www.diyaudiovillage.net
Source & Line amp & Amplifier Project ผลงาน DIY => Solid State => ข้อความที่เริ่มโดย: sw067362 ที่ 17 เมษายน 2013, 11:37:31 AM
-
ผมใช้ Amp MAGNET MA 5 DIY เมื่อวานปรับปรุงภาคจ่ายไฟ พอต่อเสร็จวัดไฟออกจุดต่อลำโพงข้างหนึ่งได้ 25 MV อีกข้างหนึ่งวัดได้ .25 V แต่ลองต่อลำโพงเสียงก็ออกปกติ ปรับประแสสงบก็ได้ปกติ 30 MA อยากทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และแก้ไขอย่างไรบ้าง ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าครับ [entreat-raccoon]
-
ลองวัดแหล่งจ่ายไฟดูก่อนครับ สำหรับ MA5 มีแหล่งจ่ายสองชุด
1.ชุดแรกสำหรับเลี้ยงชุด front end เป็นแบบ discrete regulate
2.สำหรับ Output stage
ลองวัดไฟดูก่อนครับว่าระหว่าง + - มีความแตกต่างอยู่หรือไม่ครับทั้งซ้ายและขวานะครับ
แรงดัน offset ที่เกิดขึ้นในวงจรขยายแบบ direct coupling ปัญหามักเกิดจาก offset ของแรงดัน,offset ของ hfe,dc current gain ในตัวทรานซิสเตอร์ทำให้กระแสในวงจรเกิดการ diff กันอยู่เยอะเกินไป
สำหรับ MA5 ถ้าจำไม่ผิดจะออกแบบเป็น dual mono แหล่งจ่าย อิสระจากกันทั้งซ้ายและขวาข้างที่มีปัญหาวัดไปก่อนเลยครับว่ามี offset เท่าไร
-
ต้องถามประวัติก่อนครับ ว่าวงจรนี้เคยถูกต่อกับปรีหลอดหรือเปล่า เพราะอาการบ่งบอกเหมือนกับตัวที่ผมเคยซ่อมมาก่อนน่ะครับ
อาการนี้อาจเกิดจากสัญญาณจากปรีหลอดที่เป็นลักษณะเพลตโหลด และไม่มีวงจรมิวติ้ง ทำให้เวลาเปิดจ่ายไฟครั้งแรกจะมีไฟสูงถูกคัปปลิ้งผ่าน C input และด้วยไฟที่เข้ามาสูงมากๆ ทำให้ทรานซิสเตอร์ภาคหน้า TP TN ข้างละ 4 ตัว เกิดเบรกดาวน์บ่อยๆ และเกินพิกัดจนออกอาการรั่ว ทำให้การทำงานวงจรเปรียบเทียบภาคหน้ามี offset คงค้างในปริมาณมาก อย่างที่เห็น
ซึ่งวิธีแก้กรณีนี้คือต้องเปลี่ยน TP TN ภาคหน้าทั้งหมดครับ [c--c]
-
ต้องถามประวัติก่อนครับ ว่าวงจรนี้เคยถูกต่อกับปรีหลอดหรือเปล่า เพราะอาการบ่งบอกเหมือนกับตัวที่ผมเคยซ่อมมาก่อนน่ะครับ
อาการนี้อาจเกิดจากสัญญาณจากปรีหลอดที่เป็นลักษณะเพลตโหลด และไม่มีวงจรมิวติ้ง ทำให้เวลาเปิดจ่ายไฟครั้งแรกจะมีไฟสูงถูกคัปปลิ้งผ่าน C input และด้วยไฟที่เข้ามาสูงมากๆ ทำให้ทรานซิสเตอร์ภาคหน้า TP TN ข้างละ 4 ตัว เกิดเบรกดาวน์บ่อยๆ และเกินพิกัดจนออกอาการรั่ว ทำให้การทำงานวงจรเปรียบเทียบภาคหน้ามี offset คงค้างในปริมาณมาก อย่างที่เห็น
ซึ่งวิธีแก้กรณีนี้คือต้องเปลี่ยน TP TN ภาคหน้าทั้งหมดครับ [c--c]
[confused-raccoon] เห็นด้วยกับคุณ audiomania ครับ
-
