กติกาใหม่!!!การรับสมัครสมาชิกทางเว็บขอรับสมัครสำหรับทุกท่านที่มีความสนใจเกี่ยวกับการ DIY เครื่องเสียงเท่านั้น วิธีสมัครสมาชิก1.กรอกใบสมัครสมาชิกที่ "เมนูสมัครสมาชิก" ก่อน แล้วทำข้อ 22.ส่งชื่อ(Username)และชื่ออีเมลที่ใช้สมัครสมาชิก(ไม่ต้องส่งบัตรประชาชน)มาที่ เพื่อทำการอนุมัติสมาชิก
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผมชอบ..เข้าไปดูเวปขายเครื่องเสียงมือสอง เพื่อให้เกิดกิเลส เป็นความสุขอย่างหนึ่ง ทุกครั้งที่เข้าไปดู จะมีคำถามในใจตลอด คนขายเขาจะสอนเทียบบัญญีต์ไตรยางค์ให้คนซื้อฟัง ยกตัวอย่างเช่น ซีดีรุ่นนี้ น่ะ (ลงภาพ ชื่อรุ่น บอกราคาเสร็จสรรพ ) สมมุติ 15000 บาท ซื้อได้เลย เทียบกับซีดีราคาไม่เกิน แสนบาทสู้ได้ทุกตัว วันหลัง มันมาขายอีก สมมุติราคาเครื่องละ 7-8 หมื่นบาท ผมก็คิดในใจ ใครจะไปซื้อมรึง มรึงก็บอกเอง ตัว 15000 บาท สู้ไม่เกิน แสนได้ทุกตัว ถ้าตู มีเงิน ตูจะไปซื้อ ตัว 7-8 หมื่นทำไม จบที่ไหนมาว่ะเนี้ย อ่านไปก็เก็บความสงสัยไว้ในใจ เอ้าอ่านต่อให้มันจบดูซิว่ามันจะเขียนว่าอะไร เหมือนมันจะได้ยินผมคิดในใจ มันเขียนต่ออีกว่า สู้ราคา 2-3 แสนได้ทุกตัว (ผมคิดในใจบ้าง อ้อ.. ดีจัง 7-8หมื่น สู้ 2-3 แสนได้สบาย คนซื้อ 2-3แสนนี่ โง่กว่ามันเยอะเลยเนาะ ) เลย.. อยากจะถามว่าเขาเทียบบัญญัติไตรยางค์กันยังไง 55+ จบข่าว แบบว่าหมั่นใส้
มันเป็นกฏแห่งธรรมชาติ ถูก ผิด ผู้เสพสื่อนั้นต้องตั้งอยุ่บนดุลยพินิจของตัวเองครับ
คิดไปคิดมาเหมือน จะพลาดอ่ะ เดี๋ยววันหลัง มีโปรเจค ใหม่ดีๆ ไม่มีใครกล้ารีวิว เทียบราคาอ่ะเทียบได้ครับ ที่เขียนอ่ะ ขำๆ เทียบไปเถอะน่ะครับ ของอย่างงี้มันต้องมีโม้ๆกันนิดๆ มันถึงจะสนุก พูดตรงๆ ผมอ่ะอย่างชอบเลย ถ้าใครกล้าเทียบราคา มันเป็นการอยากลองอย่างมาก ว่าสมกับที่พูดไว้ไหม งานdiy บ้านเราก็พิสูจน์มาหลายชิ้นแล้ว คนทำก็เป็นคำตอบให้เรา ที่โพสไป เขาเวอร์ ผมหมั่นใส้เลย หาที่ลง ขออภัยด้วยครับ
อ้างจาก: CreAte HoUse ที่ 16 สิงหาคม 2013, 12:41:53 PM มันเป็นกฏแห่งธรรมชาติ ถูก ผิด ผู้เสพสื่อนั้นต้องตั้งอยุ่บนดุลยพินิจของตัวเองครับ เทียบแบบไม่ซีเรียสหน่ะพี่่ สมมุิว่า ผมขาย ซีดี2ตัว ตัวแรกซีดี ราคา 15000 ผมบอกว่า สู้ซีดี ไม่เกิน 1 แสนได้สบาย ผมมีซีดี อีกตัว ผมขาย 90000 บาท ผมไม่พูดอะไร พี่เล็ก จะซื้อตัวไหนอ่ะ (ห้ามฟังเสียงก่อนซื้อน่ะ) ก็ต้องซื้อ 15000 ใช่ไหมพี่ ก็ผมพูดเองไงว่า สู้ ไม่เกิน 1แสนได้สบาย 555+ ถูกต้องไหมพี่
