ผมตกปลาไม่เป็น แต่ตอนเป็นวัยรุ่นผมใช้ตาข่าย 5 - 7 cm. ดักปลาตะเพียนตัวโต ๆ
ในช่วงปลายฝน ต้นหนาว ซึ่งมีน้ำหลากท่วมท้องทุ่งนา
ปลากชุกชุม ถึงขนาดว่าต้องใช้เรือแจวใส่ปลากลับบ้านเชียวครับ
คิดดูเถอะเมื่อ 30 - 40 ปีทีแล้ว บ้านเราอุดมสมบูรณ์มาก
เดือนสิบสองมองลงไปในคลองเห็นปลาตะเพียนตัวโต ๆ แหวกว่ายอยู่ในน้ำ
แต่ปัจจุบัน คงจะเห็นแต่หน้าวัดในเขตอภัยทานเท่านั้น
ขอเฮ้อ!!!! ด้วยคนครับ
[shock1]
+1ครับน้าอัล เเต่ก่อนเมื่อ10ขวบหน่อยๆ ยังไปใช้สวิงตักกุ้ง ทอดเเห ดักกัดกับพ่อเอากับบ้านทีเป็น10โลเดี๋ยวนี้เหลือเเต่ขี้โคลน เฮ้อ!!
เมื่อก่อน ชาวไร่ ชาวนา ยังไม่มียาฆ่าหญ้า ฆ่าแมลง จึงไม่มีสารพิษตกค้างในท้องไร่ท้องนา
กุ้งหอย ปูปลา ก็แพร่พันธุ์ออกลูกออกหลานเจริญเติบโตในธรรมชาติ ไม่มีใครเบียดเบียน รบกวน
ปัจจุบัน ผู้คนเยอะขึ้น แย่งกันกิน แย่งกันใช้ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ
หันมาใช้สารเคมีกันมากขึ้น จึงเป็นต้นเหตุบั่นทำลาย
สมัยก่อนเมื่อเข้าฤดูหนาว
ปลาสร้อยจะลอยหัว ชาวบ้านจะเอาสวิงซ้อนมาทำน้ำปลาเก็บไว้กิน
ไม่ต้องซื้อน้ำปลากินอย่างทุกวันนี้
แต่ปัจจุบัน แม้แต่ปลาซิว ยังหาดูยากเลย
เฮ้อ!!!!! ดัง ๆ อีกทีเน๊อะ... [shock1]