www.diyaudiovillage.net
DIY มือใหม่ , TIPS & TRICKS , R&D SECTION => DIY มือใหม่ => ข้อความที่เริ่มโดย: monalisa ที่ 30 พฤศจิกายน 2010, 10:46:29 AM
-
อยากสอบถามเรื่องการต่อ Ground ของไฟในบ้านนะครับ จะต้องทำยังไง ถ้าเกิดว่าที่บ้านไม่มีช่องของกราวด์อยู่ พอดีจะขึ้นบ้านใหม่ปลั๊กที่ใช้งานยังไม่มีรูกราวด์ เลยว่าอยากจะทำปลั๊กของเครื่องเสียงที่ลงกราวด์ไว้ซะหน่อย เผื่อลดเสียงฮัม เสียงจี๋ไปได้บ้าง :D
-
วิธีที่ง่ายที่สุด
เปลี่ยนเต้ารับใหม่ เพื่อใช้กับปลั๊ก 3 ขา แล้วเอาสายทองแดงแกนเดี่ยว ขนาดไม่น้อยกว่า 2.5 SQM.
ต่อจาก G ของเต้ารับไปลงดิน หรือ Earth ผ่านแท่งทองแดง หรือที่ชอบพูดกันว่าท่างกราวน์ล๊อต ความยาว
ประมาณ 1 - 1.8 M ที่ตีฝังลงไปในดิน ความยาวของแท่งทองแดง ขึ้นอยู่กับความชื้นของดินที่เราตีฝังแท่งทองแดงลงไป
เท่านี้ชุดเครื่องเสียงของเราก็มีระบบกราวน์แล้ว
และที่สำคัญ ชุดเครื่องเสียงของเราต้องใช้กับปลั๊ก 3 ขาด้วยนะ ถ้าเป็นปลั๊ก 2 ขา ก็ต้องต่อจากตัวถังเครื่องลงดินแทน
แล้วต่อไปจะเพิ่มเต้ารับที่มีกราวน์ไปยังเต้ารับตัวใหม่เพิ่มอีก ก็ให้ต่อสายกราวน์ต่อพ่วงกันจากเต้ารับตัวเดิมที่เอา G ลงดินไว้
ไปยังเต้ารับตัวใหม่ ก็จะทำให้มีระบบ G ที่สมบูรณ์แล้วครับ
-
ขอเสริมเรื่องสายกราวน์ของบ้านคับ
บางท่าน ปลั๊กไฟที่บ้านเป็นปลั๊ก 2 สาย พอเดินปลั๊กสามสาย ช่างก็เอาสายกราวน์ไปเชื่อมกับเหล็กโครงสร้าง เหล็กโครงหลังคา ที่ใกล้ที่สุด
ถ้าตามมารตฐานการก่อสร้างแล้ว พวกเหล็กโครงสร้างพวกนี้จะไม่เชื่อมต่อกับพื้นดินคับ
-
หลักดิน (Ground Rod)
หลักดินต้องทำด้วย วัสดุที่ทนต่อการผุกร่อน และไม่เป็นสนิม เช่น แท่งทองแดง แท่งเหล็กชุบหรือหุ้มด้วยทองแดงโดยต้องมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 16 มม. (5/8 นิ้ว) และยาวไม่น้อยกว่า 2.40 เมตร
ถ้าเป็นเหล็กหุ้มด้วยทองแดง ต้องมีความหนาของทองแดงไม่ต่ำกว่า 0.25 มม. และต้องหุ้มอย่างแนบสนิทไม่หลุดออกจากกัน และไม่มีปลายเหล็กโผล่ออกมาสัมผัสกับเนื้อดิน เพื่อไม่ให้เหล็กเป็นสนิม และต้องไม่มีการเจาะรูเพื่อยึดทองแดงกับเหล็กให้ติดกัน มิฉะนั้นแท่งเหล็กจะเป็นสนิมตามรูที่เจาะนั้น
ห้ามใช้อะลูมิเนียมหรือโลหะผสมของอะลูมิเนียมเป็นหลักดิน
หลักดินที่ดีควรผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน UL- 467
การ ต่อสายดินเข้ากับหลักดินนั้น อุปกรณ์ต่อหลักดิน และสายต่อหลักดิน ควรใช้วัสดุชนิดเดียวกันเพื่อไม่ให้มีปัญหาการกัดกร่อน เช่นหลักดินทองแดงต่อกับสายต่อหลักดินทำด้วยทองแดง ควรใช้วิธีเชื่อมต่อด้วยผงทองแดงโดยเผาให้หลอมละลาย (ต้องเทผงชนวนให้อยู่ผิวบนและจุดด้วยปืนจุดชนวนเท่านั้น) ถ้าใช้วิธียึดด้วยแรงกลก็ต้องใช้หัวต่อที่มีส่วนผสมของทองแดง และ ต้องมีความมั่นคงแข็งแรงและทนต่อการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี (มีการทดสอบตามมาตรฐาน)
หลักดินที่ดีเมื่อตอกลงดินแล้วต้องมีความต้านทานการต่อลงดินไม่เกิน 5 โอห์ม ตามมาตรฐานของการไฟฟ้านครหลวง
เนื้อ ดินบริเวณที่ตอกหลักดินที่ดีควรเป็นดินแท้ ๆ และต้องไม่ถูกกั้นหรือล้อมรอบด้วยหิน, กรวด, ทราย หรือแผ่นคอนกรีต เพราะเป็นอุปสรรคต่อการแพร่กระจายของประจุไฟฟ้าลงสู่ดิน ทำให้ความต้านทานการต่อลงดินมีค่าสูงเกินกว่ามาตรฐาน (ในกรณีที่ใช้หลักดินตามมาตรฐานการไฟฟ้านครหลวงและสภาพพื้นที่และเนื้อดิน ไม่มีอุปสรรคในดินแล้ว ความต้านทานการต่อลงดินในเขตบริการของการไฟฟ้านครหลวงจะไม่เกิน 5 โอห์มเสมอ
ห้ามใช้ตะปูคอนกรีตตอกเข้าไปในผนังหรือพื้นคอนกรีต เพราะตะปูคอนกรีตไม่สามารถทำหน้าที่แทนหลักดิน เพื่อการต่อลงดินได้
ตำแหน่งของหลักดินควรอยู่ใกล้จากตู้เมนสวิตซ์
ห้าม แช่หลักดินในน้ำเพราะเมื่อมีไฟรั่วจะแพร่กระจายไปกับน้ำและเกิดอันตรายกับ ผู้ที่อยู่ในน้ำ ถ้าจำเป็นต้องตอกหลักดินในน้ำต้องตอกให้มิดดิน
ขนาดของสายต่อหลักดินจะขึ้นอยู่กับขนาดสายเมน และต้องไม่เล็กกว่า 10 ตร.มม. โดยควรมีท่อหรือฉนวนหุ้มอยู่ด้วย
การ ตอกหลักดินควรตอกให้ลึกที่สุดถ้าเป็นหัวต่อหลักดินชนิดยึดด้วยแรงกลคควรให้ หัวต่อโผล่พ้นดิน หรือระดับน้ำท่วมเพื่อหลีกเลี่ยงการผุกร่อน หัวต่อชนิดหลอมละลายสามารถตอกให้จมดินได ้แต่ต้องใช้สายต่อเส้นใหญ่ และหุ้มฉนวนมิดชิดเพื่อไม่ให้สายผุกร่อน
(http://www.made-in-china.com/image/2f0j00dMcaIwLFfUqrM/Outside-Screw-Thread-Ground-Rod-LG-002-A-.jpg)
(http://forum.munkonggadget.com/upload/2010/09/20100907150752.jpg)
หรือ เครื่องมือไม่พร้อม ก็เอาแค่ใช้ฆ้อนตอกลงไปให้โผล่พ้นพื้นมาสัก 2-3 นิ้ว พอที่จะขันยึด แคล้มป์ล็อคสายได้ก็เพียงพอครับ อย่างหลังนี้ผมทำประจำสำหรับงานเฉพาะกิจ
(http://www.aa5au.com/shack_reno13.jpg)
-
เมื่อใช้แคล้มป์ล็อคสาย ดังรูปข้างบนแล้ว
ผมขอแนะนำให้ขุดหลุมรอบหัวเสาหลักดิน ลึก 1 ฟุต กว้างพอประมาณ แล้วตีหัวเสาหลักดินให้ต่ำกว่าระดับพื้นในแนวระนาบเล็กน้อย
จัดการเทปูนซิเมนต์ทับ ป้องกันการผุกร่อนและแน่นหนาด้วยครับ
-
บ้านผมพึ่งทำเลยครับ เปลี่ยนจาก 2 รู เป็น 3 รู แต่ไม่ได้ดูว่าเค้าตอก ลึกแค่ไหน เหล็กยาวขนาดไหน
แต่ลากเข้า Breaker ก่อนแล้วค่อยเดินมาที่ห้องครับ เพื่อที่เวลาเพิ่มจุด จะได้ลากGround เข้าจุดเีดียวกัน
มันจะได้ไม่เกิด Loop (ไม่รู้เข้าใจผิดหรือเปล่า) ???
