ช่วงนี้ชี้แนะ...สารพันปัญหาของมือใหม่

[Alcohol]

แอ่นอกพกถุงอย่างไม่อายใคร

คิดว่าขาตั้งลำโพงต้องให้เวลากับมันไหม หรือว่าไม่จำเป็น
ขอเสียงเพื่อน ๆ หน่อยครับ

[laughing-my-ass]ฮั่นแน่น้าอัลเกิดอาการเสียวแล้ว..555 ทุกสิ่งทุกอย่างผมว่าเป็นไปได้หมดครับ ผมก็เคยกล่าวไว้แล้วตอนต้น
อุปกรณ์ทุกชนิดที่เกี่ยวกับเครื่องเสียงล้วนแล้วต้องใช้เวลาเบิร์นอินทั้งสิ้นครับ น้าอัลมีเพื่อนแล้วไม่ต้องเสียวแล้ว เวลาเป็นสิ่งพิสูจน์

อย่างงี้หายห่วง อาบน้ำนอนก่อนครับ
 [soldier]

[LAK Klongklue]

สมมุติว่า เครื่องเราพ้นเบริน์แล้ว  เอาไปให้คนอื่นฟัง เขาจะต้องเบริน์อีกไหม

อีกคำถาม  เครื่องจอดทิ้งไว้สัก 5ปี 10 ปี ไม่เคยโดนไฟเลย  พวกนี้ต้องเบริน์ เหมือนเครื่องใหม่ไหมครับ

   ถ้าพ้นแล้ว ไปอยู่ที่ไหนใครฟังก็ถือว่าพ้นแล้วครับ แต่จอดทิ้งไว้ขนาดนั้น อย่าเสียบไฟเด็ดขาด ให้ตรวจเช็คเบื้องต้นก่อน  หากโชคไม่เข้าข้างอาจมีควันแสงสีเสียงได้  [blink2-watermelon]

 ผมจำไม่ค่อยได้เท่าไหร่น่ะ  แต่คุ้นๆว่ามีคนเคยเล่าให้ฟัง ว่ามาร์ค เลนวิสัน ไม่มีปุ่มเพาเวอร์ ต้องเสียบไฟทิ้งไว้ (เป็นปุ่มสแตนบายแทน มัง ถ้าจำไม่ผิดน่ะครับ) แต่ถ้าชักปลั๊กออก  ก็โน่นอีกเป็นวัน สองวัน เสียงค่อยเข้าที่ ก็ประมาณว่า ถ้าถอดปลักก็ต้องเบริน์ใหม่  ประมาณนี้อ่ะครับ

  ก็จำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ว่า ถ้าย้ายที่ ต้องเบิรน์ใหม่  แค่ไม่ได้เบริน์นานเหมือนเครื่องใหม่ แต่เคยอ่านในเวปเจอเหมือนกัน นักรีวิว ชื่ออะไรก็ไม่รู้อ่ะครับ เขาบอกว่า ย้ายเครื่องๆใหม่ๆ ต้องให้เวลามันคุ้นเคยกับสภาพห้องก่อน  ว่าไปโน่นเลยอ่ะ

การย้ายที่ที่ว่า ต้องเบิร์น์ใหม่ หรือให้เวลาคุ้นเคยกับสภาพ อันนี้ก็อาจจะเป็นไปได้นะ แต่ในความคิดผมคงไม่เกี่ยวกับการเบิร์นใหม่ของเครื่องนะ
แต่อาจจะเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากเดิมมากกว่า ผมจะยกตัวอย่างที่ผมเคยลองมาแค่เราเปลี่ยนที่วางของเครื่องแต่ใช้สถานที่ห้องเดิม
1.วางเครื่องเสียงกับพื้น
2.วางเครื่องเสียงกับขาวางเครื่องเสียงโดยเฉพาะ
3.วางเครื่องเสียงบนชั้นตู้โชว์ ชั้นกลาง
4.วางเครื่องเสียงชั้นตู้โชว์ ชั้นลางสุดติดกับพื้น
        แค่นี้เสียงที่ได้รับฟังก็เปลี่ยนไปแล้วครับ 

[CreÃte_Lek ♫]

 ดูเหมือนจะทุกข์ มากกว่าที่จะสุขใจจากการเสพแล้วนะครับ

[LAK Klongklue]

ดูเหมือนจะทุกข์ มากกว่าที่จะสุขใจจากการเสพแล้วนะครับ

อันนี้เราคุยกันกับสิ่งที่เป็นไปได้ครับท่านหัวหน้า แต่ในทางปฏิบัติหรือใช้งานจริงๆเราคงไม่มานั่งจับผิดว่าอันนี้ดีอันใหนไม่ดีครับ [dizzy-smiley]
แหมคุณเล็กเล่นกับสิ่งพวนนี้มานานมีประสบปการณ์สูงคงจะไม่ปฏิเสธนะที่ว่าสิ่งที่พวกเราคุยกันวันนี้นะมันไม่จริงเป็นไปไม่ได้

[CreÃte_Lek ♫]

    จริงๆแล้วผมเองไม่อยากจะพูดถึงเรื่องเหล่านี้เลยมันเหมือนดาบสองคม  เอาเป็นว่าผมขอพูดในฐานะของคนเล่นนะครับ โดยจะไม่พูดในฐานะคนทำ หรือ คนขาย  ครับผมไม่ปฏิเสธทุกอย่างล้วนมีผลกับซิสเต็มมากบ้างน้อยบ้าง แต่อย่างแรกคนที่จะมองในเรื่องเหล่านี้ นั่นหมายความว่าทุกอย่างในระบบมีความพร้อมสมบูรณ์รวมทั้งห้องฟังด้วย (อันนี้สำคัญมาก) แต่ดีไอวายส่วนใหญ่มักจะใช้ห้องรับแขก ห้องนอน ซึ่งเป็นห้องที่ไม่ได้มีการปรับอคูสติคมาเพื่อการนี้  บางสิ่งอย่างผมจึงอยากให้มองข้ามๆไปบ้างมากกว่าที่จะไปจับผิดกับสิ่งเล็กๆน้อยๆจนสมาธิหลุดไปจากการฟังเพลง (ไม่ใช่ฟังเครื่อง หรือ แอคเซสซอรี่ส์)  เมื่อทุกอย่างในระบบของเรามีความพร้อมมากกว่านี้ หรือ ทำได้ตามที่ผมกล่างไว้ข้างต้น ค่อยมาว่ากันเรื่องการเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ครับ นี่แหละคือความหมายที่ผมอยากจะสื่อ  ดังนั้นเราก็ควรจะยอมรับในระบบของเราว่ามันได้แค่นี้ ( พูดแบบปลอมใจตัวเอง ก็ดีแล้ว)

