Monitor One รุ่นแรก เฮียปักดีลเลอร์ใหญ่ตอนนั้น ขาย 9000 บาท

เสียงมีมนต์เสน่ห์ ไพเราะในแบบฉบับที่คอฟังเพลงสมัยนั้นต้องการ
ซึ่งเสียงแบบนั้นมีใน รุ่นพี่ คือ Monitor 10 ราคาสูงเกินเอื้อมไปมากทีเดียว ผมจำไม่ได้ว่า 4 หรือ 6 หมื่นบาท
ข้อเสียของ Monitor One คือฟังไม่ได้นานเป็นเรื่องจริง เสียงที่ดูดีจะค่อยๆ จืดจางลงภายในเวลาไม่กี่วัน
ผมขายต่อให้น้องสาวหลังจากทนฟังไม่นานนัก
ต่อมา ออกรุ่น Monitor One Gold โดยเปลี่ยนทวีทเตอร์เป็นสีทองของรุ่นพี่ ราคาที่ 11000 บวกลบ

ซึ่งมันจะให้เสียงดีได้ต้องพึ่งขาตั้งที่มั่นคงมากเท่านั้น ยุคนั้นเรื่องขาตั้งยังไม่ฮิทเท่าไรในเมืองไทยครับ
ผมไม่ได้ซื้อดอกครับ แต่หันไปถอย Celestion SL600 พร้อมขาตั้งของมัน + ทรายและลูกปืนสำหรับถ่วงน้ำหนักแทน

ว้าว. ใช้ลำโพงในตำนานทั้งนั้นเลยครับ ตอนนั้นผมเพิ่งเริ่มเข้าวงการ เบี้ยน้อยหอยน้อย. ลำโพงตัวแรกที่ซื้อแบรนด์ ก็ infinity reference el ถัดมาก็ลองตั้งพื้นเป็น polk audio rt8. ก็จบเส้นทาง แบรนด์เนมหันมาทำเองจนถึงปัจจุบัน มั่วไปหมด. อิอิอิ. เป้าหมายสุดท้าย Horn design by myself ตอนนี้ได้ครึ่งนึงแล้ว ยังขาด เบส horn อยู่กำลังหาแบบ แต่คงเป็น ob horn ครับง่ายดีและตู้ไม่ใหญ่มาก
คุณ tryman ผมสนใจแนวนี้เหมือนกันครับ ตั้งกระทู้ใหม่ Post ให้ดูเป็นแนวทางด้วยนะครับ
ผมกำลังหาเวลาว่าง "ทุบห้องรับแขก" ขยายผนังให้ได้ห้อง 3.8 X 7.8 เมตร เพื่อเอาไว้รองรับ
OB + Horn แต่ยังไม่ทราบว่าจะเลือกรูปแบบไหนอย่างไรครับ
ว่าจะลองเล่นแนว Edgar Horn คงพอทำตู้เองได้ครับ
http://volvotreter.de/dl-section.htmลำโพงที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ PSB Alpha B1
มีเก็บไว้ รอหาคู่แอมป์มาเล่นด้วย NHT SB1 และ SB3
รอ DIY มี Fostex FE206E 1 คู่ FE126E 2 คู่
และลำดอกลำโพงโนเนมอีก 5-6 คู่
อ้อ...เพิ่งได้ดอก Eminence Alpha 15A มาอีก 1 คู่ เป็าหมายทำเสียงเบส Open Baffle
อนาคต.....คงหาดอกลำโพงมา DIY อีกหลายคู่ เพราะรู้สึกสนุกดี ถึงเสียงจะไม่ดีเท่าลำโพงสำเร็จทั้งหลายก็ตาม