-
เดี่ยวผมจะไปลองทำดู แล้วถ่ายรูปมาให้ดูครับ กำลังจะเข้าบ้านใหม่เร็วๆนี้ เลยอยากทำให้มันเสร็จก่อนที่จะย้ายของเข้ามา :D
-
ขอเอามาให้ชมบ้างคับ เดินสายร้อยท่อออกมาจากตัวบ้าน ขุดหลุมลึกประมาณ 0.30ม.
ตอกแท่งกราวน์ให้จม แล้วขันแคล๊มรัดคับ
-
ตามน้าเล็กเลยครับ
-
ขอถามครับ ???
ถ้าตอกลงไปในดินไม่ลึกพอหรือไม่สามารถตอกลงไปลึกได้จะมีผลกระทบอย่างไรบ้างครับ และมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง???
-
อาจทำให้ค่าความต้านทานระหว่างหลักดินกับดิน สูงเกินค่ามาตรฐาน 5 โอห์ม ได้คับ
การแก้ไขได้หลายทาง เช่น ใช้จำนวนหลักดินมากขึ้น ใช้ขนาดหลักดินขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางโตขึ้น เพื่อเพิ่มหน้าสัมผัสกับดินคับ
นอกจากนี้ยังสามารถปรับปรุงดินบริเวณที่ฝังหลักดินได้ด้วย แต่ส่วนมาก แก้ไขโดยใช้วิธีข้างต้น จะผ่านตามมาตรฐานคับ
-
สายดินที่บ้านผมเทปูนทับไปหมดแล้ว
-
ผมขอดันกระทู้ขึ้นมาหน่อยครับเพราะว่าสับสนเรื่องการต่อกราวด์จริงๆครับว่าทำไม ระเบียบการไฟฟ้าให้ต่อกราวด์จากหลักดิน มาเข้าที่ตู้เมนในบ้าน แล้วต่อรวมเข้ากับ N (ให้ต่อได้จุดเดียวที่ตู้เมนเท่านั้น)
แล้วโยงสายกราวด์จากปลั๊กผนังบ้านจากหลายๆจุดไปเข้าที่จุดรวมกราวด์ที่ตู้เมน
ผมต่อแบบนี้ซึ่งก็น่าจะถูกหลักการแล้ว แต่ผมอ่านๆดูจากด้านบนอย่างของพี่อัล เท่ากันว่า ต่อสายกราวด์จากปลั๊กผนังบ้าน ไปลงดินเลย โดยไม่ต้องไปเข้าตู้เมนและรวมกับ N
ตกลงแบบไหนเป็นการต่อที่ถูกวิธีกันแน่ครับ
-
ผมขอดันกระทู้ขึ้นมาหน่อยครับเพราะว่าสับสนเรื่องการต่อกราวด์จริงๆครับว่าทำไม ระเบียบการไฟฟ้าให้ต่อกราวด์จากหลักดิน มาเข้าที่ตู้เมนในบ้าน แล้วต่อรวมเข้ากับ N (ให้ต่อได้จุดเดียวที่ตู้เมนเท่านั้น)
แล้วโยงสายกราวด์จากปลั๊กผนังบ้านจากหลายๆจุดไปเข้าที่จุดรวมกราวด์ที่ตู้เมน
ผมต่อแบบนี้ซึ่งก็น่าจะถูกหลักการแล้ว แต่ผมอ่านๆดูจากด้านบนอย่างของพี่อัล เท่ากันว่า ต่อสายกราวด์จากปลั๊กผนังบ้าน ไปลงดินเลย โดยไม่ต้องไปเข้าตู้เมนและรวมกับ N
ตกลงแบบไหนเป็นการต่อที่ถูกวิธีกันแน่ครับ
ที่น้าต่อเข้าตู้เมนนะถูกแล้วครับเป็นกราวด์ของระบบทั้งบ้าน (System Grounding)...