[Alcohol]

ห้องฟังเพลง กับมิติเสียง เป็นสิ่งที่ผมแทบจะไม่กล่าวถึง และพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด
แน่นอนว่าห้องที่ปรับสภาพ Acoustic ไว้พร้อมมูลย่อมส่งผลต่อมิติเสียง และน้ำเสียงค่อนข้างชัดเจน

การฟังแบบ Life Style อย่างเรา ๆ นั้น ผมจะงดการออกความเห็นหรือหลีกเลี่ยงไม่กล่าวถึงเรื่องมิติเสียง
เนื่องจากสภาพห้องฟังเพลงของเรายังไม่อำนวยนี่เอง

คุยกันสนุก ๆ มากกว่าที่จะต้องจับผิดครับ
 

[LAK Klongklue]

                             จริงอยู่ครับว่าห้องฟังเพลงที่มีการปรับแต่งอะคูติคอย่างลงตัวย่อมส่งผลที่พวกเราได้คุยกันได้อย่างชัดเจน
และก็ไม่แน่เสมอไปครับสำหรับห้องทั่วๆไปว่าจะให้ไม่ได้กับสิ่งเหล่านี ขอเพียงห้องที่เราใช้ฟังเพลง
ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ห้องนอน ถ้าเราใช้หลักในห้องฟังเพลงศึกษาว่าเขาตบแต่งห้องอย่างไรส่วนใหนมีหน้าที่อย่างไร
เราก็มาประยุคใช้ในห้องทั่วๆไปได้ สิ่งที่จะมาประยุคเราก็เอาสิ่งของที่เรามีอยู่มาตบแต่งจัดวางให้ถูกตำแหน่ง เช่น ตู้โชว์ ชั้นหนังสือ โต๊ะ เก้าอี้
และ เฟอร์นิเจอร์ ต่างๆ ว่าเราควรวางในส่วนใหน อย่างไร สรุปง่ายๆก็คืออย่าให้ห้องนั้นๆโล่งจนเกินไปเพราะจะทำให้ห้องเกิดการก้องสะท้อนมากเกินไป
คราวนี้ก็มาถึงการจัดวาง ผมขอเน้นไปที่ลำโพงเป็นอันดับแรก เพราะการวางลำโพงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าเราวางลำโพงถูกต้องหรือใกล้เคียง
ก็จะสามารถถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ออกมาได้ การวางลำโพงไม่ควรวางในมุมอับและอย่าชิดฝาผนังจนเกินไป อย่างน้อยหนีห่างจากฝาผนัง ออกมา 50 ซ.ม เป็นอย่างน้อย
ขึ้นอยู่กับห้องว่าใหญ่ขนาดใหน และอย่าวางลำโพงระยะห่างหรือชิดจนเกินไป ทั่วไปก็จะอยู่ในระยะ 1.60 -1.85 เมตร โดยประมาณแล้วแต่ความกว้างของห้อง
ครับนั่นเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ผมเอามากล่าวอ่าง อาจจะเป็นประโยชน์บ้างสำหรับเพื่อนๆที่เริ่มเล่นเครื่องเสียงได้บ้างไม่มากก็น้อย
สิ่งต่างๆที่พวกเราได้คุยกันอย่าถือเอาจริงเอาจัง เราคุยกันสนุกๆอย่าซีเรียส ผมมองว่าอย่างน้อยๆก็พอจะมีประโยชน์หรือพอจะเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่เริ่มเล่น
เครื่องเสียงเอาไปศึกษาลองเล่นลองทำได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ
    [laughing-my-ass]สรุปสุดท้าย ไม่ว่าห้องใหนๆ ที่เราใช้เป็นที่พักผ่อนสำหรับฟังเพลง และฟังอยู่เป็นประจำๆจนเคยชิน ย่อมสามารถรับรู้แยกแยะสิ่งที่เปลี่ยนไปของเสียง ของอุปกรณ์ที่เราเอามา
สับเปลี่ยนลองฟังได้ครับผม จะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับทักษะของผู้ฟังแต่ละท่านที่จะรับรู้ความแตกต่างกันออกไปครับ  

[chatdhapol]

 ... .... [coffee1]....เอาอีกครับท่านกูรูทั้งหลายชอบมากมายเลย

[LAK Klongklue]

... .... [coffee1]....เอาอีกครับท่านกูรูทั้งหลายชอบมากมายเลย

    หุหุ..สำหรับผมคิดว่าเรื่องแบบก็คงจะออกความเห็นมากไม่ได้เหมือนกันครับมันเปรียบเสมือนดาบสองคมครับอย่างคุณเล็กว่าไว้ครับ ดีก็ดีไป ไม่ดีก็อาจมีเสียวแบบที่น้าอัลได้กล่าวไว้ครับ
มันจะกลายเป็นว่ายกตนข่มนามผู้อื่นไปซะ..! เอาเป็นว่าเรื่องแบบนี้มีให้อีกเยอะแยะมากมายในนิตรสารเครื่ิองเสียงลองศึกษาดูครับ ประสบการณ์เป็นตัวบ่งบอกครับ ค่อยลองเล่นลองทำ
แรกๆอาจจะแยกแยะไม่ออก แต่เมื่อนานๆไปลองหัดเล่นลองหัดทำปรับแต่งโน่นปรับนี่ไปเรื่อยสนุกดีออก และก็ฟังบ่อยๆจนเกิดความชินคุ้นกับเสียงนั้นๆ เดี๋ยวมันจะมาเองโดยอัตโนมัติโดยที่เราไม่รู้ตัวครับ
เมื่อนั้นแหละเราจะสนุกกับการเล่นเครื่องเสียงครับ และเมื่อนั้นแหละถึงจะรู้ว่าสิ่งที่เราได้คุยๆกันและกล่าวมาทั้งหมดนั้นมันไม่ได้เกินความจริงไปได้เลยแม้แต่น้อยครับ...!
                                                                                                                                                                               

