของเบสให้ได้มากที่สุด
แต่ต้องไม่ล้นจนเบลอบวม หรือให้เบสที่ลงลึกไม่ได้ จากแทรคนี้สามารถนำมาวัดค่าในการฟังได้โดยง่าย
อีกทั้งยังมีการ Planning ให้ทดสอบความต่อเนื่อง โดยเสียงที่แพนจะต้องไม่มีการขาดช่วงและต้องได้ความชัดเจนในทุกระนาบ

8- George Benson - The Ghetto แทรคที่ให้โทนเสียงที่สมดุล ในระบบการบันทึกแบบดิจิทัล
กับเร้นท์ที่กว้างและราบเรียบ ทุกเสียงที่ได้ยินต้องคงความชัดเจนโดยไม่มีย่านใดย่านหนึ่งเด่นออกมา
แต่ยังคงความนุ่มของเสียงที่มาจากการทำมาสเตอร์ริ่งที่ดี ลดขอบของเสียงที่คม เจิดจ้า ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายในขณะฟัง

9-Latin Guitar ให้สมดุลเสียงที่ดีอีกเช่นกันในแบบแอนาล๊อก โดยการบันทึกเสียงพร้อมกันหมดทั้งวง
ให้บรรยากาศของเสียงที่ดีมาก ยังมีความฉ่ำลื่นของเนื้อเสียงโดยรวม มิติที่เป็นไปตามจริง จากการวางไมค์
เพื่อจำลองเสียงให้ไกล้เคียงกับการนั่งฟังในสตูดิโอให้ได้มากที่สุด

10- Rosanne - Yesterday เพลงร้องประกอบด้วยกีตาร์อคูสติก และไวโอลิน
ที่บันทึกเสียงร้องได้คล้ายการร้องด้วยปากเปล่า ประสานกับเสียงกีตาร์ที่ระดับของความดังได้พอดีอย่างเป็นธรรมชาติ
การตกแต่งเสียงน้อยมากจนแทบไม่มี Sibilance ให้ได้ยิน การยิงเฟสให้ Center Focus ที่แม่นยำรวมตัวอยู่ตรงกลางทั้งยังนิ่งมาก
ช่วงสวิงเสียงร้องในขณะพีคให้โฟกัสที่ยังคงดีอยู่ ไม่มีอาการพล่าหรือฟุ้ง ถือเป็นจุดเด่นของแทรคนี้

11-Allan Taylor - Colour To The Moon จากค่าย Stockfisch-Records
ที่ขึ้นชื่อว่า บันทึกเสียงกีตาร์สายเหล็กได้ดีในระดับอ้างอิง จากความโปร่งกังวานตั้งแต่ต้นเสียงจรดปลายเสียง
ไดนามิกที่ขับออกมาให้ความสดของย่านกลางแหลมและแหลมที่ดี อยู่ในพื้นเสียงที่สะอาด สงัด มืด
จนจับฮามอร์นิกของปลายเสียงที่ได้เรียวเล็กลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
การบันทึกเสียงร้องให้ความพอดีไม่อิ่มใหญ่จนเกินจริง จนจับโฟกัสไม่ได้

12-Carol Kidd - Seven Daffodils มีเพียงแค่เสียงร้องประกอบกับกีตาร์สายไนลอน
โชว์รายละเอียดของการปั้นคำร้องและเทคนิคการ Vibrato แต่การจับประเด็นของแทรคนี้อยู่ที่เสียงของกีตาร์
ต้องให้หัวเสียงที่ใหญ่กว่าปลายเสียงที่ค่อยเล็กลง พลังของเสียงต้องมีมากพอที่จะแยกการ Separate โน้ตของสายกีตาร์ในแต่ละสาย
ที่ได้บันทึกเสียงไกลออกไปจากเสียงร้อง เสียงที่ได้ต้องไม่คลุมเครือหรือจางลง ให้ความรู้สึกที่เหมือนกับเสียงกีตาร์จริงๆ
ที่ได้ห่างออกไปเพียงเท่านั้น จากการเน้นย้ำของแต่ละครั้งในการดีด จะรับรู้ถึงเสียงจากการก้องออกมาจากเนื้อไม้
เป็นแทรคที่ผ่านได้ค่อนข้างยากพอสมควร จากการที่ในบางชุดที่ใช้ฟังมีการบู๊สหรือโลว์ออฟในบางช่วงความถี่
จนเสียงจากกีตาร์ได้ขาดความไพเราะจากมวลเสียงและความควบแน่น 