ผมวัดไฟแล้วเท่ากันทั้งภาคเพาเวอร์ + - 50 V และภาคเร็คกูเรต + - 50 V ครับ แต่ตามที่น้า audiomania ถามเป๊ะเลยครับ ผมใช้ต่อกับปรีหลอดที่ไม่มีวงจรมิงติ้ง แต่ผมจะใช้วิธีเปิดปรีหลอดประมาณ 30 วินาทีแล้วจึงเปิดแอมป์ แต่มีครั้งหนึ่งไฟฟ้าดับและติดโดยที่ผมไม่ทั้นปิดเครื่อง คงมีไฟสูงเข้าไปในแอมป์แน่ๆ เดี๋ยวจะลองเปลี่ยน TR ภาคหน้าทั้งสี่ตัวดูครับ
ขอบคุณน้าๆทั้งสองท่านครับได้ผลอย่างไรจะมารายงานครับ
-
ผมวัดไฟแล้วเท่ากันทั้งภาคเพาเวอร์ + - 50 V และภาคเร็คกูเรต + - 50 V ครับ แต่ตามที่น้า audiomania ถามเป๊ะเลยครับ ผมใช้ต่อกับปรีหลอดที่ไม่มีวงจรมิงติ้ง แต่ผมจะใช้วิธีเปิดปรีหลอดประมาณ 30 วินาทีแล้วจึงเปิดแอมป์ แต่มีครั้งหนึ่งไฟฟ้าดับและติดโดยที่ผมไม่ทั้นปิดเครื่อง คงมีไฟสูงเข้าไปในแอมป์แน่ๆ เดี๋ยวจะลองเปลี่ยน TR ภาคหน้าทั้งสี่ตัวดูครับ
ขอบคุณน้าๆทั้งสองท่านครับได้ผลอย่างไรจะมารายงานครับ
งั้นคงต้องทำวงจร mute แลัวละครับง่ายๆเลยใช้ relay ขนาดเล็กไฟ้เลี้ยง 5 หรือ 12 ก็ใด้หน่วงเวลาด้วย R C constant ครับหรือทำเป็น sw เลือกก็ง่ายดี
-
มาแอบฟังเกจิเขาคุยกัน [heyheybaby_jump] ความรู้ดีๆ ทั้งน๊านเลยครับผม
-
ผมวัดไฟแล้วเท่ากันทั้งภาคเพาเวอร์ + - 50 V และภาคเร็คกูเรต + - 50 V ครับ แต่ตามที่น้า audiomania ถามเป๊ะเลยครับ ผมใช้ต่อกับปรีหลอดที่ไม่มีวงจรมิงติ้ง แต่ผมจะใช้วิธีเปิดปรีหลอดประมาณ 30 วินาทีแล้วจึงเปิดแอมป์ แต่มีครั้งหนึ่งไฟฟ้าดับและติดโดยที่ผมไม่ทั้นปิดเครื่อง คงมีไฟสูงเข้าไปในแอมป์แน่ๆ เดี๋ยวจะลองเปลี่ยน TR ภาคหน้าทั้งสี่ตัวดูครับ
ขอบคุณน้าๆทั้งสองท่านครับได้ผลอย่างไรจะมารายงานครับ
ผมวัดไฟแล้วเท่ากันทั้งภาคเพาเวอร์ + - 50 V และภาคเร็คกูเรต + - 50 V ครับ แต่ตามที่น้า audiomania ถามเป๊ะเลยครับ ผมใช้ต่อกับปรีหลอดที่ไม่มีวงจรมิงติ้ง แต่ผมจะใช้วิธีเปิดปรีหลอดประมาณ 30 วินาทีแล้วจึงเปิดแอมป์ แต่มีครั้งหนึ่งไฟฟ้าดับและติดโดยที่ผมไม่ทั้นปิดเครื่อง คงมีไฟสูงเข้าไปในแอมป์แน่ๆ เดี๋ยวจะลองเปลี่ยน TR ภาคหน้าทั้งสี่ตัวดูครับ
ขอบคุณน้าๆทั้งสองท่านครับได้ผลอย่างไรจะมารายงานครับ
งั้นคงต้องทำวงจร mute แลัวละครับง่ายๆเลยใช้ relay ขนาดเล็กไฟ้เลี้ยง 5 หรือ 12 ก็ใด้หน่วงเวลาด้วย R C constant ครับหรือทำเป็น sw เลือกก็ง่ายดี
ทำตามนั้นเลยครับ
เพราะการปิดแอมป์เฉยๆ แค่ป้องกันไม่ให้สัญญาณขยายออกลำโพงดัง"ตุ๊บ" เท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ได้ตัดขาดไฟสูงออกจากอินพุตของแอมป์ นั่นหมายถึงถ้าไฟสูงแรงๆอัดเข้ามา มันก็ยังไหลผ่านทรานซิสเตอร์ภาคหน้าอยู่ดี ถ้าโดนหนักๆ บ่อยๆ จนเกินพิกัด มันก็รั่วได้
