www.diyaudiovillage.net
		Source & Line amp & Amplifier Project ผลงาน DIY => Vacuum Tubes => ข้อความที่เริ่มโดย: akradech ที่ 06 ตุลาคม 2014, 12:43:47 PM
		
			
			- 
				พอดีผมได้ทดลองปรับไบอัสกับเครื่องที่ Diy ไว้ ในแต่ละครั้งที่เปลี่ยนเบอร์หลอด
และเห็นว่าข้อมูลการทดลองอาจมีประโยชน์กับผู้เริ่มต้น ก็เลยมาแชร์ไว้ตรงนี้ละกันครับ  [chick-flying]
สำหรับหลอดที่ผมมีในสต๊อค ก็เป็นหลอดพื้นๆ ทั่วไปนี่แหละครับ แต่พอเอามาเสียบในวงจรเดียวกัน กลายเป็นว่า โวลต์ที่เพลท (อาโนด) 
ปรับเปลี่ยนตามการปรับไบอัสที่คาโทด
เพราะฉะนั้น พอผมเปลี่ยนหลอดเพื่อทดลองหาจุดที่เหมาะสมกับการฟัง ก็จะได้ค่า โวลต์ที่เพลท ไม่เท่ากันครับ
ออกตัวไว้ก่อนว่าผมก็ทดลองไปเรื่อยนะครับ ข้อมูลที่เอามานำเสนอ อาจจะใช้ได้ หรือไม่ได้ สำหรับเครื่องท่านอื่นๆ ก็เป็นได้  [Tongue-11]
เพราะฉะนั้น ถ้าจะตามผมมา  ก็พึ่งพาหูเราเอง ว่าเสียงที่ได้โอเคหรือไม่ด้วยนะครับ  [wink-11]
 
			 
			
			- 
				1. หลอด 6P3S  -  ไบอัสที่ 32 mA ที่แรงดันเพลท 315 โวลต์ 
2. หลอด EL38   - ไบอัสที่ 50 mA ที่แรงดันเพลท 283 โวลต์
3. หลอด 807   - ไบอัสที่ 50 mA ที่แรงดันเพลท 289 โวลต์
 [postman]
			 
			
			- 
				มีประโยชน์แน่นอนครับ....
แต่ดันสนใจว่า 807 เสียงแหล่มมั้ยครับ
			 
			
			- 
				ระหว่าง RCA 807  กับ รัสเซีย
ผมชอบรัสเซีย มากกว่าครับ  เสียงออกสด สว่างกว่า  แล้วเบสก็ดึ๋งดั๋งดีครับ  [huge-thumbs-up]
ที่สำคัญถูกกว่าเยอะเลยครับ  [chick4]
			 
			
			- 
				รัสเซีย ผมใช้ตัวนี้นะครับ 
(http://upic.me/i/np/1g807.jpg) (http://upic.me/show/53005111)
			 
			
			- 
				ผมทำตามประกอบวงจร 807SE มีเสียงเพลงแล้ว แต่ยังเคยวัดเลย
ช่วยแนะนำวิธีการวัด / คำนวน / ปรับไบอัส ด้วยครับ
			 
			
			- 
				มีวงจรหรือไม่ครับ จะได้บอกได้ถูกต้องครับ 
			
 
			
			- 
				การวัดกระแสไบอัส ของหลอดเพาเวอร์ 
เริ่มด้วยการวัดโวลต์ตกคร่อมอาร์คาโทด  โดยจิ้มสายมิเตอร์ขั้วบวก - ลบกับขาอาร์คาโทด (Rk) แต่ละด้าน เพื่อวัดค่าโวลต์ตกคร่อมตัวต้านทาน ว่าเป็นเท่าไหร่
เสร็จแล้วนำค่าโวลต์ตกคร่อมที่ได้ มาหารด้วยค่าความต้านทาน (หน่วยเป็นโอห์ม) ของอาร์คาโทด
จะได้ค่ากระแสไบอัสออกมาครับ  โดยได้หน่วยเป็นแอมป์  (A)
แต่ส่วนมากเราจะคุยกันระดับ มิลลิแอมป์ (mA) จึงต้องนำค่าที่ผ่านการคำนวณ มาคูณด้วยค่าคงที่ เพื่อปรับจากแอมป์ เป็นมิลลิแอมป์ คือ คูณด้วย 1000 ครับ
เมื่อได้ตัวเลขค่่ากระแสไบอัสหลอดเพาเวอร์แล้ว วิธีการปรับก็หมุนพอท ปรับแรงดันจ่ายเข้ากริดของหลอดเพาเวอร์  ค่ากระแสก็จะเปลี่ยนตามที่เราปรับ  มาก - น้อยจนถึงค่าที่เราต้องการครับ 
แนะนำให้ใช้มิเตอร์ดิจิตอลนะครับ จะได้ค่าที่ละเอียดกว่าแบบเข็มครับ 
			 
