โปรเจค amp EL32 SE

[t43_noi]

     

[pansak]

คุณเล็กครับ รบกวนช่วยเขียนเป็นวงจรให้ดูด้วย ข้อ 2 ภาคเพาเวอร์กินกระแสมากกว่าทำให้ไฟในภาคไดร์ไม่นิ่ง ควรต้องแยกชุดกรณีที่ภาคไดร์ใช้แรงดันที่สูงกว่า ขอบคุณครับ

     พันธุ์ศักดิ์

[CreÃte_Lek ♫]

คุณเล็กครับ รบกวนช่วยเขียนเป็นวงจรให้ดูด้วย ข้อ 2 ภาคเพาเวอร์กินกระแสมากกว่าทำให้ไฟในภาคไดร์ไม่นิ่ง ควรต้องแยกชุดกรณีที่ภาคไดร์ใช้แรงดันที่สูงกว่า ขอบคุณครับ

     พันธุ์ศักดิ์

ขี้เกียจเขียน ไปดูเครื่อง 300B ของคุณ yoot ใช้วิธีการต่อแบบนี้อยู่ หรือ 2A3 PP ของผมก็ต่อไฟสองแรงดัน จากแท็บไฟสูงแท็บเดียว

[t43_noi]

อีกหนึ่งทางเลือกครับ ..
  ผมทำบ่อย ในกรณีที่ไม่อยากแยก supply แล้วลดแรงดันโดยใช้ R watt สูงๆ อย่างน้อย 2 Stage มาลดแรงดันจาก 400 -450 V เหลือ 330V สำหรับจ่ายให้ภาคหน้า ผมใช้วิธีต่อแบบ CRC หรือ แบบ Pi filter นั่นเอง

  มันมีข้อเสียอยู่บ้างในเรื่องของจุดทำงานที่เลื่อนไปบ้าง แต่ส่วนมากผมเช็คแล้วใช้งานได้ อัตตราขยายไม่เปลี่ยน รูปกราฟสมมาตรเหมือนเดิม (ฟังไม่ออก)

[pansak]

ขอบคุณทั้งสองท่านครับ

     พันธุ์ศักดิ์

[ต่อภูเขียว]

กำลังจะถามเหมือน้าพันธ์ศักดิ์เลย เดี๋ยวไล่ดูตามที่พี่เล็กแนะนำ ขอบคุณทั้งสองท่านครับ

[CreÃte_Lek ♫]

 ในรูปหม้อจะมีขดไฟสูงสองชุด ครับ

[CreÃte_Lek ♫]

 ต่อแยกกันระหว่างภาคพาวเวอร์ กับ ภาคปรี จะเห็นมีชุดซีซัพพลายสองชุด ชุดแรกที่พื้นแท่น อีกชุดอยู่ที่แผ่นกั้นห้องระหว่างหม้อ กับ หลอด ครับ

[CreÃte_Lek ♫]

  ส่วนของคุณ yoot ผมเผื่อกระแสไปให้เพราะคิดไว้ตั้งแต่ตอนออกแบบภาคจ่ายไฟแล้วว่าจะใช้แบบนี้ คือมีขดไฟสูงขดเดียวแต่ต่อสองแบบ ไฟสูง 400 ใช้ไดโอด  ไฟ 330 ใช้หลอดเรียงกระแส ตามรูปหม้อด้านมุมขวาบนครับ  ดูที่ขาจะเห็นว่ามีทั้งไดโอดต่ออยู่และมีสายต่อออกไปที่หลอดครับ

[myway]

กรณีไฟภาคปรี ไม่สูงกว่าภาคพาวเวอร์ จะต่อแบบน้า yoot1 ก็ได้ใช่มั้ยครับ น้าเล็ก

[t43_noi]

ลองดูครับ .. เลือกได้ว่าจะเอาขดเดียวกัน หรือแยกขด 

ขด 330-0-330 diode ภาคแรก



ขด 350-0-350 ใช้ 5U4G



ขด 330-0-330 ใช้ 5U4G สำหรับ ภาคหลัง

[CreÃte_Lek ♫]

กรณีไฟภาคปรี ไม่สูงกว่าภาคพาวเวอร์ จะต่อแบบน้า yoot1 ก็ได้ใช่มั้ยครับ น้าเล็ก

  ได้ครับแต่จะทำไปทำไมครับ หรือ อยากลดไฟเล่น   

[t43_noi]

NOTE:  6SN7 specification
Voltage f/k  =100 V  อย่าลืมยกไส้หลอดด้วยนะครับ

http://www.diyaudiovillage.net/index.php?topic=19859.0

 

[ต่อภูเขียว]

ขอรายละเอียดด้วยครับ

[myway]

กรณีไฟภาคปรี ไม่สูงกว่าภาคพาวเวอร์ จะต่อแบบน้า yoot1 ก็ได้ใช่มั้ยครับ น้าเล็ก

  ได้ครับแต่จะทำไปทำไมครับ หรือ อยากลดไฟเล่น   

 