[Alcohol]

เรื่องห้องฟังเพลงขอเอาประสบการณ์ถึงการเล่นเครื่องเสียงที่ผมเรียกว่าซีเรียสออดิโอไฟล์มาแชร์หน่อยนะ
เมื่อหลายปีก่อน ผมกับเสี่ยบริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่ซึ่งเป็นเพื่อนนักเล่นเครื่องเสียงด้วยกันได้มีโอกาสไปเยี่ยมเฮีย...แถวพระราม 3
ขออนุญาติไม่เอ่ยชื่อก็แล้วกันนะครับ

วันนั้นผมไปแต่ 11.00 น. ไปถึงก็เห็นเฮียกำลัง Set up ตำแหน่งการวางลำโพงอยู่พอดี
ขาตั้งลำโพงที่ใช้รู้สึกว่าจะเป็นไม้ชิงชันท่อนสีเหลี่ยมขนาดใหญ่ ตัดเป็นท่อนกำลังพอดีเอาไว้ใช้วางลำโพงวางหิ้ง
และที่ด้านใต้ขาตั้งลำโพงนั้น ไม่แน่ใจว่าเฮียเจ้าของห้องฟังใช้อะไรรองอยู่ ด้วยมารยาทก็เลยไม่ถามไถ่ให้เสียเวลา

กับเครื่อง Hi-End ที่เฮียกำลัง Set up อยู่นั้น ในใจก็บอกว่าเป็นบุญหูที่ได้มาฟัง
แต่พอเอาเข้าจริงกับไม่เป็นดังคาดหวัง เพราะเฮียแกฟังเพียงท่อนเดียว ฟังกลับไป กลับมา ช่วงสั้น ๆ
แล้วก็สาระวนอยู่กับหาตำแหน่งการวางลำโพงไม่จบสิ้น เพื่อให้ได้มิติเสียงที่ดีที่สุด

กับแผ่น CD13 เพลง Dusk



วันนั้นนั่งฟังกันตั้งแต่ 11.00 น. ไปจนถึงช่วงบ่ายแก่ ๆ ฟังเพลงนี้ไม่ถึง 10 วินาที
เพียงเพื่อจับผิดเครื่องเคาะที่ดัง "กิ๊ง" ว่าทอดยาว และจางหายในอากาศนั้นพุ่งเลยตู้ลำโพงไปเท่าไร

แต่การฟังกับแผ่นนี้ของผมที่บ้าน จะไม่พยายามให้มันพุ่งเลยตู้ออกด้านข้างไปไกลแบบนั้นหรอก
ยอมรับกับเสียงที่ได้ยิน ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น และประณีประนอมกับเรื่องมิติที่ได้

ก็แบบที่พี่เล็กกล่าวไว้ แม้ห้องฟังธรรมดา ๆ ที่เราใช้ฟังอยู่ ก็ยังปรากฏให้ได้ยินกับหูถ้าเราวางตำแหน่งวางลำโพงที่ดี
เพียงแต่ไม่สามารถเทียบเท่าห้องฟังที่ปรับสภาพอะคูสติกไว้อย่างดีเท่านั้นเอง อันนี้ต้องยอมรับกับความจริง

พิมพ์ตั้งนานกว่าจะได้โพสต์ก็เลิกงานพอดี ค่ำ ๆ จะมาคุยต่อครับ
 [blink3-watermelon]

[Alcohol]

ประสบการณ์ขาตั้งลำโพงที่ไม่มีวันลืม

การใช้ลำโพงวางหิ้งนั้น ขาตั้งสำคัญไฉน มีอิทธิพลต่อเสียงอย่างไร ใครมีประสบการณ์ที่เจ็บปวดช่วยบอกที
สำหรับนายอัลกอฮอล์คนนี้เจอมาแล้ว จึงขอมาเล่าให้ฟัง

ตอนที่ผมเล่นเครื่องเสียงใหม่ ๆ ได้มีโอกาสเล่นลำโพงวางหิ้ง แต่ขาตั้งลำโพงนี่ซิไม่มี ก็เลยอาศัยวางบนหลังตู้ชั้นวางเครื่องเสียงนั่นแหล่ะ
ชั้นวางเครื่องเสียงก็ดัดแปลงมาจากตู้เก็บของที่ทำจากไม้อัด พอใช้งานประทังไปก่อนตามประสามือใหม่หัดเล่นเครื่องเสียง
เครื่องมีกี่ชิ้นก็จับยัดไส้ชั้นวาง แต่เครื่องเล่น CD ไม่มีที่วาง ก็เลยเอาไปวางบนหลังตู้โดยมีลำโพงขนาบข้างหัวท้าย

ถึงคราวฟังเพลง ยามเมื่อเพลงมีเบสลงหนัก ๆ ซึ่งตอนนั้นยังชอบเปิดดัง ๆ โชว์สาวที่เดินผ่านไปมา
ผลปรากฏว่าทำให้ขายหน้า เพราะ CD เสียงตกร่อง นึกว่าเครื่องเล่นอ่านแผ่นสะดุด เสียเวลายกไปบริษัทไม่รู้กี่รอบ
ไปถึงบริษัทฯ ช่างก็ตรวจสอบเห็นว่าเป็นปกติ  แต่ทำไมเมื่อยกกลับบ้านดันมีปัญหาทุกที

กว่าจะถึงบางอ้อมารู้ว่า ที่ CD เสียงตกร่องเกิดจากการสั่นสะเทือนของตู้ลำโพงนั่นเอง
นั่นเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม
 [afraid]

