www.diyaudiovillage.net
Source & Line amp & Amplifier Project ผลงาน DIY => Solid State => ข้อความที่เริ่มโดย: Kang-Pla ที่ 26 มีนาคม 2011, 10:46:46 AM
-
ผมมีหม้อแปลง ตามรูป ถ้ามี 2 ลูกก็ใช้กับ Lm3875 .ใด้ แต่มีลูกเดียว มัน 0-24 มันมีวิธีทำให้ใช้ใด้หรือเปล่าครับ
-
:-\ ง่า ถามเรื่อหม้อ ห้อง Solid State ซ๊ะาาาา [HAHAHA]
-
ผมมีหม้อแปลง ตามรูป ถ้ามี 2 ลูกก็ใช้กับ Lm3875 .ใด้ แต่มีลูกเดียว มัน 0-24 มันมีวิธีทำให้ใช้ใด้หรือเปล่าครับ
(http://www.diyaudiovillage.net/index.php?action=dlattach;topic=724.0;attach=6108;image)
-
8) มีทางเดียวครับ.... ไปสั่งพันที่ tron (ร้านที่พันตัวนี้) อีกลูกนึงให้เหมือนกันตามที่บอกมาแหละครับ
ร้านตั้งอยู่ไกล้ปากคลองตลาด โทร 02-2264203 02-2223495
-
8) มีทางเดียวครับ.... ไปสั่งพันที่ tron (ร้านที่พันตัวนี้) อีกลูกนึงให้เหมือนกันตามที่บอกมาแหละครับ
แบบรูปข้างบนเรียกว่าหม้อแบบไหนครับ ต่างจาก EI อย่างไรครับ่าน [res]
-
8) มีทางเดียวครับ.... ไปสั่งพันที่ tron (ร้านที่พันตัวนี้) อีกลูกนึงให้เหมือนกันตามที่บอกมาแหละครับ
แบบรูปข้างบนเรียกว่าหม้อแบบไหนครับ ต่างจาก EI อย่างไรครับ่าน [res]
เป็น R core ที่ร้านในบ้านเราชอบทำกัน จะเห็นใช้ในงาน SS ที่บ้านหม้อ เยอะมากครับ
-
:P R-CORE ต้องแบบรูปที่ยืมน้า davit มาครับ ที่เห็นเป็นแกนกลมๆรูปตัวโอนั่น ใช้เหล็กบางมากๆมาเรียงวนกันไปตามขนาดจนเป็นแกนกลมรูปตัวโอครับ ตามรูปปลากรอบเรยย ของเจ้าของกระทู้ ผมว่าเป็น EI ธรรมดา ๆแบบนอนครับ แต่ที่ร้านเค้าเรียกของเค้าว่า C-CORE ซึ่งผมว่ามันไม่ใช่ เคยไปสั่งครั้งนึง...ก็นะ ซีคอร์ ก็ ซีคอร์ ว่ากันไป
-
ไหนๆก็นะ หารูปมาให้ดูละกัน ถ้าเป็น C-CORE จะเป็นแกนรูปตัว C สองอันมาประกบกันเพื่อให้ครบรอบเส้นแรงสนามแม่เหล็ก ตามรูปที่ 1 รูปที่ 2 เมื่อใช้งาน
-
สำหรับ R-CORE แกนจะเป็นแบบรูปที่ 1 จะเห็นว่าใช้เหล็กบางๆปลายเล็กท้ายเล็กมาพันวนจนเป็นแกนกลมๆหรือเกือบกลม ในรูปตัว โอ และเมื่อทำเสร็จพร้อมใช้เป็นรูปที่ 2 ครับ
-
แล้วคุณสมบัติ ระหว่าง ei c core r core มันต่างกันยังไงอะครับ ประมาณว่าให้เสียงต่างกันอย่างไรอะ เพราะธรรมดาผมใช้แต่ ei อะครับ |:(
-
แล้วคุณสมบัติ ระหว่าง ei c core r core มันต่างกันยังไงอะครับ ประมาณว่าให้เสียงต่างกันอย่างไรอะ เพราะธรรมดาผมใช้แต่ ei อะครับ |:(