แต่ที่น้าอัลต่อเป็นการต่อกับอุปกรณ์เฉพาะจุดครับ (Equipment Grounding)...ซึ่งปกติบ้านเดิมๆถ้ายังไม่มีการต่อลงดิน
คงจะไม่มีใครรื้อเปลี่ยนทั้งระบบเพราะค่าใช้จ่ายสูงทำเฉพาะจุดจะง่ายและประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าครับ
บ้านผมก็เปลี่ยนเฉพาะตู้เมนต่อลงดิน...เดินสายใหม่เฉพาะปลั๊กในจุดที่ฟังเพลงเท่านั้นครับ
เปลี่ยนหมดทั้งบ้านทุกจุดคงจะไม่ไหว....
http://www.skb.ac.th/~skb/computor/nectec/sgr.html
-
ผมขอดันกระทู้ขึ้นมาหน่อยครับเพราะว่าสับสนเรื่องการต่อกราวด์จริงๆครับว่าทำไม ระเบียบการไฟฟ้าให้ต่อกราวด์จากหลักดิน มาเข้าที่ตู้เมนในบ้าน แล้วต่อรวมเข้ากับ N (ให้ต่อได้จุดเดียวที่ตู้เมนเท่านั้น)
แล้วโยงสายกราวด์จากปลั๊กผนังบ้านจากหลายๆจุดไปเข้าที่จุดรวมกราวด์ที่ตู้เมน
ผมต่อแบบนี้ซึ่งก็น่าจะถูกหลักการแล้ว แต่ผมอ่านๆดูจากด้านบนอย่างของพี่อัล เท่ากันว่า ต่อสายกราวด์จากปลั๊กผนังบ้าน ไปลงดินเลย โดยไม่ต้องไปเข้าตู้เมนและรวมกับ N
ตกลงแบบไหนเป็นการต่อที่ถูกวิธีกันแน่ครับ
ที่น้าต่อเข้าตู้เมนนะถูกแล้วครับเป็นกราวด์ของระบบทั้งบ้าน (System Grounding)...
แต่ที่น้าอัลต่อเป็นการต่อกับอุปกรณ์เฉพาะจุดครับ (Equipment Grounding)...ซึ่งปกติบ้านเดิมๆถ้ายังไม่มีการต่อลงดิน
คงจะไม่มีใครรื้อเปลี่ยนทั้งระบบเพราะค่าใช้จ่ายสูงทำเฉพาะจุดจะง่ายและประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าครับ
บ้านผมก็เปลี่ยนเฉพาะตู้เมนต่อลงดิน...เดินสายใหม่เฉพาะปลั๊กในจุดที่ฟังเพลงเท่านั้นครับ
เปลี่ยนหมดทั้งบ้านทุกจุดคงจะไม่ไหว....