หนทางแก้ไขก็เลยไปหาเก้าอี้หัวเหลี่ยมที่แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวเอามาให้ลูกค้านั่งนั่นแหล่ะ
หาได้มา 2 ตัว ก็เลยเอามาวางขนาบข้างตู้ชั้นวางที่มีความยาวตู้ประมาณ 145 ซ.ม. ซ้าย ขวา กำลังพอดีกับห้อง
ตอนนั้น ผมมีความรู้สึกว่าเสียงที่ได้ยินได้ฟังนั้นดีเหลือเกิน ก็เลยชวนเพื่อนฝูงมาฟังเพลงด้วยกัน

การฟังเพลง ก็ย่อมมีการ Comment เกิดขึ้นบ้างตามประสาเทพ หูทอง ที่ชอบวิจารณ์
แล้วก็ไปลงที่ขาตั้งลำโพงชั่วคราวของผม เมื่อโดนวิจารณ์ ประกอบกับความอยากรู้ อยากลอง บวกด้วยความเห่อเครื่องเสียง
ครั้นจะไปซื้อขาตั้งลำโพงก็เสียดายตัง ทำเองประหยัดตังเยอะกว่าไม่เห็นต้องไปจ่ายแพงกว่าทำไม

ผมมีเพื่อนอยู่ที่ท่าเรือคลองเตย ตอนนั้นมีไม้สนนอกที่เขาใช้ทำ Pallet วางอุปกรณ์ ก็เลยไปขอเขามาสองต้น
ที่ใกล้ ๆ กันกับคลองเตย (แม่น้ำ) ผมเอาไปให้พี่ที่มีอาชีพเดียวกัน เขามีฝีมือเชิงช่างไม้ที่หาตัวจับยาก
เสียเวลาไปประมาณ 1 อาทิตย์ ก็ได้ขาตั้งลำโพงที่คัดลอกแบบมาจากหนังสือเครื่องเสียงกลับบ้าน

ขาตั้งลำโพงที่ทำจากไม้สน ซึ่งเป็นไม้มวลเบาไม่มีปัญหาในการแบกขึ้นรถเมล์
ในระหว่างทางกลับบ้านในใจกระหยิ่ม ยังไงวันนี้จะมีขาตั้งลำโพงใช้งานกับเขาเสียที

 

ในฐานะที่เราเล่นเครื่องเสียง
คุณคิดว่าเสียงที่ได้จากขาตั้งคู่นี้ ต่างจากเก้าอี้หัวเหลี่ยมยังไงลองทายดูซิ เดี๋ยวมาเฉลยให้ฟัง

ประสบการณ์ไม่มีวันลืมครับ
 [dizzy-smiley]

[robocop88]

น้า ผมใช้ไม้สนแบบที่น้าบอกอยู่ครับ

[Alcohol]

น้า ผมใช้ไม้สนแบบที่น้าบอกอยู่ครับ

ถ่ายรูปโชว์บ้างซิครับ  แล้วเสียงถูกใจไหม

 [confused-face]

[civicdotcom]

 น้าอัล เล่าได้มันส์จริงๆ  ขอเล่าบ้างครับ

จริงๆที่เราคุยกันเล่นเพื่อ ความสนุก ไม่ได้ซีเรียส แต่ถ้าไม่โม้มาบ้าง ผมคนนึงหล่ะไม่อยากอ่าน มันขาดอรรถรส 

ผมยกตัวอย่าง   สมัยผมหัดเล่นใหม่ๆ  ผมรู้จักลูกพี่ผมก็เพราะเครื่องเสียงนี่หล่ะ  คุยกันทางโทรศัพท์ทุกวัน   ลูกพี่ก็จะเล่าเรื่องเครื่องเสียงให้ฟังทุกวัน   วันนึงคุยกัน2-3ชม  ตอนนั้น ผมรู้สึกว่าลูกพี่ผมสุดยอดมาก รู้จริง รู้ลึกไปหมด   หลังจากศึกษาสักพัก  แอมป์ตัวที่สองที่ผมเล็งไว้  ก็คือ cec   สมัยก่อนลูกพี่ผมเล่น มาร์คเลวิสัน  แกบอกว่า cec แนวเสียงคล้ายๆมาร์ค  ผมก็เขาไปอ่านในเน็ต  เขาก็รีวิว ว่าเสียงคล้าย มาร์ค เลนวิสัน  ผมก็นึกในใจ ลูกพี่ผมนี่หูทองจริงๆ  พูดตรงกับนักรีวิว เป๊ะเลย   ยิ่งนับถือเข้าไปอีก 

    นานวันเข้า ก็เริ่มเข้าไปศีกษาในเวปซื้อขายเครื่องเสียง  ตัวไหนสวยๆแพงๆ ก็จะไปถามถึงความเป็นไปเป็นมา  ตัวนี้ดังไหม ตัวนี้แพงไหม  ลูกพี่ผมก็จะรู้เกือบหมด ผมก็เริ่มเข้าเวป ค้นข้อมูลบ้าง  เพื่อที่จะได้คุยต่อยอดกะลูกพี่ผมได้   ผมก็มาสังเกต ลูกพี่ผมทำไมเก่งจัง  รู้ไปหมดเกือบทุกรุ่น  แต่การพูดคล้ายๆนักรีวิวหลายคนพูดเลย   นานวันเริ่มจับไต๋ได้  555+ ที่ลูกพี่คุยให้ฟังทุกวัน ลูกพี่เขาอ่านรีวิว แล้วจำมาเล่าให้ผมฟังนี่หว่า  มิน่าวลีบางคำ ยังกะอ่านจากหนังสือ  เราก็นึกว่าลูกพี่ เล่นผ่านมาหมดแล้ว  แต่ก็ได้ความรู้อีกเยอะ ถึงแม้จะเล่าให้ฟีงก็ตามที   