หรือไม่ก็อาจต้องเพิ่มวงจร คาโถดฟอลโลวเวอร์ ทำหน้าที่บัฟเฟอร์ในภาคสุดท้าย ซึ่งเอาต์พุตจากวงจรนี้จะค่อยๆขึ้น ไฟสูงจะไม่ลอดออกมาแรงในจังหวะเปิดเครื่อง
แต่ถ้าชัวร์สุด ต่อ R อนุกรมไว้ แล้วทำวงจรมิวติ้งตัดลงกราวด์ในจังหวะเปิดเครื่องซัก 20-30 วินาที ค่อยตัดออกจากกราวด์ อันนี้ปลอดภัยที่สุดครับ [gr_in]
-
ขอบคุณน้าๆครับที่แนะนำ แต่ผมไม่ค่อยมีความรู้เท่าไรครับ การต่อวงจร Mute กลัวต่อไม่ถูกเดี๋ยวเครื่องพัง น้าพอจะมีวงจรหรือเขียนวงจรหน่อยได้ไหมครับ จะได้ลองทำดูตอนนี้กลัว Amp เดี้ยงครับไม่มีป้องกันลำโพงเดี๋ยวเรื่องใหญ่เลย
-
วงจร muting (คัดลอกมาจากในหนังสื่อ cew)
วงจร muting ใช้กับปรีหลอด ครับ ค่าเดิมๆ RT = 62 k และ CT = 680 mf หน่วงเวลา ประมาณ 20 - 25 วินาที
ผมมาเพิ่ม RT ประมาณ 82 - 85 k และ CT = 1000 mf หน่วงเวลาได้ประมาณ นาทีเศษ
-
เป็นประโยชน์มากเลยครับ
แต่รูปไม่ค่อยชัดครับ
อย่างนี้ถ้าเราไม่ทำวงจร muting แต่ใช้สวิต ตัดสัญญาณขาออกของปรี
แล้วกะเวลาเองว่าน่าจะปลอดภัย แล้วสับสวิตเอง ก้ได้ใช่ไหมครับ
-
วงจร muting (คัดลอกมาจากในหนังสื่อ cew)
วงจร muting ใช้กับปรีหลอด ครับ ค่าเดิมๆ RT = 62 k และ CT = 680 mf หน่วงเวลา ประมาณ 20 - 25 วินาที
ผมมาเพิ่ม RT ประมาณ 82 - 85 k และ CT = 1000 mf หน่วงเวลาได้ประมาณ นาทีเศษ
[roll-eyes]แหมถ้ามีใครออกแบบ PCB หรือจัดทำเพื่อเป็นชุด muting สำหรับใช้กับปรีหลอด
คงจะเป็นประโยชน์กับสมาชิกมากเลยนะเนี่ย [clap hand2] [roll]
-
ใช้ pcb ของตัวถ่วงเวลาปล่อยไฟสูงที่คุณพี่ Create เคยทำมาใช้ก็ได้ค่ะ เป็น muting เหมือนกัน แต่ต้องหารีเลย์แบบ 2 คอนแท็คมาใส่นะคะ
-
ขอบคุณทุกคำตอบและความเห็นครับ ผมเองเข้าใจมาตลอดว่าหากเราปิดแอมป์เปิดปรีคงไม่มีไฟสูงไหลเข้าแอมป์ แต่มือใหม่ครับยังไม่เข้าใจวงจรปรีหลอดที่เป็นเพลตโหลดว่าเป็นแบบใด ปรีที่ผมนำมาต่อเป็นปรี 12AU7 ที่มช้หลอดEZ 80 ที่ป๋า tfender ลงในเว็ปอะไนซักที่จำไม่ได้ ใช้หลอด 12 AU7 2 หลอดครับไม่ทราบว่าวงจรแบบเพลตโหลดหรือเปล่า ขอความอนุเคราะห์ป๋าด้วยว่าเป็นวงจรแบบใดครับเพื่อความสบายใจ ตอนนี้ไม่กล้าใช้ปรีตัวนี้แล้ว ใช้ปรีมิว 1 อย่างเดียวเลยครับ
-
น่าจะใช่วงจรนี้นะครับ [roll]
-
^ อันข้างบนถ้ามีครบทั้งสองส่วนปลอดภัยครับ เพราะภาคสุดท้ายด้านขวาเป็นบัฟเฟอร์-คาโถดฟอลโลวเวอร์ เมื่อเริ่มเปิด ไฟจะค่อยๆ ขึ้น [gr_in]
แต่ถ้ามีแค่วงจรขยายซีกซ้ายอย่างเดียว ไม่มีบัฟเฟอร์ด้านขวาแล้วล่ะก็ อันนี้อันตราย เพราะตอนเปิดจ่ายไฟ หลอดยังไม่พร้อมทำงาน ไฟสูงก็จะวิ่งผ่าน R plate ออกเอาต์พุตทันทีครับ [c--c]
ซึ่งต้องหามิวติ้งช่วยอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น