อ้างจาก: civicdotcom ที่ 16 สิงหาคม 2013, 12:56:27 PMอ้างจาก: CreAte HoUse ที่ 16 สิงหาคม 2013, 12:41:53 PM มันเป็นกฏแห่งธรรมชาติ ถูก ผิด ผู้เสพสื่อนั้นต้องตั้งอยุ่บนดุลยพินิจของตัวเองครับ เทียบแบบไม่ซีเรียสหน่ะพี่่ สมมุิว่า ผมขาย ซีดี2ตัว ตัวแรกซีดี ราคา 15000 ผมบอกว่า สู้ซีดี ไม่เกิน 1 แสนได้สบาย ผมมีซีดี อีกตัว ผมขาย 90000 บาท ผมไม่พูดอะไร พี่เล็ก จะซื้อตัวไหนอ่ะ (ห้ามฟังเสียงก่อนซื้อน่ะ) ก็ต้องซื้อ 15000 ใช่ไหมพี่ ก็ผมพูดเองไงว่า สู้ ไม่เกิน 1แสนได้สบาย 555+ ถูกต้องไหมพี่ ถ้าเป็นผม จะไม่ซื้อทั้งคู่ครับ เพราะ"ห้ามฟังเสียงก่อนซื้อ" แล้วจะรู้ได้ไงว่าถูกหูเรา เดี๋ยวเสียตังค์แล้วได้ของไม่เข้าหู จะหงุดหงิดไปเปล่าๆเว้นแต่เคยฟังและรู้จักทั้งสองรุ่นมาก่อนแล้ว และราคาต้องถูกโดนใจจริงๆ ด้วยนะ [happy-dreaming]แต่ที่แน่ๆ ต้องดูก่อนว่าคนขายเป็นประเภท หมื่นหาร หรือ แสนหาร หรือเปล่า... ถ้าใช่ก็ผ่านไปได้เลยครับ ไม่มีราคา [mute-watermelon]
ว่าแต่ "บัญญัติไตรยางค์" คำนี้เด็กรุ่นใหม่จะรู้จักไหมนี่...เดี๋ยวนี้เห็นสอนเป็นวิธีคิด "อัตราส่วน" กันไปหมดแล้วล่ะครับอารมณ์เดียวกับ รถขายผลไม้ที่ตลาด ประกาศปาวๆ..โลละ ยี่สิบ..... ครับ โลละยี่สิบถ้าซื้อห้าโล ก็ร้อยนึงไปเลยครับ....ฟังผิวเผินนึกว่า มีลดเพิ่ม แต่นึกอีกที อ้าว... เท่าเดิมนี่หว่า... [confused-face]
อ้างจาก: audiomania ที่ 16 สิงหาคม 2013, 01:13:52 PMอ้างจาก: civicdotcom ที่ 16 สิงหาคม 2013, 12:56:27 PMอ้างจาก: CreAte HoUse ที่ 16 สิงหาคม 2013, 12:41:53 PM มันเป็นกฏแห่งธรรมชาติ ถูก ผิด ผู้เสพสื่อนั้นต้องตั้งอยุ่บนดุลยพินิจของตัวเองครับ เทียบแบบไม่ซีเรียสหน่ะพี่่ สมมุิว่า ผมขาย ซีดี2ตัว ตัวแรกซีดี ราคา 15000 ผมบอกว่า สู้ซีดี ไม่เกิน 1 แสนได้สบาย ผมมีซีดี อีกตัว ผมขาย 90000 บาท ผมไม่พูดอะไร พี่เล็ก จะซื้อตัวไหนอ่ะ (ห้ามฟังเสียงก่อนซื้อน่ะ) ก็ต้องซื้อ 15000 ใช่ไหมพี่ ก็ผมพูดเองไงว่า สู้ ไม่เกิน 1แสนได้สบาย 555+ ถูกต้องไหมพี่ ถ้าเป็นผม จะไม่ซื้อทั้งคู่ครับ เพราะ"ห้ามฟังเสียงก่อนซื้อ" แล้วจะรู้ได้ไงว่าถูกหูเรา เดี๋ยวเสียตังค์แล้วได้ของไม่เข้าหู จะหงุดหงิดไปเปล่าๆเว้นแต่เคยฟังและรู้จักทั้งสองรุ่นมาก่อนแล้ว และราคาต้องถูกโดนใจจริงๆ ด้วยนะ [happy-dreaming]แต่ที่แน่ๆ ต้องดูก่อนว่าคนขายเป็นประเภท หมื่นหาร หรือ แสนหาร หรือเปล่า... ถ้าใช่ก็ผ่านไปได้เลยครับ ไม่มีราคา [mute-watermelon] ก็เทียบ ขำๆไงครับ ... น้าแว่นไปคิดอะไรลึกๆ โจทก์ก็บอกแล้วว่า 15000 เสียงดีกว่า คนขาย ต้องตั้งตัวละ 90000 อัพราคาเป็นแสนอัพ ถึงจะขายของออก ถูกต้องไหมครับ เพราะถ้าขายต่ำกว่าแสน มันจะสู้ ตัว หมื่นห้าไม่ได้
ไม่ครับ ผมจะุดูที่ตัวสินค้า และ มูลค่าบนฐานความเป็นจริง เป็นหลัก คนที่จะซื้อย่อมรู้อยุ่แล้วว่าตัวเองมีงบอยุ่เท่าไหร่ และ ต้องการอะไร สำหรับอาการอย่างที่ว่ามาเค้าเรียกว่า "คนติดบ่วง" คนขายแต่ละคนเค้าก็ต้องคิดหากลยุทธ์ต่างๆที่จะทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ปิดการขายนั้น ผมถึงบอกไงว่า เค้าจะพูดอย่างไรก็ช่างเค้าเราต้องดูจากสภาพความเป็นจริง ราคากลาง ถ้าสมเหตุสมผลก็ค่อยตกลงซื้อครับ และก็ไม่มีหรอกครับที่ของถูกๆจะดีกว่าของแพงๆ ของแต่ละอย่างมันมีดีในตัวของมัน คนที่เชื่อในคำกล่างอ้างนั้น เท่ากับดูถูกคนทั้งโลกว่า โง่ เพราะของแบรนด์ดังๆเหล่านั้น มีผู้ซื้อเป็นจำนวนมากทั่วโลก และ คนที่เงินซื้อและเล่นของแบบนั้นคุณว่าเค้าเป็น คนโง่ มั้ยหล่ะ ส่วนตัวผมว่าไม่ถ้าเค้าโง่เค้าคงไม่รวยขนาดมีเงินมาซื้อของระดับนี้ได้หรอกครับ แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธนะว่ามีคนคนรวยๆที่เล่นแบบโง่ๆก็เยอะ และ ไม่ได้เล่นเพราะว่ารัก แค่อยากบอกให้คนนอกรู้ว่า กรูก็มีกะเค้าเหมือนกัน
อ้างจาก: audiomania ที่ 16 สิงหาคม 2013, 01:17:39 PMว่าแต่ "บัญญัติไตรยางค์" คำนี้เด็กรุ่นใหม่จะรู้จักไหมนี่...เดี๋ยวนี้เห็นสอนเป็นวิธีคิด "อัตราส่วน" กันไปหมดแล้วล่ะครับอารมณ์เดียวกับ รถขายผลไม้ที่ตลาด ประกาศปาวๆ..โลละ ยี่สิบ..... ครับ โลละยี่สิบถ้าซื้อห้าโล ก็ร้อยนึงไปเลยครับ....ฟังผิวเผินนึกว่า มีลดเพิ่ม แต่นึกอีกที อ้าว... เท่าเดิมนี่หว่า... [confused-face] อารมณ์เดียวกันเลยครับ 5 โล 100 นึง ดีมันไม่บอก 5 โล คิดแค่ 110 บาท คนซื้อ 5 โลกลับไปบ้าน ถึงกับขำกลิ้งไปเลย 555+