ผมเองไม่เลือกครับ.... แบบไหนก็ได้สำหรับหม้ออออแปลง... แล้วแต่ว่า ณ ขณะนั้นมีเงินในกระเป๋าเท่าใด หรือจำเป็นต้องใช้แบบไหน เรื่องเสียง...ตอบไม่ได้นะครับ... ขออภัยย ต้องแบบผู้มี หู ไม่ธรรมดาถึงจะตอบได้ครับ (พอฟังออกว่าแตกต่างกันครับแต่ไม่เคยฟังเทียบครับ) และ ซีคอร์ คงไม่มีวาสนาที่จะใช้ในแอมป์ผมครับ :-[
-
-EI มีเส้นทางเดินของเส้นแรงแม่เหล็ก 2 ลูป สามารถสร้างสนามแม่เหล็กได้สูง พันง่าย ขนาดใหญ่กว่าชาวบ้านเขาพอสมควร โครงสร้างทำจากแผ่นเหล็กตัว E และ I เรียงซ้อนกัน และเนื่องจากมันมีโครงสร้าง 2 ลูปทำให้สนามแม่เหล็กด้านหน้าและด้านหลังเสริมกัน+แพร่กระจายได้ไกล เลยเป็นที่มาของ EI จอมกวน
-Torroidal มีทางเดินเส้นแรงแม่เหล็กลูปเดียว โครงสร้างเป็นแผ่นเหล็กคุณภาพสูงม้วนเป็นรูปวงกลม ทำให้หม้อแปลงชนิดนี้ประสิทธิภาพสูง ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และพันยาก ส่วนการรั่วของฟลั๊กจะออกมารอบๆ แกนเป็นรูปโดนัท แถมถูกปิดด้วยแผ่นเล็กด้านบน (ด้านล่างเป็นตัวแท่น) ทำให้สนามแม่เหล็กรั่วไหลไปกวนอุปกรณ์รอบข้างได้น้อย ....... แต่มีข้อเสียคือ ช่วงออกตัวจะมี Surge current สูงมาก ถ้าใช้ฟิวส์ผิดประเภทจะขาดกระจาย ทางที่ดีต้องใส่วงจร Soft start ช่วย
-C-core (Cut-core) มีทางเดินเส้นทางแม่เหล็กลูปเดียว เหมือนหม้อแปลง Toroidal โครงสร้างทำจากเหล็กแผ่นบางๆ คุณภาพสูงมาเรียงซ้อนกันเป็นรูปตัว C (ผมว่าเหมือนตัว U มากกว่าครับ) เวลาใช้งานจะต้องเอาแกนตัว C 2 อันมาประกบกัน ส่วนขดลวดจะถูกพันบนแกนทั้งสองฝั่ง ทำให้หม้อแปลงชนิดนี้มีความสูงไม่มากเมื่อเทียบกับ EI ในพิกัดเดียวกัน เลยเป็นที่มาของคำว่าประสิทธิภาพสูง แต่เนื่องจากมีรอยต่อของแกนทำให้มีฟลั๊กรั่วไหลตรงจุดนี้ได้ เลยต้องมีการรัดแหวนทองแดงรอบตัว เพื่อไม่ให้สนามแม่เหล็กออกไปรบกวนวงจรใกล้เคียง
-R-core (Ring-core) เหมือนกับ C-core เกือบทั้งหมด ต่างกันตรงหน้าตัดแกน R-core จะเป็นแกนกลม (C-core เป็นแกนเหลี่ยม) และแกนถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวตลอดไม่มีรอยต่อ ทำให้เวลาพันจะใช้ลวดน้อยกว่าแบบ C-core (ระยะทางต่อรอบน้อยกว่า) ผลที่ตามมาคือ Copper loss ลดลง ส่วนการรั่วไหลของฟลั๊กจะต่ำกว่า C-core เนื่องจากไม่มีรอยต่อของแกน เลยทำให้บางครั้งจะไม่เห็นแหวนทองแดงรัดอยู่บนตัวหม้อแปลงชนิดนี้