สงสัยมานานแล้วครับน้าเล็ก  ว่าภาคหน้ากับภาคพาวเวอร์ของวงจรเดียวกันใช้แหล่งจ่ายไฟคนละแหล่งหรือคนล่ะแบบได้มั้ย

เจอกระทู้นี้เลยหายสงสัยเลยครับ 

[t43_noi]

กรณีไฟภาคปรี ไม่สูงกว่าภาคพาวเวอร์ จะต่อแบบน้า yoot1 ก็ได้ใช่มั้ยครับ น้าเล็ก

  ได้ครับแต่จะทำไปทำไมครับ หรือ อยากลดไฟเล่น   

 

สงสัยมานานแล้วครับน้าเล็ก  ว่าภาคหน้ากับภาคพาวเวอร์ของวงจรเดียวกันใช้แหล่งจ่ายไฟคนละแหล่งหรือคนล่ะแบบได้มั้ย

เจอกระทู้นี้เลยหายสงสัยเลยครับ 

... ถ้าภาคปรี จุดไส้ด้วยไฟ DC สนุกกว่านี้อีกน๊า  ลองซ้าให้ได้เลยครับ ...

[CreÃte_Lek ♫]

 ให้ดีก็ regulate ภาค drive ไปเลยครับ จบสวย

[myway]

  

[t43_noi]

ขออนุญาต เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งาน ของวงจรยกไส้หลอด AC....
    เป้นที่ทราบกันสำหรับวงจรในกลุ่มของ SRPP , MU follower ที่มีหลอดบนและหลอดล่างนั้น
เราจะพบว่าที่ คาโถด ของหลอดบนจะมีแรงดันสูงหลักร้อยโวลท์  ส่วนคาโถดของหลอดล่างมีเพียงหลักสิบ

    สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือหากแรงดันคาโถดของหลอดบน เมื่อมีค่าสูงกว่าสเปค Vfk ของหลอด จะทำให้หลอดมีอายุสั้น
โดยเฉพาะหลอดดีๆ ราคาแพง เราจึงเสียดายมัน หากมีความจำเป้นต้องจากกันไป ในเวลาที่ไม่สมควร

    หลักการในการต่อใช้งานคือ สร้างวงจรแบ่งแรงดันขึ้นมา โดยใช้ R สองตัวต่ออนุกรมกัน แล้วต่อเข้ากับแหล่งจ่าย แล้วดึงจุดต่อตรงกลางมาช้งาน
โดยนำไปต่อกับ CT ของชุดจ่ายไฟไส้หลอด ของหลอดบนนั่นเอง  ซึ่งหลักการของ Voltage divider หรือวงจรแบ่งแรงดันนั่นเอง

[t43_noi]

จากรูปในกรอบ คือส่วนของวงจรยกไส้หลอดนั่นเอง..
  โดยทั่วไปเราจะนิยมยก หนึ่งในสาม ของแหล่งจ่าย ซึ่งส่วนมากจะเพียงพอ แต่เพื่อความปลอดภัยควรตรวจสอบกับ Data sheet ของหลอดนั้นๆด้วยครับ

Vo = Vin*R4 /(R3=R4)     ; Vo= แรงดันที่เราต้องการจะยก ,Vin = แรงดันของแหล่งจ่ายของวงจร

หมายเหตุ:  วงจรที่มีการยกไส้หลอด  ห้ามนำจุด 0 หรือ ct ต่อลงกราวด์ เด้ดขาด
     

[ต่อภูเขียว]

ขอบคุณ พี่เล็กและน้าหนน่อยครับ ให้ความกระจ่างครับ   ในส่วนของ เรคกูเลตภาคขับก็สนใจเหมือนกันครับ สงสัยต้องเป็นรอบปรับปรุง ต้องสั่ง PCB น้ารุ่งก่อน

[myway]

ขอบคุณ พี่เล็กและน้าหนน่อยครับ ให้ความกระจ่างครับ   ในส่วนของ เรคกูเลตภาคขับก็สนใจเหมือนกันครับ สงสัยต้องเป็นรอบปรับปรุง ต้องสั่ง PCB น้ารุ่งก่อน

 

ถ้าเรคกูเลตภาคขับใช้หม้อแปลงเล็กๆใส่ใต้แท่นได้ เรคด้วยไดโอด น่าจะสวยนะครับไม่เห็นหม้อเยอะแยะบดบังความสวยของหลอดด้วย

[myway]

...