อ้างจาก: CreAte HoUse ที่ 16 สิงหาคม 2013, 01:25:19 PM ไม่ครับ ผมจะุดูที่ตัวสินค้า และ มูลค่าบนฐานความเป็นจริง เป็นหลัก คนที่จะซื้อย่อมรู้อยุ่แล้วว่าตัวเองมีงบอยุ่เท่าไหร่ และ ต้องการอะไร สำหรับอาการอย่างที่ว่ามาเค้าเรียกว่า "คนติดบ่วง" คนขายแต่ละคนเค้าก็ต้องคิดหากลยุทธ์ต่างๆที่จะทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ปิดการขายนั้น ผมถึงบอกไงว่า เค้าจะพูดอย่างไรก็ช่างเค้าเราต้องดูจากสภาพความเป็นจริง ราคากลาง ถ้าสมเหตุสมผลก็ค่อยตกลงซื้อครับ และก็ไม่มีหรอกครับที่ของถูกๆจะดีกว่าของแพงๆ ของแต่ละอย่างมันมีดีในตัวของมัน คนที่เชื่อในคำกล่างอ้างนั้น เท่ากับดูถูกคนทั้งโลกว่า โง่ เพราะของแบรนด์ดังๆเหล่านั้น มีผู้ซื้อเป็นจำนวนมากทั่วโลก และ คนที่เงินซื้อและเล่นของแบบนั้นคุณว่าเค้าเป็น คนโง่ มั้ยหล่ะ ส่วนตัวผมว่าไม่ถ้าเค้าโง่เค้าคงไม่รวยขนาดมีเงินมาซื้อของระดับนี้ได้หรอกครับ แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธนะว่ามีคนคนรวยๆที่เล่นแบบโง่ๆก็เยอะ และ ไม่ได้เล่นเพราะว่ารัก แค่อยากบอกให้คนนอกรู้ว่า กรูก็มีกะเค้าเหมือนกัน แป๋ว .... พี่ ขำๆ อย่าซีเรียส เอาหมั่นหลีโหมง สักเม็ดไหมพี่ ที่เล่ามา..มันเป็นมุข อ่ะพี่
ขณะนี้ผมยังอยู่ในโหมด ปกติ ครับ นี่น่ะมันเป็นธรรมชาติของผมที่สุดแล้ว ความจริงเขียนไว้ครึ่งหน้าแต่ตัดออกเดี๋ยวจะตกใจกัน ขอยืนยันซ้ำอีกครั้งว่าขณะนี้ผมยังอยุ่ในโหมด ปกติ
คนที่บอกว่า 15000 สู้แสนนึงได้สบาย เพราะหูเขาไปได้แค่ 15000 ดีกว่านั้นฟังไม่ออกแล้ว บางทีอาจหูเขาตันอยู่ที่ 4500 ก็ได้เขาอาจไม่รู้ เพราะเขาดันมีเครื่อง 15000 ดีนะไม่ได้ฟังตัวเป็นล้าน ไม่งั้น 4500 สู้ล้านนึงได้สบาย แต่ถ้า DIY เองอาจฟังขึ้นว่าทำแค่ 50000 สู้แสนนึงได้สบาย เพราะจูนเข้ากับ System และหูของตัวเองได้ง่ายกว่า จริงป่ะ [happy-dreaming]
อ้างจาก: civicdotcom ที่ 16 สิงหาคม 2013, 01:26:46 PMอ้างจาก: audiomania ที่ 16 สิงหาคม 2013, 01:17:39 PMว่าแต่ "บัญญัติไตรยางค์" คำนี้เด็กรุ่นใหม่จะรู้จักไหมนี่...เดี๋ยวนี้เห็นสอนเป็นวิธีคิด "อัตราส่วน" กันไปหมดแล้วล่ะครับอารมณ์เดียวกับ รถขายผลไม้ที่ตลาด ประกาศปาวๆ..โลละ ยี่สิบ..... ครับ โลละยี่สิบถ้าซื้อห้าโล ก็ร้อยนึงไปเลยครับ....ฟังผิวเผินนึกว่า มีลดเพิ่ม แต่นึกอีกที อ้าว... เท่าเดิมนี่หว่า... [confused-face] อารมณ์เดียวกันเลยครับ 5 โล 100 นึง ดีมันไม่บอก 5 โล คิดแค่ 110 บาท คนซื้อ 5 โลกลับไปบ้าน ถึงกับขำกลิ้งไปเลย 555+ ผมเคยเจอเคสนึง งงๆ แต่เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรเป็น 15 ปีแล้ว..