เรียนลัดจาก ดาต้าชีสก่อนแล้วค่อยย้อนกลับไปหา load line ก็ได้ครับ ผมจะลองยกตัวอย่างข้อมูลจากดาต้าชีสให้ดูนะครับ
จากข้อมูล plate 180v , Vg -5v , Rp12.5K , Ia 4.5 mA. จากจุดนี้เราจะสามารถหา B+ ได้จากแรงดันที่ตกคร่อม Rp
V = I*R ----- 1 ; V= 4.5*12.5 = 56.25v
ดังนั้นเราจะได้ B+ = Vp 180 +56.25 = 236.25v
จากตรงนี้เราจะสามารถนำไปเช็คกับ plate curve ได้แล้วว่าเป็นไปตามดาต้าชีสหรือเปล่า ลองดูเล่นๆครับ โดยจุดเริ่มต้นอยู่ที่ 236.25v ลากผ่านจุด 180v , 4.5mA. , -5v เราจะได้เส้นๆนึง สมมุติให้ Vgrid swing อยู่ในช่วง -4 - -6 v เราจะพบว่าแรงดันที่เปลี่ยนไปคือ 25v และกระแสที่เปลี่ยนไปคือ 2 mA. = 25/2 = 12.5 นั่นแสดงว่าเส้น load line ที่เราลากนั้นคือ 12.5K ครับ
หา cathode resister cathode มีศักดิ์เป็น 5v เมื่อเทียบกับ grid ในขณะที่ grid ต่อลงกราวด์ นั่นหมายความว่า cathode resister จะต้องมีแรงดันตกคร่อม +5v และ เนื่องจาก cathode resister เป็นทางผ่านของ plate current เพื่อลงกราวด์ 4.5mA. เราจะสามารถหาค่า R cathode ได้จาก สูตร V = I*R >> R = V/I >> 5/0.0045 = 1111.11 ~ 1.1K ถ้าหาไม่ได้ก็สามารถที่จะใช้ค่า 1K หรือ 1.2K ก็ได้ครับ และ dissipation ที่เกิดขึ้นกับ cathode resister คือ V*I = 5*0.0045 = 0.022w นั่นหมายความว่า R 1/4w ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ดังนั้นเราจะได้ Rk 1.1K / 0.25w ครับ
นี่เป็นเพียงตัวอย่างสมมุติในการนำข้อมูลจากดาต้าชีสมาเพื่อใช้งาน ลองฝึกทำดูครับ ไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิด อยู่ที่เราตั้งใจที่จะเรียนรู้มันหรือเปล่า ผมเชื่อว่าหากตั้งใจไม่มีอะไรที่มนุษย์เราทำไม่ได้นะ แต่จะออกมาดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความมานะของแต่ละคน ครับ
