ตอนนี้เครียดสุดๆเลยครับ แฟนป่วย
เริ่มเป็นเมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย. อาการคือเจ็บคอ ผ่านไปเกือบสองสัปดาห์เห็นยังไม่หาย บอกให้ไปหาหมอ จะพาไปก็ไม่ไป เป็นคนกลัวโรงพยาบาล ยาไม่ยอมกิน ถ้าไม่สุดๆนี่ ทำยังไงก็ไม่ยอมไป พอเข้าสัปดาห์ที่ 3 เจ้าตัวทนไม่ไหว แถมคลำที่ข้างคอด้านซ้าย มีก้อนนิ่มๆ เคลื่อนไปมาได้ เขยิบมาด้านหน้าลงมาด้านล่างใกล้ๆ ไหปลาร้า ก็บวมออกมาชัดเจน
เกิดอาการกลัว ก็เลยยอมไปหาหมอ ไปถึงหมอให้เจาะเลือด ผลเลือด เกล็ดเลือดต่ำแค่ 37 คนปกติเห็นหมอว่า 40 กว่า หมอเดาอาการไว้ว่า ไม่ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ วัณโรคต่อมน้ำเหลือง ก็เป็นมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลือง หรือไม่ก็เป็นมะเร็งที่อื่น แต่ลามมาที่ต่อมน้ำเหลือง แต่หมอยังไม่ฟันธง เพราะว่าคนเป็นมะเร็งเกล็ดเลือดต้องต่ำกว่า 32 และน้ำหนักควรจะลดลงกว่านี้ แฟนผมหนักเฉลี่ยอยู่ราว 48-50 ตอนนี้หนักอยู่แถวๆ 45.5-46.6 หมอเลยให้ยาฆ่าเชื้อที่ต่อมน้ำเหลือง แล้วนัดมาดูอาการอีกหนึ่งสัปดาห์
ส่วนยาที่ได้มากินไปได้สามวัน อาการบวมที่คอก็เริ่มยุบครับ เริ่มใจชื้นกัน
ครบวันนัด คราวนี้ อจ.หมอ ลงตรวจเอง เจาะเลือดอีกครั้งตรวจโดยละเอียด พบว่าเกล็ดเลือดยังคงต่ำ เม็ดเลือดแดงมีขนาดเล็กกว่าปกติ สรุปว่าเป็น พาหะธารัสซีเมีย ส่วนอาการที่คอ ยังฟันธงไม่ได้ว่าเป็นอะไรแน่ เพราะถ้าเป็นมะเร็งกดที่คอต้องไม่เจ็บ แต่แฟนผมก็น้ำหนักไม่ขึ้นเลย คาอยู่ 45.5 ก็เลยนัดให้ไปตรวจเฉพาะทาง แผนกหูคอจมูก และอายุรกรรม special ในสัปดาห์ถัดไปอีก แล้วก็สั่งยาแบบเดิมให้เพิ่ม
นัดแรกของสัปดาห์ที่ 2 หูคอจมูกก่อน หมอว่า เกล็ดเลือดแค่นี้จิ๊บๆ ไม่ต้องกลัวเลย ไม่เป็นมะเร็งแน่ๆ ก็เลยให้ไปเอ็กซเรย์ปอด ผลปกติดี ไม่มีฝ้า หมอเลยเจาะคอเอาน้ำและชิ้นส่วนไปตรวจ แล้วนัดอีกสัปดาห์มาฟังผล พร้อมกับให้ยาตัวใหม่ เปลี่ยนยาใหม่หมด เป็นยาฆ่าเชื้อ และลดบวม มากินแทนยาชุดเดิมที่หมดไป ตอนนี้ดีใจว่าไม่ต้องกลัวมะเร็งแล้ว เหลือแค่รอฟังผลว่าเป็นวัณโรคแบบไหน ก็กินยาให้ถูก ยาวไป 6 เดือนก็หา แต่ผมแปลกใจว่า แล้วอยู่ๆทำไมเป็นวัณโรคต่อมน้ำเหลืองได้ วันรุ่งขึ้นก็เริ่มกินยาชุดใหม่ พอยาออกฤทธิ์แล้วสงสารเค้ามากๆเลย เส้นเลือดตามแขนขาเขียวขึ้นมาเห็นชัดเต็มไปหมด ปวดที่คอ กินยาแล้วทำอะไรไม่ได้ไปอย่างน้อยสองชั่วโมง กินสามเวลาหลังอาหาร ได้แต่มองช่วยอะไรไม่ได้ เริ่มกินยานี้เมื่อพฤหัสที่ผ่านมา
เช้าเมื่อวานก็ไปตามนัด อายุรกรรม special หมอก็กดไปที่คอของแฟน แล้วบอกว่า ก้อนมันแข็ง และพบว่าน่าจะมี 3 ก้อน คอก็เริ่มบวมอีกครั้ง แต่ไม่เท่ากับตอนแรกๆ ก่อนที่จะมารับการรักษาครับ แต่ที่ทำให้ตกใจคือ หมอกลัวว่าจะเป็นมะเร็ง ได้ฟังแบบนี้ ห่อเหี่ยวกันทั้งคู่เลย ตอนจะกลับ หมอว่า เดี๋ยวรอผลตรวจก้อนเนื้อที่เจาะไปเมื่อพฤหัสที่แล้วก่อน น่าจะฟันธงได้
ผ่านมาจะสามสัปดาห์แล้ว ยังไม่รู้เลยว่าเป็นอะไรแน่ คนป่วยก็เริ่มเครียดหนัก กินยาไปน้ำตาตกไป เริ่มจะปลอบไม่ไหว จะไม่ยอมกินยาอีก พากันเครียดไปหมด
ตอนนี้ผมได้แต่รอวันพฤหัส ภาวนาว่าให้เป็นวัณโรคเพราะรักษาหายได้ ส่วนคนป่วยไม่อยากรู้อะไรแล้ว จะไม่รักษาอีกตะหาก อึดอัดไปหมดเลยครับ