[t43_noi]

มาต่อกันอีกสักนิด..
  หลังยกไส้หลอดแล้วเป้นอย่างไร...
 จากวงจรนี้จะพบว่า แรงดันที่คาโถดของหลอดบนมีค่าประมาณ 182 V  , data sheet Vfk =100 V
ความแตกต่างระหว่าง แรงดันคาโถด กับไส้หลอด = 182 -0 = 182 V นั่นเอง  ซึ่งเกินสเปค

  สมมติว่า เราจะยกไส้หลอดสัก หนึ่งในสาม ของแหล่งจ่ายคือ = 330/3 =110 V 
ความแตกต่างระหว่าง แรงดันคาโถด กับไส้หลอด = 182 -110 = 72 V  ซึ่งไม่เกินสเปค

  แล้วควรใช้ R ค่าเท่าไรกันบ้าง  เอาแบบไม่ต้องคำนวณให้ปวดหัวก่อน มโนเอาว่า (จำหนึ่งในสามให้ดี)
ถ้าผมมี R100K,200K แล้วเอามาอนุกรมกัน RT=300 K หนึ่งในสามคือ 100K
ดังนั้น จากวงจรด้านบน R4=100K, R3= 200K ใช่มั้ยครับ

ลองคำนวณง่ายๆจากสูตรเดิม
 Vo=Vin*R4/(R3+R4)
    = 330*100k /(200K+100K)
    = 110 V
ลองทำความเข้าใจดูอีกทีนะครับ  ..... ตรงไหนไม่ถูกต้องท้วงติงได้ครับ

[lipsneck]

ขออนุญาต เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งาน ของวงจรยกไส้หลอด AC....
    เป้นที่ทราบกันสำหรับวงจรในกลุ่มของ SRPP , MU follower ที่มีหลอดบนและหลอดล่างนั้น
เราจะพบว่าที่ คาโถด ของหลอดบนจะมีแรงดันสูงหลักร้อยโวลท์  ส่วนคาโถดของหลอดล่างมีเพียงหลักสิบ

    สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือหากแรงดันคาโถดของหลอดบน เมื่อมีค่าสูงกว่าสเปค Vfk ของหลอด จะทำให้หลอดมีอายุสั้น
โดยเฉพาะหลอดดีๆ ราคาแพง เราจึงเสียดายมัน หากมีความจำเป้นต้องจากกันไป ในเวลาที่ไม่สมควร

    หลักการในการต่อใช้งานคือ สร้างวงจรแบ่งแรงดันขึ้นมา โดยใช้ R สองตัวต่ออนุกรมกัน แล้วต่อเข้ากับแหล่งจ่าย แล้วดึงจุดต่อตรงกลางมาช้งาน
โดยนำไปต่อกับ CT ของชุดจ่ายไฟไส้หลอด ของหลอดบนนั่นเอง  ซึ่งหลักการของ Voltage divider หรือวงจรแบ่งแรงดันนั่นเอง

จากรูปในกรอบ คือส่วนของวงจรยกไส้หลอดนั่นเอง..
  โดยทั่วไปเราจะนิยมยก หนึ่งในสาม ของแหล่งจ่าย ซึ่งส่วนมากจะเพียงพอ แต่เพื่อความปลอดภัยควรตรวจสอบกับ Data sheet ของหลอดนั้นๆด้วยครับ

Vo = Vin*R4 /(R3=R4)     ; Vo= แรงดันที่เราต้องการจะยก ,Vin = แรงดันของแหล่งจ่ายของวงจร

หมายเหตุ:  วงจรที่มีการยกไส้หลอด  ห้ามนำจุด 0 หรือ ct ต่อลงกราวด์ เด้ดขาด

มาต่อกันอีกสักนิด..
  หลังยกไส้หลอดแล้วเป้นอย่างไร...
 จากวงจรนี้จะพบว่า แรงดันที่คาโถดของหลอดบนมีค่าประมาณ 182 V  , data sheet Vfk =100 V
ความแตกต่างระหว่าง แรงดันคาโถด กับไส้หลอด = 182 -0 = 182 V นั่นเอง  ซึ่งเกินสเปค

  สมมติว่า เราจะยกไส้หลอดสัก หนึ่งในสาม ของแหล่งจ่ายคือ = 330/3 =110 V 
ความแตกต่างระหว่าง แรงดันคาโถด กับไส้หลอด = 182 -110 = 72 V  ซึ่งไม่เกินสเปค

  แล้วควรใช้ R ค่าเท่าไรกันบ้าง  เอาแบบไม่ต้องคำนวณให้ปวดหัวก่อน มโนเอาว่า (จำหนึ่งในสามให้ดี)
ถ้าผมมี R100K,200K แล้วเอามาอนุกรมกัน RT=300 K หนึ่งในสามคือ 100K
ดังนั้น จากวงจรด้านบน R4=100K, R3= 200K ใช่มั้ยครับ

ลองคำนวณง่ายๆจากสูตรเดิม
 Vo=Vin*R4/(R3+R4)
    = 330*100k /(200K+100K)
    = 110 V
ลองทำความเข้าใจดูอีกทีนะครับ  ..... ตรงไหนไม่ถูกต้องท้วงติงได้ครับ

รัก..

[t43_noi]

อุ๊ย.. มีหนุ่มมาบอกรักผ่านสื่อ  5555   

[ต่อภูเขียว]

  สุดยอดครับน้าหน่อย

[pansak]

 

     พันธุ์ศักดิ์

[paas]

 

[chiko]

 ...