    มีอยู่วันหนึ่ง ผมตื้อแก  ถามจริงๆลูกพี่ cec นี่มันคล้ายมาร์ค จริงๆเหรอ  แกบอกจำไม่ได้แล้วว่ะ  สมัยนั้นมีเงิน ก็ซื้อทิ้งไว้  ไม่ได้ฟังจริงจัง  ขายทิ้งไปนานแล้ว จำเสียงไม่ได้แล้ว  เขารีวิว ว่าแนวเสียงมันเหมือน  ก็คงจะเหมือนมัง 
  ที่ผมเล่ามาให้ฟังเนี้ย  เห็นป่ะครับ ว่าถ้าแก บอกแค่ว่า  เรื่องเสียงต้องไปฟังเอง ก็จบข่าวไปนานแล้ว ไม่ได้คุยกันนาน ข้ามปีขนาดนี้  อรรถรสในการเล่นเครื่องเสียง หาใช่เกืดจากการฟังอย่างเดียว    บางทีคุยกะคนรู้ใจ  ถึงเสียงมันก็งั้นๆหล่ะ แต่มาเติมเต็มกันได้ 

 
   

[Alcohol]

ที่ผมนำมาแชร์ทั้งหมดนี่ไม่ได้โม้นะ ของจริงไม่ใช่อิงนิยายทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ผมยังมีเพื่อนที่เป็นบ้าเป็นหลังร่วมเล่นด้วยกัน

ด้วยความที่นกต้องมีขน คนต้องมีเพื่อน มิเช่นนั้นบินขึ้นที่สูงไม่ได้

ผมก็เลยมี Connection กับเพื่อนหลายอาชีพซึ่งชอบเล่นเครื่องเสียงและก็เมาเล่าแมงโม้
งาน DIY ที่ต้องใช้เครื่องมือหนักก็เลยได้อาศัยเพื่อนนี่แหล่ะช่วยดำเนินการ

หลังจากมีขาตั้งไม้เข้ามาในห้องฟัง (ห้องนอน) เรียกให้โก้หรูไว้ก่อน ใจก็ทุรนทุรายอยากหาตัวใหม่มาลอง
ผมก็ชวนเพื่อนซี้ทำขาตั้งลำโพงทำจากเหล็กกล่องขึ้นอีก 1 คู่ ที่ชวนเพื่อนทำเอาไว้ใช้งานก็เพราะจะหาเหตุให้ส่งงานต่อไปยังเพื่อนของเขาที่มีโรงกลึง
แผนนี้ใช้ได้ผล ภายใน 3 วัน เพื่อนที่โรงกลึงจัดการเสร็จด้วยความรวดเร็วโดยมีค่าใช้จ่าย 0 บาท

เห็นไหมล่ะ คิดการใหญ่ต้องมีการวางแผน และอย่าลืมนกต้องมีขนคนต้องมีเพื่อน
 

คราวนี้ ขาตั้งเหล็กน้ำหนักเยอะแบกขึ้นรถเมล์ไม่ไหว ต้องนั่งแท็กซี่กลับบ้าน
พอลงรถ เมียเห็นขาตั้งเหล็กที่ผมอุ้มประคองลงรถ เสียงแหลม ๆ ก็แผดดังขึ้นมา

อ้ายเฒ่า เอาอะไรมาอีกให้รกบ้านเดี๋ยวเถอะจะต้มให้กินแทนข้าว
 [afraid]

เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ

[LAK Klongklue]

 [laughing-my-ass]ตามที่น้า civicdotcom เล่ามาผมว่าก็อาจจะมีจริงน๊ะคือมีความรู้จริงไปทุกเรื่องเกี่ยวกับเรื่องเครื่องเสียง ใครถามอะไรมักจะตอบโจทย์ได้หมด
แต่ความเป็นจริงอ่านแต่ทฤษฎีมา แต่ตัวเองไม่ได้ลองทำไม่ได้ลองเล่นเรียกว่าขาดภาคปฎิบัตินั่นเอง แต่สังเกตุได้ง่ายครับถ้าคุยเรื่องเครื่องเสียงที่มียี่ห้อก็จะคุยได้รู้ได้
เป็นตุเป็นตะ แต่ถ้าเป็นเครื่อง DIY ที่พวกเราทำเล่นกัน มักจะไม่ออกมาคุยมาให้ความเห็นหรือวิจารณ์ในสิ่งของตัวเองที่เคยทำออกมาไม่ได้ คือไปไม่เป็นว่าอย่างงั้นเถอะ
      แต่ในความคิดผมส่วนมากนักเล่นเครื่องเสียงร้อยทั้งรอยหรือเกือบร้อย ก่อนจะมาจุดนี้ก็มักจะศึกษาหาความรู้และแหล่งข้อมูลมาจากนิตรสารเครื่องเสียงทั้งนั้นแหละครับ
แต่ว่าแต่ละท่านอ่านอย่างเดียวหรือว่าลองเล่นลองทำตามที่นักวิจารณ์เครื่องเสียงเขาแนะนำเหรอเปล่าก็เท่านั้นเอง แต่ในความเป็นจริงผมว่านักเล่นใหม่ๆก็ควรจะศึกษา
หาแนวการฟังการฝึกฟังจากหนังสือเหล่านี้ก็เป็นการดีเหมือนกันนะครับ เราจะได้รู้แนวปฎิบัติได้ง่ายขึ้น และฟังเป็นคือทำให้เรารู้จุด ว่าเสียงแต่ละเสียงเขาเรียกอย่างไร
ทำให้เราแยกแยะและมาลองฟังได้ง่ายขึ้นครับ และอีกอย่างเรามีชุดของเราอยู่แล้วแต่จะทำอย่างไรที่ว่าให้ชุดของเราได้เสียงออกมาอย่างเต็มประสิทธิภาพ
หลักใหญ่ๆก็มาจากการเซตอัพการจัดวางปรับแต่งให้ถูกตำแหน่งนั่นเองครับ
...แต่สิ่งเหล่านี้ถ้าเราไม่ศึกษาจากผู้รู้ผู้มีประสบการณ์หรือหาความรู้จากแหล่งหนังสือที่นักวิจารณ์เขาได้ปูทางไว้ให้แล้วเราก็เปรียบเสมือนลองผิดลองถูกนั่นเองครับ [shy_whistler]

[LAK Klongklue]

