ครับขอเล่าหน่อยครับ เกี่ยวกับเรื่องเอาเครื่องเสียงรถยนต์มาใช้ในบ้านครับ ขออภัยที่อาดเขียนยาวหน่อยครับ แต่ขอบอกว่าหาอ่านที่อื่นจะไม่ได้รวมๆหรือมีเรื่องที่บอกแบบนี้ครับเพราะที่จะเล่านี้ผมหาข้อมูลและก็เจอมากับตัวเองครับ
เริ่มเครื่องเสียงรถยนต์เขาใช้ไฟ 12v เป็นหลักครับจ่ายให้ทั้งปรีและแอมป์ ซึ่งก็คือไฟที่มาจากแบตร์รถนะครับ แต่อย่าไปดูถูกนะครับ 12v ว่ามันน้อยจุดนี้ละครับทำให้ผมปวดหัวจนจะโละทิ้งมาแล้ว เก่นไว้ก่อนครับ
ที่ผมเอาลำโพง subwoofer รถมาใช้เพราะมันดูโหดดีครับ ดูครับดอก 12 นิ้ว แม่เหล็กคู่ ว้อยคู่ 4 ohm 2 ขด เวลาใช้จับขนานกันจะเป็น 2 ohm ครับ
ขอบโฟมขอบอกครับแข็งมากมือนี้กดแทบไม่ลงครับ และกรวยลำโพงก็แข็งมากกดแทบไม่ขยับเช่นกันครับ แต่เห็นแข็งแบบนี้เวลามันทำงานมันขยับเข้าออกระยะเป็นนิ้วเลยครับ
ดอกที่ผมใช้ยี่ห้อ bostwick ครับชื่อชั้นอยู่ระดับเริ่มต้นถึงกลาง ทราบมาว่าผลิตในไทยครับ


ต่อมาคือแอมป์ครับ ที่นิยมเอามาขับ Subwoofer ก็ต้อง class D ครับเพราะให้กำลังสูงและไม่ร้อนมาก ส่วนที่นิยมเอาไปขับเสียงกลางกับสูงเขานิยม class ab ครับ
ผมเลือกใช้ class D 2000w ยี่ห้อ "กระทิงดุ" แค่ชื่อก็โหดแล้ว ไม่ต้องบอกนะครับว่ามาจากไหน ถ้าถามผมคิดว่าชื่อไทยแต่มาจากจีนครับ


เล่ามาเหมือนจะง่ายๆไม่มีอะไรครับ แต่ปัญหาหลักคือ power supply 12v ที่จะเอามาใช้ในบ้านครับ ตอนแรกผมก็หาดูในเน็ตเห็นเขาเอา power supply ของคอมมาใช้กันก็เห็นว่าใช้ได้
แต่ขอบอกครับมันไม่ใช้ทุกกรณี ถ้าคิดจะเอามาขับแอมป์ class D อย่างของผมขอบอกว่าเลิกคิดไปได้เลยครับ ผมลองแล้ว power supply คอมวัตต์แท้แบร์นดัง 750w หรือประมาณ 60A ไม่สามารถทำให้ แอมป์ทำงานได้ครับ ติดไฟโพเทค
เจอแบบนี้ตอนแรกผมท้อเลยครับ จะแก้โดยเอาแบตร์มาใช้แล้วครีบชาร์ต หรือจะใช้ switching โม 150-200A ซึ่งเสียงพัดลมดังมากและคือมันโมเกิน spec จริงไปมาก ทั้ง 2 แบบนี้ผมรับไม่ได้ทั้งคู่ครับ
สุดท้ายผมมาจบทางใช้ switching 12v 50A 4 ตัวจับขนานกันครับ ดีหน่อยเพราะเสียงพัดลมเบาและจะทำงานเฉพาะตอนที่ร้อนเท่านั้น
ครับอย่างที่เล่าครับ เครื่องเสียงรถยนต์ spec เขาโหดครับ แต่เดินมาถึงจุดนี้แล้วก็ต้องไปต่อครับ รู้อย่างนี้เล่นดอกเครื่องเสียงบ้านกับแอมป์เพลด หรือซื้อ active sub สำเร็จรูปก็จบได้ง่ายๆครับ