[url]http://www.skb.ac.th/~skb/computor/nectec/sgr.html[/url]
ถ้าต่อแบบผมเป็นการต่อที่ถูกต้องผมก็จะได้สบายใจว่าต่อถูกต้องครับ บ้านผมก็ต่อเป็นบางจุดครับ ไม่ได้ทำทั้งบ้านครับ ทำเฉพาะจุดคอมกับ เครื่องเสียงครับ แต่ผมเอาไปรวมกันที่ตู้ครับ ไม่ได้ทำแบบพี่อัลครับ
-
ok ครับผมไปเจอเอกสารของการไฟฟ้าแล้วครับ สรุปว่าต่อแบบผมถูกวิธีครับ
ต่อแบบพี่อัล การไฟฟ้าทำเครื่องหมายว่าผิดครับตามรูป ประกอบครับ
ไม่มีเจตนาพาดพิงพี่อัลนะครับ แต่เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจึงจำเป็นต้องหาวิธีที่ถูกต้องที่สุดมาใช้ครับ
-
ok ครับผมไปเจอเอกสารของการไฟฟ้าแล้วครับ สรุปว่าต่อแบบผมถูกวิธีครับ
ต่อแบบพี่อัล การไฟฟ้าทำเครื่องหมายว่าผิดครับตามรูป ประกอบครับ
ไม่มีเจตนาพาดพิงพี่อัลนะครับ แต่เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจึงจำเป็นต้องหาวิธีที่ถูกต้องที่สุดมาใช้ครับ
ก็จริงที่คุณ Cleaning บอกไว้นั่นแหล่ะ
การต่อหลักดินต้องเอาไปต่อที่ตู้เมนแล้วจึงลากไปยังปลั๊กไฟเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
ซึ่งบ้านที่ก่อสร้างใหม่จะทำแบบนี้กันหมด
แต่วิธีที่ผมกล่าวไว้ข้างต้นนั้น เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่ง่ายที่สุด และประหยัดที่สุด สำหรับบ้านที่ไม่เดินหลักดินไว้แต่เดิม
ผมบอกไว้ชัดเจนว่า เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด
หากจะเดินตามที่การไฟฟ้าฯ ให้คำแนะนำเพื่อความปลอดภัยทุกจุด ดูจะเป็นเรื่องโกลาหล เพราะต้องเดินทั้งบ้านแต่ถ้าทำได้ก็จะเป็นการดีที่สุด
แต่ถ้าทำไม่ได้เพราะยุ่งยาก และต้องการเน้นเฉพาะจุด (Equipment Grounding) วิธีที่ผมบอกก็จะปลอดภัยในระดับหนึ่งแล้ว
จะเลือกใช้อย่างใด ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ใช้ก็แล้วกัน
อันที่จริงไฟฟ้าที่เดินเข้าบ้านเรานั้น เขาก็เดิน L มาเพียงเส้นเดียว ส่วน N ไปเดินดูตามเสาไฟต้นใดต้นหนึ่งหน้าบ้าน
จะเห็นเขาตอกหลักดินไว้เพื่อต่อสาย N แล้วเอามาเข้าบ้านเราพร้อมกับ L อีกทีหนึ่ง
ไม่ว่าจะต่ออย่างใด ก็มีความปลอดภัยในจุดที่เราต่อหลักดิน (Earth) ขอเพียงแต่ว่าในจุดที่เราเดินสายดินขอให้ลงหลักดินเพียงจุดเดียว
หากลงไว้หลายจุดไม่ขอแนะนำ
พูดเรื่องความปลอดภัย ถึงแม้ว่าเราใช้ปลั๊ก 3 ขาต่อสายดินไว้ด้วยแล้ว แต่ถ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าของเรายังใช้ปลั๊กเสียบ 2 ขาอยู่
หากไฟรั่วก็ใช่ว่าจะปลอดภัยนะ