แต่ที่แน่ๆนี่แหละใช่เลย น้าอัล ของแท้แน่นอนไม่ได้โม้ ออกมาจากประสปการณ์ล้วนๆ มารอฟังน้าอัลเหลาต่อครับ

[johnney_chivas]

ที่ผมนำมาแชร์ทั้งหมดนี่ไม่ได้โม้นะ ของจริงไม่ใช่อิงนิยายทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ผมยังมีเพื่อนที่เป็นบ้าเป็นหลังร่วมเล่นด้วยกัน

ด้วยความที่นกต้องมีขน คนต้องมีเพื่อน มิเช่นนั้นบินขึ้นที่สูงไม่ได้

ผมก็เลยมี Connection กับเพื่อนหลายอาชีพซึ่งชอบเล่นเครื่องเสียงและก็เมาเล่าแมงโม้
งาน DIY ที่ต้องใช้เครื่องมือหนักก็เลยได้อาศัยเพื่อนนี่แหล่ะช่วยดำเนินการ

หลังจากมีขาตั้งไม้เข้ามาในห้องฟัง (ห้องนอน) เรียกให้โก้หรูไว้ก่อน ใจก็ทุรนทุรายอยากหาตัวใหม่มาลอง
ผมก็ชวนเพื่อนซี้ทำขาตั้งลำโพงทำจากเหล็กกล่องขึ้นอีก 1 คู่ ที่ชวนเพื่อนทำเอาไว้ใช้งานก็เพราะจะหาเหตุให้ส่งงานต่อไปยังเพื่อนของเขาที่มีโรงกลึง
แผนนี้ใช้ได้ผล ภายใน 3 วัน เพื่อนที่โรงกลึงจัดการเสร็จด้วยความรวดเร็วโดยมีค่าใช้จ่าย 0 บาท

เห็นไหมล่ะ คิดการใหญ่ต้องมีการวางแผน และอย่าลืมนกต้องมีขนคนต้องมีเพื่อน
 

คราวนี้ ขาตั้งเหล็กน้ำหนักเยอะแบกขึ้นรถเมล์ไม่ไหว ต้องนั่งแท็กซี่กลับบ้าน
พอลงรถ เมียเห็นขาตั้งเหล็กที่ผมอุ้มประคองลงรถ เสียงแหลม ๆ ก็แผดดังขึ้นมา

อ้ายเฒ่า เอาอะไรมาอีกให้รกบ้านเดี๋ยวเถอะจะต้มให้กินแทนข้าว
 [afraid]

เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ

 
แสดงว่ามีจนเต็มบ้านไปหมดแล้ว....
แต่ลองมานั่งนับดู ยังไม่สิ้นปีเลยเห็นน้าอัลขี้นไปแล้วก็ 5-6 โครงการ....
ระวังนะครับซักวัน  แกงหลอด....

[chatdhapol]

อาหารสมองเช้านี้รสชาติเริ่มกลมกล่ิอมขึ้นแล้ว........เมื่อวานผมคิดว่าจะไม่ได้เรียนรู้ต่อแล้ว.... [coffee1]

[Alcohol]

ตอนนี้ ผมมีขาตั้ง 3 อันแล้ว
เก้าอี้หัวเหลี่ยม 1 ชุด ทำจากไม้สน 1 ชุด และเหล็กกล่อง 1 ชุด

จากการที่อ่านมาก บวกด้วยนิสัยที่ดื้อรั้น (เมียผมบอกว่าผมรั้นสุด ๆ) ไม่ยอมเชื่ออะไรง่าย ๆ
ประกอบกับไปเห็นเฮียที่ถนนพระราม 3 แกใช้ท่อนไม้เหลี่ยมชิงชันทำเป็นขาตั้งลำโพง
หากใครเคยไปเยี่ยมเยียนห้องฟังของเฮียเมื่อประมาณสิบปีก่อนนี้ จะร้องอ๋อทันที

ความสงสัย ความอยากรู้ว่าขาตั้งมวลเบา กับหนักมีผลต่างกันยังไง
ก็เลยไปเดินที่ร้านแถวปทุมวันที่เขารับซื้อเหล็กเก่า แล้วก็ไปเจอท่อน้ำประปาท่อขนาดเขื่อง วัดเส้นผ่าศูนกลางเท่าดอกลำโพง 5 นิ้ว
น้ำหนักไม่ต้องพูดถึง หนักโคตร ๆ

"นกมีขนคนต้องมีเพื่อน"

คราวนี้ไม่ต้องให้เพื่อนผมพาไปทำอีกแล้ว เจ้าของโรงกลึงได้กลายมาเป็นเพื่อนซี้กับผมอีก 1 คน
คุยกันถูกคอกันหลายเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเครื่องเสียง และแมงกาไซต์ เพราะเราเล่นรถคลาสสิกเหมือนกัน
เพื่อนผมขี่ Steed ส่วนผมขี่ Honda CB350 ภายหลังได้ขายไปเพราะไม่มีเวลาขี่และได้กำไรงาม

ขาตั้งที่ทำใหม่นี้ ความสูงก็เท่าเดิมกับตัวเก่าที่ได้เคยทำ และยังออกแบบให้เปิดเพลทบนเติมทรายได้เป็นถัง
เรียกว่าบ้าระห่ำขึ้นมาอีก สะใจนายอัลกอฮอล์เป็นยิ่งนัก

ช่วงวันหยุด ผมไปซื้อทรายหยาบ
พอยกถุงทรายที่พาซ้อนท้ายแมงกาไซต์เข้าบ้านเท่านั้น เมียสงสัยว่าเราจะหาเรื่องพิศดารอะไรอีก
ดูแววตาก็รู้ว่าไม่สบอารมณ์ แต่ยังไม่บ่นเพราะเห็นว่าเป็นการเอาทรายเข้าบ้าน
แต่เธอมาปรี๊ดอารมณ์แตกเมื่อเห็นผมเอากระทะทำกับข้าว และเตาถ่านไปตั้งที่สนามหน้าบ้าน
และยังไม่เท่านั้น ยังไปถอดตะแกรงมุ้งลวดหน้าต่างมาร่อนทรายเอาก้อนกรวดออกอีก ดูท่าเธอจะพอใจหนักยิ่งขึ้น
 [devil-watermelon] [devil-watermelon]

