"ตัวแปรเปลี่ยน ผลก็เปลี่ยน" ถูกต้องแล้วครับ ถ้าน้าคลีนสังเกตให้ดี ยังไม่ต้องพูดถึงเทคนิคเบื้องหลัง รู้แค่อะไรไป อะไรมา ต่างกันอย่างไร แค่นี้ก็พอจะจับจุดได้ครับ
แต่หลังๆ น้าคลีน edit ข้อความทุกครั้งแบบนี้ มีทั้งข้อมูลและอารมณ์ปนกันเยอะ คนตอบตอบยาก เลยไม่ตอบดีกว่า...
ผมข้อแก้ไขอีกทีครับ เดียวคนอื่นจะงงครับ ครับผมต่อไปผมจะเป็นผู้ตามเขาบ้างแล้วครับ ไม่ลงมือก่อน พอถึงบางจุดก็เริ่มจะเข้าใจ ว่า เราต้องพอใจในสิ่งที่เรามีเหมือนกันครับ
ถ้าพอใจก็ต้องหัดทำใจหยุดบ้าง ก็ค่อยๆค้นพบทีละนิดครับ
--hint-- ตัวที่เปลี่ยน
อย่างแรกคือ IEC กรองไฟ พวกนี้กระป๋องเหล็ก และมี CY สองตัวต่อ Line - Neutrol อยู่และจุดกลางต่อกระป๋องครับ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าต่อสายกราวด์เข้าที่นี่ไม่แน่น หรือสายเล็กเกินไป กระแสที่เหลือก็จะวิ่งดูดรอบกล่อง แต่ถ้าลงกราวด์สายดินสมบูรณ์ก็จะไม่ดูดไงครับ
แต่พอเป็นพลาสติก ทุกอย่างหายหมด ตัวมันเองเป็นฉนวน ก็เลยไม่มีปัญหาไฟดูด แต่ก็ต้องมาจัดการเรื่องกราวด์ทั้งระบบให้เรียบร้อยไม่ฮัมอีกที
อย่างที่สอง กล่องครับ กล่องสำเร็จรูปหลายฝาตามท้องตลาด เป็นเหล็กชุบสี ซึ่งผิวสีพลาสติกไม่นำไฟฟ้า ถ้าเจาะรูร้อยสกรูหลวมๆและจังหวะเหมาะเหม็ง สกรูจะไม่ช็อตกล่อง แต่ถ้าจังหวะไม่ดี เกลียวขบกับขอบรูเจาะพอดี มันก็นำไฟฟ้าได้ ซึ่งเครื่องที่ทำกันจริงจังป้องกันเรื่องแบบนี้ด้วยการใช้บูทรองพลาสติกกันช็อต ร้อยรูเอาไว้
และด้วยฝากล่องเหล็กหลายชิ้นนี่เองที่ทำให้ระบบกราวด์แท่นอาจจะไม่เชื่อมกันสนิทดี เป็นหายๆ แล้วแต่สกรูที่ขันแน่นมากน้อยแค่ไหน ในเครื่อง commercial บางครั้งต้องโยงสายไฟเชื่อมตรงสกรูเพื่อทำ.ห้แต่ละชิ้นเป็นกราวด์สมบูรณ์มากขึ้นเพื่อกันปัญหาข้างต้นครับ
และกล่องเหล็ก เหล็กสามารถเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็กจากหม้อแปลงได้ดี และเกิดกระแสวนในแผ่นเหล็ก อันเป็นสาเหตุของสัญญาณรบกวนได้ถ้าลงกราวด์แท่นไม่ดี ถ้าจะใช้อาจต้องยกหม้อแปลงสูงจากพื้นเล็กน้อยเพื่อลดผล
แต่กล่องอะลูมิเนียม วัสดุจะไม่เหนี่ยวนำสนามแม่เหล็กโดยตรง ลดผลข้างต้นได้พอสมควรครับ