13-Kari Bremnes - A Lover in Berlin การบันทึกเสียงในแบบ Live Studio
ที่ไต่ไดนามิกได้อย่างฉับพลันแต่แฝงไว้ด้วยความนุ่มนวลในเนื้อเสียง เสียงเครื่องเคาะให้ความรู้สึกที่สว่างวาบ
ฉายภาพออกมาได้อย่างชัดเจน ความเข้มของตัวเสียงอยู่ในระดับสูง สมดุลเสียงเข้าขั้นยอดเยี่ยม
การจัดวางตำแหน่งของชิ้นดนตรีซึ่งให้ขนาดของเสียงที่ใหญ่ แต่ผลการรับฟังต้องไม่มีการเกยซ้อนกันแต่ต้องแยกชั้นออกมาให้ฟังได้
และต้องไม่มีการกดทับเสียงกีตาร์สายไนลอนที่ให้เสียงได้เบาที่สุด

14-Nantida - Love is still beautiful ใช้ทดสอบถึงเสียงร้องที่ผิดธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
จากเนื้อเสียงที่คุ้นเคยและภาษาที่ใช้ในการสื่อ การออกเสียงทุกอักขระต้องคงความชัด
ไม่มีอาการเสียงบี้แบน หรือขึ้นจมูกคล้ายเสียงนาสิก หรือเสียงร้องที่อวบหนาหรือบางจนเกินไป
โฟกัสต้องนิ่งอยู่กึ่งกลางพอดีและลอยอยู่สูงกว่าชิ้นดนตรีอย่างชัดเจน จากการยิงเฟสของเสียงร้องที่ดีเท่าที่ชุดที่ฟังจะให้ได้ 

15-Inger Marie Gundersen - Always On My Mind การเล่นกับมิติที่ไมค์จับตำแหน่งของเสียงเปียโนที่กดลงทีละลิ่ม
ไล่ระดับเรียงระยะใกล้ไกลไปตามโน้ตได้เสมือนจริง จากโน้ตที่ต่ำกว่าได้อยู่ไกลออกไปทางด้านซ้าย
มากกว่าตัวโน้ตที่ให้เสียงได้สูงกว่าจะมาอยู่ถึงตำแหน่งเซ็นเตอร์ 
หากฟังอย่างตั้งใจจะได้ยินเสียงของเนื้อไม้จากเปียโนที่เสียดสีของกลไกภายใน
การวางตำแหน่งเสียงร้องจงใจวางมาในตำแหน่งที่อยู่เยื้องไปทางด้านขวาเล็กน้อย
เพื่อเลี่ยงเสียงจากเปียโนที่กินระยะพื้นเสียงมาถึงตำแหน่งตรงกลาง เสียงร้องจากผลการรับฟังจะต้องเอียงและชัดเจนโดยไม่คลุมเครือ
และให้อารมณ์เพลงที่ผู้ร้องสื่อออกมาได้อย่างหมดจดทุกถ้อยคำ และรสสัมผัสแห่งเสียงที่ให้ความชัดเจนจนในรายละเอียด
ถึงขั้นได้ยินริมฝีปากกระทบกันจากการปั้นคำร้อง เกิดจากการร้องในระยะประชิดกับไมค์ความไวสูง
ซึ่งเป็นการบันทึกเสียงที่ยากจะให้ออกมาดีได้ จากการที่ผู้ร้องต้องระวังผลกระทบของลมที่ปล่อยออกมาขณะทำการร้อง

16-Sandra Schwarznaupt - Straight From The Heart ถ้าจะทดสอบถึงพลังเสียงและความยิ่งใหญ่ของเวทีเสียง
ทั้งยังให้เสียงที่ครบเร้นท์ รวมถึงโฟกัสของเสียงร้องที่ไม่จมถอยลงไปกับพื้นเสียงที่เป็นฉากหลังคอยโอบล้อมจนเป็นสนามเสียง
ชุดที่ฟังถ้าให้เสียงที่บางอาจจะเกิดอาการเสียงเครียด พุ่ง เจิดจ้า ออกมาให้ได้ยินในช่วงที่พีคของเพลง

17-Ottmar Liebert - Up Close Binaural (3d)-La Luna การบันทึกสดพร้อมกันในทุกชิ้นดนตรี
ด้วยระบบ Binaural ที่ใช้ไมค์ฝังเข้าไปในหัวหุ่นจำลอง เสียงที่ได้จากการบันทึกให้ระยะที่ไกล้ไกล อย่างสมจริง
ถ้าได้ฟังจากหูฟัง ให้ความรู้สึกเหมือนดั่งกับไม่ได้สวมหูฟังในขณะฟัง จากการที่จุดกำเนิดเสียงที่ได้ยิน
เลยออกจาก Head Stage ไปไกลมาก เสียงกีตาร์สายไนลอนและ Cajon รวมถึงเสียงปรบมือ ให้ความเป็นธรรมชาติและดิบ
เจืออยู่ในห้องบันทึกเสียงที่ก้องอย่างเป็นธรรมชาติ ชุดที่ให้เสียงที่อุ่นหนาจนเกินไป อาจจะมีอาการเสียงทึบจนรู้สึกได้ในทันที