ในฐานะผู้นำอย่าเสียเชิงชายยอมง่าย ๆ เลยใช้วาจาหวานหว่านล้อมบอกว่าถ้างานนี้เสร็จจะให้โบนัส
ผมก็เลยได้ผู้ช่วยร่อนทรายด้วยความเต็มใจ
 

ช่วงที่คั่วทรายหยาบไล่ความชื้นนี้ ดูเป็นช่วงที่ดูตลกขบขันแก่ผู้พบเห็น
ใครผ่านหน้าบ้านต่างก็หยุดดูด้วยความสงสัย จะไม่ให้สงสัยได้ไงสองผัวเมียเอาเตาถ่านคั่วทรายหน้าบ้าน

เขามีเมนูเด็ดอะไรกันหนอ
 [confused-face]

เมื่อนำขาตั้งมวลหนักกรอกทรายเอาไปตั้งลำโพง เสียงที่ยินเป็นประสบการณ์ที่ผมไม่มีวันลืม
เสียงเป็นยังไง แล้วจะมาเล่าให้ฟัง
 [dizzy-smiley]

[LAK Klongklue]

สุดยอดจริงๆครับน้าอัล นี่แหละนักเล่นเครื่องเสียงตัวยงของแท้ 

[jam_kung]

เป็นผม ผมก็คงเดาว่า........คั่วเม็ดเกาลัดกันเหรอคับ   

[Alcohol]

การนำเสนอของผม ทุกท่านที่เข้ามาอ่านอย่าเพิ่งนึกสมเพชผมนะ
ติดดินและต้อยต่ำ แต่ผมก็ยินดีที่จะเล่าสู่กันฟังโดยไม่อาย และน้อยใจในโชควาสนา

ทำไงได้ล่ะ ก็มีใจรักในเสียงเพลงนี่ครับ
 

ช่วงเล่นเครื่องเสียงใหม่ ๆ มนุษย์เงินเดือนมีเพียงแค่พอเลี้ยงครอบครัว และส่งลูกเรียนหนังสือแต่ละเดือนไม่ขัดสน
สนุก ลุย ตามประสานายอัลกอฮอล์ แค่นี้ก็สุขใจแล้ว

การเล่นเครื่องเสียงหากทุนน้อยคิดการใหญ่ไม่ได้ ต้อง DIY โหด มัน ฮา อย่างนี้แหล่ะ
ก็เลยทำให้ผมมีเรื่องเล่าเป็นปีก็ไม่จบสิ้น

เปิ่น สะเหร่อ เด๋อ มีครบ คอยติดตามต่อไปครับ

 [shy_whistler]

[johnney_chivas]

ตอนนี้ ผมมีขาตั้ง 3 อันแล้ว
เก้าอี้หัวเหลี่ยม 1 ชุด ทำจากไม้สน 1 ชุด และเหล็กกล่อง 1 ชุด

จากการที่อ่านมาก บวกด้วยนิสัยที่ดื้อรั้น (เมียผมบอกว่าผมรั้นสุด ๆ) ไม่ยอมเชื่ออะไรง่าย ๆ
ประกอบกับไปเห็นเฮียที่ถนนพระราม 3 แกใช้ท่อนไม้เหลี่ยมชิงชันทำเป็นขาตั้งลำโพง
หากใครเคยไปเยี่ยมเยียนห้องฟังของเฮียเมื่อประมาณสิบปีก่อนนี้ จะร้องอ๋อทันที

ความสงสัย ความอยากรู้ว่าขาตั้งมวลเบา กับหนักมีผลต่างกันยังไง
ก็เลยไปเดินที่ร้านแถวปทุมวันที่เขารับซื้อเหล็กเก่า แล้วก็ไปเจอท่อน้ำประปาท่อขนาดเขื่อง วัดเส้นผ่าศูนกลางเท่าดอกลำโพง 5 นิ้ว
น้ำหนักไม่ต้องพูดถึง หนักโคตร ๆ

"นกมีขนคนต้องมีเพื่อน"

คราวนี้ไม่ต้องให้เพื่อนผมพาไปทำอีกแล้ว เจ้าของโรงกลึงได้กลายมาเป็นเพื่อนซี้กับผมอีก 1 คน
คุยกันถูกคอกันหลายเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเครื่องเสียง และแมงกาไซต์ เพราะเราเล่นรถคลาสสิกเหมือนกัน
เพื่อนผมขี่ Steed ส่วนผมขี่ Honda CB350 ภายหลังได้ขายไปเพราะไม่มีเวลาขี่และได้กำไรงาม

ขาตั้งที่ทำใหม่นี้ ความสูงก็เท่าเดิมกับตัวเก่าที่ได้เคยทำ และยังออกแบบให้เปิดเพลทบนเติมทรายได้เป็นถัง
เรียกว่าบ้าระห่ำขึ้นมาอีก สะใจนายอัลกอฮอล์เป็นยิ่งนัก

ช่วงวันหยุด ผมไปซื้อทรายหยาบ
พอยกถุงทรายที่พาซ้อนท้ายแมงกาไซต์เข้าบ้านเท่านั้น เมียสงสัยว่าเราจะหาเรื่องพิศดารอะไรอีก
ดูแววตาก็รู้ว่าไม่สบอารมณ์ แต่ยังไม่บ่นเพราะเห็นว่าเป็นการเอาทรายเข้าบ้าน
แต่เธอมาปรี๊ดอารมณ์แตกเมื่อเห็นผมเอากระทะทำกับข้าว และเตาถ่านไปตั้งที่สนามหน้าบ้าน
และยังไม่เท่านั้น ยังไปถอดตะแกรงมุ้งลวดหน้าต่างมาร่อนทรายเอาก้อนกรวดออกอีก ดูท่าเธอจะพอใจหนักยิ่งขึ้น
 [devil-watermelon] [devil-watermelon]