-UI-core เหมือน C-core เช่นกัน เพียงแต่ถูกออกแบบมาให้พันง่ายขึ้นคือใช้แกนตัว U กับ I เรียงซ้อนสลับกัน คุณสมบัติต่างๆ ใกล้เคียงกับ C-core
ถ้าสังเกตุให้ดีจะเห็นว่าหม้อแปลง Toroidal, C-core, R-core, UI-core เป็นหม้อแปลงที่มีโครงสร้างแบบเดียวกัน ที่ต้องมีรูปแบบต่างกันไปก็เพื่อความเหมาะสมในการผลิตและการนำไปใช้งาน ยกตัวอย่าง ถ้าพื้นที่การติดตั้งจำกัด หม้อแปลง toroidal จะเหมาะสมกว่าเนื่องจากตัวมันกลมใช้พื้นที่ไม่มาก
-
-Torroidal มีทางเดินเส้นแรงแม่เหล็กลูปเดียว โครงสร้างเป็นแผ่นเหล็กคุณภาพสูงม้วนเป็นรูปวงกลม ทำให้หม้อแปลงชนิดนี้ประสิทธิภาพสูง ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และพันยาก ส่วนการรั่วของฟลั๊กจะออกมารอบๆ แกนเป็นรูปโดนัท แถมถูกปิดด้วยแผ่นเล็กด้านบน (ด้านล่างเป็นตัวแท่น) ทำให้สนามแม่เหล็กรั่วไหลไปกวนอุปกรณ์รอบข้างได้น้อย ....... แต่มีข้อเสียคือ ช่วงออกตัวจะมี Surge current สูงมาก ถ้าใช้ฟิวส์ผิดประเภทจะขาดกระจาย ทางที่ดีต้องใส่วงจร Soft start ช่วย
มิน่าละ
ตอนผมต่อ หม้อแปลงเทอรอยด์กับชุด จ่ายไฟมี C filter เยอะๆ ไม่มีฟิวส์
พอเปิดสวิทช์แล้ว ไฟในห้อง วูบ ลงทันทีเลยครับ :o
-
มิน่าละ
ตอนผมต่อ หม้อแปลงเทอรอยด์กับชุด จ่ายไฟมี C filter เยอะๆ ไม่มีฟิวส์
พอเปิดสวิทช์แล้ว ไฟในห้อง วูบ ลงทันทีเลยครับ :o
ถึงกับวูบบบเรยรึ... ของผมแค่กระพริบเองอ่ะครับ ใช้ไปนานๆ ก็ชินครับ...มันเป็นเช่นนั้นเอง yahoo1
-
ถึงกับวูบบบเรยรึ... ของผมแค่กระพริบเองอ่ะครับ ใช้ไปนานๆ ก็ชินครับ...มันเป็นเช่นนั้นเอง yahoo1
ผมมีแอมป์อยู่ตัวนึง ข้างในเป็นทอรอยด์บิ๊กเบิ้ม เปิดทีไรไฟดับทั้งบ้าน (เบรคเกอร์ทิปอ่ะครับ)......... ยังไงผมก็ไม่ชินอ่ะพี่ |:(
-
ผมมีแอมป์อยู่ตัวนึง ข้างในเป็นทอรอยด์บิ๊กเบิ้ม เปิดทีไรไฟดับทั้งบ้าน (เบรคเกอร์ทิปอ่ะครับ)......... ยังไงผมก็ไม่ชินอ่ะพี่ |:(
ถ้าใช้แล้วเป็นทุกข์... ก็อุ้มไปให้กระผมทุกข์แทนก็ได้ครับท่าน... เพราะว่า... มันเป็นเช่นนั้นเอง :D
-
ผมมีแอมป์อยู่ตัวนึง ข้างในเป็นทอรอยด์บิ๊กเบิ้ม เปิดทีไรไฟดับทั้งบ้าน (เบรคเกอร์ทิปอ่ะครับ)......... ยังไงผมก็ไม่ชินอ่ะพี่ |:(
ถ้าใช้แล้วเป็นทุกข์... ก็อุ้มไปให้กระผมทุกข์แทนก็ได้ครับท่าน... เพราะว่า... มันเป็นเช่นนั้นเอง :D
[HAHAHA]