เป็นร้านขนมจีบเจ้านึงในเยาวราช ในตรอกอิสรานุภาพ (หลายคนอาจจะรู้จัก)ตอนนั้นเค้าขายลูกละ 3 บาท ซื้อ 10 ลูกใส่กล่องโฟมเล็กคิด 30แต่พอเป็นกล่องใหญ่ 100 บาท มี 33 ลูก คำถามคือ 1 บาทไปไหน? คนขายตอบว่าขอคิดค่ากล่องโฟมใหญ่.. จะแถมอีกลูกก็ไม่ได้ บอกว่าถ้าซื้อครบ 150 (50 ลูก) ถึงจะไม่คิดค่ากล่องโฟม.. แต่ดูแล้วคืออารมณ์ขี้เกียจทอนเงินมากกว่าเลยถามไปว่า ถ้าซื้อกล่องเล็ก 10 ลูกสามกล่อง 90 ใช่ไหม คำตอบคือ แหม.. เอากล่องใหญ่ไปร้อยแหละ ขอแค่บาทเดียวเอง ช่วยๆกันหน่อย.... เฮ้อ..... [sad-watermelon]แต่เดี๋ยวนี้ขึ้นราคาไปเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ไม่ได้ซื้อนานละ
อ้างจาก: CreAte HoUse ที่ 16 สิงหาคม 2013, 01:57:50 PM โถ...น้าแว่นก็ บาทนึงนั่นน่ะซื้อ ดาวสามแฉกขับได้เลยนา ใช่เลยพี่เล็ก คือเข้าใจ แต่แอบกวนคนขายเล่นๆนั่นล่ะประมาณว่าซื้อครบร้อยไม่ยักจะใจดีแถมอีกลูกให้เต็มๆสมัยโน้นร้านเนี๊ย ต่อคิวกันซื้อเลย นึ่งออกมาที 8-10 ถาดๆละร้อยลูก แป๊บเดียวหมด...นึกได้ว่ามีทีนึงซื้อไปงานเลี้ยง 200บาท ได้มา 67 ลูก ดีใจ เฮียแกใจดีวุ๊ย แถมมาบาทนึงแน่ะ... แต่มาปีหลังๆนี่ เหมือนจะให้รุ่นสองหรือลูกน้องทำแล้ว รสชาติดรอปไปพอสมควร ไม่อร่อยเท่าเดิมซะแล้ว... [sad-watermelon]
โถ...น้าแว่นก็ บาทนึงนั่นน่ะซื้อ ดาวสามแฉกขับได้เลยนา
ผมรู้แล้วว่า เจ้าคนขาย มี CD 15000 แต่ก็ไปซื้อ CD 7-8 หมื่นบาท มาฟัง แล้วก็ขาย CD 15000 เพราะเสียงใกล้เคียงกัน จากนั้นก็ไปซื้อ CD ราคา 2-3 แสน มาอีกตัว เมื่อฟังเทียบ มันก็เหมือนกัน สุดท้ายก็ต้องเก็บตัวที่แพงไว้ เอา CD 7-8 หมื่นบาท มาขายทิ้ง เลยเป็นที่มา CD 15000 = CD 7-8 หมื่นบาท = CD ราคา 2-3 แสน
อ้างจาก: audiomania ที่ 16 สิงหาคม 2013, 01:17:39 PMว่าแต่ "บัญญัติไตรยางค์" คำนี้เด็กรุ่นใหม่จะรู้จักไหมนี่...เดี๋ยวนี้เห็นสอนเป็นวิธีคิด "อัตราส่วน" กันไปหมดแล้วล่ะครับอารมณ์เดียวกับ รถขายผลไม้ที่ตลาด ประกาศปาวๆ..โลละ ยี่สิบ..... ครับ โลละยี่สิบถ้าซื้อห้าโล ก็ร้อยนึงไปเลยครับ....ฟังผิวเผินนึกว่า มีลดเพิ่ม แต่นึกอีกที อ้าว... เท่าเดิมนี่หว่า... [confused-face] ผมซื้อของราคา 180 บาท ให้แบงค์ 500 ไปคนขายขออีก 20 บาท จะได้ทอน 300 ถ้วน เราก็ยืนงง ง๊ง งง มันคิดได้ยังไง [dizzy-smiley]