ในฐานะผู้นำอย่าเสียเชิงชายยอมง่าย ๆ เลยใช้วาจาหวานหว่านล้อมบอกว่าถ้างานนี้เสร็จจะให้โบนัส
ผมก็เลยได้ผู้ช่วยร่อนทรายด้วยความเต็มใจ
 

ช่วงที่คั่วทรายหยาบไล่ความชื้นนี้ ดูเป็นช่วงที่ดูตลกขบขันแก่ผู้พบเห็น
ใครผ่านหน้าบ้านต่างก็หยุดดูด้วยความสงสัย จะไม่ให้สงสัยได้ไงสองผัวเมียเอาเตาถ่านคั่วทรายหน้าบ้าน

เขามีเมนูเด็ดอะไรกันหนอ
 [confused-face]

เมื่อนำขาตั้งมวลหนักกรอกทรายเอาไปตั้งลำโพง เสียงที่ยินเป็นประสบการณ์ที่ผมไม่มีวันลืม
เสียงเป็นยังไง แล้วจะมาเล่าให้ฟัง
 [dizzy-smiley]

ติดตามอย่างเมามัน....อยากรู้ผลเหมือนกันครับ ส่วนผมเล็งเห็นท่อ PVC 6" ที่วางเรียราดแล้ว....... [devil-watermelon]

[Alcohol]

อยู่เชียงใหม่หาไม้สักได้ง่าย ให้ช่างเขาผ่าเป็นสี่เหลี่ยมขนาด 1 - 1 1/2 นิ้ว ยาวประมาณ 22 - 24 นิ้ว จำนวน 4 ต้นต่อข้าง
แล้วหากระดานมาตัดเป็นเพลทรองด้านบนเพื่อรองลำโพง ส่วนด้านล่างให้โตกว่าด้านบน จะได้เป็นฐานรับน้ำหนักไม่แกว่งไหวเอน

การติดกระดานเข้ากับเสาให้ใช้กาวไม้ติดแล้วตอกตอกตะปู
ถ้าต้องการให้ดูดีมีตระกูล ก็ขัดลงยูริเทน แล้วหาทิปโท 3 ลูก มารองใต้ฐานล่าง
เพียงแค่นี้ก็มีข้างตั้งหรูไว้ใช้งานลองดูนะ  ส่วนท่อ PVC น่าจะทำให้มั่นคงแข็งแรกยากกว่า

อย่าลืมนะว่าขาตั้งต้องการความมั่นคงแข็งแรงครับ

 

[ต่อภูเขียว]

อ่านบทความของป๋าแล้วนั่งยิ้ม... เหมือนผมเลยครับ โดยเฉพาะคั่วทรายกรอกขาตั้ง

[RuNgPuEnGⓇ]

อยู่เชียงใหม่หาไม้สักได้ง่าย ให้ช่างเขาผ่าเป็นสี่เหลี่ยมขนาด 1 - 1 1/2 นิ้ว ยาวประมาณ 22 - 24 นิ้ว จำนวน 4 ต้นต่อข้าง
แล้วหากระดานมาตัดเป็นเพลทรองด้านบนเพื่อรองลำโพง ส่วนด้านล่างให้โตกว่าด้านบน จะได้เป็นฐานรับน้ำหนักไม่แกว่งไหวเอน

การติดกระดานเข้ากับเสาให้ใช้กาวไม้ติดแล้วตอกตอกตะปู
ถ้าต้องการให้ดูดีมีตระกูล ก็ขัดลงยูริเทน แล้วหาทิปโท 3 ลูก มารองใต้ฐานล่าง
เพียงแค่นี้ก็มีข้างตั้งหรูไว้ใช้งานลองดูนะ  ส่วนท่อ PVC น่าจะทำให้มั่นคงแข็งแรกยากกว่า

อย่าลืมนะว่าขาตั้งต้องการความมั่นคงแข็งแรงครับ

 

นึกถึงภาคเหนือ ผมเคยจะเอาแบบนี้มาวางลำโพง ติดที่ว่าคนขาย ไม่ส่งครับ ต้องขนไปเอง ดีนะขี่แมงกะไซค์ 



ท่าทางจะแข็งแรงและมั่นคงดี 

[Alcohol]

เรื่องทรายยังที่เอาไว้กรอกขาตั้งนั้น ยังไม่จบนะยังมีที่พิเรนอีก
 

ใครที่ทำงานธนาคารจะรู้ดีว่า ถุงผ้าดิบที่ใส่เหรียญนั้นเป็นผ้าดิบอย่างดี
ผมเองก็ให้น้อง ๆ ที่เขาไปแลกเงินเหรียญจากธนาคารช่วยเก็บถุงผ้าดิบอย่าไปทิ้งพี่จะเอาไปใช้งาน
เพียงแค่ตกเย็นก็ได้มาหลายสิบถุง

คราวนี้ลามไปรบกวนภรรยาเพื่อนให้ปวดหัว และเดือดร้อนอีก
รวบกวนให้เขาไปเย็บปากถึงให้แคบลง เหลือไว้เพียงที่จะกรอกของลงถุง แต่ไม่ได้บอกเขาหรอกว่าจะเอาอะไรใส่ลงไป
เขาก็ทำมาให้แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ ถามว่าจะเอาไปทำอะไรเหรอ ผมก็บอกเพียงว่าจะเอาไปทำหมอน

หมอนอะไร ใบเล็กนิดเดียว
 

พอได้ถุงที่เย็บของมาเรียบร้อย ก็เอาไปซักและรีดด้วยเตารีดซะเรียบหรูดูดี
แล้วผมก็เอาทรายเทกรอกใส่ลงไป คะเนว่าได้น้ำหนักถุงละครึ่งโลกว่า ๆ ก็เย็บปิดปากถุง

ท่านใดรู้บ้างว่า...ผมเอาถุงทรายไปทำอะไรครับ
 [laught-watermelon] [laught-watermelon]

[akradech]

เอาไปวางบนตู้ลำโพงเพิ่มมวล และกันการแกว่งของเสียงครับ  [smile-watermelon]

[jam_kung]

... เอาไปทับ(ขา)แท่นวางลำโพง