แค่นี้ก่อนก็แล้วกัน ที่โพสต์ยาวอย่างนี้ไม่ใช่คำแก้ตัวของนายอัลกอฮอล์นะ
เพียงอยากให้ใช้วิจารณญาณเอาเองครับ
-
เมื่อขุดมาแล้ว ก็มาต่ออีกหน่อยนึง
ภาพการต่อหลักดิน หรือแท่ง Ground Rod หรือ Earth
บ้านเก่าที่ใช้คัตเอ๊าท์
(http://www.skb.ac.th/~skb/computor/nectec/gp55.jpg)
กรณีที่ใช้แผงสวิตซ์เป็น Consumer Unit
(http://www.skb.ac.th/~skb/computor/nectec/gp44.jpg)
ปุจฉา
ทำไมจึงต้องเอา Earth ไปต่อเข้าคัตเอ๊าท์ และตู้แผง Consumer Unit ที่นิวตรัล (N)
ถ้าผมเข้าใจผิด ก็ขอได้โปรดแนะนำด้วย
บ้านเราใช้ไฟ 1 เฟส 2 เส้น มีเพียง L กับ N มานานกันกี่ปีแล้ว
คิดดูเถอะว่าบ้านเราสุ่มเสี่ยงกับไฟฟ้าลัดวงจร และทำให้มีผู้เสียชีวิตกันมานับไม่ถ้วน
วันนี้มาพูดถึงความปลอดภัยกัน ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะว่าความปลอดภัยต้องมาก่อน
การที่เราต้องต่อสายนิวตรัล (N) ลงดินโดยผ่าน Ground Rod อีก 1 แท่งนั้น
ก็เพราะว่า เมื่ออุปกรณ์ไฟฟ้าที่เราใช้งานอยู่นั้น หากเกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นมา กระแสไฟจะได้ไหลผ่านลงดินผ่านทางแท่ง Ground Rod ได้เร็วที่สุด
มันก็จะไม่เกิด Ground Loop Effect ที่จะทำให้เราเสียชีวิตได้เมื่อยามที่เราไปสัมผัสกับมัน
ทำไมจึงต้องไปต่อที่ตู้เมน และที่คัตเอ๊าท์ก่อน
ก็เพราะว่า หากเกิดไฟลัดวงจรและมีกระแสไหลผ่านมาก ฟิวส์จะได้ขาด หรือวงจรป้องกันจะได้ทริปตัดการทำงานของระบบไฟฟ้า
และการต่อ GND จากตู้เมนนั้น จะได้ป้องกันไม่ให้เกิด Ground Loop ด้วย
แต่การทำเฉพาะจุดแบบที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น เมื่ออ่านจบก็จะร้องอ๋อแล้วนะครับ
-
หลักดิน (Ground Rod)
หลักดินต้องทำด้วย วัสดุที่ทนต่อการผุกร่อน และไม่เป็นสนิม เช่น แท่งทองแดง แท่งเหล็กชุบหรือหุ้มด้วยทองแดงโดยต้องมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 16 มม. (5/8 นิ้ว) และยาวไม่น้อยกว่า 2.40 เมตร
ถ้าเป็นเหล็กหุ้มด้วยทองแดง ต้องมีความหนาของทองแดงไม่ต่ำกว่า 0.25 มม. และต้องหุ้มอย่างแนบสนิทไม่หลุดออกจากกัน และไม่มีปลายเหล็กโผล่ออกมาสัมผัสกับเนื้อดิน เพื่อไม่ให้เหล็กเป็นสนิม และต้องไม่มีการเจาะรูเพื่อยึดทองแดงกับเหล็กให้ติดกัน มิฉะนั้นแท่งเหล็กจะเป็นสนิมตามรูที่เจาะนั้น
ห้ามใช้อะลูมิเนียมหรือโลหะผสมของอะลูมิเนียมเป็นหลักดิน
หลักดินที่ดีควรผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน UL- 467