อ้างจาก: Alcohol ที่ 16 สิงหาคม 2013, 02:17:27 PMอ้างจาก: audiomania ที่ 16 สิงหาคม 2013, 01:17:39 PMว่าแต่ "บัญญัติไตรยางค์" คำนี้เด็กรุ่นใหม่จะรู้จักไหมนี่...เดี๋ยวนี้เห็นสอนเป็นวิธีคิด "อัตราส่วน" กันไปหมดแล้วล่ะครับอารมณ์เดียวกับ รถขายผลไม้ที่ตลาด ประกาศปาวๆ..โลละ ยี่สิบ..... ครับ โลละยี่สิบถ้าซื้อห้าโล ก็ร้อยนึงไปเลยครับ....ฟังผิวเผินนึกว่า มีลดเพิ่ม แต่นึกอีกที อ้าว... เท่าเดิมนี่หว่า... [confused-face] ผมซื้อของราคา 180 บาท ให้แบงค์ 500 ไปคนขายขออีก 20 บาท จะได้ทอน 400 ถ้วน เราก็ยืนงง ง๊ง งง มันคิดได้ยังไง [dizzy-smiley]อันนี้ต้องคณิตคิดในใจครับ รีบจ่ายอีก 20 แล้วรับ 400 สลายตัวให้ไว
อ้างจาก: audiomania ที่ 16 สิงหาคม 2013, 01:17:39 PMว่าแต่ "บัญญัติไตรยางค์" คำนี้เด็กรุ่นใหม่จะรู้จักไหมนี่...เดี๋ยวนี้เห็นสอนเป็นวิธีคิด "อัตราส่วน" กันไปหมดแล้วล่ะครับอารมณ์เดียวกับ รถขายผลไม้ที่ตลาด ประกาศปาวๆ..โลละ ยี่สิบ..... ครับ โลละยี่สิบถ้าซื้อห้าโล ก็ร้อยนึงไปเลยครับ....ฟังผิวเผินนึกว่า มีลดเพิ่ม แต่นึกอีกที อ้าว... เท่าเดิมนี่หว่า... [confused-face] ผมซื้อของราคา 180 บาท ให้แบงค์ 500 ไปคนขายขออีก 20 บาท จะได้ทอน 400 ถ้วน เราก็ยืนงง ง๊ง งง มันคิดได้ยังไง [dizzy-smiley]
ผมแก้คำผิดแล้ว เป็นทอน 300 บาท เพราะความงง เลยทำให้เมาหมัดอ่ะครับ
ผมก็มีเคสนึงเหมือนกัน เก้าอี้ร้านเน็ต มันเก่า และก็ขาดแล้วด้วย อยากจะไปทำใหม่อยู่แล้ว สมัย3-4ปีก่อน ค่าทำเบาะใหม่ 700 ต่อตัว มีวันหนึ่ง มีตา แก่ๆคนหนึง สะพายย่าม ในย่าม จะมีตัวอย่างเศษหนังเบาะ กี่สีๆ ก็ว่าไป เข้ามาดูร้านผมแล้วถามว่า เบาะขาดแล้ว ทำเบาะไหม ไม่แพง ประมาณ 3-400 บาท ผมกับพ่อผมก็ ช่วยกันดู ว่า 3-400 นี่ทำยังไง เปลี่ยนฟองน้ำด้วยไหม หรือเย็บแต่เบาะ ก็ถามได้ความว่า เปลี่ยนพองน้ำด้วย ทำเหมือนร้านรับทำเบาะทุกอย่าง มันก็น่าสนใจดีน่ะ ตาแก่นั่น ก็บอกว่า เอางี้ลองทำสักตัวนึง ถ้าดีค่อยยกออกมาทำหมด ขอเบิก 150 บาท ไปซื้อฟองน้ำ กับหนังมา เงินไม่พอซื้อ ถึงตอนนี้ก็ไม่ได้คิดอะไร แค่ถามว่า ต้องยกเก้าอี้ไปทำไหม จะทำตรงไหน ตาแก่ คนนั้นก็บอก ทำหน้าบ้านผมก็ได้ ก็เลยให้เบิกไปก่อน ผ่านไปสัก 20 นาทีได้ พ่อผมเลยถามว่า เออแล้วมันจะมาทำหน้าบ้านได้ยังไง เครื่องมือก็ไม่มี มันต้องใช้จักรเย็บ เอามือเย็บก็แทงไม่ค่อยจะเข้า ชักสงสัยเหมือนกันว่าจะซ่อมวิธีไหน รอลุ้นกัน ว่าจะหุ้มเบาะยังไง ผ่านไป 3-4 ชม