18-Paganini Niccolò - Sonata Di Lucca Op.3 ระดับความสูง-ต่ำของมิติเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะสำคัญ
และให้อารมณ์ร่วมที่ดีในขณะฟัง แต่มักจะถูกละเลยและหลงลืมที่จะทดสอบ
เพลงที่จะมาทดสอบยังหาได้ค่อนข้างยาก จากในแทรคนี้นำมาทดสอบได้ทั้งระยะที่ห่างของเวทีเสียง
จากไวโอลินที่เล่นอยู่ทางด้านซ้ายและลอยขึ้นไปสูงกว่าเสียงกีตาร์สายไนลอนที่อยู่ทางด้านขวาและอยู่ต่ำกว่า
จนผู้ฟังทราบถึงจินตภาพของเสียงที่นักดนตรีได้ยืนเล่นไวโอลิน ในขณะที่มือกีตาร์ได้นั่งเล่น

19-Larry Carlton & Guests – The Jazz King บทเพลงพระราชนิพนธ์ ที่คงความไพเราะ
จากการบรรเลงโดย Larry Carlton ผ่านการมาสเตอร์ริ่งจาก Doug Sax ความพิเศษของแทรคนี้คือความถี่ต่ำ ที่ลงได้ลึกถึง 50 Hz 
ให้ความรู้สึกถึงเสียงเบสเป็นคลื่นเสียงมากระทบเข้าสู่ผิว ชุดที่ใช้ฟังหรือหูฟังบางตัวอาจไม่สามารถที่จะตอบสนองจนเป็นเสียงออกมาให้ได้ยินชัด
หรืออาจให้เสียงที่ผิดปกติออกมาจากโครงสร้างของตัวมันเอง ถือว่าเป็นแทรคที่ใช้ทดสอบความถี่ต่ำลึกที่ดีและฟังออกได้โดยไม่ยากจนเกินไป

20-This Means War แนวเพลงที่รับฟังเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ชุดที่ดีควรเปิดเพลงได้ในทุกแนว
ไม่ควรโน้มเอียงไปในแนวใดแนวหนึ่งจนเกินไป หรือเปิดแต่เพลงที่บันทึกดีเพื่อช่วยคุณภาพเสียงให้แมทช์กับชุดที่ใช้ฟังเพียงอย่างเดียว
จากแทรคนี้ สามารถที่ใช้ทดสอบความจัดของเสียงว่ามีมากจนเกินไปหรือไม่ ในย่านกลางแหลมจากเสียงกีตาร์ในเกน Overdrive 
ว่ามีอาการเปิดพุ่งจนรับฟังไม่ได้ หรือมีอาการของค่า Damping Factor ที่ไม่เหมาะสม
จากการเก็บตัวของไดร์เวอร์ในช่วงที่มีการเบิ้ลกระเดื่องอย่างต่อเนื่อง แล้วให้เสียงที่ช้า-พล่า-เบลอ-ไม่กระชับจนฟังไม่เป็นตัวเสียง 

21-Victor Wooten - Live In America สามารถนำมาเทสย่านความถี่ต่ำลึกและไดนามิกที่รุนแรง
และยังสามารถที่จะนำมาเบิร์นกระตุ้นย่านเสียงต่ำทั้งย่านกับหูฟังที่ให้เบสลงลึกไม่ค่อยจะดีมากนัก
แต่ต้องเปิดระดับความดังเพียงแค่ 30% ของการฟังปกติเท่านั้น  และไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง จึงนำมาตรวจเช็คสักครั้ง
เพื่อป้องกันเบสที่ล้นจนเบลอบวม ถ้านำมาทดลองฟัง ปริมาณของเบสยังให้ได้ไม่ดีเท่าที่ควร
หูฟังตัวนั้นๆ จะให้ปริมาณของเบสได้เพียงเท่าที่ได้รับฟังนั้น ไม่น่าจะให้ได้มากไปกว่าที่เป็นอยู่ในขณะที่ทดลองฟัง

Guy_Audio:


https://www.youtube.com/watch?v=hv5R9MeJ99A
1-in-akustik - Great Voices Vol. 1 Reference Sound Edition

https://www.youtube.com/watch?v=2AA64eCt2zs
3- Dire Straits = So Far Away

Guy_Audio:


https://www.youtube.com/watch?v=wTP2RUD_cL0
4-Money For Nothing

https://www.youtube.com/watch?v=LNXncglnsZg
5-You and Your Friend

Guy_Audio:


https://www.youtube.com/watch?v=IluRBvnYMoY
6-Daft Punk - Give Life Back to Music

7-Daft Punk - Lose Yourself to Dance
https://www.youtube.com/watch?v=NF-kLy44Hls

Guy_Audio:
 


8-George Benson - The Ghetto
https://www.youtube.com/watch?v=7IegHWzCOo0

10- Rosanne - Yesterday
น้องกายหาคลิปไม่ได้เลยครับ  [chick1]


นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version