humpy มีดีอะไร ถึงราคา 60,000 บาท น่าจะมีเทคนิคอะไรที่ซ่อนอยู่ ที่แก้ปัญหาของ C Core ตามที่กล่าวข้างต้นได้
ผมคิดว่าเทคนิคน่าจะอยู่ที่การเลือกใช้ของที่ลงตัว ทำงานแบบส่งเสริมซึ่งกันและกันครับ ถ้าพิจจารณาตัว Humpty เองจะเป็นแหล่งจ่ายที่เรียกว่า Voltage source ซึ่งคุณสมบัติที่ดีของมันคือ จะต้องมีค่า Output impedance ที่ต่ำ (ถ้ามองวงจรสมมูลก็จะต้องมีค่า Rs ที่เป็นศูนย์) ตลอดย่านความถี่ของการดึงกระแสของโหลด ถ้าวิเคราะห์ลงไปแบบลึกๆ แล้วจะพบว่าที่ความถี่สูงขึ้น เอาต์พุตอิมพีแดนซ์ของแหล่งจ่ายจะสูงขึ้น นักออกแบบบางท่านใช้วิธีการลดอิมพีแดนซ์ลงด้วยการใส่ C ค่าต่ำๆ เช่น 1uF, 0.1uF เสียงที่ได้ออกมาก็จะเป็นไปตามบุคลิกของซีตัวนั้นๆ แต่ถ้าหม้อแปลงที่ใช้มีอิมพีแดนซ์ที่ต่ำก็ไม่จำเป็นต้องชดเชยด้วยซี เสียงก็จะได้แนวหม้อแปลงแทน (ลองจินตนาการเสียงที่ออกจาก OPT ของเครื่องหลอดดูครับ ต่างยี่ห้อ ต่างเสียง แต่สิ่งนึงที่คล้ายกันคือเสียงไม่ค่อยรำคาญหู เนื่องจากลำดับความเพี้ยนของฮาร์โมนิคที่เป็นเอกลักษณ์)
อะไรบ้างที่เป็นตัวแปรของการตอบสนองความถี่ของหม้อแปลง
-แกนเหล็กที่ใช้ จะมีผลโดยตรงต่อการตอบสนองความถี่
-ลวดที่ใช้พัน มีผลโดยตรงต่อค่า DCR ซึ่งจะส่งผลให้เกิดเป็นค่า Rs และชนิดของลวดก็จะมีผลกับเสียง (ต้องว่ากันด้วยฟิสิกส์ของโลหะชนิดนั้นๆ)
-วิธีการพัน จะมีผลกับค่า C ที่เกิดระหว่างขดลวด ซึ่งจะส่งผลโดยตรงในเรื่องการตอบสนองความถี่ และเรื่อง Noise return
ไดโอดก็มีผล
-หากมองผิวเผิน ไดโอดจะทำหน้าที่แค่เรียงกระแส แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เพียงแค่นั้น ตัวไดโอดเองจะมีเรื่องความถี่ในการทำงานมาเกี่ยวข้องด้วย ค่า Recovery time ของมันก็สำคัญส่งผลโดยตรงต่อน็อยส์ นอกจากนี้ยังมีค่า Vf ที่เป็นตัวแปรสำคัญที่เกี่ยวข้องกับกำลังสูญเสีย ซึ่งเมื่อมองภาพรวมแล้วมันจะเป็นค่า Rs ตัวนึง และเจ้า Rs ตัวนี้จะเปลี่ยนไปตามความถี่อีกด้วย จึงมีผลต่อเสียงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