ก็รู้แล้วว่าถูกหลอก แต่ก็อดชื่นชมไม่ได้น่ะครับ ว่าหลอกได้แนบเนียนจัง นึกไม่ทันเลย ผ่านไป 2-3 สัปดาห์ ผมไปเจอตาแก่คนนี้อีกครั้งหนึ่ง แต่ไปเจอกันอีกร้านหนึ่ง มาใช้วิธีการเดียวกันเลย แต่แกคงจำผมไม่ได้มัง ผมก็ปฎิเสธไป แล้วผมถามแกว่า จำผมไม่ได้เหรอ ที่ตาเบิกเงินไปแล้ว หายวับไปเลย แกก็ทำเป็นเนียน ว่าจำไม่ได้ แล้วก็รีบเดินหนีไป ส่วนตัวเรา ก็ไม่ได้คิดจะจับแกอยู่แล้ว เพราะแกแก่แล้ว หากินอย่างอื่นคงไม่ได้ แกก็ไม่ได้หลอกใครเป็นจำนวนเงินเยอะๆหน่ะ ก็ร้อยสองร้อย พออยู่ไปวันๆ แต่ผมทึ่งในไอเดียหากินของแก
อ้างจาก: Alcohol ที่ 16 สิงหาคม 2013, 02:17:27 PMอ้างจาก: audiomania ที่ 16 สิงหาคม 2013, 01:17:39 PMว่าแต่ "บัญญัติไตรยางค์" คำนี้เด็กรุ่นใหม่จะรู้จักไหมนี่...เดี๋ยวนี้เห็นสอนเป็นวิธีคิด "อัตราส่วน" กันไปหมดแล้วล่ะครับอารมณ์เดียวกับ รถขายผลไม้ที่ตลาด ประกาศปาวๆ..โลละ ยี่สิบ..... ครับ โลละยี่สิบถ้าซื้อห้าโล ก็ร้อยนึงไปเลยครับ....ฟังผิวเผินนึกว่า มีลดเพิ่ม แต่นึกอีกที อ้าว... เท่าเดิมนี่หว่า... [confused-face] ผมซื้อของราคา 180 บาท ให้แบงค์ 500 ไปคนขายขออีก 20 บาท จะได้ทอน 300 ถ้วน เราก็ยืนงง ง๊ง งง มันคิดได้ยังไง [dizzy-smiley] อันนี้..อ่ะเจอประจำ มาคิดได้ ตอนเดิน ออกจากร้าน ไปหลายก้าวแล้ว ได้เดินกลับหลังหัน ไปหาคนขายทุกที บางทีไล่กะคนขาย ก็ช่วยกัน งง
อ้างจาก: RuNgPhUnG ที่ 16 สิงหาคม 2013, 02:16:54 PM ผมรู้แล้วว่า เจ้าคนขาย มี CD 15000 แต่ก็ไปซื้อ CD 7-8 หมื่นบาท มาฟัง แล้วก็ขาย CD 15000 เพราะเสียงใกล้เคียงกัน จากนั้นก็ไปซื้อ CD ราคา 2-3 แสน มาอีกตัว เมื่อฟังเทียบ มันก็เหมือนกัน สุดท้ายก็ต้องเก็บตัวที่แพงไว้ เอา CD 7-8 หมื่นบาท มาขายทิ้ง เลยเป็นที่มา CD 15000 = CD 7-8 หมื่นบาท = CD ราคา 2-3 แสน พวกวิศวะ หรือนักออกแบบ ชอบคิด 2 -3 ชั้น ถ้าคิดแบบคุณรุ่ง ก็คงจะวนมาเป็นงูกินหางแบบที่ว่านี่หล่ะครับ 555+ แต่ถ้าคิดสเตปเดียว CD 15000 > CD 7-8 หมื่นบาทเหมือนเคสบัวลอยครับ ซื้อน้อยถูกกว่า ซื้อ 15000 เสียงดีกว่า ซื้อ 7 หมื่น
อ้างจาก: Alcohol ที่ 16 สิงหาคม 2013, 02:22:20 PMผมแก้คำผิดแล้ว เป็นทอน 300 บาท เพราะความงง เลยทำให้เมาหมัดอ่ะครับ อ่านครั้งแรกก็งง คนซื้อได้กำไรเต็มๆ คนขายน่าจะเอาเพิ่มยี่สิบทอนสามร้อย ถูกแล้วครับ