การ ต่อสายดินเข้ากับหลักดินนั้น อุปกรณ์ต่อหลักดิน และสายต่อหลักดิน ควรใช้วัสดุชนิดเดียวกันเพื่อไม่ให้มีปัญหาการกัดกร่อน เช่นหลักดินทองแดงต่อกับสายต่อหลักดินทำด้วยทองแดง ควรใช้วิธีเชื่อมต่อด้วยผงทองแดงโดยเผาให้หลอมละลาย (ต้องเทผงชนวนให้อยู่ผิวบนและจุดด้วยปืนจุดชนวนเท่านั้น) ถ้าใช้วิธียึดด้วยแรงกลก็ต้องใช้หัวต่อที่มีส่วนผสมของทองแดง และ ต้องมีความมั่นคงแข็งแรงและทนต่อการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี (มีการทดสอบตามมาตรฐาน)
หลักดินที่ดีเมื่อตอกลงดินแล้วต้องมีความต้านทานการต่อลงดินไม่เกิน 5 โอห์ม ตามมาตรฐานของการไฟฟ้านครหลวง
เนื้อ ดินบริเวณที่ตอกหลักดินที่ดีควรเป็นดินแท้ ๆ และต้องไม่ถูกกั้นหรือล้อมรอบด้วยหิน, กรวด, ทราย หรือแผ่นคอนกรีต เพราะเป็นอุปสรรคต่อการแพร่กระจายของประจุไฟฟ้าลงสู่ดิน ทำให้ความต้านทานการต่อลงดินมีค่าสูงเกินกว่ามาตรฐาน (ในกรณีที่ใช้หลักดินตามมาตรฐานการไฟฟ้านครหลวงและสภาพพื้นที่และเนื้อดิน ไม่มีอุปสรรคในดินแล้ว ความต้านทานการต่อลงดินในเขตบริการของการไฟฟ้านครหลวงจะไม่เกิน 5 โอห์มเสมอ
ห้ามใช้ตะปูคอนกรีตตอกเข้าไปในผนังหรือพื้นคอนกรีต เพราะตะปูคอนกรีตไม่สามารถทำหน้าที่แทนหลักดิน เพื่อการต่อลงดินได้
ตำแหน่งของหลักดินควรอยู่ใกล้จากตู้เมนสวิตซ์
ห้าม แช่หลักดินในน้ำเพราะเมื่อมีไฟรั่วจะแพร่กระจายไปกับน้ำและเกิดอันตรายกับ ผู้ที่อยู่ในน้ำ ถ้าจำเป็นต้องตอกหลักดินในน้ำต้องตอกให้มิดดิน
ขนาดของสายต่อหลักดินจะขึ้นอยู่กับขนาดสายเมน และต้องไม่เล็กกว่า 10 ตร.มม. โดยควรมีท่อหรือฉนวนหุ้มอยู่ด้วย
การ ตอกหลักดินควรตอกให้ลึกที่สุดถ้าเป็นหัวต่อหลักดินชนิดยึดด้วยแรงกลคควรให้ หัวต่อโผล่พ้นดิน หรือระดับน้ำท่วมเพื่อหลีกเลี่ยงการผุกร่อน หัวต่อชนิดหลอมละลายสามารถตอกให้จมดินได ้แต่ต้องใช้สายต่อเส้นใหญ่ และหุ้มฉนวนมิดชิดเพื่อไม่ให้สายผุกร่อน
([url]http://www.made-in-china.com/image/2f0j00dMcaIwLFfUqrM/Outside-Screw-Thread-Ground-Rod-LG-002-A-.jpg[/url])
([url]http://forum.munkonggadget.com/upload/2010/09/20100907150752.jpg[/url])
หรือ เครื่องมือไม่พร้อม ก็เอาแค่ใช้ฆ้อนตอกลงไปให้โผล่พ้นพื้นมาสัก 2-3 นิ้ว พอที่จะขันยึด แคล้มป์ล็อคสายได้ก็เพียงพอครับ อย่างหลังนี้ผมทำประจำสำหรับงานเฉพาะกิจ
([url]http://www.aa5au.com/shack_reno13.jpg[/url])
[yes-raccoon] ตามข้อมูลที่น้าเล็กเอามาเลยครับ ผมเดินมาประมาณ 5 หลังแล้ว ใช้แท่งกราาวน์ ยาว 2.4 ม . ใช้สายกราวน์ VSF 10 sqmm ตอกลงไปต่ำกว่าพื้นดินอีกประมาณ 30 ซม ส่วนแคล้มที่ใช้ ผมแนะนำใหเปลี่ยนเป็นแบบที่มีน็อต 2 ข้าง ที่ใช้ต่อสายแข็งอย่างสาย THW จะแน่นและมั่นคงกว่าแคล้มรูปหัวใจครับ