			
			- 
				กรณีที่เป็นแบบ Self bias - ไม่มีพอทให้หมุน จะใช้วิธีการเปลี่ยนค่าความต้านทาน Rk เอา  ค่าความต้านทาน Rk มากขึ้นจะไบอัสน้อยลง  ตรงกันข้าม ถ้าเปลี่ยนค่า Rk ให้น้อยลง กระแสไบอัส จะเพิ่มขึ้นครับ 
กรณีนี้ ผมเห็นพี่ๆ เค้าลองใช้ Pot มาต่อแทน Rk ก่อน แล้วหมุนปรับจนได้เสียงที่เราคิดว่าพอใจละ  [fb-smiling]
จึงค่อยวัดค่าความต้านทานจากขา Pot ก็จะได้ค่า Rk ออกมา แล้วค่อยไปซื้ออาร์มาใส่แทนตำแหน่งนี้ โดยใช้อาร์วัตต์สูง 3 - 5 วัตต์เป็นอย่างน้อย เพื่อป้องกันความเครียดของอาร์ และหากเครียดมาก อาร์ค่ายืด ก็จะทำให้ไม่ได้กระแสไบอัสตามที่ต้องการได้ครับ 
			 
			
			- 
				ทีนี้ ปัญหาที่แสนสนุกอีกอย่างนึง ในการทำแอมป์หลอดที่มีแหล่งจ่ายไฟแค่แหล่งเดียว (คือใช้ไฟจากภาคจ่ายไฟ ชุดเดียวจ่ายให้แอมป์ทั้ง 2 ข้าง)
จะเกิดปัญหานิดหน่อยครับ  [chick1]
เมื่อเราปรับข้างนึงได้กระแสตามที่ต้องการได้แล้ว อีกข้างจะโดนแย่งไฟไป ทำให้กระแสลดลง 
พอเราจะปรับอีกฝั่งให้ได้มั่ง กระแสข้างเมื่อกี้ที่พึ่งได้หยกๆ  ก็จะลดจากจุดที่ต้องการไป
เพราะฉะนั้น ก็ต้องวนปรับไป - มา จนกระทั่ง ถึงจุดสมดุล  
แล้วเราก็จะได้ค่าไบอัสกระแสที่ต้องการในที่สุดครับ  
เสร็จแล้ว ก็หาเครื่องดื่มเย็นๆ เพลงเพราะๆ มานั่งชิวล์ๆ  ได้ละครับ  [wink-11]
			 
			
			- 
				 ต้องแยกกันระหว่างทดสอบกับ ทำเครื่องจริง เพราะถ้าเราทดสอบเพียงข้างเดียว เราต้องคำนวณจาก load  ที่ใช้จริง แต่กรณีที่เราเอาไฟจากแท่นแอมป์ไปใช้ซึ่งแหล่งจ่ายนั้นเราได้คิดโหลดไว้ที่สองข้าง เมื่อนำไปใช้จะทำให้ไฟสูงกว่าวงจรก็เป็นเรื่องปกติ ถ้าเราเอามาทดสอบก็คงต้องลดไฟไปสู่จุดที่ต้องการได้ครับ อาจจะเพิ่มชุด filter อีกสเตจนึงเพื่อให้ได้ไฟตามต้องการก็ได้ครับ เมื่อทดสอบจนได้จุดที่พอใจแล้วค่อยปลดออก  คุณอัครเดชนำเสนอได้ดี เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่เรียนรู้จากการทดลอง ก่อนที่คิดจะสร้างเครื่องจริง กัน   [clap hand2]
			
 
			
			- 
				ขอบคุณครับพี่เล็ก  [0002053E] 
ก็หวังว่าจะพอได้แนวทาง และเอาไปใช้กับเครื่องของแต่ละท่านน่ะครับ เพราะสุดท้ายแล้ว ถ้าเราจูนได้ที่ หลอดอะไรก็น่าฟัง เพลงอะไรก็เพราะน่ะครับพี่  [wink-11]
			 
			
			- 
				     ครับ ถ้าทำเป็นความสนุกที่ได้จะมีมากกว่าการได้แค่ทำตามวงจรที่เห็นอยู่ทั่วไปผมว่าถ้าค่อยๆตามเก็บจนรู้ที่มา ที่ไปจนนำไปสู่สิ่งที่เราต้องการได้ง่ายและเร็วยิ่งขึ้นครับ    คำสองคำนี้ดูแล้วเหมือนจะมีความหมายที่เหมือนกัน แต่ความจริงแล้วแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำได้ กับ ทำเป็น 
			
 
			
			- 
				 [huge-thumbs-up] [huge-thumbs-up]
			
 
			
			- 
				 [huge-thumbs-up] เยี่ยมเลยครับเดี๋ยวจะลองไป ปรับของตัวเองดูบ้าง ทำได้แล้วต้องทำเป็นด้วย  [enjoyment]
			
 
			
			- 
				เยี่ยมครับน้า [huge-thumbs-up] แชร์กันครับน้าเอาไปต่อยอดกันได้ [painting-11]