อ้างจาก: civicdotcom ที่ 16 สิงหาคม 2013, 03:04:17 PM ผมเล่าเรื่องตาแก่ คนหนึ่ง ที่ฉลาด มาตุ๋นเรื่องเก้าอี้ แต่ถ้าใครชอบเรื่องแบบนี้ แนะนำให้อ่าน แฟรงค์ อาบาเนล น่ะครับ รับรองอ่านแล้ววางไม่ลง ผมอ่านก่อนที่มันจะเป็นหนังซะอีก ไม่ต่ำกว่า 4-5 รอบ หนังนี่ ทำอารมณ์ไม่ถึงครึ่งของหนังสือเลย ลัดไปหลายตอนด้วย คนไม่ได้อ่านมาก่อน ดูหนังเรื่องนี้ต้อง งง แน่ เพราะเล่ากลับไปกลับมา (หนังสือก็เล่ากลับไปกลับมา แต่ไม่งง ) ผมซื้อแจกเพื่อนพ่อ 2-3 คน เป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือ ยังพูดเป็นเสียงเดียวกันเลย ว่าวางไม่ลง ปล ผมก็โม้นิดๆ ว่าวางไม่ลง ถ้าไม่โม้ เดี๋ยว ไม่อยากอ่านกัน 555+ โม้ชัด ๆ
ผมเล่าเรื่องตาแก่ คนหนึ่ง ที่ฉลาด มาตุ๋นเรื่องเก้าอี้ แต่ถ้าใครชอบเรื่องแบบนี้ แนะนำให้อ่าน แฟรงค์ อาบาเนล น่ะครับ รับรองอ่านแล้ววางไม่ลง ผมอ่านก่อนที่มันจะเป็นหนังซะอีก ไม่ต่ำกว่า 4-5 รอบ หนังนี่ ทำอารมณ์ไม่ถึงครึ่งของหนังสือเลย ลัดไปหลายตอนด้วย คนไม่ได้อ่านมาก่อน ดูหนังเรื่องนี้ต้อง งง แน่ เพราะเล่ากลับไปกลับมา (หนังสือก็เล่ากลับไปกลับมา แต่ไม่งง ) ผมซื้อแจกเพื่อนพ่อ 2-3 คน เป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือ ยังพูดเป็นเสียงเดียวกันเลย ว่าวางไม่ลง ปล ผมก็โม้นิดๆ ว่าวางไม่ลง ถ้าไม่โม้ เดี๋ยว ไม่อยากอ่านกัน 555+
อ้างจาก: civicdotcom ที่ 16 สิงหาคม 2013, 03:04:17 PM ผมเล่าเรื่องตาแก่ คนหนึ่ง ที่ฉลาด มาตุ๋นเรื่องเก้าอี้ แต่ถ้าใครชอบเรื่องแบบนี้ แนะนำให้อ่าน แฟรงค์ อาบาเนล น่ะครับ รับรองอ่านแล้ววางไม่ลง ผมอ่านก่อนที่มันจะเป็นหนังซะอีก ไม่ต่ำกว่า 4-5 รอบ หนังนี่ ทำอารมณ์ไม่ถึงครึ่งของหนังสือเลย ลัดไปหลายตอนด้วย คนไม่ได้อ่านมาก่อน ดูหนังเรื่องนี้ต้อง งง แน่ เพราะเล่ากลับไปกลับมา (หนังสือก็เล่ากลับไปกลับมา แต่ไม่งง ) ผมซื้อแจกเพื่อนพ่อ 2-3 คน เป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือ ยังพูดเป็นเสียงเดียวกันเลย ว่าวางไม่ลง ปล ผมก็โม้นิดๆ ว่าวางไม่ลง ถ้าไม่โม้ เดี๋ยว ไม่อยากอ่านกัน 555+ ผมก็เคยอ่านอยู่ซัก 2 รอบได้มั้งครับ แต่ไม่เคยดูหนังทึ่งในความกะล่อนและปลิ้นปล้อนดีเหลือเกิน แต่เค้าสามารถใช้การสังเกตุสิ่งต่าง ๆ แล้วใช้ประโยชน์จากมันให้ได้มากที่สุด เช่นการปลอมเช็ค อันนี้รู้มากกว่าพนักงานของธนาคารซะอีกแนะ อ่านแล้วเพลินครับ.....
ทำไมถึง อ่าน 2 รอบครับ