-
เมื่อขุดมาแล้ว ก็มาต่ออีกหน่อยนึง
ภาพการต่อหลักดิน หรือแท่ง Ground Rod หรือ Earth
บ้านเก่าที่ใช้คัตเอ๊าท์
([url]http://www.skb.ac.th/~skb/computor/nectec/gp55.jpg[/url])
กรณีที่ใช้แผงสวิตซ์เป็น Consumer Unit
([url]http://www.skb.ac.th/~skb/computor/nectec/gp44.jpg[/url])
ปุจฉา
ทำไมจึงต้องเอา Earth ไปต่อเข้าคัตเอ๊าท์ และตู้แผง Consumer Unit ที่นิวตรัล (N)
ถ้าผมเข้าใจผิด ก็ขอได้โปรดแนะนำด้วย
บ้านเราใช้ไฟ 1 เฟส 2 เส้น มีเพียง L กับ N มานานกันกี่ปีแล้ว
คิดดูเถอะว่าบ้านเราสุ่มเสี่ยงกับไฟฟ้าลัดวงจร และทำให้มีผู้เสียชีวิตกันมานับไม่ถ้วน
วันนี้มาพูดถึงความปลอดภัยกัน ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะว่าความปลอดภัยต้องมาก่อน
การที่เราต้องต่อสายนิวตรัล (N) ลงดินโดยผ่าน Ground Rod อีก 1 แท่งนั้น
ก็เพราะว่า เมื่ออุปกรณ์ไฟฟ้าที่เราใช้งานอยู่นั้น หากเกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นมา กระแสไฟจะได้ไหลผ่านลงดินผ่านทางแท่ง Ground Rod ได้เร็วที่สุด
มันก็จะไม่เกิด Ground Loop Effect ที่จะทำให้เราเสียชีวิตได้เมื่อยามที่เราไปสัมผัสกับมัน
ทำไมจึงต้องไปต่อที่ตู้เมน และที่คัตเอ๊าท์ก่อน
ก็เพราะว่า หากเกิดไฟลัดวงจรและมีกระแสไหลผ่านมาก ฟิวส์จะได้ขาด หรือวงจรป้องกันจะได้ทริปตัดการทำงานของระบบไฟฟ้า
และการต่อ GND จากตู้เมนนั้น จะได้ป้องกันไม่ให้เกิด Ground Loop ด้วย
แต่การทำเฉพาะจุดแบบที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น เมื่ออ่านจบก็จะร้องอ๋อแล้วนะครับ
ส่วนตู้ คอนซูเมอร์ที่ผมใช้ เป็นของเซพทีคัทครับ จากการทำสอบ โดยที่ใช้ตัวเองเป็นตัวล่อ ตัดไวมากๆ [yes-raccoon]
-
http://thaiaudioclub.net/board/index.php?topic=16076.0
ผมไปถามไว้และตามลิงค์ของการไฟฟ้าไปเลยครับ
ให้ดูภาพหน้าสุดท้ายเลย
-
การไฟฟ้านี่แปลกเนอะ ไม่ถูกต้องก็ไม่บอกว่านะว่าทำไมมันไม่ถูก
น่าจะอธิบายไปเลยว่าทำแบบนี้ แบบนั้นแล้ว มีข้อดีข้อเสียยังไง
เดือนที่แล้ว เพื่อนโทรมาถามเรื่องเครื่องทำน้ำอุ่น เป็นบ้านเก่าไม่มีสายดิน
เพื่อนถามว่าให้เลือกระหว่างต่อกราวด์ที่ตัวเครื่องทำน้ำอุ่นตรงๆ ลงดิน ลงจากชั้น 2 เลย กับต่อปกติเข้าเซฟทีคัท
ผมตอบไปว่า เป็นผม ผมเลือกอันแรก เพื่อนถามว่าทำไม ตูจะรอให้ไฟมันดูดก่อนทำไมละครับ เกิดเซฟมันไม่ทำงานขึ้นมาละครับ